LIFE GOES ON~
Group Blog
 
All blogs
 

~...ลืมอะไรไปอย่างนึงนะ?...~

หลายวันมานี้รู้สึกทำไมมันว่างจัง ทำไมมีเวลาเหลือ คิดไปคิดมา เปิดเข้ามาดูblogตัวเอง...

"เออ...ลืมup blogนี่หว่า มิน่า...ถึงรู้สึกว่างๆ ไม่ได้วาดรูป ไม่ได้คิดว่าจะเขียนอะไรใส่blogน่ะเอง...^^"

มีอะไรอยากเล่าบ้างล่ะเนี่ย...นึกก่อน....
...
...
...

เล่าเรื่องร้านน้ำปั่นดีกว่า...


"winnie berry" : ร้านน้ำปั่นที่อร่อยที่สุดในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบตลาดโต้รุ่ง!

เพื่อนดิฉันเป็นคนไปเจอร้านนี้เมื่อประมาณสองเดือนก่อน แล้วก็มาโฆษณาว่าเด็ด รสชาติได้ดังใจ ดิฉันเองมีน้ำปั่นสูตรประจำก็คือกาแฟปั่นใส่โอรีโอ้ ซึ่งจะร้านไหนปั่นดิฉันก็ไม่รู้สึกแตกต่างเท่าไหร่ แต่เพื่อนดิฉันนั้นหาร้านถูกใจยากกว่าเพราะสูตรของเพื่อนคือ แครอต+กีวี+แอ๊ปเปิ้ลเขียว+มะนาว -ไม่ใส่น้ำเชื่อม! ...อย่าว่าแต่จะหาคนปั่นได้รสถูกใจเลย หาร้านที่เค้ายอมทำให้ก็ยากแล้ว...

วันนึงเพื่อนก็มารับไปลองน้ำปั่นร้าน"winnie berry" พอไปถึงดิฉันเห็นหนุ่มน้อยอ้วนกลมในชุดนักศึกษา เสื้อขาว กางเกงดำ ผิวขาว แก้มใสกับรอยยิ้มน่ารักยืนปั่นน้ำผลไม้อยู่ ดิฉันกับเพื่อนเรียกเค้าว่า "น้องวินนี่" เพราะน้องน่ารักเหมือน "วินนี่ เดอะ พูห์"

ดิฉันว่าที่เราติดใจร้านนี้คงเป็นเพราะนอกจากน้ำปั่นจะอร่อย มีผลไม้สดให้เราเลือกหลายชนิดแล้ว เราคงชอบเจ้าของร้านเป็นพิเศษด้วยค่ะ น้องวินนี่มักจะใส่เสื้อโดยไม่ติดกระดุมเม็ดบนๆ เผยให้เห็นขนหน้าอกเล็กน้อย...อ๊า...~

ดิฉันเคยกระซิบกับเพื่อนว่า...

"น้องวินนี่เป็นกะเทยไว้ขนหน้าอกคนแรกในชีวิตที่ฉันเคยเห็น!"

ดูผ่านๆน้องวินนี่ก็ไม่ได้สาวแตกกรีดกรายอะไร สวมชุดนักศึกษา ผมสั้นธรรมดา ไม่ได้แต่งหน้าทาปาก เพียงแต่น้องวินนี่ไว้เล็บยาวและทาปลายเล็บสีขาว(แบบที่ดิฉันอยากทำบ้าง)เท่านั้นเอง บางวันน้องวินนี่จะทำวุ้นมาวางขายด้วยค่ะ พอถามว่าวุ้นกะทิใช่มั้ย? เธอก็จะตอบว่า...

"ไม่ใช่วุ้นกะทิ วุ้นกะเทยค่ะ"...(@^^@)

ร้านนี้มีหุ้นส่วนอีกคนเป็นสาวน้อยตาโต เราเรียกเธอว่า "น้องเบอร์รี่" น้องเบอร์รี่ก็ธรรมดานักศึกษาวัยรุ่นทั่วไปค่ะ ตัวผอมบาง ชอบใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวเล็กๆ ดิฉันเคยสงสัยว่าเป็นไปได้มั้ยที่"น้องวินนี่" กับ "น้องเบอร์รี่" จะเป็นแฟนกัน??? เพื่อนบอกว่า...แกจะบ้าเหรอ!...

