Group Blog
All Blog
|
โภชนาการในระยะให้นม โภชนาการในระยะให้นม เพื่อสร้างน้ำนมให้ทารกปริมาณและคุณภาพของอาหาร สำหรับคุณแม่ ในระยะนี้มีความสำคัญต่อทารกมากเพราะในระยะหลังคลอด - 4 เดือนแรก ทารกจะได้รับน้ำนมแม่เป็นอาหารหลัก ปริมาณน้ำนมในช่วง 6 เดือนแรกจะมีประมาณ 700-850 มิลลิลิตรต่อวัน ซึ่งจะมีผลต่อสารอาหารในน้ำนมโดยเฉพาะวิตามินต่างๆ จะลดลงด้วย ดังนั้นคุณแม่จึงจำเป็นจะต้องได้รับสารอาหารต่างๆ เพื่อใช้ผลิตเป็นน้ำนมให้ลูกน้อย และเสริมสร้างซ่อมแซมสุขภาพของคุณแม่ให้สมบูรณ์ดังนี้ โปรตีน คุณแม่ต้องการอาหารโปรตีนเพื่อใช้ผลิตน้ำนมและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ที่สูญเสียไปในการคลอด หากคุณแม่ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ จะมีการสลายเนื้อเยื่อโปรตีนและไขมันมากขึ้นเพื่อนำมาใช้ผลิตน้ำนม จึงเป็นสาเหตุให้แม่เป็นโรคขาดพลังงานและโปรตีนทำให้มีน้ำนมไม่เพียงพอสำหรับทารก ทำใ้ห้ทารกเติบโตช้า น้ำหนักน้อย คุณแม่ที่มีภาวะโภชนาการดีจะผลิตน้ำนมที่มีคุณภาพดีวันละ 850 มิลลิลิตร และมีโปรตีน 10 กรัม คุณแม่จึงควรได้รับโปรตีนเพิ่มขึ้นจากปกติ 20 กรัมและต้องเป็นโปรตีนชั้นดีที่ได้จากสัตว์ แต่เนื่องจากหญิงไทยกินข้าวเป็นอาหารหลักจึงได้โปรตีนจากข้าวซึ่งเป็นโปรตีนชนิดไม่สมบูรณ์ ร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ได้เต็มที่ คุณแม่จึงควรรับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น ไข่ นม ปลา และถั่วเม็ดแห้ง เพืื่อให้ได้รับโปรตีนเพิ่มจากปกติ 40 กรัม แคลอรี น้ำนมที่ผลิตเลี้ยงลูกประกอบด้วยอาหารที่ให้พลังงานและสารอาหารหลายชนิด คุณแม่ต้องการอาหารเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากในระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายได้สะสมพลังงานไว้ในรูปของไขมันแล้ว หากคุณแม่สะสมพลังงานไม่เพียงพอ อาจเป็นสาเหตุให้มีการสลายเนื้อเยื่อต่างๆมาใช้เป็นพลังงานชดเชย ทำให้คุณแม่มีร่างกายทรุดโทรม อ่อนแอ คุณแม่จึงควรรับประทานอาหารที่เพิ่มพลังงานขึ้นจากปกติอีก 1,000 กิโลแคลอรี อาหารที่ให้พลังงานได้แก่ข้าว แป้ง ไขมัน เนื้อสัตว์ นม ไข่ แต่คุณแม่ควรงด ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม หรือของขบเคี้ยว ของทอด เพราะอาจจำให้อ้วนได้ ปริมาณวิตามินสำคัญที่ควรได้รับในระยะช่วงให้นม วิตามินที่ละลายในน้ำมัน • วิตามินเอ ในระยะให้นมคุณแม่ควรได้รับปริมาณวิตามินเออีกประมาณ 400 อาร์อี และควรรรับประทานอาหารจำพวก ไข่แดง ตับ เนยเทียม นม น้ำมันตับปลา และจากพืช เบต้าแคโรทีนที่พบในผักใบเขียวจัดและเหลืองจัด เช่นคะน้า ผักขม ผักกาดขาวบร็อคโคลี่ แครอท มันเทศ ฟักทอง ผลไม้สีเหลือง แดง เช่น มะม่วงสุก มะละกอสุก • วิตามินดี คุณแม่ควรได้วิตามินดีเพิ่มจากอาหารประมาณ 200 หน่วยสากล หากคุณแม่ไม่ได้รับแสงแดดเลย (คนปกติควรได้รับประมาณ 400 หน่วยสากล) นอกจากนี้ควรเลือกทานอาหารจำพวกไข่แดง น้ำมันตับปลา ตับสัตว์ ยีสต์ ปลาน้ำเค็มที่มีไขมันสูง นมสดที่มีส่วนผสมของวิตามินดี • วิตามินอี คุณแม่ควรได้เพิ่มจากปกติอีกวันละ 3 มิลลิกรัม อาหารที่มีวิตามินอีมากได้แก่ น้ำมันพืช ไข่แดง ไขมัน นม เนย เนื้อสัตว์และตับ วิตะมินที่ละลายในน้ำ • วิตามินซี คุณแม่ควรได้รับเพิ่มจากปกติ 40 มิลลิกรัมต่อวัน ระดับวิตามิืนซีจะลดลงเมื่อแม่ให้นมบุตรนาน 7 เดือนอาหารที่มีวิตามินซีได้แก่ผลไม้สด เช่น มะขามป้อม ฝรั่ง มะขาม ส้ม และัผักสดทุกชนิด เช่นกะหล่ำปลี มะเขือเทศ พริก ผักบุ้ง บร็อคโคลี ผักใบเขียว-เหลือง • โฟเลซิน คุณแม่ควรได้รับเพิ่มจากเดิม 100 ไมโรคกรัมต่อวัน ถ้ามีโปรตีนเพียงพอโฟเลซินก็จะไม่ลดลงด้วย โฟเลซินมีมากในตับ ผักใบเขียว หน่อไม้ฝรั่ง ผักขม บร็อคโคลี มันเทศ ขนมปังที่ทำจากข้าวรำ • วิตะมีินบี 1 คุณแม่ควรได้เพิ่มจากปกติ 0.5 มิลลกรัมต่อวัน อาหารที่มีวิตามินบี 1 ได้แก่ หมูเนื้อแดงเนื้อวัว ตับ ธัญพืชทั้งเมล็ด ถั่วเมล็ดแห้ง • ไนอะซิน คุณแม่ควรได้รับเพิ่มจากปกติ 5 มิลลิกรัมต่อวัน อาหารที่มีไนอะซินได้แก่ เนื้อสัตว์ที่มีไขมัน สัตว์ปีก ปลา ถั่วลิสง และเครื่องในสัตว์ • วิตามินบี 2 คุณแม่ควรได้รับเพิ่มอีก 0.5 มิลลิกรัมต่อวัน อาหารที่มีวิตามินบี 2 ได้แก่ ตับ ไต เนื้อสัตว์ที่ไม่มีไขมัน นมสด ไข่ปลา • วิตามินบี 6 คุณแม่ที่ให้น้ำนมลูกน่้อยนานกว่า 7 เดือน วิตามินบี 6 จะลดลง ควรเสริมวิตามินบี 6 นี้ในระยะ 7-16 เดือน เพื่อที่คุณแม่ควรจะได้เพิ่มมากขึ้น 0.5 มิลลิกรัมต่อวัน วิตามินบี 6 มีมากในยีสต์ เนื้อหมู ตับ ธัญพืชทั้งเมล็ด ถั่วเมล็ดแห้ง มันฝรั่ง กล้วย และผลไม้แห้ง • วิตามินบี 12 คุณแม่ควรได้รับเพิ่มอีก 1 ไมโครกรัมต่อวัน พบมากในตับ เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน นมสด ไข่ปลา น้ำ น้ำที่คุณแม่จำเป็นต้องดื่มวันละ 8-10 แก้ว อาจอยู่ในรูปของของเหลวอื่นได้ไม่ว่าจะเป็นนม น้ำซุป หรือน้ำผลไม้ เหนือสิ่งอื่นใด อาหารหลัก 5 หมู่ในชีวิตประจำวันของคุณแม่ ในระยะให้นมควรได้รับในปริมาณสารอาหารต่อวันดังนี้ ประเภทอาหาร ปริมาณอาหาร คำแนะนำ เนื้อสัตว์ 12-14 ช้อนโต๊ะ/วัน • รับประทานเนื้อสัตว์ให้หลากหลายประเภท ในแต่ละวัน • รับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน เพื่อหลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์ • พยายามรับประทานปลา และอาหารทะเลสัปดาห์ละ 3- 4 ครั้ง เพื่อได้รับกรดไขมัน DHA เพิ่มมากขึ้น ไข่ 1 ฟอง/วัน • กินไข่ที่ปรุงสุก เพราะไข่ดิบย่อยยาก และอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค • ถ้ามีปริมาณไขมันในเลือดสูง ควรลดปริมาณเหลือ 3 ฟองต่อสัปดาห์ • ไข่ 1 ฟอง ทดแทนเนื้อสัตว์ได้ 2 ช้อนโต๊ะ เครื่องในสัตว์ 1-3 ครั้ง/สัปดาห์ • หากคุณแม่มีปัญหาไขมันในเลือดสูง ควรรับประทานให้น้อยลงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรืองดชั่วคราว น้ำนม 2 แก้ว/ วัน • หลีกเลี่ยงน้ำตาลด้วยการเลือกดื่มนมสดจืด ดีกว่านมปรุงแต่งรส • หากคุณแม่มีปัญหาไขมันในเลือดสูง น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ควรดื่มนมพร่องมันเนยหรือนมขาดมันเนย • ถ้าคุณแม่ดื่มนมไม่ได้ ควรรับประทานปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง และปลาอื่นๆ ที่รับประทานได้ทั้งกระดูก รวมทั้งผักใบเขียวเพื่อได้รับแคลเซียมทดแทน ถั่วเมล็ดแห้ง 3-4 ช้อนโต๊ะ สัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง • เลือกรับประทานถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วลิสง ถั่วเหลือง หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเช่นเต้าหู้ เต้าฮวย นมถั่วเหลือง • คุณแม่สามารถนำถั่วทั้งหลายไป ประกอบเป็นอาหารหวานหรือคาวได้ แต่ควรระมัดระวังการเติมน้ำตาลด้วย ข้าวและแป้งต่างๆ 9-12 ทัพพี/วัน • รับประทานข้าวสวยสลับกับผลิตภัณฑ์ จากแป้งเช่นก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ขนมจีน • คุณแม่สามารถรับประทานเผือก มันข้าวโพด แทนข้าวได้ ผัก 3-4 ทัพพี/วัน รับประทานฟักทอง แครอท สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง • ควรรับประทานผักให้หลากหลายชนิดใน 1 วัน และควรเป็นผลไม้สด • รับประทานผักใบเขียว-ขาว สลับกับผักสีเหลือง เช่นฟักทอง แครอท ผลไม้ 3-5 ครั้ง/วัน • รับประทานผลไม้สดหลา่กหลายชนิดใน 1 วัน • รับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง น้ำมัน 3-4 ช้อนโต๊ะ/วัน • ควรเป็นน้ำมันจากพืช เช่นรำข้าว ถั่วเหลือง งาน • หลีกเลี่ยงน้ำมันจากสัตว์ กะทิ • หากคุณแม่มีปัญหาเรื่องไขมัน และคอเลสเตอรอลในเลือดสูง |
มนแพรวา
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] Link |