เที่ยวแล้วสบายใจ...ไม่เน้นรายได้จากงานประจำ

พาสาวใต้จากปลายด้ามขวานเที่ยวดินแดนตะวันออก : ตอนที่ 1 จากยะลาไปหาประสบการณ์

สวัสดีค่ะ

ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว
ทำรีวิวไว้ที่บอร์ดบลูแพลนเนท แต่เพิ่งได้มีโอกาสนำมาเก็บลงบล็อค ตั้งแต่เกิดทริปนี้ขึ้นมา อิชั้นเพิ่งได้กลับเข้าบ้านก็วันนี้แหละค่ะ

เที่ยวซะตัวดำปี๋ กันเลยทีเดียว
อ้วน-ดำ ของแท้ ละทีนี้หมูน้อยเอ๋ย 5555555555+


น้องๆ ที่ทำงานร่วมกันกับคุณผู้ชาย ได้พัก 10 วัน
พร้อมกับช่วงโอกาสดี ที่คุณผู้ชายได้พักเช่นกัน ก็เลยชวนกันมาเที่ยวบ้าน
โดยเราสองคนอาสา เป็นผู้ดูแลทุกเรื่องให้ทั้งหมด เพราะอยากให้น้องๆมีโอกาสได้เปิดโลกทัศน์ และตอบแทนที่เด็กทั้งสองคน ขยันขันแข็ง ตั้งใจทำงานโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย

การเดินทางครั้งนี้ น้องๆ ทั้งสองคน ซึ่งเป็นสาวยะลา ขึ้นมากรุงเทพพร้อมกับคุณผู้ชายค่ะ โดยอิชั้นไปรอรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ก่อนไปพัทยา - เกาะล้าน - จันทบุรี แล้วส่งน้องๆกลับเข้ากรุงเทพ
โดยมี จนท.ที่อยู่ในช่วงลาพักเช่นกัน รับช่วงดูแลต่อ ก่อนส่งน้องๆกลับไปยะลา ทางรถทัวร์ ในวันถัดไป

รีวิวชุดนี้ อาจจะมีหลายตอน อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ



สาวน้อยคนแรก เป็นชาวเบตงค่ะ
สาวน้อยคนที่สอง บ้านอยู่บันนังสะตา

จึงต้องเดินทางมาพักที่หาดใหญ่ เพื่อรอขึ้นเครื่องไฟลท์แรกของวันถัดไป
พาน้องๆ ไปพักที่โรงแรมหาดใหญ่พาราไดซ์ ซึ่งน้องๆ ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้พักโรงแรมกันบ่อยนัก เพราะไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน ข่าวว่าทั้งสองคนตื่นเต้นดีใจ กันมากๆ



เช้าตรู่ วันรุ่งขึ้น
ให้รถของโรงแรมไปส่งที่สนามบิน มีคนเล่าให้ฟังว่า
1 ใน 2 นอนไม่หลับเลยทั้งคืน

แต่อิชั้นว่า น่าจะเป็นทั้งสองคนเลยมากกว่า
ไม่งั้นอีกคน จะรู้ได้ไง จริงมั้ยคะ



เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองสาวได้ขึ้นเครื่องบิน

สาวคนแรก ตื่นเต้นน้อยกว่าหน่อย เพราะเคยได้ขึ้นเครื่องบินลำเลียงของทหารไปปฏิบัติงานในพื้นที่ เวลามีเหตุ

ก่อนเดินทางมีการให้ข้อมูลเรื่องสัมภาระกันมาแล้ว
แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่วาย ต้องทิ้งของใช้ส่วนตัวจำพวกของเหลวไปจนหมดกระเป๋า มาถึงก็ต้องไปแสดงตัวเช็คอินกันก่อนค่ะ



ได้มาแล้วค่ะ บอร์ดดิ้งพาส



พาสาวๆไปสำรวจสนามบินหาดใหญ่ จนทั่วทุกมุม
ก็เข้าไปนั่งรอหน้าเกท ก่อนพร้อมออกเดินทาง ด้วยความตื่นเต้น ยินดี



คุณผู้ชายเล่าให้ฟังว่า จนท.ดูแลน้องสองคนดีมากๆ
ก่อนลงเครื่องยังแอบเอาขนมมาให้อีกคนละ 3 กล่อง

โอ้ว..อะไรกันเนี่ย
เวลาอิชั้นไป ไม่เห็นได้แบบนี้มั่งเลยอ่ะ

ในที่สุดก็มาถึง สุวรรณภูมิ

Smiley





ในเวลาไล่เลี่ยกัน
อิชั้นก็กำลังเดินทางใกล้ถึงสุวรรณภูมิ



หลังจากพบกันตามจุดที่นัดหมาย

มุ่งหน้าเซนทรัลบางนา เพื่อไปทำธุระและซื้อของเล็กน้อย
พร้อมทั้งทานมื้อแรกกันที่ KFC.



จุดหมาย ปลายทางแรกในวันนี้
เราจะไปกันที่พัทยา ค่ะ (อีกแล้ว) ไปถึงพัทยา

ตรงไปจองตั๋ว ชมอัลคาซาร์ ก่อนเลยค่ะ
ตั้งใจมากๆ ว่าจะพาน้องทั้งสองคนมาชมโชว์

ขนาดไปจองก่อน
รอบที่เราเลือก ที่นั่งดีๆ ยังถูกจองไปหมดแล้ว



ได้ตั๋วชมการแสดงแล้ว สบายใจ
ไปเข้าที่พักกันค่ะ พักที่เดิมที่เก่า BJ.Holiday ซอย 3 ข้างเอวัน

ให้เวลาสาวๆ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะพาไปชมทะเล



กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
ไปหาอะไรใส่ท้องก่อนค่ะ ร้านเดิมอีกนั่นแหละ



น้องทั้งสองคนเป็นชาวมุสลิม รายการอาหารโปรดบางอย่างของเรา ก็เลยต้องงดไปโดยปริยาย แต่ไม่ใช่ปัญหาค่ะ



