นายโสฬส ศรีสุนทร เจ้าของไร่ทุเรียนศรีสุนทร ให้สัมภาษณ์ว่า บูธของตนได้นำทุเรียนพันธุ์ต่างๆ เช่น พันธุ์หลงจันทร์ ก้านยาว จันทรบุรี และก้านยาว นนทบุรี มาขายในงานดังกล่าว โดยทุเรียนพันธุ์ที่เด่นที่สุดคือ ทุเรียนพันธุ์ก้านยาว นนทบุรี ซึ่งมีราคาถึงลูกละ 10,000 บาท โดยเป็นที่สนใจของประชาชนที่ชื่นชอบการบริโภคทุเรียน เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่หายากในปัจจุบัน เพราะก่อนหน้านี้ ในช่วงปี 2554 ที่เกิดวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ จึงทำให้ไร่ทุเรียนพันธุ์ก้านยาว นนทบุรี ซึ่งเป็นทุเรียนที่ขึ้นชื่อของจ.นนทบุรี ได้รับความเสียหายจำนวนมาก อีกทั้ง ปัจจุบันเกษตรกรที่เคยปลูกทุเรียนดังกล่าวได้ขายที่ดินให้กับนายทุน ไปทำบ้านจัดสรร โดยที่ดินมีมูลค่าสูงถึงไร่ละ 12 ล้านบาท
นายโสฬส ให้สัมภาษณ์ต่อว่า สำหรับทุเรียนพันธุ์ดังกล่าว มีความแตกต่างทั้งในเรื่องของรสชาติ เนื้อทุเรียนที่มีความละเอียดกว่าทุเรียนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ไร่ของตนมีทุเรียนพันธุ์ดังกล่าวเพียง 10 ต้นเท่านั้น ส่วนลูกค้าที่ต้องการซื้อ จะต้องสั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่ต้นทุเรียนยังไม่ออกผล โดยปกติทุเรียนจะออกผลช่วงประมาณเดือน พ.ค.-ก.ค. ทั้งนี้ ไร่ของตนจะสามารถขายทุเรียนก้านยาว นนทบุรี ได้เพียงปีละประมาณ 100 ลูกเท่านั้น โดยลูกที่มีราคาแพงสุด ลูกละ 70,000 บาท ซึ่งลูกที่ราคา 70,000 บาทนั้น เคยได้รับรางวัลในการประกวดทุเรียนที่สวยที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ ในส่วนของการดูแลทุเรียนจะมีความพิเศษกว่าทุเรียนอื่นทั่วไปคือหากทุเรียนต้นหนึ่งมีผลทุเรียนมากกว่า 10 ลูก ก็จะต้องตัดทิ้ง เพื่อดูแลทุเรียนลูกอื่นให้สมบูรณ์ เพราะถ้าไม่ตัดออก เราก็จะไม่ได้ทุเรียนที่มีลูกที่สมบูรณ์
เจ้าของไร่ทุเรียนศรีสุนทร กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ทุเรียนพันธุ์ก้านยาว นนทบุรี จะให้ผลผลิตมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพของดิน และน้ำ ซึ่งทุเรียนพันธุ์นี้จะชอบน้ำก่อย ทั้งนี้ ปกติตนจะขายผลไม้ส่งให้ที่ตลาดไทย ส่วนผู้ที่สนใจทุเรียนพันธุ์ก้านยาว นนทบุรี ก็จะมีการสั่งจองล่วงหน้า