UPGRADE YOUR VOICE TO BE PROFESSIONAL SINGER.....
 
 

ขอโทษมิตรรักทุกท่่าน มาชี้แจงเรื่อง โรงเรียนสอนเวชศาสตร์การร้องเพลงออนไลน์ของผม

คือ ตอนเมื่อหลายเดือนก่อนที่ผมขันแข็งเขียนเนื้อหาออนไลน์นั้น ปัจจุบันก็กำลังเขียนอยู่ครับ ไม่เคยหยุดเลย

ทว่า ไม่ได้เอามาลงเนื่องจากมีท่านที่เคารพท่านหนึ่ง ขอให้ผมเอาเนื้อหาพวกนี้มาลงเป็นหนังสือก่อน เพราะจะได้ให้ผมมีผลงานที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ อ้างถึงได้ ไม่ใช่เคยคนใช้เน็ตเป็นเท่านั้น

ผมก็เคารพที่ท่านบอกและได้ติดต่อสำนักพิมพ์ไว้แล้วเพื่อส่งต้นฉบับ โดยผมได้ปรับภาษาสำหรับคนทั่วไปที่จบ ป.6 ก็น่าจะเข้าใจได้ คาดว่าจะปรากฎตัวมาเป็นหนังสือสักเล่มในไม่เกิน 3 เดือนนับจากนี้

สำหรับในเน็ต ผมจะยังมาโพสต์ต่อไปนับแต่วันนี้ เพราะผมได้ทำต้นฉบับส่วนของผมเสร็จแล้ว เหลือให้โรงพิมพ์ไปสานต่อ อีกอย่างต้องทำ VCD ออกมาด้วย ก็คงวุ่นวายอีกสักพัก

เดี๋ยวพรุ่งนี้ดึกๆจะมาเขียนเรื่อง groove นะครับ อยากเขียนมานานแล้ว




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2551   
Last Update : 3 มิถุนายน 2551 22:07:36 น.   
Counter : 1213 Pageviews.  


ประกาศการเปลี่ยนแปลง

ขอเลื่อนการเปิดโรงเรียน Professional voice เป็น 31 มีนาคม 2551 เนื่องจากประสบปัญหาด้านเวลา

ขอประทานโทษด้วยครับ




 

Create Date : 17 มีนาคม 2551   
Last Update : 24 มีนาคม 2551 8:56:45 น.   
Counter : 742 Pageviews.  


Register ที่ 4 Whistle สุดท้ายและท้ายสุด ก่อนกลายเป็นโรงเรียน


Register ที่ 4 Whistle สุดท้ายและท้ายสุด ก่อนกลายเป็นโรงเรียน

แล้วเราก็เดินทางมาถึง register สุดท้ายของ รายวิชาว่าด้วย voice register กันแล้วนะครับ

ต้องขอโทษที่เว้นช่วงไปนานเพราะไปประชุมเรื่องการผ่าตัดตกแต่งจมูกมา เนื่องจากผมทำด้าน facial plastic surgery ด้วย แล้วมีอาจารย์จาก Asan medical center ที่ดังที่สุดด้านทำจมูกของเกาหลี ซึ่งทำให้ดาราที่เราเห็นๆกัน เช่น ทำให้ คิมแตฮี เป็นต้น คือเทคนิคแกดีมากๆครับ ไม่ต้องใส่ซิลิโคนด้วย ผมดูแล้วคิดว่าผมจะพยายามพัฒนาตัวเองไปในทางนี้น่าจะดีเช่นกัน ผมเบื่อการทำจมูกให้คนไข้ด้วยซิลิโคนเต็มที

ส่วนเรื่อง professional voice ที่เกาหลีนั้นก็มีความก้าวหน้าพอสมควรครับ โดยเน้นเพลงโบสถ์ แต่ผมว่าที่ญี่ปุ่นเจริญกว่า คิดว่าคงใช้เวลาอีกสักพัก professional voice ของเขาคงจะเจริญไม่แพ้ญี่ปุ่น

