LIFE GOES ON~
Group Blog
 
All blogs
 
~...ถ้าการคิดถึงคนอื่นก่อนมันยาก...

...ก็เปลี่ยนเป็นคิดถึงตัวเองก่อนซิ...~

.....เมื่อวันอาทิตย์ดิฉันกับfirstไปทานกลางวันที่ร้านสเต๊กของเพื่อนคนนึง เด็กที่มารับรายการอาหารจากเราเป็นหลานของเพื่อนค่ะ น้องคนนี้ใส่ใจลูกค้าดีมาก เธอจำรายละเอียดความชอบ-ไม่ชอบของลูกค้าได้แทบทุกคน เราบอกเธอแค่ครั้งเดียวว่าชอบแบบไหน และเมื่อเราไปทานครั้งต่อๆมาก็ไม่เคยต้องบอกซ้ำอีกเลย...

วันนั้นเราสั่งอาหารเสร็จเธอก็ทวนว่า...

"ของพี่ "first" เนื้อไม่ติดมัน ขนมปังไม่ทาเนย มันบดไม่โรยหอมเจียว , ของพี่ "Q" ปกติทุกอย่าง วันนี้มีบลูเบอร์รี่ชีสพายด้วยนะคะพี่"...เธอรู้ว่าดิฉันจะสั่งทุกครั้งที่มา แต่บางครั้งก็ไม่ได้ทาน เพราะเจ้าของร้าน(เพื่อนดิฉันเอง) ไม่มีเวลาทำ...พอเธอเดินออกไปfirstก็พูดกับดิฉันว่า...

"น้องคนนี้จำแม่นมาก ขนาดเราไม่ได้มากันตั้งนาน ยังจำได้เลย"

"ฮื่อ"...

ตอนที่น้องคนนี้เอาอาหารมาเสิร์ฟ ดิฉันก็พูดกับเธอว่า...

"น้องจำแม่นมากเลย แสดงว่าใส่ใจลูกค้า อย่างนี้ลูกค้าก็ติดใจกลับมาร้านนี้อีกน่ะซิ"...น้องเค้าก็ยิ้มๆค่ะ...




ดิฉันอยากชมเธอต่อหน้า เพราะนึกถึงสิ่งที่แม่เคยสอน แม่บอกว่า...

~ถ้าจะขอบคุณ ชมเชยใครล่ะก็...พูดดังๆ ...ให้คนอื่นๆได้ยิน

ถ้าจะแนะนำ ตำหนิ ตักเตือนใคร...พูดเบาๆ ...กับคนๆนั้น

แต่ถ้าโกรธมากๆ อยากกรี๊ด หรือด่าใครซักคน...ให้ตะโกนดังๆ ...อยู่ในใจ~


.....สองอย่างแรกนั้นทำได้สบายมาก แต่ข้อสุดท้ายนี่ซิแม่ กว่าจะควบคุมความโกรธไม่ให้ตัวเองระเบิดอารมณ์ใส่ใครได้นี่ก็ยากเอาการอยู่นะ!

...แต่สุดท้ายก็ทำได้ วิธีคิดของดิฉันก็คือ..."คิดถึงตัวเองก่อนซิ"

ครั้งนึงนานมาแล้ว...ดิฉันไปเที่ยวเกาะเสม็ดกับเพื่อนๆ เราเจอกับบริการที่ไม่ดีเลยจากพนักงานรีสอร์ทที่เราไปพัก เพื่อนดิฉันนั้นส่วนใหญ่ก็จะบ่นๆกัน ทั้งบ่นให้ฟังกันเองและบ่นกับตัวพนักงานคนนั้นจนกลายเป็นการต่อล้อต่อเถียง แล้วเราก็แทบจะหมดสนุก

เพื่อนที่ใจดีที่สุดในกลุ่มเราก็พยายามพูดให้เราเห็นใจพนักงานคนนั้นว่าเค้าอาจจะเจอแขกแย่ๆมา อาจจะเหนื่อยมาทั้งวัน อาจจะมีปัญหาส่วนตัว อาจจะ... อาจจะ... อาจจะ...อะไรร้อยแปดเหตุผล...แต่ก็ไม่ได้ผลหรอก พวกเราบางคนก็คงยังหงุดหงิดอยู่ ดิฉันก็เลยบอกว่า...

