Group Blog
All Blog
|
(‿✿) ♦♦♦ ทางสายกลาง ♦♦♦ เรื่อง "ทางสายกลาง" ณ ศาลาบำเพ็ญบุญแม่ปาง วัดป่าริมธาราวาส อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ท่านพระครูวิบูลธรรมกิจ (บัวเกตุ ปทุมสิโร) เพราะผลแห่งการอ่านบทเทศนาธรรมบทนี้ เรามั่นใจว่า จิตของท่านจะสงบลง ไม่ฟุ้งซ่าน การปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนานี้ ดังปรากฎในพระธรรมเทศนากัณฑ์แรก คือ ปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันฯ เพราะในสมัยนั้นมีการปฏิบัติเอนเอียงไปทาง "อัตตกิลมถานุโยค" คือ การตึงเกินไป ไม่ใช่เป็นทางตรัสรู้อมตธรรม อันเป็นอริยมรรคที่จะพาให้บุคคลสูงถึงโลกุตตรภูมิ มีอริยมรรคมีองค์แปด คำว่า "ทางสายกลาง " ในอริยมรรคมีองค์แปดนั้น พร้อมด้วยสมาธิ พร้อมด้วยปัญญา หรือถึงซึ่งวิมุตติความหลุดพ้นจากกิเลสได้ ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป พอเหมาะพอดี คือการปฏิบัติอันใดเป็นไปเพื่อตัดกิเลสและกองทุกข์ได้ เรียกว่าทางสายกลาง ทั้งศีล ทั้งสมาธิ ท้้งปัญญา เฉพาะอย่างยิ่ง อย่าเอาตัวเองเข้าไปวัด ก็อาจจะเกิดความผิดพลาดได้ บำเพ็ญหรือปฏิบัติมากไป เกรงจะเหนื่อย อันนั้นก็ไม่ถูก จึงบอกว่าไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปวัด เกิดความอิ่มใจ เกิดความอุ่นใจ เกิดความสบายใจ หรือว่าเป็นไปเรื่อยๆ เพราะเหตุที่ได้ประพฤติปฏิบัติดีแล้ว แต่ว่าการที่จะปฏิบัติให้ถูกทางเป็นสายกลางนั้น การอบรมจิตต้องทำด้วยความสม่ำเสมอ ในทางสายกลางนั้น ถ้าหากว่าทำมากบ้างน้อยบ้าง ต้องให้เกิดความสม่ำเสมอ เพราะฉะนั้น จิตต้องให้เป็นมัชฌิมาปฏิปทาและสม่ำเสมอ ตลอดจนอิริยาบทที่มีความเป็นไปแต่ละวัน วันหนึ่งความเป็นไปเราอาจจะต่างกัน จิตใจจึงเกิดความฟุ้งซ่านเหล่านี้ เป็นต้น เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการฉันอาหาร ใจก็จะเข้าสู่ความสงบได้ง่าย กิเลสชนิดหนึ่งคือ โกสัชชะ ความเกียจคร้านจะเกิดขึ้น ไม่มีเรี่ยวแรง ไม่มีกำลังใจก็จะเกิดขึ้น คืนหนึ่งอีกสิบสองชั่วโมงเป็นยี่สิบสี่ชั่วโมง พึงเปรียบเทียบกัน ถ้าหากปฏิบัติน้อยกว่า ทำความเพียรขึ้นมาให้ได้มาก ถึงแม้เวลาปฏิบัติแต่ละครั้งจะเกิดความเหนื่อยยาก มัชฌิมาปฏิปทาของพระพุทธเจ้าจึงรวมความว่า สมาธิเจริญขึ้น ปัญญาเจริญขึ้น เพราะการปฏิบัติเป็นมัชฌิมาปฏิปทาแล้วจะทำให้เสมอ เมื่อเสมอและเกิดความพอดีแล้ว เพราะชินต่อสภาพที่เป็นมัชฌิมาปฏิปทาที่พอดีอยู่ คือ สติ เป็นตัวสำคัญ เวลาที่เรานึกว่าพุทโธนั้น และมีสติคุมอยู่ที่จิตที่นึกว่า พุท ว่า โธ นั้นอยู่ทุกคำที่นึก แต่มีข้อสังเกตอยู่ว่า นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เพราะจะเป็นเหตุให้เกิดความรวมหรือมีสติเข้าพุ่งสู่คุมจิต หรือว่าเฉียดๆ ไม่เข้าจุดศูนย์กลาง เพราะฉะนั้น ที่ท่านบอกว่า จงกลั้นใจ อึดใจ และเมื่อเวลาให้ใจตรงนั้นคิดนึกว่า พุท ว่า โธ เหมือนกับว่าใบไม้ที่ไม่โดนลมมันก็นิ่ง ความที่มันคิดปรุงแต่งส่งส่าย น้ำที่นิ่งๆเหมือนคลื่นสงบแล้ว เหมือนกับใจ กิเลสเหมือนการถือขันน้ำที่เปรียบเทียบให้ฟังนั้น พยาบาทสงบ ถีนมิทธะสงบ อุทธัจจะสงบ หมายความว่าเป็นมัชฌิมาปฏิปทา เฉพาะอย่างยิ่ง ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ลมปะทะตรงไหนของปลายจมูก นึกอยู่ตรงนั้น อันนี้ก็เป็นอุบายอันหนึ่ง อันนี้ก็เป็นวิธีการอีกอย่างหนึ่ง เมื่อเวลาจิตนึกว่าพุท ว่า โธ นั้น ใจอยู่ตรงนั้น ใจอยู่ตรงนี้ให้ได้ แน่วแน่เสียก่อน บางทีก็อาจจะมีวิจิกิจฉาอยู่บ้าง ถ้าจับตรงนี้ได้ไม่ช้าไม่นานก็สงบ ในขณะที่เมื่อย จับตรงนี้ได้คุมได้ เดี๋ยวเดียวกายก็เบาและเดี๋ยวเดียวก็สงบ มีจิตมีสติคุมได้แล้ว ลมหายใจหมดไปแล้วเบาแล้ว จิตจะเกิดความสุข คือใจจะเกิดความสุข เป็นหนึ่งขึ้น หรือเพ่งโดยจิตอย่างเดียวที่จิตว่า คือพบที่อยู่ของจิตของใจแล้วทิ้งคำว่า พุทโธ ออกไป ถ้าหากว่าเผลอและมันรวนเร จึงค่อยว่า พุทโธใหม่ ถ้าหากว่าเวลาเพ่งที่จิตนั้น เพ่งที่ใจน้้น มันก็ไม่เดินหน้า ความสงบก็จะไม่เดินหน้า แต่ไม่ยอมลงเพราะพุทโธดึงอยู่ ดูแต่จุดนั้นจุดเดียวด้วยความมีสติตั้งมั่น แต่การที่จิตจะดิ่งลงตามควรนั้น เกิดความรู้สึกอื่นๆอีก มันจะเป็นอยู่อย่างนี้ เพราะฉะนั้น หลักการทื่สำคัญดังกล่าวมาแล้ว และในความเป็นไป ตลอดจนฉลาดมีสติในการคุมจิต เพราะฉะนั้นต่อนี้ไปจงตั้งใจภาวนา และเมื่อพบสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้ว จำจุดที่ฝึกนั้นไว้ และสามารถปฎิบัติได้ จงปฏิบัติต่อไป........... ♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦ และขอให้ได้พบกับความสุขกายสุขใจ ที่ผ่านมา ผมมักจะตั้งสติอยู่หน้าจอคอมฯเป็นส่วนใหญ่ละครับคุณพี่
คงต้องพยายามทดลอง ตามหนทางของท่านอาจารย์พระครูบัวเกตุ ดูบ้าง โดย: จักร์ IP: 115.87.144.185 วันที่: 24 มีนาคม 2555 เวลา:13:28:53 น.
|
tangkay
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?] (‿✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้ แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ .... สิบปีผ่านไป....... อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์ แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ Link |
*~..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..~*
..HappY BrightDaY..