อิ่มแล้วก็เดินย่อยค่ะ

เราตั้งใจว่า จะเดินเรื่อยๆ ไปจนถึง Walking Street เพื่อรอเวลาชมโชว์ ตามรอบที่จองบัตรไว้ พัทยา มีสเน่ห์เสมอ เราพบเจออะไรมากมาย ตลอดเส้นทางริมชายหาดแห่งนี้



ช่วงที่ไป พัทยาจัดงานฮาโลวีน และต่อเนื่องงานลอยกะทงพอดี
ตลอดเส้นทางจึงเต็มไปด้วยร้านขายสินค้า ทำให้การเดินเที่ยว เพลิน จนลืมเหนื่อย วิถีชีวิต ที่แตกต่างจากสถานที่ ที่น้องๆจากมาเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ ที่สาวๆ ทั้งสองคนเลือกที่จะคิดได้ ว่าสิ่งไหนเหมาะสม หรือไม่เหมาะสม และมีอะไรบ้าง ที่เขาควรนำไปปรับใช้ กับการดำเนินชีวิตในพื้นที่



สิ่งเหล่านี้ หาได้ยาก จากบ้านของน้องๆ
แสงสีและความสนุกสนาน ยามค่ำคืนแบบนี้ น้องๆไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว เราเดินบ้าง พักบ้าง ช๊อปบ้าง ในที่สุดก็มาถึงพัทยาใต้ ถนนคนเดิน หรือที่คุ้นปาก คุ้นหูว่า ว๊อคกิ้ง สตรีท



ยังเป็นช่วงหัวค่ำ ยังไม่ค่อยคึกคักมากเท่าไหร่ เหลือบมองนาฬิกา ได้เวลาต้องไปแล้วล่ะค่ะเดี๋ยวจะไม่ทันไปชมบรรยากาศ ก่อนถึงรอบแสดงโชว์

ขึ้นสองแถวจากพัทยาใต้ ไปอัลคาซาร์ ราคาค่าโดยสารคนละ 10 บาท



ผ่านหน้า ดิ อเวนิว คนเยอะมากๆ
เพราะมีตลาดนัดเปิดท้าย อยากจะโดดลงไปช๊อป

แต่ทำไม่ได้
เพราะได้เวลา ที่จะต้องไปชมโชว์แล้ว

ไปถึงที่โรงละคร
พอดีรอบการแสดงก่อนหน้าเราเลิก รีบพาน้องๆขึ้นไปชั้นสอง
เพื่อชมบรรยากาศ การถ่ายภาพกับนักแสดงที่ลานด้านข้าง



การแสดงอันสุดอลังการ ทั้งแสง สี เสียง ฉาก
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสวยวงามของนักแสดง สร้างความประทับใจให้น้องๆไม่น้อย โชว์อัลคาซาร์จะผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนโชว์ไปเรื่อยๆ
แต่มีอยู่ไม่กี่ชุด ที่จะยืนพื้นไว้



และในที่สุด ก็ถึงการแสดงชุดสุดท้าย แอบสังเกตเห็นว่า สาวๆเธออยากถ่ายภาพกับนักแสดงแต่ไม่กล้าเพราะมันมีค่าใช้จ่าย เราเลยเรียกน้องๆเข้าไปถ่าย แล้วรีบชำระเงินให้

บางที เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้
บางคนอาจจะมองไม่เห็น คิดไม่ทัน แต่อิชั้นว่ามันสื่อถึงอะไรได้หลายๆอย่าง



ให้เวลาสาวๆ กันซักพัก ก็กลับค่ะ
เดินกลับที่พักได้ ไม่ไกลเลย ก่อนเข้าที่พัก
ก็แวะร้านสะดวกซื้อปากซอย ตุนขนม ไว้ให้สาวๆ

เกรงว่าเค้าจะหิวกลางดึก เดี๋ยวจะหาว่าดูแลไม่ดี กลับไปถึงที่พัก
สาวๆเค้ามาขออนุญาตออกไปซื้อของที่ร้านค้าที่มาออกบูธริมหาด

เราก็อนุญาตค่ะ แต่กำชับไว้ว่าให้ระวังตัว ถ้ามีอะไรให้รีบโทร.หา
พร้อมทั้งแอบลงไปสั่งยาม ที่หน้าตึกให้ช่วยดูแลด้วย

รู้มาว่าออกไปไม่นาน
ก็กลับมาพร้อมของเล่นที่เค้าซื้อไปฝากหลานๆ

หลังจากแยกย้ายกันไปนอนคืนนั้น เช้าวันถัดมาอิชั้นพาสาวๆไปเล่นน้ำใสๆทรายขาวๆ ที่เกาะล้านค่ะ



ขอบคุณที่ทุกท่านที่เข้ามาทักทาย ลงชื่อให้กำลังใจ
เลื่อนลงไปอ่านตอนต่อไปได้เลยนะคะ หรือตามไปชมรีวิวฉบับเต็มจากบอร์ดบลูแพลนเนท จากลิงค์นี้ค่ะ

 

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8532841/E8532841.html








 

Create Date : 15 เมษายน 2553   
Last Update : 15 เมษายน 2553 21:42:36 น.   
Counter : 2080 Pageviews.  

พาสาวใต้จากปลายด้ามขวานเที่ยวดินแดนตะวันออก : ตอนที่ 2 เล่นน้ำที่เกาะล้าน

สวัสดีค่ะ

มาต่อตอนที่สอง ของการพาสาวๆจากเมืองยะลา มาเที่ยวกันนะคะ
เมื่อตอนที่แล้ว เป็นการเดินทางจากยะลา มาหาดใหญ่ แล้วขึ้นเครื่องการบินไทย มาลงสุวรรณภูมิ ก่อนขับรถมาเที่ยวชมแสงสี และชีวิตยามราตรีที่พัทยา

เช้าวันรุ่งขึ้น เรานั่งเรือโดยสารข้ามไปเล่นน้ำทะเล กันที่หาดตาแหวนเกาะล้านค่ะ บ่ายๆ ก็กลับ มื้อเย็นของวันนี้ ไปหาร้านบรรยากาศดีนั่งทานข้าวกัน ก่อนวันรุ่งขึ้นจะเดินทางต่อไปจันทบุรี

