ขับรถเที่ยวอิสานใต้ ด้วยความประทับใจ "อุบลราชธานี" : ตอนที่ 1
ทริปนี้ ไปมาเมื่อเดือนตุลา ปี 52ค่ะ เป็นการเดินทางสู่ภาคอิสาน ด้วยรถยนตร์กะบะ 4WD. เครื่อง 3000 กินน้ำมันเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เป็นทริป 3 วัน 2 คืนค่ะ แต่อันที่จริง แค่ 2 วันครึ่งนะคะ เพราะกว่าจะออกเดินทางก็ครึ่งวันเข้าไปแล้ว ล่ะคะ
ออกเดินทางจากรุงเทพ ประมาณ 11 โมงครึ่ง ถามใคร ก็บอกว่าหาที่พักระหว่างทางเถอะ มันไกล กว่าจะไปถึงเมืองอุบล ก็ 8-9 ชม. แต่เรามานั่งคำนวณเวลาดูแล้ว ยิงยาวเลยดีกว่า ไปค่ำที่อุบลก็ไม่เป็นไร เพราะเรามีเพื่อนที่นั่น (ก็เพื่อนจากสังคมไซเบอร์ แห่งนี้นั่นแหละค่ะ) โทร.ไปปรึกษาเรื่องที่พักได้ ไม่มีอะไรน่าห่วง จากกรุงเทพ ใช้เส้นทางวิภาวดี-รังสิต ออกพหลโยธิน แล้วไปเลี้ยวขวาเข้า ทล.หมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ก่อนเลี้ยวขวาอีกครั้งก่อนถึงสีคิ้ว เพื่อเข้า ทล.หมายเลข 24 ตรงไปเรื่อยๆ จนถึง อ.ขุขันธุ์ จ.ศรีสะเกษ ก็เลี้ยวซ้ายเข้า ทล.หมายเลข 220 ผ่านเมืองศรีสะเกษ เลี้ยวขวา เข้า ทล.226 เข้ากันทรารมย์ ,วารินชำราบ อุบลราชธานี ค่ะ โชคไม่ดี เจอฝน(เกือบ)ตลอดทาง ฝนตกหนักมากช่วงตั้งแต่ สูงเนิน,โชคชัย ไปจนเข้าเขตบุรีรัมย์ เข้าเขตจังหวัดบุรีรัมย์ ฝนซาเม็ดลงบ้างแต่ก็ยังมีเม็ดฝนลงมาอยู่ ถนนเส้น 24 นี้ขับง่าย ทางตรงตลอด แต่ว่าจะเป็นถนนรถวิ่งสวนทางนะคะ สี่เลนแค่ช่วงโคราช ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นช่วงอำเภอนางรอง หรือไม่ก็ปราสาท ฟ้าเริ่มเปิดแล้วค่ะ แต่ว่า..ก็เกือบจะเย็นแล้ว เข้าเขตศรีสะเกษ ก็เกือบจะค่ำแล้ว เลี้ยวขวาเข้าสาย 226 ไปทางกันทรารมย์ ก่อนเข้าเขตอุบลทางอำเภอวารินชำราบ โทร.นัดหมายกับน้องที่อยู่อุบล น้องๆทำเสียงตกใจ โห..พี่ทำไมถึงเร็วจัง ขอบคุณน้อง "ก้านกล้วยสีสด" ที่อำนวยความสะดวกทุกเรื่อง และขอบคุณน้อง "เจ้าจุก" ที่มาต้อนรับดูแลนะจ๊ะ ขอบคุณ เจ้าบ้านจัดการหาที่พักไว้ให้เราเรียบร้อย ไปถึงที่พัก ก็ค่ำพอดี เก็บของดูห้อง แล้วออกไปทานข้าวกันค่ะ พิกัดร้าน อยู่ในซอยตรงข้ามกับโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ์ ไม่ได้ถ่ายรูปทางเข้ามา เพราะว่ามืดแล้ว ร้านจะอยู่ในซอยหมู่บ้าน ชื่อ "บ้านกลางซอย" เจ้าบ้านดูแลเราอย่างดี จัดหารข้าวปลาอาหารมาให้ ไม่บกพร่อง อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ แต่ว่ากินไม่หมด เพราะสั่งมาเยอะมาก และเดินทางมาเหนื่อย ต้องขอโทษเจ้าบ้านด้วย ราคาก็ไม่แพงนะคะ ร้านนี้ ใครผ่านไปเมืองอุบลราชธานี แนะนำเลยค่ะ ด้านหน้าร้านเป็นแบบนี้ค่ะ ไม่ได้ถ่ายรายการอาหารมาเพราะว่าแสงมันน้อย มือสั่น ไม่กล้าใช้แฟลช เกรงใจแขกโต๊ะอื่นค่ะ กินข้าวอิ่ม เจ้าถิ่นพาไปรู้จักร้าน "ระหว่างทาง" ร้านนี้อยู่ตรงใกล้กับทุ่งศรีเมืองค่ะ ขายโปสการ์ด ของที่ระลึก ต่างๆ สอยเสื้อยืดมาคนละตัว สองตัว ก็รีบกลับ เพราะเลยเวลาที่ต้องปิดร้านแล้ว ตั้งใจไว้ว่า เดี๋ยวเช้าจะแอบมาอีก เสร็จแล้วก้กลับเข้าที่พัก ทีแรกคุยกันว่าจะไปนอนที่โขงเจียม 1 คืน แต่เกิดเปลี่ยนใจ เพราะอยากไปนั่งกินข้าวบนแพริมแม่น้ำมูล ก็เลยคิดว่าจะพักในเมืองทั้งสองคืนเลย คุยกันไว้ว่า ถ้าที่นี่โอเค ก็จะพักต่อ ความจริงเรื่องสภาพห้องพัก ก็ไม่ได้แย่มากหรอกค่ะ เรารับได้ แต่พอเช้าก็ตัดสินใจว่า.. เช็คเอาท์เหอะ นอนไม่ค่อยหลับเลยเมื่อคืน เพราะมีเสียงน้องตุ๊ก มาร้อง "ตั๊บแก่ ตั๊บแก่" อยู่หลังห้องค่ะ เช้า.. เช็คอ้าท์ แล้วก็ไปกินกันที่ร้าน "สามชัยกาแฟ" ค่ะ พิกัดร้าน อยู่ข้างศาลจังหวัด ค่ะ เป็นร้านเด่นร้านดัง ใครๆก็รู้จัก โจ๊กใส่ไข่ ,ขนมปัง ไส้หมูยอ-กุนเชียง,ปาท่องโก๋ ,กาแฟโบราณ และ ข้าว-เลือดหมูต้ม ท้องอิ่มก้ออกเดินทางต่อ แวะไปร้านระหว่างทาง เพื่อกักตุนโปสการ์ด เอาไปล่าตราประทับ ส่งหามิตรรัก แฟนอักษร วันนี้เราจะไปเที่ยวนอกเมืองค่ะ แพลนเอาไว้ว่าจะไปโขงเจียม, น้ำตกแสงจันทร์ , แล้วก็จะแวะไปดูความเปลี่ยนแปลงที่ กุดข้าวปุ้น ถิ่นเก่าที่คุณผู้ชายเคยมาอยู่ สมัยบรรจุเข้ารับราชการครั้งแรก (โอ้ว..นานไปมั้ยเนี่ย ) ใช้เส้นทางการเดินทางเป็นวงกลมค่ะ ขาไปใช้เส้น 217 ไปจึงถึงช่องเม็ก แล้ววิ่งเลาะ 2173 ไปโขงเจียม แล้ววิ่งตามเส้นสีเขียวไปกุดข้าวปุ้น หากลับใช้เส้นทาง สีเหลือง เข้าสู่ตัวเมือง ค่ะ ระหว่างทาง ผ่านหาดพัทยาน้อย แวะลงไปถ่ายรูปนิดหน่อย บรรยากาศเงียบเหงาค่ะ เพราะยังเช้าอยู่ เราไม่ได้แวะเข้าไปที่เขื่อนสิรินธร เพราะเกรงว่าจะเสียเวลามาก จึงตรงดิ่งไปที่ช่องเม็กเลยค่ะ ไม่ได้ตังใจหรอกว่าจะไปซื้ออะไร แค่ตั้งใจไปดูบรรยากาศเท่านั้น เงียบเหงาดีค่ะ เหมือนตลาดชายแดนแถวๆบ้านเลย (ช่องบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน) ไม่รู้จะข้ามไปฝั่งโน้นทำไม ก็เลยจอดรถลงไปถ่ายรูป แล้วก็กลับค่ะ ระหว่างทาง จากช่องเม็ก ไป อ.