ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

แชร์ประสบการณ์ เมื่อเราต้องเป็นนางมาร จัดการกับเด็กในบ้านที่มาล้ำเส้นกับสามี



เรากับแฟน ค้าขายค่ะ ขายของด้วยกัน ส่วนงานบ้าน จะจ้างบ.มาทำ สัปดาห์ละครั้ง ซึ่งปกติจะส่งคนประจำมา หลังๆมีปัญหาคนเข้าออกบ่อย ทำให้คนที่ส่งมาเปลี่ยนหน้าไปเรื่อย เราไม่ค่อยชอบ เหมือนมีคนแปลกหน้ามาเดินในบ้านทุกซอกทุกมุม และส่วนใหญ่เราจะไม่อยู่ เลยบ่นกับเพื่อน เพื่อนก็แนะนำว่า รู้จักเด็กคนนึงนะ อายุแค่15 ไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว จบแค่ป.6 ที่บ้านไม่ได้ให้เรียนต่อ เอามาทำงานบ้านมั้ย เราก็สนใจนะ คิดมากบ้างเพราะเด็กจัง แต่เพื่อนชวนไปดู เลยไป บ้านเค้าลำบากมาก เจอแต่ลุงกับป้า พ่อแม่เด็กไม่มี ลุงกับป้าเค้าก็อยากให้เราเอามาช่วยงานบ้าน เพราะตอนนี้เด็กไปทำงานในบ่อน ไปนั่งแจกไพ่ ได้วันละ100 (เมื่อราว 18 ปีก่อน) เราตามไปดู เออนะ มันแย่มากเลย มันเป็นบ่อน ถ้าเด็กยังอยู่อย่างนั้น คงเสร็จนักพนันเข้าสักวันแน่ เราเลยบอกลุงกับป้าเค้า ว่า เราไม่ได้เอามาเป็นคนรับใช้นะ เราจะให้อยู่เหมือนหลานเราคนนึง ให้ช่วยงานบ้าน กินอยู่เหมือนคนในครอบครัว แล้วเราก็รับมา

แฟนเราดูเค้าไม่ค่อยชอบเด็กคนนี้เลย เค้าว่าเค้ารำคาญ เอาแม่บ้านที่มาแล้วไปยังดีกว่ามีคนอื่นมาอยู่ในบ้าน ดูเค้าไม่ค่อยชอบ เค้าว่ามันแก่แดด ก็ธรรมดานะ เด็กโตมาสิ่งแวดล้อมแบบนั้น เราว่า ค่อยๆสอนกันไป บางทีเราไปซื้อของคนเดียว แฟนจะไล่ให้เราเอาเด็กไปด้วย เราก็หนักใจที่แฟนไม่ชอบเด็กคนนี้

เวลาผ่านไป 4-5 เดือน ดูว่าดีขึ้น ไม่มีท่าทีรังเกียจเด็ก เราอยากไปไหนคนเดียว แฟนก็อยู่บ้านได้ ไม่สั่งให้เราเอาเด็กออกไปด้วยเหมือนช่วงแรกๆ (คือบางทีเรามีนัดกินข้าวกับเพื่อนสมัยเรียน จะเอาเด็กไปมันก็ไม่ใช่ มีแต่เพื่อนสนิททั้งนั้น จะเอาไว้บ้านแฟนก็ว่า ) ดีใจ ที่แฟนเข้ากับเด็กในบ้านได้ดีขึ้น เรียกเด็กในบ้าน ฟังดูประหลาดๆ ขอเรียกเค้าว่าน้องละกัน เอาว่าเค้าเริ่มเข้ากันได้ และเริ่ม..สนิท