ตื่นแต่เช้า

ลงมารับประทานอาหารเช้า กันก่อน
ไม่ต้องตกใจค่ะ ที่เห็นเนี่ย ของอิชั้น กะคุณผู้ชาย

ส่วนของน้องๆ ไม่ได้ถ่ายภาพมาค่ะ





บอกสาวๆ เอาไว้ ว่าจะพาไปเล่นน้ำ
ให้เตรียมเสื้อผ้าไปให้พร้อม อิ่มแล้วก็เดินออกมาเรียกสองแถวปากซอยค่ะ

พี่คนขับเรียกราคาเหมา 100 บาท เรามากัน 4 คน ต่อรองเหลือ 80 (คนละ 20) ส่งถึงเรือเลยค่ะ ไม่ต้องเดินไกล



เป็นท่าเรือที่ต้องเดิน(ตากแดดร้อนมาก) ไกลมั่กๆ
โชคดีที่สองแถวมาส่งเราถึงเรือ ย่นระยะทางไปได้เยอะเลยค่ะ

ไปถึงก็จ่ายเงินตอนลงเรือเลยค่ะ เรือกำลังจะออกพอดี
ค่าโดยสารคนละ 20 บาท ไปลงที่หาดตาแหวนค่ะ





เรือออกตรงเวลาค่ะ ทะเลพัทยา เต็มไปด้วยเรือสปีดโบ้ท
มีร้านค้าผ้าใบชายหาด ที่รู้จักกันมาเสนอราคาพาเที่ยวเกาะล้าน
เค้าคิดราคาเหมาลำละ 800 บาทค่ะ จากที่คิดคนอื่น 1200 แต่เราไม่ได้รีบร้อนอะไร แล้วก็มาแค่ 4 คน ทำไมต้องจ่ายแพงล่ะคะ จริงมั้ย ???



ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก็ถึงแล้วค่ะ
ท่าเรือหาดตาแหวน ธรรมชาติยังคงงดงาม เรือประมงพื้นบ้าน ยังมีให้เห็น แดดแรงได้ใจมากๆ ค่ะ น้ำใส ไม่ทำให้สาวๆผิดหวัง





เกาะล้าน กะห่วงยางชายหาด
เป็นสัญลักษณ์กันไปซะแล้วล่ะค่ะ



ไปเดินเล่นกันก่อนดีกว่าค่ะ

ริมหาดจะเต็มไปด้วยร้านอาหารแบบง่ายๆ และร้านขายของที่ระลึกมากมาย
สำรวจราคาก็ไม่ถือว่าแพงมากนะคะ นอกจากนี้ก็มีคิวรถรับจ้างทั้งมอเตอร์ไซค์ และสองแถว สำหรับเข้าหมู่บ้าน แต่เราไม่ได้ใช้บริการ เพราะก็แค่มาเล่นน้ำ ไม่รู้จะเข้าไปทำไมอ่ะ



อาหารทะเลสดๆ มีบริการ
แต่ไม่รู้สิ อิชั้นเฉยๆนะ กับอาหารเหล่านี้

คงเป็นเพราะเราหาทานได้บ่อยๆ ในราคาที่ไม่แพงก็เป็นได้ค่ะ

โปสการ์ดบนเกาะล้านสวยมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นงานทำมือ
ของที่ระลึก ก็เหมือนกับที่อื่นๆ ทั่วไปค่ะ

ชาวต่างชาติจับจองที่นั่ง เก้าอี้ริมหาดกันเป็นทิวแถว
ร้อนจะแย่ ทำไมเค้าไม่ร้อนกันบ้างนะ ขนาดเราแค่เดินๆ ไปถ่ายรูป ยังแสบผิวไปหมด





ปล่อยให้สาวๆ เค้าลงไปเล่นน้ำกันค่ะ

ส่วนเรา แอบข้างเสา หามุมที่ร่มที่สุด เย็นที่สุด
หาอะไรใส่ปาก ใส่ท้องดีกว่า



เป็นที่สังเกตได้ว่า ในร้านใต้ร่มเงา และไอเย็น จะมีแต่คนไทย ฮ่า ฮ่า
ชาวต่างชาติเค้าไปตากลม ตากแดด อยู่ริมทะเลกันหมด น้ำใส ทรายขาว

แต่..


อิชั้นว่า มันเริ่มจะมีขยะ(จากมือมนุษย์) บริเวณชายหาดแล้วนะ ถ้าไม่ช่วยกันดูแล เห็นทีเกาะล้านท่าจะแย่ในเร็ววัน





รอสาวๆ เล่นน้ำจนเต็มอิ่ม
ขึ้นมาอาบน้ำ ค่าบริการอาบน้ำคนละ 30 บาท

ก็เตรียมตัวกลับค่ะ ไม่ได้ไปไหนต่อ
แดดร้อนเหลือเกิน กลับเข้าฝั่งไปนอนเล่นตากแอร์เย็นๆ ก่อนไปหามื้อเย็นกินดีกว่า เดินออกไปท่าเรือ เพื่อรอกลับพร้อมเรือรอบ บ่ายโมงครึ่งค่ะ



เรือรอบนี้ คนไม่เยอะมากนัก
เลือกที่นั่งกันได้ตามสบาย ค่าโดยสารเท่ากันกับขามา คือ 20 บาท

จ่ายเงินก่อนขึ้นเรือได้เลยค่ะ



ใช้เวลาขากลับประมาณ 25 นาที ก็ถึงฝั่งพัทยาท่าเรือบาลีฮาย มาถึงท่าเรือ
เดินย้อนมาทางพัทยาใต้ ผ่านทางหน้าสยามเบย์ชอว์ค่ะ



จะมีซอยเล็กๆ ประมาณเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็ก อะไรซักอย่าง
ตัดมาที่ถนนพัทยาใต้ได้ค่ะ เพื่อจะได้มารอเรียกรถสองแถวตรงนี้ ย่านนี้จะเป็นย่านคนอินเดีย มีอาหารมุสลิม ขายหลายร้านค่ะ



ออกมาเรียกสองแถว จากพัทยาใต้ ไปลงหน้าเซนทรัล เซนเตอร์สาย 2
แล้วเดินเข้าซอย เหมือนเดิม ความจริงรอให้รถลงมาเวียนเส้นเลียบชายหาดก็ได้ค่ะ แต่เราขี้เกียจรอรถคันที่ลงเลียบชายหาด และที่สำคัญรถจะติดตรงวงเวียนนานมาก ลงเดินออกกำลังดีกว่า ระยะทางไม่ได้ไกลอะไรมากมาย

แวะซื้อน้ำผลไม้ปั่นดื่ม คนละแก้วจากร้านในซอย ชื่นใจค่ะ Smiley







เก็บข้าวของเข้าที่พัก ให้สาวๆอาบน้ำกันอีกรอบ
ส่วนอิชั้น กับคุณผู้ชายก็ลงไปว่ายน้ำที่สระ แล้วนัดหมายออกไปหามื้อเย็นกัน ตั้งใจว่าจะไปกินที่ร้าน ตรงประภาคารบาลีไฮ ชอบบรรยากาสร้านนี้ค่ะ

ปรากฏว่า..........


วันนี้มีงานเลี้ยงค่ะ โต๊ะริมทะเลที่เราชอบไม่ว่าง
และที่สำคัญอาจจะไม่เป็นส่วนตัว ไม่เป็นไร โอกาสหน้ามาใหม่

อดนั่งเลย โต๊ะเนี้ย



เมื่อผิดแผน ก็ต้องหาแผนใหม่
มุ่งหน้านาเกลือค่ะ ไปร้านนี้ "มุมอร่อย"

ไปถึงยังไม่เย็นมาก

แต่โต๊ะริมทะเล ก็ถูกจองไว้เกือบหมดแระ นี่ขนาดเป็นวันธรรมดานะเนี่ย
ได้โต๊ะริมสุดเลยค่ะ

ให้สาวๆเลือกรายการอาหาร
ก็มัวแต่นั่งชื่นชมความงามว่าภาพอาหารสวยกันอยู่นั่นแหละ ไม่สั่งกันซักที

ความจริงอิชั้นว่า เธอคงเกรงใจไม่กล้าสั่งมากกว่า
เลยจัดการสั่งเอง ซะเลยไม่งั้นวันนี้ไม่ได้กินแน่ๆ มุมสบายๆริมทะเล จากร้าน "มุมอร่อย" นาเกลือ ค่ะ



สั่งอาหารมา 3 รายการ ผลไม้รวม 1
ข้าว 4 จาน น้ำ 2 ขวด ดาวแดง 1 รวมทั้งสิ้น 950 บาทค่ะ


:: ความเห็นส่วนตัว ::

>> อาหารรสชาติอร่อย บรรยากาศดี แต่ผู้ที่มีอาการแพ้ผงชูรส ควรหลีกเลี่ยงค่ะ




พอกลับมาถึงที่พัก ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนค่ะ
อยากให้สาวๆ ได้นอนพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ เพราะโปรแกรมวันรุ่งขึ้น เราต้องเดินทางกัน จะไปจันทบุรีค่ะ

ระหว่างทางก็แวะเที่ยวไปเรื่อยๆ


สำหรับตอนที่ 2 นี้
ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาทักทาย ลงชื่อให้กำลังใจ
เลื่อนลงไปตอนด้านล่าง เพื่อชมบรรยากศได้เลยค่ะ

หรือคลิ๊กเข้าไปรับชม รีวิวฉบับเต็มตามลิงค์ได้เลยค่ะ

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8534835/E8534835.html 


สวัสดีค่ะ




 

Create Date : 15 เมษายน 2553   
Last Update : 15 เมษายน 2553 21:09:28 น.   
Counter : 4572 Pageviews.  

พาสาวใต้จากปลายด้ามขวานเที่ยวดินแดนตะวันออก : ตอนที่ 3 จากพัทยามุ่งหน้าจันทบุรี

วันนี้เป็นการท่องเที่ยววันที่ 3
ตื่นเช้า เช็คเอ้าท์จากโรงแรม แล้วเที่ยวย่านพัทยา สัตหีบ ก่อนมุ่งหน้าจันทบุรีค่ะ หลังจากออกจากที่พัก ก็ขึ้นไปชมวิวพัทยา จากยอดเขาบนสวนสาธารณะ สัญลักษณ์เมืองพัทยา



พัทยาไม่เคยหลับ Smiley   Smiley  Smiley
ดึกดื่นกลางทะเลก็มีแสงสี เช้าตรู่แบบนี้เรือก็ออกจากฝั่งกันแล้ว



ท้องเริ่มร้อง ไปหามื้อเช้า(ตอนเริ่มสาย) กินกันดีกว่า
มุ่งหน้าไปร้านป้าติ๋ม ทางเข้าเขาชีจรรย์ค่ะ ร้านเดิมที่คุ้นเคย จากคำแนะนำของอาหมู xbec มาครั้งนี้ ป้าติ๋มปรับปรุงพื้นที่หลายจุดเลยค่ะ เริ่มจากลานจอดรถ และป้ายอันใหม่



ซุ้มอาหาร ก็ทำเพิ่มใหม่อีก 1 ศาลา
ป้าติ๋มเล่าให้ฟังว่า มีลูกค้ามาที่ร้าน ตามลายแทงจากเนตแล้วบอกว่า อะไรกัน ร้านเล็กแค่เนี้ย เห็นลงในเนต นึกว่าร้านใหญ่โต ป้าติ๋มก็เลยต้องปรับปรุงร้านใหม่

แปลกเน๊อะ ..
ร้านแนะนำ จำเป็นด้วยเรอว่าต้องเป็นร้านใหญ่
เค้าแนะนำเรื่องรสชาติและราคาไม่ใช่หรอกรึ หรือว่าเราเข้าใจผิด รสชาติสุดยอด ราคาประหยัดเหมือนเดิมค่ะ อิ่มจนพุงกาง



อิ่มแล้ว ไปซื้อองุ่นกันดีกว่า
ไม่รู้เป็นยังไงนะ มาทีไรก็หงุดหงิดกะมารยาทของ พนง.ขายขนม และผลิตภัณฑ์องุ่นของที่นี่ทุกที แต่ก็ต้องมาซื้อซะทุกรอบ

เคยนึกสงสัย
ทำไมเค้าไม่ทำให้พนักงานโซนร้านอาหาร กับโซนขายของฝากฝั่งนี้มีมาตรฐานการให้บริการเหมือนๆกันนะ ???





สาวๆ อยากเห็นลุกองุ่น ก็เลยพาเดินตากแดดไปดูใกล้ๆ เจออยู่ช่อเดียว แบบเนี้ย



ซื้อองุ่นไปฝากที่บ้าน และซื้อขนมให้น้องๆลองรับประทานกัน แล้วรีบออกเดินทางต่อ จากเขาชีจรรย์ ย้อนออกไปทางเดิมเพื่อไปสัตหีบ แยกเข้า ทล.หมายเลข 3126 ไปท่าเรือจุกเสม็ด เพื่อไปที่จุดจอดเรือรบหลวงสิมิลัน และเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร เราก็คงจะเหมือนอีกหลายๆคน ที่สนใจแต่เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร โดยไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชมเรือรบหลวงสิมิลัน



มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก และให้การต้อนรับเป็นอย่างดีค่ะ โชคดี ที่เคยมีโอกาสได้เข้าชมส่วนหวงห้าม ของเรือรบหลวงลำนี้อยู่ถึง 2 ครั้ง ประทับใจมากค่ะ ข้างบนดาดฟ้าเรือแดดร้อนมากๆ







ก่อนกลับแวะอุดหนุนของที่ระลึก น่ารักๆ และเสื้อยืดสวยๆ ที่นี่ไม่เก็บค่าเข้าชม เพราะฉะนั้นหากสนใจร่วมสบทบทุนเพื่อสาธารณะกุศลต่างๆ ก็สามารถเลือกได้ตามแต่ศรัทธาค่ะ



ได้เวลาพอสมควรก็ออกเดินทางต่อค่ะ
วิ่งมาตามเส้นทางสุขุมวิทตลอด ทีแรกตั้งใจว่าจะแวะเที่ยวแถวๆบ้านเพ ,แหลมแม่พิมพ์ แต่พอดีมีนัดด่วนที่จันทบุรี เกรงว่าจะไปไม่ทันนัด เราก็เลยตรงดิ่งเข้าเมืองจันท์ กันเลย

ตกเย็น ได้เวลานัดหมาย
ก็ไปที่ร้านนี้ค่ะ "ริมคลอง บ้านบางกะจะ"



เจาะจงสั่ง "เส้นจันท์ผัดปู" มาให้น้องๆโดยเฉพาะ อาหารพื้นเมืองที่หากินได้ที่เมืองจันท์ เท่านั้น นอกจากนี้ก็มีรายการอาหารกลางอีก 2-3 อย่าง



อิ่มแล้วก็กลับบ้านค่ะ

ตลอดช่วงเวลาที่อยู่จันทบุรี เราให้น้องๆพักที่บ้าน อยากให้เค้าได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนทางนี้ ว่าดำเนินชีวิตกันอย่างไร เพื่อนบ้านพึ่งพาอาศัยกันแบบไหนบ้าง น้องๆสามารถเดินเล่น เดินเที่ยวได้ตามความพอใจ ในระแวกหมู่บ้านเลยล่ะค่ะ

วันรุ่งขึ้น จะพาน้องๆไปเที่ยวเมืองจันท์ ย่านอำเภอแหลมสิงห์ และข้ามไปรับประทานอาหารแถวท่าเรือขลุงค่ะ เลื่อนลงไปชมบรรยากาศได้ที่ตอนถัดไปเลยนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอยู่เป็นเพื่อน และลงชื่อให้กำลังใจค่ะ

และสามารถคลิ๊กเข้าไปชมรีวิวฉบับเต็ม ที่ทำไว้ที่บอร์ดบลูแพลนเนทจากลิงค์นี้ค่ะ

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8537007/E8537007.html








 

Create Date : 14 เมษายน 2553   
Last Update : 14 เมษายน 2553 20:08:24 น.   
Counter : 2772 Pageviews.  

พาสาวใต้จากปลายด้ามขวานเที่ยวดินแดนตะวันออก : ตอนที่ 4 เที่ยวเมืองจันท์

มาต่อวันที่ 4 ของการเดินทางกันค่ะ

สำหรับวันที่ 4 ของการเดินทางนี้ จะพาสาวๆไปเที่ยวจันทบุรีโซนอำเภอแหลมสิงห์ และขลุง ค่ะ แวะเที่ยวน้ำตกพลิ้ว นั่งเรือไปกินข้าวที่ร้านริมทะเลซีฟู๊ด แล้วกลับเข้ามาชมการแสดงโลมาโชว์ ที่โอ.เอ.ซิส ซีเวิด์ล

ออกจากบ้านตอนสายๆ
ยังไม่ได้กินข้าวเช้า ตั้งใจว่าจะลองแวะไปกินข้าวราดแกงป่าสูตรจันทบูรณ์ แถวๆเขาสระบาป

ใครเคยผ่านไปเส้นนี้ อาจจะเคยเห็นกันมาบ้าง ร้านริมทางชื่อ "ครัวป้าแช่ม"

มีอาหารประเภทแกงป่าให้เลือกเยอะเลยค่ะ แกงป่าสูตรจันทบูรณ์ จะมีความพิเศษตรงที่เครื่องสมุนไพรต่างๆ เช่นเร่ว กะวาน เป็นต้นค่ะ

นอกจากแกงป่าแล้ว ร้านนี้ยังมีก๋วยเตี๊ยวต้มยำด้วย แต่ไม่ได้ลองทาน
บรยยากาศร้านโล่งๆ สบายๆ น้ำดื่ม มีตั้งโต๊ะไว้ให้บริการตัวเองค่ะ