"รู้มั้ย? กว่าฉันจะหาเวลามาเที่ยวได้มันยากแค่ไหน เพราะฉะนั้นฉันจะสนุกของฉันให้เต็มที่ ฉันไม่ยอมให้พนักงานห่วยๆคนเดียวมาทำให้ฉันอารมณ์เสีย แล้วเสียเวลาไปเปล่าๆหรอก"

...แล้วดิฉันก็สนุกของดิฉันไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจอะไรอีก ดิฉันไม่สนว่าคุณพนักงานเธอจะเจอกับอะไรมา ไม่สนว่าเธอจะยังอารมณ์เสียอยู่หรือเปล่า แต่เธอไม่มีทางทำให้ดิฉันอารมณ์เสียแน่ๆ...

มันอาจจะฟังดูประหลาดและค่อนข้างเห็นแก่ตัว แต่วิธีของดิฉันก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน รวมทั้งตัวดิฉันเองก็เย็นลงด้วย...

หลังจากนั้นเวลาเจอเรื่องที่คนอื่นทำอะไรที่ชวนให้หงุดหงิดอารมณ์เสีย ก็มักจะบอกกับตัวเองว่า...ความสุขใจ ความสงบของเราสำคัญกว่า อย่าปล่อยให้คนอื่นมาทำให้อารมณ์ของเราต้องขึ้นๆลงๆ อย่าปล่อยให้คนอื่นมีอิทธิพลกับอารมณ์เรา แต่ถ้ามันจะต้องอารมณ์เสียจริงๆ ก็ขอให้เป็นเรื่องที่เราทำเองเถอะ ไม่ใช่คนอื่นทำให้เราเป็น...

การคิดถึงคนอื่นก่อน คิดถึงใจเค้าใจเรา มีความเห็นใจ มีเมตตากับคนอื่นๆเป็นเรื่องดี ...ดีมากๆด้วยค่ะ แต่เวลาที่เราโกรธอยู่ มันก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาค่อยๆคิดหาเหตุผลหรอกว่าอะไร? ทำไม? เพราะอะไร?เค้าถึงทำแบบนั้น ส่วนใหญ่ก็จะวี๊ดบึ้ม ระเบิดลงหรือทำอะไรโง่ๆที่ต้องมาเสียใจทีหลังซะก่อน ถึงจะเย็นลงได้ทุกที

เพราะฉะนั้นจงคิดถึงตัวเองก่อนว่าความสุขใจของเราสำคัญกว่า เวลาในชีวิตของเราสำคัญกว่าจะเสียไปกับอะไรที่มันไม่ควรเสีย เมื่อเราไม่โกรธ ไม่ร้อนตามเค้าซะอย่างแล้ว เราก็จะมีสติ มีเวลาคิดได้เองว่าอะไรเป็นอะไร มีเวลาที่จะคิดเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา มีเมตตากับคนรอบข้างมากขึ้น...

ก็ถ้าการคิดถึงคนอื่นก่อนมันยาก ก็เริ่มจากอะไรง่ายๆแบบนี้แหล่ะค่ะ เมื่อเย็นจนเป็นปกติแล้ว ค่อยพัฒนาความคิดของเราต่อไป...

คนเราเรียนรู้และพัฒนาได้จนกว่าจะตายนั่นล่ะ




Create Date : 13 มิถุนายน 2550
Last Update : 1 มกราคม 2551 20:23:39 น. 15 comments
Counter : 488 Pageviews.

 
หัวเราะก๊ากเลย พอเจอประโยคนี้
เราเองก็ไม่ยอมให้เจ้านายคนเดียวมาทำให้เราอารมณ์เสียเหมือนกันค่ะ
แล้วก็บอกเพื่อนร่วมงานคนอื่นด้วยว่า ยังมีความสุขกับคนอื่นๆในที่ทำงานอยู่ไหม
ถ้ามี ก็อย่าให้คนคนเดียวมาทำให้ความสุขเราหมดไป


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:0:15:29 น.  

 
เวลาฉันอารมณ์ไม่ดี อะไรก็ดูแย่ไปหมด

คนรอบข้างอาจได้รับผลกระทบนั้นด้วย

ดังนั้นจึงอยากอารมณ์ดีทุกวันค่ะ

โดยเฉพาะวันที่ไปทำงาน


โดย: random-4 วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:0:51:31 น.  

 
เวลาเห็นคนอื่นเต้น
ส่วนมากจะแอบสนุกน่ะค่ะ


entertain ดี มีคนมาเต้นให้ดู ^^


โดย: cocoa butter IP: 125.25.69.77 วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:2:51:19 น.  