เราเลี้ยงน้องเค้าเหมือนหลานนะ ให้เค้าเรียกเราสองคนว่าน้า งานเค้าก็งานบ้านทั่วไป รวมซักรีดเสื้อผ้าด้วย ดีหน่อยเพราะแต่เดิมส่งร้าน ก็อยู่กันสบายใจ สนิทใจเหมือนหลาน นิสัยเค้าก็ดีขึ้น เราก็เอ็นดู เวลาซื้อของมาแล้วมีเงินทอนที่เป็นเศษตังค์หรือแบงค์ย่อย เราจะให้เค้านอกเหนือจากเงินเดือน ( เราให้3000 กินอยู่กับเรา ของใช้ส่วนตัวพวกโรลออน แป้ง เราซื้อให้ต่างหาก เลี้ยงเหมือนเลี้ยงหลานจริงๆ)

ผ่านไปราวครึ่งปีได้ น้องเค้าเริ่มเปลี่ยนไป การแสดงออกดูว่าตีเสมอ เราไม่ได้ยกตัวเหนือเค้านะ แต่การกระทำบางอย่างมันดูอย่างนั้น ซึ่งเราก็คิดว่า การอบรมและสังคมเค้าน้อย บางทีการวางตัวก็ไม่เหมาะสม ธรรมดา ..แล้ววันฟ้าผ่าก็มาถึง

วันนั้นเราต้องใช้เศษตังค์ ซึ่งเรารู้ว่าน้องเค้าเก็บไว้ในกระเป๋าใบเล็ก แบบกระเป๋าเหรียญ ในลิ้นชักหัวนอนเค้า เวลาเราให้เค้าเก็บไว้ที่นั่น เราเห็นมานาน เวลาเราขอเค้าจะหยิบจากตรงนั้น ด้วยความที่ไม่คิดอะไร เราเปิดลิ้นชักนั้นหยิบเศษตังค์เอง เค้าอยู่ชั้นล่าง ขึ้นมาเราค่อยบอกก็ได้ พอเปิดลิ้นชัก..เราเจอ..โพสตินอร์!!!!!!!!!

แผงนึงมี 2เม็ด หายไปแล้วเม็ดนึง เหลือติดแผง 1เม็ด! ......ช้อคคคคคค ไปพักใหญ่ ตั้งสติ เรียกน้องเค้าขึ้นมา


เราถือแผงยา แล้วถามเค้าว่า มันคืออะไร เค้าตกใจมาก บอก ไม่รู้ เรานิ่ง..ไม่พูดอะไรต่อ เค้านิ่งไปพักนึง แล้วพยายามแก้ตัวรัวๆ ว่าหนูไม่รู้ คือมันอยู่ในกระเป๋า มันเป็นกระเป๋าของพี่สาวให้มา มันอยูอย่างนั้น หนูไม่รู้ว่ายาอะไร

ถ้าฟังจากคำพูด มันก็เป็นได้นะ กระเป๋าเป็นของที่คนอื่นให้มาอีกที สิ่งนี้ติดกระเป๋ามา แต่ท่าทีตกใจมากกกกกก มันทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่อยากฟังเค้าพูดแล้ว เราจะถามคนของเรา

เราไม่ว่าอะไรเค้าเลย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำตัวปกติ จนค่ำ ก็นั่งกินข้าวร่วมวงกันปกติ จนแยกเข้าห้องนอน พอเราอยูกับแฟนในห้อง เราจึงพูด
วันนี้ ชั้นต้องใช้เหรียญ พอดีรีบ เลยหยิบเอง จากกระเป๋าของ..... ชั้นเจอโพสตินอร์แหละ


เค้านิ่งไปพักนึงเลยนะ คำแรกที่ออกจากปาก ยิ่งกว่าโดนฟ้าผ่า ..พี่ขอโทษ เฮ้ย เค้าพูดอะไรออกมา

เราสองคนนิ่งกันพักนึง เหมือนนานมากกกก จนเราเริ่มพูดขึ้นก่อน ทำไปได้ยังไง เด็กในบ้าน นิสัยพี่ไม่ใช่คนแบบนี้ ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ก็น่าจะไปให้พ้นๆ ทำแบบนี้ คิดถึงความรู้สึกกันมั่งมั้ย รับไม่ไหวนะ เลือกเหอะ ถ้าชอบแบบนี้ก็จบนะ ไม่ว่าอะไร ขอแค่คำตอบ