โขงเจียม ผ่านแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งค่ะ ทั้งแก่งตะนะ ,ชมรมอนุรักษ์พันธุ์ม้าพื้นบ้าน ,เขื่อนปากมูล, ถ้ำเหวสินธุ์ชัย แต่เราไม่ได้แวะที่ไหนเลยค่ะ มุ่งหน้าไปโขงเจียม กันเลย สะพานข้ามแม่น้ำ ใกล้จุดที่แม่น้ำทั้งสองสาย มาพบกัน โขงสีปูน มูลสีคราม อ.โขงเจียม เป็นอำเภอเล็กๆ ค่ะ ถนนในตัวอำเภอเป็นถนนคอนกรีต สายเล็กๆ สองข้างทางมีบ้านพักเล็กๆ บริการหลายแห่ง ออกไปชมวิว แม่น้ำสองสีกันดีกว่าค่ะ ทำไมไม่เห็น สองสีเลยค่ะ หรือว่าต้องดูจากมุมสูง ..... หรือว่าต้องนั่งเรือไปดูทางแม่น้ำ ฟ้าครึ้ม ไม่มีแดดเลยค่ะ แต่ว่าอากาศร้อนอบอ้าว เอาเรื่องเหมือนกัน บริเวณนี้มีแพอาหาร และร้านขายของที่ระลึกหลายเจ้า แต่เรายังไม่ค่อยหิว ก็เลยคิดว่าเดินทางต่อกันดีกว่า จากโขงเจียม เรามุ่งหน้าไป อช.ผาแต้มกันค่ะ จ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานกันก่อน คนละ 20 บาท รถคันละ 30 บาทค่ะ จ่ายครั้งเดียว เที่ยวได้ทุกอุทยาน ภายใน 1 วัน เสาเฉลียง เสาเฉลียง ลักษณะคล้ายดอกเห็ด มีจุดกำเนิดและวิวัฒนาการมาจากหินทราย 2 ยุค คือ หินทรายยุคไดโนเสาร์ (Jurassic Period) มีอายุประมาณ 180 ล้านปี และหินทรายยุคครีเตเชียส (Cretacecus Period) เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ ลม และแสงแดด ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายล้านปี ประกอบกับการเปลี่ยนแปลง (ยุบและยกตัว) ของเปลือกโลก และในขณะเดียวกัน ตะกอนของเนินหินทรายที่เหลือจากการชะล้างพังทลาย ก็เริ่มแข็งตัวขึ้นโดยลำดับ ซึ่งเรียกว่า ขบวนการสึกกร่อนและต้านทานทางธรรมชาติ ส่วนต้นของเสาหิน มีวิวัฒนาการมาจาก การสะสมตะกอนของหินทราย ในยุคไดโนเสาร์ โดยในยุคนั้น สภาพลมฟ้าอากาศ ไม่ค่อยเอื้ออำนวยต่อความแข็งและยึดตัวของเม็ดหินทราย ยุคถัดมาคือ หินทรายยุคครีเตเชียส อันเป็นหินที่ทับอยู่ส่วนบนซึ่งแข็งแรง ทนต่อการสึกกร่อนได้ดีกว่าส่วนที่เป็นเสาหินท่อนล่าง ดังนั้น เมื่อถูกกัดกร่อนทีละเล็กละน้อยนานๆ เข้า ส่วนต้นของเสาหินจึงมีลักษณะสูงชะลูดคล้ายโคนเห็ด แต่หินส่วนที่ทับ หรือเกยทับอยู่ข้างบน จะไม่ติดเป็นเนื้อเดียวกับเสาหิน เพราะเกิดต่างยุคและต่างเงื่อนไขของสภาพแวดล้อม เป็นผลให้สามารถคงรูปใกล้เคียงสภาพเดิม ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ ยื่นคลุมเลยส่วนที่เป็นต้นเสาหินออกไปคล้ายดอกเห็ด นับเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติชิ้นเอกร่วมกันของหินทรายทั้ง 2 ชุด ซึ่งก่อให้เกิดเสาหินกระจายอยู่มากกว่า 10 แห่ง โดยเฉพาะบริเวณภูกระบอ มีอยู่มากมายคล้ายสวนหิน ชาวท้องถิ่นเรียกเสาหินที่คล้ายดอกเห็ดนี้ว่า "เสาเฉลียง" ซึ่งแผลงมาจากคำว่า "สะเลียง" เป็นภาษาส่วยที่หมายถึง "เสาหิน" ลักษณะก้อนหินแต่ละก้อน มีรูปร่างแปลกตาตามจินตนาการของแต่ละคน อันเกิดจากธรรมชาติที่ใช้เวลานับล้านปี เป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมา เช่น หินเต่าชมจันทร์ มีรูปร่างคล้ายเต่ากำลังแหงนหน้ามองฟ้า หินโยคี น้ำหนักประมาญ 50 ตัน แต่สามารถโยกได้ด้วยคนเพียงคนเดียว เป็นต้น ข้อมูลจาก //guideubon.com/news/view.php?t=40&s_id=7&d_id=4 ขอบคุณค่ะ แวะไปประทับตราอุทยานกันก่อนค่ะ ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และไปดูข้อมูลพระอาทิตย์ขึ้นวันนี้ค่ะ ที่นี่จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใคร คงเคยได้ยินรายงานนะคะ ผาชนะได จังหวัดอุบลราชธานี ไง ไปชมภาพเขียนสี กันดีกว่าค่ะ ก่อนลงไปชมภาพเขียนสี ไปชมวิวกันก่อน ที่จุดชมวิวผานางลี้ วิวสวยค่ะ เสียดายที่อากาศอบอ้าวไปนิด ฟ้าครึ้ม ฝน ฝั่งโน้น คือประเทศลาวค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้เราได้ยินเสียงแตรรถจากฝั่งโน้น ชัดเจนเลยค่ะ จบตอนแรกค่ะ เลื่อนลงไปอ่านตอนสองกันได้เลยนะคะ หรือรับชมรีวิวฉบับเต็มจากบอร์ดบลูแพลนเนท จากลิงค์ค่ะ //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8386758/E8386758.html
Create Date : 01 เมษายน 2553
Last Update : 1 เมษายน 2553 20:40:21 น.
Counter : 8416 Pageviews.
prettyguide
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [? ]
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ prettyguide's blog ค่ะ สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องอัญมณี และของดีเมืองจันท์ เชิญลงชื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนได้ค่ะ prettyguide จะขออาสาพาเพื่อนๆเที่ยวเมืองจันท์ให้ครบทุกซอกทุกมุม ใครอยากไปไหน หรืออยากได้ข้อมูลของจันทบุรี ก็บอกมาได้เลยค่ะ ================================ ภาพถ่ายทั้งหมด ภายใน blog นี้สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัิญญัติสิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาิิต