Group Blog
 
All Blogs
 
paris day 1.2 ครึ่งวันแรกกับ หอไอเฟลและประตูชัย

ครึ่งวันที่เหลือ ผมตั้งใจว่า ถ้ามาถึงฝรั่งเศสแล้ว สถานที่แรกที่อยากไปที่สุดก็คือ หอไอเฟล (Tour Eiffel) ครับ

เริ่มออกเดินทาง เดินจากโรงแรม Ibis Ornano มาไม่ไกลเท่าไหร่ จะเจอทางลงรถไฟใต้ดินแถวหน้า Mc Donald ครับ ตรงนี้จะเป็นสถานี Porte de Clignancourt ที่เป็นต้นสายของ metro สาย 4 (สีม่วง)

ผมเลือกที่จะต่อรถไฟให้น้อยที่สุดครับ ก็เพียงแค่ไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานี St.Michel เพื่อเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ RER สาย C ซึ่งสายนี้จะวิ่งเลียบไปกับแม่น้ำ Seine เลย

อย่าลืมว่า จุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่สถานี Champ de Mars Tour Eiffel นะครับ



รถไฟ RER ที่ใช้เชื่อมระหว่างชานเมืองปารีส กับในเมือง เป็นรถไฟแบบ 2 ชั้นซะด้วยครับ สงสัยจะต้องขนส่งคนเยอะแน่ๆเลย ถึงต้องทำอย่างนี้



บรรยากาศภายในครับ ในรถไฟใต้ดินก็ไม่ได้สกปรกจนย่ำแย่อะไร ด้านหลังจะเป็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลุ่มใหญ่พอสมควรครับ



และแล้วก็มาถึงสถานี Champ de Mars Tour Eiffel

อาจจะงงว่า ทำไมชื่อสถานีนี้จะยาว เพราะมีสิ่งสำคัญ 2 อย่างครับ นั่นก็คือ พอไอเฟล (Tour Eiffel) กับ Champ de Mars คือ ลานสำหรับสวนสนามจะอยู่ด้านหน้าโรงเรียนทหาร ปัจจุบันปลูกหญ้าเขียวเต็มลานไปแล้ว

อย่าลืมหาทางออก Sortie ทาง Tour Eiffel นะครับ



เมื่อออกมาจากรถไฟใต้ดินสักพัก มองหายอดสูงๆของไอเฟล แล้วเดินเข้าไปหาได้เลยครับ



หอไอเฟล (Tour Eiffel) ถูกก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการจัดงานแสดงสินค้าโลก (World Fair) ในปี ค.ศ.1889 และเป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีของการปฏิวัติอุตสาหกรรมไปด้วย

Tour Eiffel ออกแบบโดยวิศวกร Gustave Eiffel ที่ใช้เวลาก่อนสร้าวราว 2 ปี จนแล้วเสร็จเมื่อ ค.ศ.1889 โครงสร้างของหอเป็นเหล็ก 18,038 ชิ้น มีน้ำหนักรวมประมาณ 10,100 ตัน ใช้หมุดยึดถึง 2,500,000 ตัว และมีความสูงถึง 324 เมตร ทำให้หอไอเฟลเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกมาระยะหนึ่ง จนกระทั่งตึก Empire State มาแย่งตำแหน่งนี้ไปในปี ค.ศ. 1931

จากการออกแบบของ Gustave Eiffel ซึงชำนาญในด้านพลศาสตร์ ทำให้หอไอเฟลได้แรงบันดาลใจว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้นมาจากลม และผลงานชิ้นนี้ ถึงแม้จะมีอายุมากว่า 120 ปี แต่หอไอเฟลไม่เคยสั่นคลอน หรือเอียงเลยแม้จะลมแรงแค่ไหน (แม้ว่าจะมีหนัง hollywood หลายเรื่องพยายามจะทำลายก็ตาม 55)

ตัวหอคอย จะแบ่งเป็น 3 ชั้น เริ่มจากชั้น 1 (สูง 57.63 เมตร) ที่เป็นฐานใหญ่ ในชั้นนี้สามารถเดินขึ้นบันได 360 ขั้น โดยในชั้นนี้จะมีห้องแสดงนิทรรศการประวิติการก่อสร้างของหอ รวมไปถึงไปรษณ๊ย์ให้บริการ

สำหรับชั้น 2 (สูง 115.75 เมตร) สามารถเดินขึ้นมาจากชั้น 1 อีก 359 ขั้น จะมีระเบียงให้ชมวิวในมุมสูง

สุดท้ายคือชั้น 3 (สูง 276.13เมตร) ที่อยู่ปลายยอดของหอ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมด้วยลิฟท์เพียงอย่างเดียวครับ




ลานด้านหลังคือ Champ de Mars ซึ่งอยู่หน้าโรงเรียนทหาร ส่วนตึกสูงๆคือตีกของ Tour Montparnasse อันเป็นตึกที่สูงที่สุดในปารีส (สูง 210 เมตร) ที่จะอยู่แถวๆ Galeries Lafayette (สามารถขึ้นไปชมวิวจากตึกนี้ได้ด้วย)



ใต้ฐานไอเฟล มองเห็นชั้นสอง



สำหรับอีกฝั่ง ตรงข้ามหอไอเฟล ข้ามแม่น้ำ seine ไปจะเป็น Palais de Chaillot



มุมถ่ายรูปที่นิยมกัน ก็ต้องเดินข้ามมาทาง Champ de Mars เพื่อมองหอไอเฟลให้เต็มตา



ผมเดินเข้ามาในสวน Champ de Mars เอาซะหน่อยครับ



อีกรูป



มาถึงไอเฟล แล้วต้องขอขึ้นไปชมปารีสในมุมสูงกันหน่อยครับ

ในระหว่างรอคิว เจอยิปซีสาวมาขอทานด้วยครับ



สำหรับคิวต่อแถวขึ้นลิฟท์ ปกติอาจรอนานถึง 2 ชม.ได้นะครับ แต่วันนี้ผมมาตอนบ่าย ใช้เวลารอไม่ถึงชั่วโมงดี แต่ถ้ามาตอนค่ำ คิวจะไม่ยาวเท่าไหร่ครับ



รูปปั้นของ Gustave Eiffel ผู้ออกแบบหอไอเฟล



ใกล้ถึงที่จำหน่ายตั๋วแล้ว สำหรับใครจะซื้อตั๋ว online ล่วงหน้าก็ได้นะครับ ที่ //www.tour-eiffel.fr แล้วค่อยไปต่อแถวขึ้นลิฟท์อีกที



ค่าตั๋วขึ้นไอเฟลจะแบ่งเป็น 3 แบบครับ คือ

4.50 ยูโร สำหรับเดินขึ้นไอเฟลด้วยบันได ซึ่งจะขึ้นไปได้ถึงแค่ชั้น 2 (ชั้นหนึ่ง 360 ขั้น/ ชั้นสอง359 ขั้น)

8.10 ยูโร สำหรับคนที่จะใช้ลิฟท์ขั้นไปชั้น 2 และ 13.10 ยูโร สำหรับขึ้นลิฟท์ไปชั้นสามที่อยู่บนสุด



ได้ตั๋วมาแล้วครับ เดี๋ยวไปเข้าคิวขึ้นลิฟท์กัน



ค่าเข้าชม ตามรายละเอียดเลยครับ อ้อ ที่นี่ใช้ Paris Museum Passไม่ได้นะครับ



เวลาทำการอย่างละเอียด




ขึ้นมาแล้วครับ



จุดชมวิวชั้น 2 ฝั่งตรงข้ามก็คือ Palais de Chaillot สังเกตุเมฆให้ดีครับ ว่าครึ้มมาเลย ซักพักฝนจะตก



Palais de Chaillot ด้านหน้า Tour Eiffel คั่นด้วยแม่น้ำ Seine



วิวแม่น้ำ seine



ผมเลือกที่จะมารอคิวขึ้นลิฟท์ไปชั้น 3 ครับ มุมนี้ถ่ายก่อนฝนตกไม่กี่นาทีเอง ถือเป็นฝนแรก (ก่อนจะเจออีกหลายๆฝน) ต้อนรับการมาเยือนปารีส ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรมานต่อการรอคิวมากๆ เพราะทั้งอากาศเย็น(ประมาณ 17 องศา) ทั้งมีฝนพรมลงมาอีก โชคดีที่ตอนฝนตก ผมอยู่ต้นๆแถวที่เริ่มเข้าสู่หลังคา แต่ปลายแถว มีคนยอมโดนฝนตกตั้งเยอะครับ






Allee des Cygnes เป็นเกาะยาวในแม่น้ำ seine ที่มีรูปปั้นเทพีเสรีภาพอยู่ครับ ต้องไม่ลืมว่า ฝรั่งเศสเป็นผู้มอบรูปปั้นเทพีเสรีภาพให้กับอเมริกานะครับ



ขนาดสร้างมาถึง 120 กว่าปีแล้ว ยังดูแข็งแรงน่าทึงมากครับ



ขึ้นลิฟท์หนีฝนกัน



ที่ชั้นบนสุด ในแต่ละมุมจะบอกระยะทางจากไอเฟลด้วยว่าห่างจากเมืองต่างๆเท่าไหร่

..อยู่ห่างกันไกลครึ่งฟ้า.. เก้าพันกว่ากิโลจากกรุงเทพนี่ ถึงครึ่งฟ้าไหมเอ่ย



ภาพมุมสูงของ Champ de Mars หน้าโรงเรียนทหาร สำหรับด้านซ้ายหลังคาสีทองคือ Museede L'Armee (พิพิธภัณฑ์ทหาร)




อีกมุม



สีเหล็กช่าง classic ดีจริงๆครับ



Champ de Mars แบบชัดๆ



บาร์ด้านบนครับ



ตอนลงลิฟท์มา ก็มีแขกมารอรับ มารอขายของที่ระลึก อย่างพวงกุญแจ กับของกระจุกกระจิกทั้งหลาย ราคาค่อนข้างแพงนะครับ ถ้าคิดจะซื้อของที่ระลึกยังมีอีกหลายแหล่งที่ราคาถูกกว่าซื้อที่นี่ครับ อย่างแวร์ซายส์ หรือตามตลาดนัดในแหล่งชุมชน



ประทับใจไปกับหอไอเฟลเต็มที่แล้ว เดี๋ยวไปต่อกันที่ประตูชัยเลยครับ

เที่ยวนี้ผมเลือกใช้บริการรถไฟสายที่สถานี Bar-Hakeim เพื่อขึ้นรถไฟสาย 6 (สีเขียวอ่อน) ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับสถานี Champ de Mars Tour Eiffel แต่ว่าสถานนี้จะอยู่ลอยฟ้า จุดหมายปลายทางก็คือ สถานี Charles de Gaulle Etoile

Etoile แปลว่าดวงดาว ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงดวงดาวของชาร์ลเดอกาล์นะครับ แต่หมายถึง จตุรัสชาร์ลเดอกาล์ เพราะเมื่อมองจากฟ้าลงมา ตรงประตูชัย หรือตรงจตุรัสชาร์ลเดอกาล์นี้จะมีรูปเหมือนดวงดาว ที่มีถนนแต่ละเส้นที่เข้ามาเหมือนแฉกดวงดาวนั่นเอง




ที่เลือกรถไฟสาย 6 ก็เพราะ เราสามารถเห็นวิวหอไอเฟลจากฝั่งแม่น้ำ seine ได้นั่นเองครับ ที่สำคัญนั่งรถไฟเพียงต่อเดียว ก็ถึงประตูชัยเพียง 5 สถานีเท่านั้นเอง



แล้วก็มาถึงจตุรัสชาร์ลเดอกาล์ ประตูชัย Arc de Triomphe ตั้งเด่นเป็นสง่า



มาถึงก็แดดร่มลมตกพอดี เลยพักขานั่งดื่มที่ร้าน L'Empereur บริเวณใกล้ๆประตูชัย



สิ่งเบียร์โมนาโคมาดื่มรับลมเย็นๆ นอกจากสีสันที่สวยแล้ว รสชาติยังอร่อย ดื่มลื่นคอเชียวล่ะครับ



แอลกอฮอล์เข้าเส้นแล้วก็ต้องถ่ายของเก่าออกหน่อยครับ พอเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปนี่ ผมแทบขำกลิ้งเลย ห้องน้ำย้อนยุคยังกับว่าหลุดมาในสมัยนโปเลียนที่สร้างประตูชัยเลย 55



เตรียมโดดครับ เพราะภาพโดดขึ้นไปมันไม่ชัดเลยเอาภาพนี้แทนนะ



ประตูชัย Arc de Triomphe ตั้งโดดเด่นอยู่บนถนนชองเอลิเซ่ กลางจัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์ (Place Charles de Gaulle)







ข้ามทางเดินใต้ดิน เพื่อไปกลางประตูชัยกันครับ



ประตูชัย หรือ Arc de Triomphe ได้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1806 เพื่อเป็นการฉลองชัยชนะของกษัตริย์นโปเลียนในศึก Austerlitz แต่กว่าจะแล้วเสร็จก็ในปี ค.ศ.1836

โดยประตูชัยมีความสูง 49.5 เมตร (165 ฟุต) กว้าง 45 เมตร (148 ฟุต) และลึก 22 เมตร (72 ฟุต)

ภาพแกะสลักหินนูนต่ำ 6 ชิ้นที่อยู่บนประตูทั้งสี่ทิศ จะเล่าเหตุการณ์การปฏิวัติและจักรวรรดิฝรั่งเศส ตั้งแต่อดีต




ธงชาติฝรั่งเศสปลิวไสว



ด้านในจะมีรายชื่อของทหารที่เข้าร่วมรบในการปฏิวัติฝรั่งเศสและสมัยจักรวรรดิฝรั่งเศส



สำหรับคนที่อยากขึ้นไปชมวิวของประตูชัยด้านบนสามารถขึ้นไปได้ระหว่าง 10.00-23.00 ค่าตั๋ว 9 ยูโร และสามารถใช้ Paris Museum Pass ได้ครับ

ถ้ามีเวลาน่าขึ้นไปชมครับ เพราะประตูชัยเป็นศูนย์กลางของถนนต่างๆที่เข้ามาถึง 12 สาย



ด้านหน้าคือถนนที่ว่ากันว่าสวยที่สุดแห่งหนึง นั่นคือ ถนนชองเอลิเซ่



Tomb of the Unknown Soldier บนใจกลางของประตูชัยคือเปลวไฟที่ไม่เคยมอดดับบนหลุมฝังศพของทหารนิรนาม ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ในทุกวันอาทิตย์จะมีการสวนสนามนำพวกมาลามาวางที่นี้ด้วย






ถ้าไม่มีทหารเหล่านี้ ฝรั่งเศส ก็คงไม่เป็นฝรั่งเศสอย่างในปัจจุบัน



ประตูชัย Arc de Triomphe เป็นจุดศูนย์กลางของประตูชัยทั้งหมด 3 แห่ง ที่ตั้งอยู่ตรงกัน โดยเริ่มตั้งแต่ประตูชัยแห่งการ์รูเซล ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟ มายังประตูชัย Arc de Triomphe ไปยัง Grande Arche de la Defense (ประตูชัยใหม่) เกิดเป็นเส้น Great Axis ที่มีความยาวถึง 8 กม.

ที่เห็นไกลๆก็คือ ประตูช้ยใหม่ หรือ Grande Arche



ภาพประตูชัยจากถนนชองเอลิเซ่



เลขที่ตึกบนถนนชองเอลิเซ่นี่ จะเริ่มต้นนับจาก จตุรัส Charles de Gaulle (ก็ตรงประตูชัย) นั่นเอง



ทุ่มกว่าแล้วยังไม่มืดเลยครับ แต่ว่าเหนื่อยแล้ว เพราะที่ปารีส ทุ่มนึง บ้านเราก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว ขอกลับไปนอนปรับเวลาเป็นปารีสหน่อยครับ ว่าแล้วก็ลงประตูนี้



มื้อค่ำวันนี้ฝากท้องที่ร้านอาหารจีนข้างโรงแรมอีกหนึ่งมื้อครับ เรียกน้ำย่อยด้วย spring roll ห่อ wrap มาเลย



ตามด้วย main course แบบประหยัดแต่เน้นโปรตีนครับ




Create Date : 23 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2553 11:07:49 น. 5 comments
Counter : 11646 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ
หายไปนานนะคะ จำได้ว่าเคยเข้าบ้านนี้ตอนไปสิงคโปร์ วันนี้มาขอตามไปเที่ยวปารีส (เมืองแห่งความหลัง)ด้วยคนค่ะ คิดถึงปารีสจัง
รูปเยอะดีค่ะ ได้เห็นไอเฟลแบบชัดเจน แถมยังพาขึ้นไปชมบรรยากาศด้านบน ที่ยังไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาให้ชมด้วย เดี๋ยวขอย้อนกลับไปอ่าน day 1 ก่อนนะคะ


โดย: apple.007 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:28:14 น.  

 
ตามมาหาข้อมูลครับ แล้วที่นั้นมีแหล่งshoppingไหม พวกซอโกแลดราคาถูกๆนะครับ


โดย: it_world IP: 27.55.86.124 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:39:22 น.  

 
โอ๊ย...อยากไปอีก เห็นหอไอเฟล ยิ่งคิดถึงเวลาล่องเรือ นั่งจิบกาแฟริมถนน


โดย: tim IP: 223.205.138.243 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:37:31 น.  

 
ละเอียดดีจังเลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ จะไปปารีสวันที่ 4มีนา กับเพื่อนอีกคน กำลังหาข้อมูลอยู่เลยค่า


โดย: editionJ IP: 27.55.132.183 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:31:10 น.  

 
คิดถึงปารีสเหมือนกัน กรกฎานี้จะไปอีกค่ะ


โดย: Awassada วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:9:19:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

prapasawat
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




Friends' blogs
[Add prapasawat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.