เค้าตอบมา แบบ แย่อ่ะ ไม่รู้จะบรรยายยังไง เราว่าเค้าไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวนะ เท่าที่รู้จักกันมา แต่วันนี้เค้าเป็นคนที่เราไม่รู้จักเลย


เค้าตอบมาว่า ไม่ต้องถามเลย พี่เลือกเธอ ส่วนเรื่องเด็ก บอกตั้งแต่แรกแล้ว ว่าพี่ไม่ชอบ มันแก่แดด มันอ่อยพี่ไม่รู้กี่หน บอกให้เธอพามันไปด้วย อย่าทิ้งไว้กับพี่ เธอก็ไม่ค่อยพา เราโมโหเลยทีนี้ เงียบมานาน พูดมาได้ว่าไม่ชอบ ว่าเกลียด แล้วไปเอามันทำไม เกลียดแบบไหน ถึงได้ทำหยามใจกันขนาดนี้ นี่กี่ครั้งแล้ว เค้าว่า ครั้งนี้ครั้งที่3 เค้าไม่ได้ชอบได้รัก แต่มันมาให้ท่าตลอด บอกตรงๆนะ อยากลอง น่าจะซิง มันเผลอไป มันพลาดแล้ว เสียใจ อยากจบ กลัวเธอรู้ แต่ไม่รู้ทำไง กลัวว่าวันนึงเธอต้องรู้ กลัวเธอเลิก พี่ทำอะไรไม่ถูก

sud sud sud ยิ้มมีปัญญาก่อเรื่อง แต่ไม่มีปัญญาจัดการ ทีงี้กลัวกูรู้ แล้วไง กูรู้แล้ว จะเอาไงล่ะ จัดการไรได้มั่งมั้ยล่ะ (ทั้งหมดคือความคิดตอนนั้นนะ อยู่ในใจ ไม่พูดออกไป) เราเลยพูดต่อว่า ชั้นเข้าใจนะ ชั้นผิดเอง ที่ไม่เชื่อพี่ พี่เคยบอกหลายที ว่าอย่าทิ้งมันไว้บ้าน ให้เอามันไปด้วย ชั้นดันไม่ฟัง เอาล่ะ ถ้าคิดว่าไม่ได้จริงจังอะไร ผิดไป ชั้นก็ไม่ว่า เอาว่าทีนี้พี่จะจัดการยังไง ปล่อยไว้ ชั้นไม่เอาด้วยนะ 


เค้าตอบมาว่า พี่ไม่รู้จะจัดการยังไงจริงๆ พี่ทำอะไรไม่ถูกเลย เราเลยตอบเค้า ว่างั้นพี่ปล่อยชั้นนะ เดี๋ยวชั้นจัดการเรื่องนี้เอง

เท่านั้นแหละ เค้าตาวาวเลย ทำท่าตกใจสุดขีด ผ่านมาหลายปี เรายังจำได้ดี เค้าถามมาว่า เธอจะทำอะไร จะฆ่ามันเหรอ


โถ่...ไอ้ ยิ้ม กูไม่ได้ชั่วขนาดน้าน ทำเรื่อง ยิ้มๆ แล้วไม่มีปัญญาจัดการ ยังมาหาว่ากูชั่วร้ายอีก( ทั้งหมดนี่เราคิดในใจ)


เราตอบว่าเปล่าน่า ไม่ได้ทำอะไรรุนแรง แต่ต้องเอาออกไปจากบ้านนะ เอาไว้ไม่ได้ ทำใจเห็นหน้ามันไม่ได้ เค้าตกลงให้เราจัดการ

