เที่ยวแล้วสบายใจ...ไม่เน้นรายได้จากงานประจำ

เมื่อพริตตี้ไกด์ ไปภูเก็ต ครั้งทีสอง ของ(หน้าฝน)ปีนี้ : ตอนที่ 1

รีวิวชุดนี้ เป็นรีวิวฉบับเต็มเมื่อหาเรื่องไปทานข้าวที่ภูเก็ต เดือนสิงหาคม ปี 52 ค่ะ โปรดติดตามค่ะ

Smiley  Smiley  Smiley  Smiley  Smiley  Smiley  Smiley  Smiley  Smiley  Smiley  Smiley  Smiley  Smiley  Smiley



สวัสดีค่ะ

เมื่อต้นสัปดาห์ ได้มีโอกาสไปเที่ยวภูเก็ต แบบฉุกเฉินมา
อันเนื่องมาจากว่า ....

เย็นวันศุกร์ที่แล้วคุณผู้ชาย เธอโทร.มาชวนว่า

"ไปกินข้าวเย็นที่ภูเก็ต กันซักวันมั้ย ??"

เรามันคนใจง่าย รีบตอบไป ว่า "ไปดิ่ เมื่อไหร่ดี"



จากบทสนทนา ทางโทรศัพท์ สั้นๆ นั้น
ในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งอีกครั้งว่า..

"จองตั๋วแล้วนะ ไป 11 กลับ 13 อีกสองวันข้างหน้าเจอกันที่กรุงเทพ"

แล้วคุณเธอ ก็รีบเข้าไปทำงานในพื้นที่ ทิ้งให้อิชั้นตาลีตาเหลือก สะสางงาน
ที่ค้างอยู่ จนแทบไม่มีเวลาเตรียมตัว เตรียมข้อมูลเที่ยว แต่อย่างใด

สถานการณ์ จะเป็นเช่นไร โปรดติดตามค่ะ



ไปครั้งนี้ ไม่ได้เตรียมอะไรมาก
แค่เป้ คนละใบ และความตั้งใจที่จะไปกินอาหารริมทะเล

เท่านั้นจริงๆ และอย่างที่บอก
ด้วยความที่ไม่มีเวลาเตรียมตัว ก็เลยไม่ได้วางแผนการเดินทาง
การเที่ยว แต่อย่างใด ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ไป ด้วยใจรักที่จะเดินทาง


เช้ามืด วันอังคารที่ 11 สิงหา
เราออกเดินทางจากย่านดอนเมือง สู่สุวรรณภูมิ ด้วยรถเมล์ ขสมก.สาย 554
(รังสิต-สุวรรณภูมิ) รถมีวิ่งทั้งคืนค่ะ ใช้เส้นทาง รังสิต ดอนเมือง หลักสี่ รามอินทรา มอเตอร์เวย์ สุวรรณภูมิ

ค่ารถ จำไม่ได้ เพราะคุณผู้ชายเป็นคนจ่าย
แต่น่าจะไม่เกินคนละ 40 บาท (ขึ้นที่ป้ายหน้าสนามบินดอนเมือง)



ไปถึงท่ารถที่สุวรรณภูมิ นั่งรถบริการสาย A
เข้าสูอาคารผู้โดยสารขาออก ภายในประเทศ

เข้าประตู 1 เพื่อเช็คอินที่เคาร์เตอร์การบินไทย โซน C

มาเช็คอินก่อนตั้งเกือบสองชั่วโมง
ปรากฏว่า..ที่นั่งที่อยากได้ ยังโดนสอยไปแล้ว

จนท.บอกว่า เช็นอินไปแล้ว 200 กว่าที่นั่ง โอ้ว....มากันตั้งแต่กี่โมงเนี่ย





ด้วยความที่ว่า..
ระยะทางที่จะ เดินไปเกท มันค่อนข้างไกล
เช็คอินแล้ว อิชั้นก็สมัครใจที่จะไม่ไปไหน เดินตรงดิ่งไปหาที่งีบรอเวลา
ที่หน้าเกท 66 ในทันที เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่าๆ ได้หลับซักงีบก็ยังดี

เจ็ดโมงเช้า เที่ยวบินที่ TG201 ก็พร้อมออกเดินทางแล้วล่ะค่ะ
ผู้โดยสารเป็นชาวต่างชาติเสีย 90% ดีจัง เงินสะพัดเข้าบ้านเรา





เที่ยวบินนี้ ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ค่ะ
ค่าโดยสารไป-กลับ คนละ 3,5xx บาท (จำเศษไม่แม่น เลยไม่กล้าลงค่ะ)

อาหารบนเครื่อง ก็เหมือนเดิมค่ะ
ยกให้คุณผู้ชายหมดเลย อิชั้นกินกาแฟ อย่างเดียว



ใกล้ถึงที่หมาย ปลายทางแล้วล่ะค่ะ
วันนี้ฟ้าแจ่ม อากาศดี ไม่มีวี่แววของหน้าฝนเลยซักนิด กัปตันลดระดับเตรียมลงจอดแล้วล่ะค่ะ

เห็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ แบบนี้ ก็รู้ได้เลยว่าใกล้ถึงที่หมายแล้ว
เห็นภาพนี้ แล้วยังนึกถึงเมื่อตอนครั้งแรกที่นั่งเครื่องมาภูเก็ตได้
มันตื่นเต้นมาก เนื่องจากสนามบินอยู่ติดทะเล เวลาลดระดับ มีความรู้สึกเหมือนว่า เครื่องบินจะลงกลางทะเล ซะแบบนั้นเลย







ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ เนื่องจากไม่ได้เตรียมตัวมาเลย แล้วยังมาตั้ง 3 วัน 2 คืน สิ่งแรกที่ต้องรีบไปหามาไว้ในครอบครอง ก็คือ แผนที่ ค่ะ มีให้เลือกหยิยเยอะมาก ในสนามบิน ถ้าไม่มีเจ้าสิ่งนี้ เห็นทีคงจะแย่





จากนั้นก็เดินดิ่ง ออกไปนอกรั้วสนามบินเลยค่ะ
เรามีบริษัทรถเช่า เจ้าประจำที่ใช้บริการกันอยู่ทุกครั้งที่มาภูเก็ต

แต่เนื่องจากครั้งนี้ หาเบอร์โทร.ไม่เจอ
ก็เลยไม่ได้นัดหมายให้เค้าเอารถมาส่งให้ที่สนามบิน
ไม่เป็นไรค่ะ เดินไปเองได้ ไม่ไกล แค่ข้ามถนน ชื่อบริษัท "เดวิท รถเช่า"
อยู่หลังป้ายบิลบอร์ดโฆษณา เยอะๆ ตรงข้ามสนามบินนั่นแหละค่ะ

ทริปนี้เราได้น้องแจ๊ส เป็นผู้พาเที่ยวค่ะ
อัตราค่าบริการวันละ 1000 บาทถ้วนค่ะ





ได้รถแล้วก็มุ่งหน้าเข้าเมืองกันเลยค่ะ

จุดแรก แวะไปกราบพระ และถวายสังฑทานกันก่อน
ที่วัดพระทอง (พระผุด) ค่ะ

วัดพระทอง :

ที่ตั้ง
บ้านนาใน ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองประมาณ 21 กิโลเมตร

สาระประโยชน์ จากแหล่งเรียนรู้
1. ประวัติศาสตร์เมืองถลาง
2. พุทธศิลป์สกุลช่างถลาง
3. วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวภูเก็ตในอดีต

หลักฐานที่ปรากฏ
1. ตำนานพื้นบ้าน และชุมชนโบราณที่อยู่รอบวัด
2. พระพุทธรูปครึ่งองค์ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน
3. พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดพระทอง เป็นที่เก็บรวบรวมและจัดแสดง

โบราณวัตถุและสิ่งของเครื่องใช้ของชาวภูเก็ต ได้แก่
- ถ้วยชามโบราณ , เครื่องโถ , ชามกระเบื้อง กาน้ำชา
- เครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ เช่น เสี่ยหนา ( ตะกร้าจักสานสำหรับใส่ของ ), ปิ่นโต , ถาด , แจกัน , โอ่ง , ตะเกียง , หมอนฝิ่น ( คนจีนโบราณใช้หนุนนอนเวลาดูดฝิ่น )
- เครื่องเรือน เช่น เตียงนอน , เปล , โต๊ะเครื่องแป้ง
- เครื่องแต่งกาย เช่น รองเท้าตีนตุกของหญิงชาวจีนในสมัยโบราณ ,แหวน , ต่างหู , กำไล กระดุมเสื้อ และจังซุ้ย ( เสื้อกันฝนของ ชาวจีน กรรมกรเหมืองแร่ ทำจากต้นชก )
- เหรียญกษาปณ์และธนบัตรเก่า
- ปืนใหญ่ที่ใช้ในสมัยสงครามเก้าทัพ ปี พ . ศ . 2328 ศึกถลาง

การเดินทาง
ออกจากตัวเมืองไปตามถนนเทพกระษัตรีหรือทางหลวงหมายเลข 402
ผ่านอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี - ท้าวศรีสุนทร ผ่านสี่แยกอำเภอถลา ไปประมาณ 300 เมตร เลี้ยวขวาเข้าไปตามทางแยกเข้าวัด

โทรศัพท์ : (076) 311-105

เกร็ดความรู้

ประวัติความเป็นมา : จากตำนานพื้นบ้านเล่าต่อกันมาว่า เดิมบริเวณวัดเป็นทุ่งโล่งใช้เลี้ยงสัตว์

มีเด็กลูกชาวบ้านแถบนั้นนำควายมาเลี้ยงโดยผูกควายไว้กับหลักซึ่งโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน หลังจากนั้นเด็กและควายตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

ตกกลางคืนพ่อของเด็กฝันว่าเด็กตาย เพราะนำควายไปล่ามกับ พระเกตุมาลาของพระพุทธรูปที่จมดินอยู่ รุ่งขึ้นจึงช่วยกันค้นหาและ พบว่ามีพระพุทธรูปอยู่ที่บริเวณนั้นจริง จึงช่วยกันขุดเพื่อนำไปไว้ในสถานที่เหมาะสมแต่ก็ไม่สำเร็จ

ต่อมาเมื่อ พ . ศ .2328 พระเจ้าปะดุง กษัตริย์พม่ายกทัพมาโจมตีเมืองถลางได้ใช้ให้ทหารขุดพระผุดเพื่อนำกลับไปบูชาที่พม่า เมื่อขุดลงไป คราวใดจะมีฝูงแตนไล่ต่อยจนต้องเลิกขุดในที่สุด ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงนำทองคำมาหุ้ม

พระพุทธรูปที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ดังปรากฏอยู่ในปัจจุบัน


ผู้สร้างพิพิธภัณฑ์ : พระครูสุวรรณพุทธาภิบาล ( สุขุม อิสิญาโณ ) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระทอง เป็นผู้สร้างพิพิธภัณฑ์และเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อ 21 เมษายน 2530

เวลาเปิดบริการ : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.30 น .

ค่าบริการ : ฟรี ( ผู้ชมสามารถบริจาคเงินตามศรัทธา )


ที่มาของข้อมูล : //61.19.27.150/library/libra/watphatong.htm





ถวายสังฑทาน กราบพระเสร็จ ชักจะเริ่มหิว
ก็เลยออกเดินทางจากวัด ไม่ได้เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ หรอกค่ะ
ใครผ่านไป ลองแวะเข้าไปชมนะคะ อิชั้นว่าน่าสนใจทีเดียว



ถามคุณผู้ชายว่า.. กินอะไรดี
จะไปกินร้านที่ตั้งใจมาเลยมั้ย คุณผู้ชายบอกว่า ร้านนั้นเก็บไว้มื้อเย็น

งั้นไป "เขารัง" กันดีกว่า ไปหาอะไรกิน พร้อมชมวิวเมืองภูเก็ต เตร็ดเตร่ เข้าไปในเมืองกันรอบนึงก่อนค่ะ





เริ่มมีอาการ วิงเวียนเล็กน้อย
เพราะนอนน้อย และเพิ่งลงเครื่อง

ก็เลยตรงดิ่งไปหาอะไรกินกันก่อนค่ะ "ทุ่งคา กาแฟ" ร้านสุดฮิต ของที่นี่
ทางเดินลงไปสู่ร้านอาหาร เป็นยันไดไม้หมอน
โต๊ะที่จัดวางไว้ ไม่แน่นจนเกินไป บรรยากาศสบายๆค่ะ ค่าเสียหายที่ร้านทุ่งวคา กาแฟ 470 บาทค่ะ

ก่อนกลับแวะไปสำรวจห้องน้ำมา 1 รอบ ตกแต่งน่ารักดีค่ะ
ความสะอสด สะดวก สบายก็ใช้ได้ค่ะ

ออกจากร้านนี้ เราก็เตรียมตัวเดินทางไปเข้าที่พักค่ะ













เลื่อนลงไปอ่านตอนต่อไป ได้เลยค่ะ

ส่วนรีวิวฉบับเต็ม ที่ลงไว้ที่บอร์ดบลูแพลนเนท ติดตามชมได้จากลิงค์นี้นะคะ

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8209697/E8209697.html




Create Date : 30 มีนาคม 2553
Last Update : 30 มีนาคม 2553 19:50:50 น. 0 comments
Counter : 1613 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prettyguide
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




สวัสดีค่ะ

ยินดีต้อนรับสู่ prettyguide's blog ค่ะ

สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องอัญมณี และของดีเมืองจันท์ เชิญลงชื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนได้ค่ะ prettyguide จะขออาสาพาเพื่อนๆเที่ยวเมืองจันท์ให้ครบทุกซอกทุกมุม ใครอยากไปไหน หรืออยากได้ข้อมูลของจันทบุรี ก็บอกมาได้เลยค่ะ

================================

ภาพถ่ายทั้งหมด
ภายใน blog นี้สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัิญญัติสิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาิิต
New Comments
[Add prettyguide's blog to your web]