น่าเสียดายที่ร้านนี้ ไม่มีกาแฟสด





จุดเด่นของร้านนี้ เขาบอกว่าอยู่ที่ "ห้องน้ำผู้หญิงเดินทาง"
อยู่ภายในศาลาป้าแช่มค่ะ ไหนลองเข้าไปดูหน่อยจิ๊



กว้างขวางใหญ่โตดีค่ะ มีที่นั่งพักผ่อนหลายมุม ห้องน้ำสะอาดดีค่ะ แต่มันจะงงๆ นิดนึง
เพราะเค้าสร้างแบบเป็นกลุ่มๆ ไม่ได้เป็นแถว เหมือนห้องน้ำทั่วๆไป

ดูลงทุนเยอะนะคะ สำหรับที่นี่
แต่..ถ้าจะให้ดีถ้าเป็นห้องน้ำแบบนั่ง(ชักโครก) คงจะดีกว่านี้ ผู้สูงอายุ,คนพิการ และผู้มีปัญหาเรื่องข้อเข่าจะได้สะดวก





หลายคนสงสัย ป้าแช่ม คือใคร ??

นี่ไงคะ โฉมหน้า "ป้าแช่ม"

น้องแมว ที่เจ้าของรักเหมือนลูก
ไปไหน ไปกัน เที่ยวที่ไหนก็เอาไปด้วย พอป้าแช่ม เสียชีวิตลง
พี่เจ้าของทั้งสองคนก็เสียใจ ไม่อยากไปไหนแล้ว เพราะเวลาไปก็คิดถึง
เลยสร้างที่พักริมทาง ไว้เป็นอนุสรณ์ ขายอาหาร และทำห้องน้ำไว้สำหรับนักเดินทาง โดยเฉพาะผู้หญิง



ออกจากร้านป้าแช่ม ก็ไปต่อที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วค่ะ
อยู่ไม่ไกลจากจุดพักรถ ร้านป้าแช่ม เท่าไหร่นัก จ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแล้วเดินเข้าไปเลยค่ะ เดินเท่านั้นนะคะ รถต้องจอดไว้ด้านนอกค่ะ

ยกเว้นรถที่ได้รับอนุญาต ตามแต่กรณีค่ะ

ถ้าจะประทับตราอุทยาน เดินเข้าไปนิดเดียวจะเจอศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ทางขวามือค่ะ เจ้าหน้าที่บริการดีมากๆ



จะมีจุดตรวจ ก่อนเข้าบริเวณน้ำตกค่ะ
ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปนะคะ โดยทาง อช.จะมีพื้นที่บริการสำหรับนั่งรับประทานอาหารให้ นักท่องเที่ยวที่นิยมซื้อถั่วฝักยาวไปให้ปลากิน จะต้องแกะยางรัด ออกก่อน



สักการะพระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ กันก่อนค่ะ

จัดสร้างโดยจังหวัดจันทบุรี สมาคมชาวจันทบุรี ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยอัญเชิญประดิษฐานบริเวณลานพักผ่อนเอนกประสงค์ ด้านหน้าโบราณสถานอลงกรณ์เจดีย์ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีต่อจังหวัดจันทบุรี ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงโปรดน้ำตกพลิ้วมาก



อลงกรณ์เจดีย์

สร้างด้วยศิลาแลงเมื่อ พ.ศ. 2419 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้ว พร้อมกับพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ทั้งสองพระองค์ทรงโปรดปรานน้ำตกพลิ้วมาก




ปิรามิดพระนางเรือล่ม

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2424 เพื่อเป็น อนุสรณ์แห่งความรักและอาลัยของพระองค์ที่ทรงมีต่อพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ หลังจากพระนางเสด็จฑิวงคตจากอุบัติเหตุเรือพระประเทียบล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในบรรจุพระอังคารส่วนหนึ่งไว้



ทางเดินลงไปยังตัวน้ำตก มีช่วงที่ต้องปีนป่ายเล้กน้อย พอได้ยืดเส้น ยืดสาย อาจจะติดขัดเล้กน้อยสำหรับผู้สูงอายุ แต่ก้ถือได้ว่าเป็นทางที่เดินสบายค่ะ ระมัดระวังการลื่นไถลกันให้ดีนะคะ น้ำใส ไหลเย็น เห็นตัวปลา



มุมมหาชน ใครมาน้ำตกพลิ้ว ก้ต้องถ่ายภาพมุมนี้ ซึ่งทุกที ก็จะเต็มไปด้วยผู้คน หลบยังไงก็ไม่พ้น



น้ำในแอ่งใหญ่ในภาพด้านบนนั้นลึกมาก (ประมาณ 10 เมตร)
คนมาน้ำตกพลิ้ว ส่วนใหญ่ ก็เลยไม่ได้มาเล่นน้ำ มาให้อาหารปลาซะมากกว่า

ก็แหมนะ..
ใครจะกล้าลงไปเล่นล่ะ ปลาเยอะซะขนาดนั้น





เริ่มจะหิว (อีกแล้ว)
ออกไปหาอะไรกินดีกว่า จากน้ำตกพลิ้วมุ่งหน้าไปทางอำเภอขลุงค่ะ ขับเข้าไปทางท่าเรือ เลยร้านพิกุลเข้าไปก็จอดรถค่ะ รอเรือมารับ
ทุกครั้งเคยไปแต่ร้าน "ฟาร์มปูนิ่ม" วันนี้ลองร้านใหม่นี้บ้าง "ริมทะเลซีฟู๊ด" ขึ้นเรือใกล้ๆกันนั่นแหละค่ะ รอไม่นานเรือมารับแล้วค่ะ ความจริงมีคนรอเยอะนะ แต่เค้าไปร้านฟาร์มปูนิ่มกันหมดเลย มีพวกเรานี่แหละ ไปร้านริมทะเล ฮ่า ฮ่า



นั่งเรือไกลกว่า ฟาร์มปูนิ่ม หน่อยนึง
ร้านอยู่ในมุมสงบกว่าค่ะ ที่สำคัญคนไม่เยอะ เป็นส่วนตัว ชอบมาก ที่ร้านนี้มีฟาร์มเลี้ยงปูนิ่ม ด้วย นะคะ มีบ่อเลี้ยงปลาในกระชัง และบ่อเลี้ยงปู ตามธรรมชาติ