เราไปติดต่อร้านคาราโอเกะข้างทาง เอาแฟนไปด้วย ตอนคุย ให้แฟนเข้าไปคุยอย่างที่เราบอก คือ ขอฝากเด็กทำงานด้วยคนนึง บอกว่าเป็นหลาน พ่อแม่ไม่มี เราเองก็มีภาระ ดูแลไม่ไหว เด็กอยากทำงานมีรายได้ ขอฝากให้มันช่วยเสิร์ฟ ล้างจาน หรืออะไรก็ได้ เอาแค่พอให้มันมีอาหารที่พัก มีติ๊บให้มันกินหนมประสาเด็ก ...ไปติดต่อตั้งหลายที่ สุดท้ายก็มีที่รับ

ทีนี้ พอมาถึงบ้าน ให้แฟนไปบอกมัน ว่าเรารู้เรื่องแล้ว อยู่ต่อไม่ได้ จะเอาไปฝากทำงานที่ใกล้ๆนี้ แล้วจะหมั่นไปหา บอกมันนะ ว่ารักมาก คิดถึง อะไรก็ว่าไป ให้มันตายใจ ยอมออกไปอยู่ที่ที่เราติดต่อไว้ เค้าก็ตกลง ทำตามแผนเรา ขอเวลาไปคุยกับเด็ก เราก็ปล่อยให้เค้าคุยกันตามลำพังนะ ไม่รู้คุยตามที่เราสั่งมั้ย หรือคุยว่าอะไร เอาว่า เด็กเก็บผ้าใส่กระเป๋า เรานั่งในห้องนั่งเล่นนะ ดูตลอด แต่ไม่พูดอะไรเลย ตลอดเวลาที่มันเก็บของๆมัน เก็บเสร็จ มันบอกแฟนเรา เสร็จแล้ว มันไม่มอง ไม่ขอโทษ ไม่ลาเราแม้แต่คำเดียว ออกจะทำท่าจองหองจัดๆใส่เราด้วย เราอดใจ อดทน กลั้นไว้ แล้วแฟนก็ออกไปส่งเด็ก
ช่วงเวลาตั้งแต่ที่เราเจอแผงยาจนตอนนั้น ไม่ถึง2วัน แต่เหมือนนานมาก เป็นครั้งแรกที่เราร้องไห้ เค้าไปกันแล้ว เป็นครั้งแรกที่เราไม่มั่นใจ ว่าแฟนพูดจริงมั้ย ว่าพลาดไป ไม่จริงจัง รักเรา เลือกเราแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก มาตอนนี้เราอดใจไว้ไม่ไหว เราร้อง ไม่นาน ไม่น่าถึง2ชม. เค้ากลับมา เจอเราร้องพอดี เราเองก็ไม่นึกว่าเค้าจะมาเร็ว เราเองก็กลัวว่าเค้าจะไม่ทำตามแผน กลัวเค้าไปไหนๆกันต่อ แต่เค้ากลับมา เราชวนเค้าออกไปหาบ้านใหม่ บ้านนั้นเราเช่าน่ะ เค้าก็งง ต้องย้ายบ้านด้วยเหรอ เราโมโหมากเลยนะในใจ แต่ทน พูดไปดีๆ ว่าไม่ใช่แค่ย้ายบ้านนะ ร้านก็ต้องปิด ไปหาที่ใหม่ เค้าว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น เราล่ะเจ็บใจ แหม..ไอ้โง่ เด็กอายุเท่าไหร่ ทิ้งมัน หลอกมันไปตั้งไว้ แล้วไม่ไปหา ขืนอยู่ต่อ ถ้ามันไม่ตามมาหาถึงที่ มันก็คงพาเข้าตารางน่ะสิ รู้สึกผิดหวังกับผู้ชายคนนี้มาก ไม่มีความเป็นผู้นำเลย สมงสมอง อยู่ไหน นี่คิดผิดนะ ที่เลือกอยู่กับคนๆนี้ หลังจากนั้น เราก็ย้ายบ้าน ย้ายร้าน วุ่นวายใหญ่โตเป็นเดือนมั้ง เหตุการณ์จึงเริ่มสงบ แต่ที่ไหนได้ ผ่านไปเดือนกว่า กลางดึกคืนหนึ่ง โทรศัพท์ดัง แฟนรับ 