สู่ register Whistle
เป็นเสียงที่มีการร้องเพลงโดยให้ลมเกือบทั้งหมดตั้งแต่ 80-100% ไปที่จมูกทั้งหมด กลไกนี้ไม่เกี่ยวใดๆกับกล้ามเนื้อกล่องเสียง เพราะเมื่อเราใช้ whistle ปุ๊บ กล่องเสียงจะมีหน้าที่เพียงแต่สร้างลมและความถี่พื้นฐาน ส่วนความถี่ที่เราจะบังคับให้เป็นไปนั้น หน้าที่จะไปตกแก่ เพดานอ่อน

ความแตกต่างจาก register อื่นๆ
1.ต่างจาก chest tone ตรงที่ chest tone ใช้กล้ามเนื้อกล่องเสียงปรับความถี่ แต่ whistle ใช้เพดานอ่อนปรับความถี่ (คลำดูที่คอได้)
2.ต่างจาก falsetto ตรงที่ falsetto ก็ใช้กล่องเสียงคล้าย chest tone แต่อาจจะคล้าย whistle กว่าตรงมีลมออกจมูกมาก แต่ก็มีลมออกปากด้วยอย่างชัดเจน ในขณะที่ whistle ไม่มีเสียงออกปากเลย

การฝึกให้มี whistle
1.การฝึกแบบ closed mouth คือการฝึกใช้เสียงดัง อึและอี ซึ่งเป็นเสียงที่ทำได้ในภาวะปิดปาก เพื่อเรียนรู้สภาพที่ลมออกจมูก 100% ไล่โน้ตในภาวะนี้พร้อมทั้งการทำ vibration แบบต่างๆให้ชำนาญ
2.การฝึกแบบ opened mouth คือ เปิดปากทำเสียง whistle ซึ่งเราจะสามารถทำได้ทุกสระ (vowel) ซึ่งอาศัยการอ้าทำรูปปากต่างกันอีกทั้งให้เรียนรู้การแบ่งลมบางส่วนออกปากแต่ยังให้คงความแหลมใสของ whistle ไว้ ไม่ตกเข้าสู่ falsetto ไปซะก่อน
3.ฝึกการร้องออกคำ ในการใช้เสียง whistle มีประเด็นตรงที่ว่าการออกคำด้วย whistle นั้นไม่ชัดเจน 100% ดังนั้นในคำที่ต้องการเน้นคำจริงๆ จะต้องตีกลับ register ในขณะร้องลงมาใช้ high falsetto เสร็จแล้วตีหางเสียงในคำกลับไปใช้ whistle ต่อ ซึ่งเราจะเห็นอยู่บ่อยๆกับรูปแบบการร้องของนักร้องประเภท cloratura และ นักร้องเสียง soprano แนว bel canto

ความไพเราะของเสียง whistle อยู่ที่ความพริ้วไหว ดังนั้นต้องฝึกในประเด็นนี้ให้มาก จะใช้มากในการร้อง coloratura , Bel canto ที่ต้องเลียนเสียงเปียโน มักใช้กับเนื้อเสียง soprano,sopranista,counter tenor,tenor

ความจริงยังไม่สุดท้ายหรอกครับ ยังมี passagio อีกอันที่จะต้องกล่าวถึงในบทนี้ก็รออ่านกันนะครับ แล้วจะเอาเสียง whistle มาฝากอีกที เผื่ออธิบายไม่เข้าใจ




 

Create Date : 04 มีนาคม 2551   
Last Update : 6 มีนาคม 2551 17:58:15 น.   
Counter : 5043 Pageviews.  


Falsetto เสียงหลบที่นักร้องไม่มีวันหลบพ้น


Falsetto เป็นภาษาละติน แปลว่า ปลอม ก็คือ เสียงปลอม นั่นเอง
เป็นเสียงที่ผู้ชายใช้เลียนเสียงผู้หญิง และผู้หญิงก็ใช้เลียนเสียงเด็กเล็กๆ

ในภาษาไทยเราไม่มีคำแปลชัดเจน แปลตรงๆว่า "เสียงปลอม" ก็ฟังไม่รู้เรื่อง แต่เรามักใช้กันว่า "เสียงหลบ" ดังนั้นผมจะใช้คำว่า "เสียงหลบ" เป็นคำแปลของ falsetto นะครับ