 
เห็นเหมือนกันเลยค่ะ มันอยู่ที่ใจเราคิดจริงๆนะ อย่างที่ Charles Swindoll ว่าไว้เกี่ยวกับเรื่องของความคิดของเราต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว

Attitude

"The longer I live, the more I realize the impact of attitude on life. Attitude, to me, is more important than facts. It is more important than the past, than education, than money, than circumstances, than failures, than successes, than what other people think or say or do. It is more important than appearance, giftedness, or skill. It will make or break a company ... a church ... a home. The remarkable thing is we have a choice every day regarding the attitude we will embrace for that day. We cannot change the inevitable. The only thing we can do is play on the one string we have, and that is our attitude ... I am convinced that life is 10% what happens to me, and 90% how I react to it. And so it is with you ... we are in charge of our Attitudes."




โดย: Rive Gauche วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:3:00:44 น.  

 
เป็นคนใจดีมากๆ คนหนึ่งค่ะ แต่เห็นด้วยว่า
...ความสุขใจ ความสงบของเราสำคัญกว่า อย่าปล่อยให้คนอื่นมาทำให้อารมณ์ของเราต้องขึ้นๆลงๆ อย่าปล่อยให้คนอื่นมีอิทธิพลกับอารมณ์เรา แต่ถ้ามันจะต้องอารมณ์เสียจริงๆ ก็ขอให้เป็นเรื่องที่เราทำเองเถอะ ไม่ใช่คนอื่นทำให้เราเป็น...

ความสงบของเราสำคัญที่สุด เราต้องไม่ปล่อยให้คนอื่นมามีอิทธฺพลต่ออารมณ์ของเรา (ยากเนอะ แต่ต้องพยายามทำให้ได้)

กรี๊ด...ชอบเพลง Salade de fruits ค่ะ


โดย: the Vicky วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:4:57:57 น.  

 
เวลาที่ใครสักคนโกรธ บรรยากาศในที่นั้นจะเสียครับ การหาวิธีมาระงับความโกรธจึงเป็นสิ่งที่ดี วิธีของคุณไม่ได้เรียกว่าเป็นการเห็นแก่ตัวหรอกครับ


โดย: 9A วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:7:01:18 น.  

 
คุณแม่สอนดีมากๆเลยค่ะ คุณแม่คงดีใจถ้ารู้ว่าคุณ Q จำได้

เคยเจอเด็กรับ order ที่ A&W พันธ์ทิพย์ ก็ทำหน้าที่ได้ดี น่ารักรู้จักถามไถ่ เด็กแบบนี้ไปทำงานอะไรก็ทำได้ดีเพราะมีความใส่ใจ


โดย: พี่หมูน้อย IP: 202.28.27.3 วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:11:07:57 น.  

 
คุณ Q เป็นคนคิดดี แล้วมันก็ดีกับตัวคุณเอง

วิธีคิดแบบคุณ มันเป็นกุศโลบายอย่างนึง
คือแทนที่จะเมตตาไปยังคนอื่น ก็ย้อนกลับมาเมตตาตัวเอง

ผลที่ได้ ก็ใกล้เคียงกัน
แถมยังจะง่ายกว่า เพราะมันไม่ขัดกับตรรกะพื้นฐาน
ว่ามนุษย์ย่อมรักตัวเอง ก่อนจะรักคนอื่น

ถ้าให้เมตตาคนอื่น ที่มาร้ายกับเรา
เราก็จะมีแรงต้านภายใน ให้รู้สึกฝืน

ผมไม่ได้เขียนให้คุณ Q อ่านหรอกนะ
ผมรู้ว่าคุณรู้หมดแล้ว

ผมเขียนไปอย่างนั้นเอง
กระดานโนบูตะ มันน่าเขียน 5555555


โดย: aston27 วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:12:00:26 น.  

 
ซ้า..ถุ

คุณคิดได้ดี...จิงๆ


โดย: Life's like that IP: 202.91.23.1 วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:15:14:11 น.  

 
ชอบเรื่องเล่าวันนี้ค่ะ
มันสุขใจดีนะคะ .. เราไม่ได้ทำได้อย่างนี้ทุกๆ ครั้งหรอกค่ะ
แต่ก็พอจะพูดได้ว่าทำได้ซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่ามันจะเหมือน
กับที่เพื่อนๆ น้องๆ เราเคยเม้าส์รึปล่าวไม่รู้นะคะ .. เค้าว่าเรา
ไม่ค่อยรู้ร้อนรู้หนาวซะเลย .. ไม่เม้งแตก ไม่ต่อสู้ซะบ้างละ
ได้แต่เงียบๆ เฉยๆ ทุกที ..
จริงๆ มีความรู้สึกนะคะ แต่ไม่แสดงออกเท่านั้นแหละ .. แล้วก็
ปล่อยๆ ให้มันผ่านไป ..