น้า ไม่เห็นมาหาหนูเลย หนูรอตั้งนาน และอะไรประมาณนี้แหละ เสียงดังออกนอกมือถือ เราได้ยินประมาณนึง แฟนเราก็ว่าคิดถึง ไปไหนลำบาก น้าเค้าตามแจเลย เด๋วหาจังหวะได้จะไปหานะ อะไรประมารนี้ แล้ววางสาย ...เห้อ เราลืมเรื่องเบอร์มือถือ สมัยนั้นเวิลด์โฟน1800 รายเดือน ต้องไปยกเลิกกิจการเลยทีเดียว เรื่องเด็กจบไป หลังจากนั้นไม่นาน แฟนเราก็ก่อเรื่องอีก โต๊ะบอลโทรมาทวงว่าค้างค่าบอล เราเลยขอเลิก เค้าก็ขอโทษ ขอโอกาส เราทบทวนดีแล้วว่า คนๆนี้ เป็นผู้นำเราไม่ได้หรอก เงินไม่ได้มากอะไร แต่มองการใช้ชีวิตแล้ว ถ้ายังอยู่กันต่อ เค้าต้องมีเรื่องมาอีกแน่เลย เราทำเป็นไม่โกรธ ไม่ว่า บอกแค่ว่า อย่าให้มีอีกนะ เค้ารับปาก คงนึกว่าจบ แต่ไม่ล่ะ เราไม่เอาแล้ว เราจำได้ว่าเราเดินออกมาซื้อของ แล้วก็ไม่กลับไปอีกเลย เสื้อผ้ามีแค่ชุดที่ติดตัว กลับมาหาแม่ที่กรุงเทพ หาของจากสำเพ็งขายตลาดนัด อยู่โสดแบบนั้นได้2ปี ก็มามีแฟนคนปัจจุบัน ผ่านมา15ปีแล้ว ไม่เคยมีอะไรให้หนักใจเลย ดีใจที่ตัดสินใจถูก ผู้หญิงเรานะ การมีสามีผิด เป็นเรื่องเกินกว่าจะคาดเดา แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องจมปลัก ถ้ามันไม่ใช่ ก็ถอยออกมา อย่ามัวแต่ฟังคำว่ารัก คำขอโทษ ขอโอกาส โอกาสมันมีไม่มากหรอกนะ ให้ตัวเองบ้างก็ดี ส่วนเด็กนั่น ป่านนี้เป็นไง จะเสิร์ฟ จะล้างจาน จะมีผัว หรือขายตัว ก็แล้วแต่เธอ ชั้นรัก ชั้นเมตตา เธอไม่รักดีเอง ช่วยไม่ได้ ใครมองว่าเราผิด เป็นนางมารร้าย ก็แล้วแต่นะ เอามาเล่าให้ฟัง เผื่อบางคนกำลังทุกข์ใจ จะได้พอเห็นทางออกค่ะ

บางอย่างไม่เหมาะสม หยาบคายไปบ้าง ต้องขออภัย แต่เรื่องแบบนี้ คนใจดีก็ร้ายได้ค่ะ 


ขนาดผ่านมาจะ20ปี ยังไม่ลืม แทบจะจำได้ทุกคำที่พูดด้วย ไม่ได้ตั้งใจจำนะ แต่มันไม่ลืมเองจริงๆ


ที่มาจาก คุณ รถถังชุบแป้งทอด สมาชิก pantip.com
//pantip.com/topic/34343776




Create Date : 23 ตุลาคม 2558
Last Update : 23 ตุลาคม 2558 19:24:19 น. 0 comments
Counter : 812 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tukdee
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add tukdee's blog to your web]