เสียงหลบนั้นเป็นเสียงที่เราใช้ฮัมเพลงบ่อยๆ เนื่องจากใช้ทำเสียงแหลมๆเล็กๆเบาๆได้ คือคนเราจะมีความสุขเวลาทำเสียงแหลมๆเบาๆสบายๆ แต่พอร้องออกเสียงจริงที่ฮัมเอาไว้ได้ก็ร้องเสียงไม่ถึงครับ เพราะที่ฮัมไว้มันเป็นเสียงหลบไม่ใช่เสียง chest tone ที่เราใช้พูดหรือร้องออกมาดังๆ

รูปแบบการใช้เสียงหลบ มี 3 ประเภทครับ ได้แก่
1.การใช้เสียงหลบคล้ายเครื่องดนตรี นักร้องที่ใช้มักเป็นนักร้องหญิง เสียงจะเป็นแนวเพลงสวดในโบสถ์นะครับ คือโหยหวนนั้นเอง กรุณาหาฟังผลงานของ enya

2.การใช้เสียงหลบในการร้องเนื้อเพลง นิยมทั้งชายและหญิง ซึ่งในสมัยนี้อะไรอะไรก็หลบครับ จะรู้สึกว่ามันถึงใจเหลือเกิน เพราะก็อย่างที่บอกว่า เสียงแหลมๆนี้มันเสียดแทงใจ การใช้เสียงหลบในกรณีนี้มีได้สองแนวอีกนะแหละครับคือ
2.1 การใช้เสียงแบบมี register break ก็คือเห็นการเปลี่ยนแปลงระหว่งเสียง chest tone กับเสียงหลบชัดเจน อันนี้หาฟังไม่ยาก นักร้องไทยใช้กับเยอะ เพราะว่าเปลี่ยนไปใช้เสียงหลบปุ๊บ อารมณ์มันจะถึงทันที
2.2 การใช้เสียงแบบมี Passagio (secondary) เป็นอะไรที่เห็นน้อยในนักร้องคนไทย เพราะต้องฝึกฝนพอสมควร มีที่ฟังแล้วเห็นว่าเขามี แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเขารู้ตัวหรือเปล่า ได้แก่ บอย พีชเมกเกอร์-ปราโมทย์ วิเลปนะ-โจ้ วงพอช-เจนนิเฟอร์คิ้ม คือคนพวกนี้ร้องไปเรื่อยๆ เสียงไปสุดแค่ไหน ก็หาจุดเปลี่ยนไม่พบทั้งๆที่ chest tone มันน่าจะหมดไปแล้ว

3.การใช้เสียงหลบในการทำ vibration อันนี้ผมได้สาธิตไปแล้วครับในท้องเรื่อง yodel ครั้งก่อน จะไม่พูดอีก

จากกลไกทางกายวิภาคนั้นเสียงหลบเกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อมัดหนึ่งของกล่องเสียงชื่อ Cricothyroid กล้ามเนื้อมัดนี้จะดึงกล่องเสียงไปด้านหน้าและต่ำลง (ดูภาพ) ทำให้เส้นเสียงบางลงและยาวขึ้น เสียงก็จะเปลี่ยนไปทางแหลมเล็กบาง



แต่มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคือจะทำให้เส้นเสียงปิดไม่สนิทดังนั้นจะเกิดปัญหา 2 ประการ คือ
1. มีเสียงลมแหบๆ ปนมาใน falseto ทำให้ไม่เสียงไม่ใส
2. เสียงที่ออกมาจะค่อยข้างเบา (เนื่องจากการรั่วของลมทำให้แรงดันใต้เส้นเสียง-subglottic pressure ลดลงการสั่นจะลดลง)

แต่โดยกลไกธรรมชาติเราจะทนฟังเสียงไร้คุณภาพเช่นนี้ไม่ได้ ดังนั้นโดยอัตโนมัติร่างกายจะเกิดปรากฏการณ์พิเศษ 2 อย่าง คือ
1.คอเราจะขยายเพื่อเพิ่มการก้องกังวาล สำหรับความถี่ต่ำ
2.เพดานอ่อนและลิ้นไก่ที่แบ่งระหว่างปากและจมูกจะแบ่งลมขึ้นจมูกมากกว่าเดิม สำหรับความถี่สูง
ผลของการก้องกังวาลจะเพิ่มความดังของเสียง และกลบความแหบได้ครับ