ของที่ใช้จึงมั่นใจว่าสด และถูก แน่นอน



ทีแรกก็นึกว่า ร้านนี้เค้าเป็นมือใหม่

ที่ไหนได้ ทั้งแม่ครัว ทั้งเจ้าของร้าน เคยเปิดร้านอาหารมาหลายปีแล้ว ก่อนที่จะมีฟาร์มปูนิ่มซะอีก แต่เลิกทำไป เป็นร้านเรือนแพ อยู่ตรงท่าเรือนั่นแหละ ยังนึกหน้าตาร้านออก แต่ลืมชื่อไปแล้ว ชื่อประมาณแพทอง หรือไงนี่แหละ เพราะฉะนั้น การันตี เรื่องความอร่อยได้เลย



ทีแรกก็นึกว่า ร้านนี้เค้าเป็นมือใหม่

ที่ไหนได้ ทั้งแม่ครัว ทั้งเจ้าของร้าน เคยเปิดร้านอาหารมาหลายปีแล้ว ก่อนที่จะมีฟาร์มปูนิ่มซะอีก แต่เลิกทำไป เป็นร้านเรือนแพ อยู่ตรงท่าเรือนั่นแหละ ยังนึกหน้าตาร้านออก แต่ลืมชื่อไปแล้ว ชื่อประมาณแพทอง หรือไงนี่แหละ เพราะฉะนั้น การันตี เรื่องความอร่อยได้เลย อาหารรสชาติดีค่ะ ราคาไม่แพง ที่สำคัญที่นี่เน้นเรื่องความสะอาดค่ะ



อิ่มแล้ว ออกเดินทางต่อค่ะ

เดี๋ยวไม่ทันรอบแสดงโลมา เรือออกมาส่งถึงท่าเรือ นั่งชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ แป๊บเดียวก็ถึง



ขึ้นฝั่งแล้ว ออกถนนสุขุมวิท เลี้ยวซ้ายตรงศูนย์วิจัยพืชสวน ไปอำเภอแหลมสิงห์ค่ะ



ไปถึงโอ.เอ.ซิส ซีเวิด์ล ยังไม่ถึงเวลารอบแสดง
ไปดูนักท่องเที่ยวเล่นน้ำกะโลมา ก่อนดีกว่า โลมา น่ารักอ่ะ ฉลาดมากๆด้วย



ใกล้เวลาชมโชว์แล้ว ไปหากาแฟกินก่อนดีกว่า มีมุมพักผ่อนด้วยนะคะ ลมพัดเย็นสบายเชียว





ไปชมโลมาโชว์กันดีกว่าค่ะ
ขอบอกว่าน่ารัก และประทับใจมาก ชอบหลายชุดเลย น่ารักทุกชุด โดยเฉพาะชุดสุดท้าย สกีโลมาตื่นเต้น เร้าใจมากค่ะ



กลับถึงบ้านตอนเย็นๆ กินข้าวแล้วก็เข้านอน จบการเดินทางท่องเที่ยวไปอีก 1 วัน ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาทักทาย และลงชื่อให้กำลังใจนะคะ
วันรุ่งขึ้นจะพาไปเที่ยวอีกด้านของเมืองจันท์ จนกระทั่งถึงเวลาส่งน้องๆกลับ
เลื่อนลงไปชมที่ตอนถัดไป ได้เลยค่ะ

และเช่นเคย สำหรับรีวิวฉบับเต็มที่ลงไว้ที่บอร์ด บลูแพลนเนท สามารถคลิ๊กเข้าไปชมได้ตามลิงค์นะคะ

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8539262/E8539262.html




 

Create Date : 12 เมษายน 2553   
Last Update : 14 เมษายน 2553 15:12:49 น.   
Counter : 1867 Pageviews.  

พาสาวใต้จากปลายด้ามขวานเที่ยวดินแดนตะวันออก : ตอนที่ 5 น่าจะเป็นตอนจบนะ

มาถึงวันที่ 5 ของการเดินทางแล้วค่ะ
จะพยายามให้จบในตอนนี้ เพราะจะได้ไปต่อในการเดินทางทริปต่อไป

วันนี้เราจะไปทางด้านเหนือของจังหวัดจันทบุรี คืออำเภอโป่งน้ำร้อน ตั้งใจไปรับประทานอาหารกลางวัน แล้วช่วงบ่ายๆใกล้เย็น ไปชมพระอาทิตย์ตกที่ชายหาดเจ้าหลาว ก่อนกลับมานอนที่บ้าน เพื่อเตรียมตัวเดินทางเข้ากรุงเทพในวันลอยกะทงค่ะ วันนี้เราจะไปโป่งน้ำร้อนค่ะ

จุดหมายปลายทางก้คือ ร้าน"เรือนพริกไทยอ่อน"
เคยทำรีวิวการเดินทางโดยละเอียดไว้ เมื่อต้นปี 51 ไล่ลงไปอ่านด้านล่างได้เลยค่ะ



เข้าไปจอดรถด้านในค่ะ
ความจริงจอดริมถนนด้านนอกก็ได้ แต่แดดร้อนมาก ซุ้มอาหารริมอ่างเก็บน้ำ มองเห็นวิวเขาสอยดาวใต้ชัดเจน

มาช่วงนี้ดอกไม้ ประเภทไม้เลื้อยต่างๆ ยังไม่ออกดอก ทั้งพวงโกเมน พวงหยก และอื่นๆอีกมากมาย ก็ก็ยังมีดอกไม้ประเภทอื่นๆให้ได้ชมกันค่ะ







นั่งซุ้มด้านนอกก็แล้วกัน ลมพัดเย็นสบายดี

เห็นเมนู โอ้ว.. เค้าทำใหม่นี่นา มาคราวก่อนไม่ใช่แบบนี้
สวยดีค่ะ แต่ภาพคุ้นๆ นะ เหมือนรูปถ่ายในไฟล์รูปส่วนตัวเราเลย