"อ้าว...ก็ไม่แน่นะ น้องวินนี่อาจจะเป็นกะเทยที่เป็นทอมก็ได้"...^^...มันบ้าจริงๆด้วย

เราก็ยังคงแวะไปกินน้ำปั่นร้าน"winnie berry"กันบ่อยๆค่ะ ค่ำนี้ก็ไป เดี๋ยวนี้ดิฉันเพิ่มสตรอเบอรี่ปั่นกับส้ม+สัปปะรดปั่นเข้ามาในเมนูน้ำปั่นของตัวเองแล้ว ส่วนเพื่อนดิฉันก็ติดหนึบกับแอ๊ปเปิ้ลเขียว+กีวี+น้องเบอร์รี่-ไม่ใส่น้ำเชื่อม...^^


...จบแล้วค่ะ blogนี้ก็"จะเล่าทำไมเนี่ย?"อีกเหมือนเดิม ก็เจ้าของblogอยากเล่าอ่ะ...






*รูปจากblogเก่าๆนะคะ ดิฉันอยากใช้บัตรที่พักฟรีที่พัทยาจังเลย แต่ยังหาเวลาเหมาะๆไม่ได้ซักที*

**ลั่นทมของดิฉันกำลังมีดอก แต่เฟิร์นก้านดำโดน "สัตว์ประหลาด" กินหมดแล้วค่ะ...TT_TT**

***เพลงวันนี้ชื่อ another day เพลงเกาหลีของนักร้องที่ใช้ชื่อว่า "Ciel" ค่ะ ฟังไม่ออกแต่ชอบเสียงร้อง
"husky voice" ...และชอบเสียงเครื่องเป่าจังเลย***



**********เพิ่มเติม**********

นี่ๆ ต้นลั่นทมของข้าพเจ้ากำลังจะมีดอกแล้ว เย่! ในที่สุดก็สามารถปลูกต้นไม้ให้ออกดอกได้แล้ว...^^





ความภูมิใจส่วนตัว


*************************




 

Create Date : 11 มกราคม 2551    
Last Update : 1 มกราคม 2552 7:51:03 น.
Counter : 585 Pageviews.  

~...ลูกชิ้นน้ำใส ไม่ใช่แค่พริกน้ำส้ม...~

.....ใกล้ๆบ้านดิฉันมีร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่อยู่ร้านนึง เป็นร้านคนจีนแต่ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ชื่อร้านว่า "ลูกชิ้นน้ำใส" คงจะเปิดมานานกว่าสามสิบปี เพราะตั้งแต่จำความได้ดิฉันก็เห็นร้านนี้แล้ว ขายมาตั้งแต่รุ่น"อาปา" จนเดี๋ยวนี้อาปาทำไม่ไหวลูกสาวมาขายแทน ซึ่งลูกสาวอาปาก็แก่กว่าดิฉันหลายปี

คงเป็นเพราะดิฉันกินก๋วยเตี๋ยวร้านน้ำใสมาตั้งแต่เด็ก หลังๆมาเวลากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ก็เลยไม่ได้กินเพราะรู้สึกอยาก แต่กินเพราะไม่รู้จะกินอะไรมากกว่า หรือจะพูดแบบถ้าเจ้าของร้านมาอ่านเจอคงไม่มองหน้ากัน ก็ต้องพูดว่า "กินแก้หิว" ไปอย่างนั้นเอง... ไม่ใช่ว่าก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ไม่อร่อยนะคะ แต่กินมาเป็นสิบๆปีแล้ว มันก็เลยไม่ตื่นเต้นกับรสชาติเท่าไหร่...(อันนี้เป็นข้อแก้ตัว...^^")

เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ร้านอาหารอื่นๆแถวบ้านปิดหมด ดิฉันก็เลยเดินไปซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านน้ำใสใส่ถุงกลับมากินที่บ้าน ถุงใส่เครื่องปรุงพวกพริกป่น น้ำตาล พริกน้ำส้มของร้านนี้ยังเป็นถุงพลาสติกเล็กๆรัดด้วยหนังยางอยู่ ในขณะที่ร้านอื่นๆเค้าเปลี่ยนเป็นเครื่องปรุงซองๆสำเร็จรูปกันหมดเพราะสะดวก , สะอาด , ประหยัดเวลา ไม่มีใครมานั่งตักพริก ตักน้ำตาลทีละช้อนใส่ถุง รัดหนังยางกันอีกแล้ว...เสียเวลาเปล่าๆ...




เช้าวันนึงดิฉันเจอ "เจ๊กิม" เจ๊กิมเคยเป็นลูกมือร้านน้ำใสมาตั้งแต่รุ่นอาปา ที่ดิฉันเรียก"เจ๊"นี่เรียกตามแม่นะคะ ตอนนี้เจ๊กิมเป็นย่าแล้วค่ะ ไปอยู่กับลูกหลานที่บ้านไม่ไกลนัก บางครั้งไปซื้อก๋วยเตี๋ยวก็เห็นเจ๊กิมมานั่งคุยเล่นกับอาปา กับลูกค้าเก่าแก่บางคน...

เจ๊กิมเดินยิ้มทักทายกับคนคุ้นเคยตามสองข้างทาง มือถิ้วถุงพลาสติกใบใหญ่มาด้วย ข้างนึงเป็นพริกน้ำส้มถุงเล็กๆ อีกข้างเป็นพริกป่นกับน้ำตาล เจ๊บอกว่า..."เอามาส่งร้านน้ำใส เค้าจ้างทำ" ดิฉันรู้ว่าเจ๊กิมไม่ได้มีความจำเป็นเรื่องเงินถึงขนาดต้องรับบรรจุเครื่องปรุงถุงเล็กถุงน้อยนี้หรอก ...และเพิ่งเข้าใจว่าทำไมร้านน้ำใสยังใช้เครื่องปรุงแบบเดิมอยู่

ดิฉันว่าเจ๊กิมคงจะมีความสุขที่ได้เอาถุงพริกน้ำส้มมาส่งบ่อยๆ ได้ออกมาเจอคนรุ่นราวคราวเดียวกัน พูดคุยเรื่องเก่าๆ เรื่องลูกหลาน ได้นั่งดูลูกค้าเข้าๆออกๆ กินก๋วยเตี๋ยวในร้านที่แกเคยทำทุกอย่างมาหลายสิบปี และการมีอะไรเล็กๆน้อยๆทำคงเพลินกว่านั่งเหงาอยู่บ้านคนเดียวตอนที่ลูกหลานไปทำงาน ไปโรงเรียนกันหมด อาปาเองก็คงดีใจที่มีเพื่อนคุย...ส่วนดิฉันก็ดีใจที่มีเรื่องมาเขียนblog...(ฮา)


.....บางทีการที่เราพยายามจะทำให้ทุกอย่างมันเป็นระบบ คิดถึงแต่ความสะดวกสบาย ความง่าย และผลกำไรสูงสุด มันก็ทำให้เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้หายไป ทุกคนคิดแต่จะมุ่งไปข้างหน้า ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ตะกายขึ้นไปให้ถึงมาตราฐานที่มีคนกำหนดไว้ ประเมินผลผ่านหรือตกกันไปทีละข้อ ทีละข้อ...ทุกอย่างต้องมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเครื่องจักรหรือคน!

ดิฉันไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ดี เพียงแต่ในขณะที่เราคิดแต่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้า เราก็มักจะไม่ได้หยุดมองรอบตัวว่าได้ละเลยทิ้งขว้างหรือมองข้ามอะไรไปบ้าง...





...เครื่องปรุงถุงเล็กๆจากร้าน"ลูกชิ้นน้ำใส" สำหรับดิฉัน... มันปรุงอะไรๆได้มากกว่าก๋วยเตี๋ยวนะ...




 

Create Date : 05 มกราคม 2551    
Last Update : 1 มกราคม 2552 7:51:24 น.
Counter : 666 Pageviews.  

~...3 วันผ่านไป...~

หยุดปีใหม่ 3 วัน ...เป็นวันหยุดติดกันยาวนานที่สุดในรอบปีสำหรับดิฉันแล้วล่ะ...ใช้เวลาไปกับอะไรบ้างล่ะเนี่ย?


วันแรก...

ตื่น 9 โมง ลุกมาชงกาแฟแก้วนึงแล้วก็ไปนอนต่อ..^^" ...กลิ้งไปกลิ้งมาจนถึงบ่ายโมงกว่า เพื่อนโทร.มาชวนไปกินข้าว ลุกมาอาบน้ำสระผมใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นขี่จักรยานไปบ้านเพื่อน แปลงร่างเป็นเด็กสก๊อยซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เพื่อนออกไปกินข้าวร้านแถวบ้าน ระหว่างกินเพื่อนก็ถามว่าจะไปไหนดี "ไปหาซื้อของขวัญปีใหม่ให้เพื่อนดีกว่า...เอ้าท์เลท วิลเลจเขาใหญ่นะ"...หาเรื่อง!

กลับไปเปลี่ยนรถที่บ้านเพื่อน ไม่ได้เข้าบ้าน ไปเขาใหญ่ทั้งชุดนั้นแหล่ะ แถมมีเงินติดตัวไปไม่กี่ร้อยกับกุญแจบ้านอีกสามดอก กระเป๋าตังค์ก็ไม่ได้เอามา ไปถึงเขาใหญ่...ตรงไปที่ร้าน"ไอยรา" ได้ของขวัญจากร้านนี้เหมือนปีที่แล้ว แต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นพวงกุญแจหนังทำเป็นรูปช้าง ตัวใหญ่ 3 ตัว ตัวเล็ก 3 ตัว กระเป๋าผ้าอีก 3 ใบ...