ตัวอย่าง เช่น เพลงกันและกัน ost. รักแห่งสยาม ในการร้องนักร้องปน falsetto ตลอด แต่ falsetto ที่ปนเข้าไปเป็นเสียงต่ำซะส่วนใหญ่ที่ทำให้เสียงดูหล่อๆ ดังนั้นใครจะร้องเพลงนี้ให้เหมือนๆ ต้องดันโคนลิ้นลงต่ำเพื่อขยายช่องคอ แต่ในเพลงเดียวกันประโยคเสียงสูง "รักย่อมมีหวัง" เป็น Falsetto ความถี่สูงก็ต้องเอาเสียงแบ่งไปขึ้นจมูก ก็จะประสบความสำเร็จในการร้องให้เหมือนต้นฉบับ

การฝึก Falsetto
1.วิธีการฝึกที่ดีที่สุดคือการพูดเป็น falsetto บ่อยๆครับ เพราะเสียงนี้ได้จากกล้ามเนื้อ ถ้าเราใช้กล้ามเนื้อบ่อยๆมันก็จะแข็งแรง อีกทั้งถ้าเราบังคับมันได้ดั่งใจ เสียง Passagio ก็จะมาเอง

2.ฝึกไล่โน้ตด้วยเสียง falsetto เพื่อให้รู้จังหวะว่าเสียงไหนต่ำสูง แล้วจะใช้คอกว้างช่วงไหน ใช้แบ่งขึ้นจมูกช่วงไหน เพราะถ้าเราแบ่งขึ้นจมูกเร็วไป ในนักร้องชายมันจะร้องได้เสียงหลบที่แหลมเกินไป มันจะไม่ค่อยเนียน ไม่แมนด้วย

3.ฝึกไล่โน้ตควบคู่กับ chest tone เพื่อให้รู้ว่าจุดเปลี่ยนจะอยู่แถวๆไหน วันหลังจะได้พัฒนาการฝึก Passagio ได้

อ้อ อีกอย่าง ปัญหาอีกอย่างหนึ่งในการฝึก คือ เสียงที่ออกจากปากกับเสียงที่ได้ยินในหูคนร้องเองจะไม่เหมือนกัน ดังนั้นนักร้องที่ฝึก falsetto ทุกคนควรอัดเสียงตัวเองฟังทุกครั้งเวลาซ้อมเพลงที่มีเสียง falsetto ก่อนที่จะออกไปร้องให้คนอื่นฟังนะครับ

(ปกติในการซ้อมร้องเพลงทั่วไป ในการฟังเสียงตัวเองผมจะให้ผู้ฝึกเอามือมาบังหน้าหูห่างสักสองนิ้ว เอาไว้เพื่อตัดเสียงย้อนหลังเพื่อเราจะได้ยินเสียงจริงอย่างที่ผู้ฟังเขาได้ยิน แต่ใน falsetto ใช้ไม่ได้ เพราะความก้องสะท้อนจะเข้าหูโดยตรงผ่านกระโหลก ป้องหูไว้ก็กันไม่ได้ ดังนั้นก็ยืนยันว่าต้องอัดเสียงฟังเอาครับ)

วันนี้ไม่รู้ยากไปหรือเปล่า คือผมหลบไปพักใจอยู่หลายวัน ช่วงนี้คนไข้มาก หนักๆทั้งนั้น เลยใจตกนิดหน่อย แต่ต้องพยายามต่อไปครับ
แล้วถ้าว่างอีกนิดจะเอาตัวอย่างในเรื่อง falsetto มาลงให้อีก




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2551   
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2551 21:08:39 น.   
Counter : 20319 Pageviews.  


ตัวอย่าง ลูกคอทั้ง 6 แบบ (ท่านใดเข้าก่อน 20.00 16 ก.พ.51 ให้เข้ามาดูใหม่ครับ)

Vibrato
+มักใช้ในเพลงทั่วไป กับทุกเนื้อเสียง



Tremolo
+มักใช้กับคนเสียงบาริโทน เวลาทำลูกคอกรามล่างจะสั่นไปด้วยครับ ส่วน vibrato คอสั่นอย่างเดียว



+ผมได้รวมร้อง vibrato และ tremolo ไว้ในช่วงเพลงเดียว ตัดมาท่อนหนึ่ง ถ้าอยากรู้แม้ร้องไม่เพราะก็ทนฟังนิดนะครับ
+เพลง All by myself ภาคภาษาสเปน ก็พูดไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เคยแต่โดนบังคับเรียนอิตาเลียนไม่ใช่สเปน ก็ร้องเท่าที่จำได้ เจ้าของภาษาคงฟังไม่รู้เรื่อง เอาเสียงละกันนะครับ
+ท่อนแรกจะเป็น vibrato ท่อนหลังจากคำว่า Solo otra vez จะพยายามทำ tremolo แม้ไม่เต็มหนึ่งโน้ตแต่มากกว่าครึ่งนิดหนึ่ง ลองฟังดู
All by myself: Il Divo cover by Dr.Kim Fach:Tenor
เนื้อเพลง :
Quero saber/Como es que siente una mujer/Mi corazon no aguante mas/La soledad
Solo otra vez/No se vivir/Solo otra vez/Sin amor
Solo otra vez/Estoy aqui/Solo otra vez/Sin amor



Thrill

+จะฟังยากหน่อย ร้องออกมาก็ไม่เพราะ แถมต้องเลื่อนโน้ตไปอีกเสียงเพราะต้องแหลมนิดๆถึงจะฟังแยกกับ vibrato ได้ชัดหน่อย ก็ลองฟังดูครับ
+แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมไม่นิยมลูกคอตัวนี้เลยทำได้ไม่ค่อยชัด



Yodel
+ร้องแล้วก็ต้องมานั่งเกาหัวสงสารเพลงชาติ แต่ก็ต้องเรียนรู้นี่ครับ มันเหมือนเพลงไทยเดิมหน่อยก็ทนฟังไปนะครับ



Vowel migration
+เสียงท้ายผมพยายามใส่ลูกคอสระ คือ ไทย ยี อี อือ เอ อี ยา ไม่รู้พอฟังทันไหม



Pitch migration



+สุดท้ายมีตัวอย่าง yodel และ pitch ที่ใช้ในเพลงไทยเดิม คนที่ฟังผมอธิบายไปแล้วน่าจะพอฟังออกว่าอันไหน
+คือที่ต้องให้ฟังอีกเพราะผมร้องเพลงชาติแบบ yodel กับ pitch migration ไว้ค่อนข้างฟังไม่ดี เนื่องจากเพลงมันไม่ให้
+ก็ฟังเพลงที่เข้าทางลูกคอละกันครับ เป็นเพลงไทยเดิมชื่อว่า พญาโศก ครับ ไม่มีดนตรีก็ร้องเอื้อนเต็มที่
+อาจไม่ลงหน้าทับ แต่จะให้ฟังเอื้อนที่เป็น pitch migration และ การใช้ yodel เปลี่ยนเป็น falsetto บ้าง whistle บ้าง ก็ลองฟังดู
เพลง พญาโศก ทางร้องอาจารย์เจริญใจ สุนทรวาทิน ร้องโดย หมอคิม
เนื้อ : โอ้วันใด มิได้พบประสบพักตร



+ลาละครับ วันนี้เหนื่อยจัง นั่งตกแต่งบลอก นั่งร้อง ฝากไฟล์ นั่งพิมพ์ ตั้ง สองชั่วโมง จะขอพักสักสองสามวัน





 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2551   
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2551 0:56:08 น.   
Counter : 1701 Pageviews.  


1  2  3  4  

kimanatomy
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Blog นี่สำหรับคนรักการร้องเพลงครับ โดยเฉพาะคนที่อยากรู้แบบเป็นวิชาการ
โดยอิงทฤษฎีการร้องเพลงคลาสสิกร่วมกับเวชศาสตร์การใช้เสียง
ถ้ายากไปแต่อยากเข้าใจก็ถามมาได้ครับ(e-mail,MSN)
zorroporn@hotmail.com

PRODUCED AND COPYRIGHT BY
SURAPORN KORNTONG,MD,FRCOT

ฺBEST VIEW BY INTERNET EXPLORER


ThaiBlog.info
[Add kimanatomy's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com