ขออนุญาตบอกกล่าวล่วงหน้านะคะ ..
จะเอาลิงค์ไปฝากให้เพื่อนๆ กับน้องๆ อ่านด้วยน่ะค่ะ ..


โดย: moodee IP: 124.120.225.96 วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:21:03:28 น.  

 
เหมือนที่อ่านหนังสือเจอเหมือนกันค่ะว่า ...

"จะไปโกรธใครเค้าให้เราทุกข์ใจ เราโกรธเราก็หงุดหงิดเอง เลยกลายเป็นว่าคนที่ทำเราโกรธนั้นเปรียบเสมือนนายของเรา ที่สั่งให้เรารู้สึกโกรธจนหมดความสุข" ...

ฝึกใจได้ก็คงจะดีนะคะว่า ไม่โกรธคนอื่นเพราะมันจะเป็นนายเรา ...


โดย: JewNid วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:22:27:59 น.  

 

เวลาชมใคร เราก็เขินเหมือนกันนะ แต่ว่าถ้าไม่ได้พูด กลัวเขาน้อยใจ
คิดว่าชมเลยละกัน เป็นการเพิ่มกำลังใจให้เขาด้วย
ยอมเขินดีกว่า


โดย: เอ๊กกี่ วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:13:42:38 น.  

 
ถ้าหนูมีเวลา อยากให้อ่าน

เมื่อรักเดินทาง ของสำนักพิมพ์มติชน แปลโดย สมชัย วิพิศมากูล

พี่เพิ่งอ่านจบเมื่อวานเองค่ะ

อ้อ..หนูเคยอ่านThe Reader หรือยัง?

งานบริการ ถ้าทำด้วยใจรัก มันสนุกมากๆค่ะ


โดย: พี่แหม๋ว...ฟ้าสั่ง:) (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:14:55:29 น.  

 
สวัสดีค่ะ

คุณHoneyLemonSoda...ฮึๆ มีแนวร่วมแล้วเรา...

คุณrandom-4...ดิฉันว่าคุณก็น่าจะเป็นคนอารมณ์ดีอยู่แล้วนะ...จริงมั้ย?

คุณcocoa butter...อันนี้เป็นขั้นadvanceแล้วนะ

คุณRive Gauche...ชอบจังเลยค่ะ ขอบคุณที่เอามาฝาก

คุณ the Vicky...เสียงLisa Onoกับเด็กๆน่ารักดีเนอะ...

คุณเอ...ขอบคุณค่ะ

คุณพี่หมูน้อย...ดิฉันว่าแม่น่าจะรู้นะ // ดิฉันว่าคนทำงานทุกคนก็รู้แหล่ะว่าหน้าที่ของตัวเองคืออะไร อยู่ที่จะทำหรือเปล่า ทำแล้วใส่ใจกับงานหรือเปล่า หรือทำแค่เพราะต้องทำ!

คุณaston27...ไม่รู้เป็นคำชมหรือเปล่า? แต่ดิฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นน้ำล้นแก้วเลยค่ะ

คุณLife's like that...มาคิดแบบนี้กันเถอะ...ซ้า...ธุ!

คุณmoodee...ยินดีค่ะ แต่ระวังอย่าโฆษณาเกินจริง เดี๋ยวจะโดนข้อหาหลอกลวงผู้บริโภคนะคะ!

คุณJewNid...นั่นซิคะ ต้องฝึกค่ะ จะได้ไม่มีใครมาเป็นนาย(ความคิด)เรา

คุณเอ๊กกี่...ทำดี ไม่ต้องเขินค่ะ ทำเลย...ดีแล้วค่ะ...

พี่แหม๋ว...The Readerน่าสนใจค่ะ แต่เรื่อง "เมื่อรักเดินทาง" นี่ขอผ่านนะคะ แค่เห็นชื่อเรื่องอาการ lovephobiaก็แทบจะกำเริบอีกแล้ว อ่านเรื่องรักแล้วผื่นขึ้น...ฮ่า...ฮ่า...


โดย: Q.NUH วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:0:12:32 น.  

 
..เอา บ่ะจ่างไปส่งให้บ้างจิคะ...


โดย: นู๋ญ่า (kayook ) วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:20:28:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Q.NUH
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




.
.
. .
Friends' blogs
[Add Q.NUH's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.