เดิน...เดิน...เดิน...เข้าร้านโน้น ออกร้านนี้ ได้เสื้อportland ลายขาว-น้ำเงินมาตัวนึง (กลับมาถึงบ้านเอาเสื้อใส่ตู้ ทำไมทั้งตู้เสื้อผ้าเรามันมีแต่ขาว , น้ำเงิน , ฟ้า , ครีม...) ขากลับแวะฟาร์มโชคชัย...อีกแล้ว! ร้านสเต๊กคนเยอะเลยไม่รอ ซื้อนมกับไอติมแล้วก็กลับ อดแวะเอ้าท์เลทของฟลายนาวอีกไม่ได้ ได้เสื้อขาวมาอีกตัว กับกิเลสที่ฟุ่งปรี๊ดตอนเห็นผ้าคลุมเตียงผ้าลินินโทนเขียว-น้ำตาลชิ้นเล็กๆเย็บต่อกัน...กรี๊ด~ ชอบมาก...แต่ราคาลดแล้วก็ยังหลายพันอยู่...นิ่งๆไว้ หายใจลึกๆ...กลับเหอะ เดี๋ยวได้ผ้าคลุมเตียงใหม่!...หมดไปหนึ่งวัน


วันที่สอง...

ตื่นเร็วกว่าเมื่อวาน กินกาแฟเสร็จแล้วก็ขนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าคลุมเตียง...เครื่องนอนต่างๆไปซักที่ร้านซักผ้า หยอดเหรียญเสร็จปุ๊บมีเวลาอีกชั่วโมงนึง ร้านสระผมปิด ขี่จักรยานไปร้านต้นไม้ เลือกๆต้นไม้มากองๆไว้แล้วก็ไม่มีตังค์จ่าย! เพราะเอาแต่เหรียญสิบบาทติดตัวมา หยอดตู้ซักผ้าไปแล้วเหลืออยู่แค่สามสิบบาท...ทำไมไม่ชอบพกตังค์ก็ไม่รู้ เลยต้องขี่จักรยานกลับไปเอาตังค์ที่บ้านแล้วกลับมาที่ร้านต้นไม้อีกครั้ง...เหนื่อย! ขี่จักรยานเอาต้นไม้กลับไปไว้ที่บ้าน แล้วออกมาเอาผ้าที่ซักไว้อีกรอบ...เหนื่อยมาก! สั่งไก่ทอดมากิน ร้านอาหารแถวบ้านปิดหมด เอาต้นไม้ลงกระถาง...นั่งเล่น นอนเล่น ดูทีวี...หมดไปอีกวัน


วันที่สาม...

ตื่นเช้ากว่าวันที่สอง กินกาแฟ กินไก่ที่เหลือจากเมื่อวาน อ่านหนังสือที่พี่แหม๋วส่งมาให้ (ขอบคุณค่ะ...^^) วาดรูปต้นไม้ในที่แขวนทำจากไม้เก่าที่ซื้อมาเมื่อวาน วาดรูปพวงกุญแจ สแกนรูป...คิดว่าจะเขียนอะไรใส่blogดี แต่ยังไม่ได้ลงมือเขียน... เย็นๆเพื่อนมารับไปกินข้าว เลยไปซื้อของใช้เข้าบ้าน กลับมาดูทีวีพร้อมกับย้ายและจัดการกับข้อมูลblog แล้วก็มาเขียนเล่าว่าใช้เวลาสามวันไปกับอะไรบ้าง...วันหยุดที่สามหมดไปแล้ว



ต้นไม้กับที่แขวนที่ได้มาใหม่ ...วาดต้นไม้ไม่ได้เรื่องเลยแฮะ!



จบแล้วค่ะ...


*ซักวันดิฉันจะเปลี่ยนชื่อgroup blog จาก "มีเรื่องเล่า" เป็น "จะเล่าทำไมเนี่ย?"

**ดิฉันสังเกตเห็นต้นไม้ใหม่มีร่องรอยใบแหว่งๆอีกแล้ว ตกลงว่าหนูบ้านดิฉันนี่มันเป็น"สัตว์กินพืช"ใช่มั้ย?...เคืองอ่ะ!**




 

Create Date : 02 มกราคม 2551    
Last Update : 1 มกราคม 2552 7:51:42 น.
Counter : 711 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  

Q.NUH
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




.
.
. .
Friends' blogs
[Add Q.NUH's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.