เที่ยวแล้วสบายใจ...ไม่เน้นรายได้จากงานประจำ

เที่ยวเหนือ เมื่อเริ่มหนาว : ตอนที่ 4 จากอ่างขาง สู่ย่านวัดเกต

สวัสดีค่ะ

เข้าสู่วันที่ 4 ของการเดินทางทริปเที่ยวเหนือ
จากวันแรก ที่จังหวัดตาก , วันที่สอง เข้าพักที่เชียงราย
วันที่สาม เราใช้เส้นทาง แม่จัน - ท่าตอน เพื่อมุ่งหน้า อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
แล้วขึ้นไปกางเต้นท์นอน ที่จุดกางเต้นท์ ดอยอ่างขาง รุ่งเช้าเข้ามาที่หมู่บ้าน

และตอนที่ 5 นี้จะพาเข้าไปชมสถานีทดลองเกษตรหลวงดอยอ่างขางค่ะ
หลังจากนั้น ใช้เส้นทาง ทล.1340 ผ่านบ้านอรุโณทัย ไปเมืองงาย แล้วเข้า ทล.107 เข้าเชียงใหม่ทางเชียงดาว,แม่ริม

ข้อมูลการเดินทาง จากวันที่ 4 มีดังนี้

05.30 น. - ตื่นไปชมพระอาทิตย์ที่จุดชมวิว
06.27 น. - พระอาทิตย์ขึ้น ซื้ออาหารใส่บาตร
07.00 น. - อาบน้ำ เก็บเต้นท์ เข้าหมู่บ้านไปรับประทานอาหารเช้า (110 บาท)
เข้าชมสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ถึงเวลา 11.00 น.

ออกเดินทางต่อ เพื่อเข้าตัวเมืองเชียงใหม่


จากตอนที่แล้ว

หลังจากเดินชมตลาด ชมที่พักบริเวณรอบๆ
เราก็เข้าสู่สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง สามารถขับรถเข้าไปได้นะคะ

ค่าธรมเนียมการเข้าชม ค่ารถพร้อมคนขับ 50 บาท
และคนที่นั่งเข้าไป อีกคนละ 50 บาท รวมทั้งสิ้นที่เราจ่ายไป 1รถ 2 คน 100 บาทค่ะ



จุดแรกสวน บอนไซ ค่ะ

มาดูประวัติกันหน่อยดีกว่า (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นโครงการพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม ทดแทนการปลูกฝิ่น สถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง อยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี ตำบล:-)อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร และมียอดดอยสูงถึง 1,928 เมตร พื้นที่รับผิดชอบประมาณ 26.52 ตารางกิโลเมตร หรือ 16,577 ไร่ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “ให้เขาช่วยตัวเอง” เปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาวที่สร้างรายได้ดีกว่าเก่าก่อน



ดอกท้อค่ะ สวยมากค่ะ

ที่นี่ปลูกท้อ เยอะมากๆ ไม่มีโอกาสได้ไปชมดอกพญาเสือโคร่ง เลยขอเก็บดอกท้อสวยๆมาแทน ให้เต็มอิ่ม ฟ้าแจ่มมากๆ ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมกลับมาทั้งคู่ตัวดำปี๋เลย





ไม่แน่ใจว่าเจ้านี่คือ บ๊วย หรือ ท้อ
เพราะว่าดอกไม่เหมือนกับต้นที่แล้ว ที่สงสัย เพราะว่าดอกไม่เหมือนกัน

ดอกของต้นนี้ เป็นกลีบชั้นเดียว แต่คนงานบอกว่า ดอกบ๊วยจะมีสีขาว เลยงง งง ตอนที่ถ่ายรูปต่นนี้ ก็ไม่มีคนงานให้ถามซะด้วย





ภายในศูนย์ข้อมูลค่ะ

===================

สืบเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร ที่หมู่บ้านผักไผ่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และได้เสด็จผ่านบรเวณดอยอ่างขาง ทรงทอดพระเนตร เห็นว่าชาวเขาเผ่ามูเซอซึ่งในสมัยนั้นยังไว้แกละถักเปียยาว แต่งกายสีดำ สะพายดาบ ทำการปลูกฝิ่นแต่ยังยากจน ทั้งยังทำลายทรัพยากรป่าไม้ ต้นน้ำลำธารที่เป้นแหล่ง สำคัญต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่น ๆ ของประเทศได้

จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศที่หนาวเย็น มีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่เลยและสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนัก ประกอบกับ พระองค์ทรงทราบว่าชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาว ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทดลองวิธีติดตา ต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1500 บาท เพื่อซื้อ ที่ดินและไร่ในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ เมื่อ พ. ศ. 2512 โดยทรงแต่งตั้งให้ หม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี เป็นผู้สนองพระบรมราชโองการในตำแหน่งมูลนิธิโครงการหลวง ใช้เป็นสถานีวิจัย และทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิด ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ผัก ไม้ดอกเมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขา ในการนำพืช เหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานนามว่า "สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง"



คำว่า “อ่างขาง” ในภาษาเหนือหมายถึง อ่างรูปสี่เหลี่ยมตามลักษณะของดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นดอยที่มีรูปร่างของหุบเขา ยาวล้อม รอบประมาณ 5 กิโลเมตร กว้าง 3 กิโลเมตร ตรงกลางของอ่างขางเดิมเป็นภูเขาสูง เช่นเดียวกับบริเวณโดยรอบ แต่เนื่องจากเป็นภูเขาหินปูน เมื่อถูกน้ำฝนชะก็จะค่อยๆ ละลายเป็นโพรงแล้วยุบตัวลงกลายเป็นแอ่ง มีพื้นที่ราบ ความกว้างไม่เกิน 200 เมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

** จากวิกิพีเดีย



ไปชมสวน ๘๐ ปีกันค่ะ
ช่วงที่ไปดอกไม้ยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่









มีที่พักด้วย แอบเดินไปส่องมาเหมือนกัน
ข้อมูลที่พัก ไปค้นเจอมาค่ะ

ที่พักของสถานีเกษตรอ่างขาง

บ้านดาว คนละ 150 บาท/คืน 7 คน
บ้านไต้หวัน คนละ 150 บาท/คืน 20 คน
บ้าน AK 1-4 หลังละ 600 บาท/คืน 3 คน
บ้าน AK 5-6 หลังละ 600 บาท/คืน 2 คน
บ้าน AK 7-14 หลังละ 800 บาท/คืน 2 คน
บ้าน AK หลังใหญ คนละ 150 บาท/คืน 30 คน

แบบที่เห็นเป็น AK 10


ปล. เพิ่มเติมข้อมูล สอบถามแล้ว ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลเก่า
ราคาปัจจุบันเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวค่ะ AK 10 ราคา 1440 ค่ะ



เข้าไปเยี่ยมสโมสรกันหน่อย
จะได้เข้าไปขอข้อมูลการติดต่อจองห้องพัก และรายละเอียดด้วย รอ จนท. ที่พอจะว่างให้ข้อมูลเรื่องที่พักอยู่นาน แต่ไม่มีคนว่างคุยกับเราเลย ช่วงนี้เข้าหน้าหนาว มีแต่คนสอบถามข้อมูล

ด้วยความเกรงใจ เดินไปถ่ายรูปรอ เรื่อยๆ คนมายืนรอติดต่ออีก สอง-สาม ท่าน แล้วยังมีโทรศัพท์เข้าตลอดอีก ไม่ถามก็ได้ เดี๋ยวมาหาข้อมูลเอง


ความจริงยังไม่หิวนะ

เพราะว่าเพิ่งทานข้าวต้ม กับกาแฟ มา
แต่ว่าบรรยากาศมันดีอ่ะ ต้องหาอะไรจิบเพลินๆซะหน่อย

จะดื่มเบียร์ก็คงใช่ที่ เพราะเดี๋ยวต้องขับรถข้ามเขาอีกหลายลูก
หากาแฟ กินก็แล้วกัน









มีคาปูชิโน, โกโก้ร้อน ,เค้กแครอท , ปอเปี๊ยะกล้วยหอม
รายการหลังนี่อร่อยมากค่ะ ทั้งหมดนี้ 100 บาทพอดีค่ะ





ไปจุดต่อไปดีกว่า ขับรถผ่านแปลงปลูกไม้เมืองหนาวออกมาเรื่อยๆ จนใกล้ถึงทางออก



ก่อนจะกลับแวะเข้าไปในศูนย์บริการ ที่จำหน่ายของที่ระลึก
มีมุมดอกไม้สวยๆ ให้ถ่ายรูปแบบไม่ต้องร้อนค่ะ ขากลับลงมา ถ้าดูจากแผนที่ ทางที่เราเข้ามาเมื่อวาน (ทล.1249) จะใกล้กว่า แต่ว่าต้องขึ้นเขาสูงชัน แถมโค้งหักศอกมโหฬารมาก ก็เลยลองเปลี่ยนไปทาง ทล.1340 แทน ทางไกลกว่า แต่ว่าชันน้อยกว่านิดนึง (นิดนึงนะ) ระหว่างทาง มีจุดชมวิวสวยๆตลอดทาง มาถึงประมาณ กม.ที่ 20 กว่าๆ
มีป้ายบอกไว้ว่าเป็นจุดชมวิวทะเลหมก จาก เดอะเรสเตอร์ เราก็งง อะไรอ่ะ
สงสัยว่าใช่ จุดที่ถ่ายหนังรึเปล่า หรือว่าจะเป็นเรื่อง The Letter ใครรู้ช่วยเฉลยที



ตรงนี้มีจุดกางเต้นท์ และร้านค้าของชาวบ้าน ด้านหลังร้าน วิวสวยมาก เดินไปก็เสียวเหมือนกันนะ กลัวร้านไม่ไผ่เค้ารับน้ำหนักเราไม่ไหว



พี่สาวขายส้มกิโลละ 30 บาท ชั่งมาได้ 2 โล ครึ่ง เค้าคิด 60 บาท
โห...แถมทีละครี่งโล ส้มอร่อยมั่กๆ นึกถึงแล้วอยากกินอีกเลย



ออกเดินทางต่อ

ถนนเส้นนี้ มีบางช่วงที่ผิวถนนไม่สู้ดีนัก
แต่ก็ไม่ถือว่าแย่มาก เมื่อเทียบกับความลาดชัน และโค้งที่น้อยกว่าอีกทาง นานๆ จะมีโค้งหวาดเสียวซักที ถ้าเป็นเส้นเมื่อวานน่ะเร๊อะ หวดเสียวตลอดทาง ผ่านไป เจอชาวบ้านกำลังเกี่ยวข้าว แวะถ่ายรูป พี่ๆ เค้าตะโกนลงมาทักทายด้วย





เจอชาวบ้าน เดินข้างทางตลอดค่ะ ใกล้ถึงหมู่บ้านอรุโณทัยแล้ว



ในที่สุดก็เข้าสายหลัก ทล.หมายเลข 107
ผ่านเชียงดาว ไปแม่ริม แล้วก็เข้าเชียงใหม่ ในที่สุด ตามอ่านได้ในตอนต่อไปนะคะ ในตอนหน้า เราเข้าพักที่เชียงใหม่ ย่านวัดเกตุ รับประทานอาหารค่ำริมแม่ปิง ก่อนตอนเช้าวันรุ่งขึ้นจะมุ่งหน้าไปลำปาง

ชมรีวิวฉบับเต็มจากบอร์ดบลูแพลนเนทได้ จากลิงค์นะคะ

//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8556071/E8556071.html




Create Date : 11 เมษายน 2553
Last Update : 11 เมษายน 2553 17:20:26 น. 0 comments
Counter : 2545 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prettyguide
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




สวัสดีค่ะ

ยินดีต้อนรับสู่ prettyguide's blog ค่ะ

สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องอัญมณี และของดีเมืองจันท์ เชิญลงชื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนได้ค่ะ prettyguide จะขออาสาพาเพื่อนๆเที่ยวเมืองจันท์ให้ครบทุกซอกทุกมุม ใครอยากไปไหน หรืออยากได้ข้อมูลของจันทบุรี ก็บอกมาได้เลยค่ะ

================================

ภาพถ่ายทั้งหมด
ภายใน blog นี้สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัิญญัติสิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง หรือนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาิิต
New Comments
[Add prettyguide's blog to your web]