ดีใจนะเนี่ย แสดงว่าเราถ่ายภาพสวย ถ้าคุณผู้จัดการร้าน มาอ่านรีวิวนี้ ไปคราวหน้ากรุณาให้ส่วนลดด้วยนะคะ



ชอบข้าวร้านนี้มาก ข้าวหอมมะลิ นุ่มๆ หอมๆ เรียงเม็ดสวย
อาหาร 480 เครื่องดื่ม 485 รวม 965 บาท ยังไม่ได้ทิป





ทานข้าวเสร็จก็ไปเดินชมที่พักค่ะ เป็นฟาร์มสเตย์ ซึ่งจะนำไปรีวิวที่หมวด"รีวิวที่พัก"นะคะ



จากนั้นก็ออกเดินทางต่อเพื่อไปทะเลที่เจ้าหลาว จากโป่งน้ำร้อน ไปหาดเจ้าหลาว ไกลนะคะ แต่ว่าอิชั้นสามารถค่ะ เพราะยังไงก็ต้องกลับบ้านทางนั้นอยู่แล้ว ไปถึงจุดชมวิว บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์เขาเจ้าหลาว ก็ใกล้จะเย็นแล้วล่ะค่ะ



ไปหาดเจ้าหลาวต่อเลยดีกว่า วันนี้เราไปที่หาดสวยค่ะ คนเยอะเชียว
เชื่อมะ ??

มีเด็กวิ่งลงทะเลอีกแล้ว สาวน้อยนางนี้ เธอชอบทะเลมากๆเลยล่ะ
เราก็เลยเดินถ่ายรูป แล้วก็ไปนั่งรอที่ซุ้มริมทะเล







เผลอแป๊บเดียว คุณอาทิตย์ บ๊าย..บายซะแล้ว นั่งจนหมดแสง พาสาวๆ ไปซื้อของที่ระลึกประเภทโมบายเปลือกหอย แล้วก็กลับค่ะ เค้าบอกว่าที่บ้านฝากซื้อ เราก็งง ว่าแถวใต้ไม่มีขายหรือไงนะ





กลับถึงบ้านก็เตรียมแพคกระเป๋าค่ะ สาวๆ เตรียมเดินทางกลับใต้ ส่วนเรากับคุณผู้ชายเตรียมเดินทางทริปต่อไป ขึ้นเหนือ ความจริงชวนสาวๆไปด้วย แต่น้องเค้าต้องไปร่วมงานรับปริญญาเพื่อน ที่สวนอัมพร และหมดเวลาพัก ต้องกลับลงใต้

เช้าวันต่อมา พาน้องสาวไปเยี่ยมโต๊ะอิหม่าม ที่ย่านพักอาศัยของชาวมุสลิมในเมืองจันท์ ก่อนกลับค่ะ ออกจากเมืองจันท์ แวะซื้อของที่ร้านแม่ละม่อม



คุณผู้ชายแวะไปทำธุระในเมืองชลบุรีแป๊บนึง เราก็เลยกินมื้อเที่ยงกันที่ร้านคุณตุ๊ก หน้าโรงพยาบาล เมนูส้มตำ ไก่ย่าง และลาบปลาหมึก ค่ะ





แล้วเราก็มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพค่ะ คืนนี้เราจะพักกันที่บ้านกรุงเทพ
นัดกับสมาชิก ที่เคยไป ทริป "เที่ยวเพื่อชาติ" ด้วยกันไว้ มาเลี้ยงต้อนรับหนึ่งในสองสาว ที่เคยไปเที่ยวด้วยกันตอนนั้น นัดกันมาร้องคาราโอเกะค่ะ แต่ว่าเรามาถึงก่อน ก็เลยนั่งกินข้าวรอ



ทีแรกตั้งใจว่า ร้องคาราโอเกะแล้วจะไปลอยกะทง ที่สะพานนวลฉวี
ปรากฏว่า ร้องจนดึก ง่วงนอน กลับบ้านเลยค่ะ เพราะเช้าต้องตื่นแต่เช้า เดินทางต่อ

เช้าออกจากบ้านตั้งแต่ 6 โมงเช้า เข้าไปส่งน้องๆ ที่กรมทหารสื่อสาร สะพานแดง เพื่อให้น้องทหารและแฟน ที่อยู่ช่วงลาพักเหมือนกัน เป็นคนรับช่วงดูแลต่อ เพราะสาวๆ จะต้องอยู่ร่วมงานรับปริญยาเพื่อนในวันรุ่งขึ้น และนั่งรถกลับใต้ในตอนเย็น

ส่วนอิชั้นและคุณผู้ชาย ก็ต้องรีบออกเดินทางต่อไป สู่ภาคเหนือ เป็นอันจบภารกิจ พาสาวใต้เที่ยวแต่เพียงเท่านี้

ขอบคุณทุกท่าน ที่เข้ามาชม และลงชื่อให้กำลังใจนะคะ
หากมีปัญหาสงสัยเรื่องข้อมูล ทิ้งคำถามไว้ได้ค่ะ จะหาคำตอบมาให้

คลิ๊กเข้าไปชมรีวิวฉบับเต็ม จากบอร์ดบลูแพลนเนท ได้นะคะ

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8543105/E8543105.html

สำหรับทริปต่อไป จะพาขึ้นเหนือค่ะ สนใจก็เลื่อนเม้าท์ลงไป ที่ตอนด้านล่างได้เลยค่ะ




 

Create Date : 12 เมษายน 2553   
Last Update : 12 เมษายน 2553 20:37:32 น.   
Counter : 2448 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  

prettyguide
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




สวัสดีค่ะ

ยินดีต้อนรับสู่ prettyguide's blog ค่ะ

สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องอัญมณี และของดีเมืองจันท์ เชิญลงชื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนได้ค่ะ prettyguide จะขออาสาพาเพื่อนๆเที่ยวเมืองจันท์ให้ครบทุกซอกทุกมุม ใครอยากไปไหน หรืออยากได้ข้อมูลของจันทบุรี ก็บอกมาได้เลยค่ะ

================================

ภาพถ่ายทั้งหมด
ภายใน blog นี้สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัิญญัติสิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาิิต
New Comments
[Add prettyguide's blog to your web]