สวัสดีมีสุขค่ะทุกท่าน สุขกาย สุขใจ

สุขสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาไว้นะจ๊ะ

วันนี้นำเสนอ เต้าหู้+ไข่พะโล้

เราอยากกินพะโล้แต่เราก็กลัวพะโล้

ดังนั้นเราจึงเลี่ยงกินพะโล้กันแบบไม่ให้พะโล้นะ

 เต้าหู้นั้นมีประโยชน์ยิ่งนักย่อยก็ง่าย กินก็อร่อย

ที่แน่ๆคืออิ่ม เด็กกินได้เพราะเราใส่ไข่ลงไปพะโล้ด้วย

ส่วนคนที่แก่เกินแกงแบบเราก็ต้องเต้าหู้เท่าน้้น

เห็นไม๊จ๊ะกินได้ทุกเพศทุกวัยเชียว

การต้มพะโล้แบบเรานั้นไม่ง้อซีอิ๊วดำนะจ๊ะ

เพราะเราทำให้มันดำได้ใจน่ากินจากการเคี่ยวน้ำตาลปี๊บ

ให้เขาออกสีน้ำตาลเข้มก่อนที่จะเติมน้ำต้มลงไป

 เมื่อต้มเคี่ยวสีน้ำตาลตามชื่อเขาจะแทรกซึมเข้าไป

ในทุกสิ่งที่เรานำลงไปเคี่ยว

ความเค็มนั้นเราใช้เกลือนะจ๊ะเพื่มความเค็มให้เขาไปทักทายกัน

แต่อย่าเค็มมากนะ พะโล้บ้านเราต้องออกหวานหน่อย

 เพราะนอกจากเด็กจะชอบแล้ว คนแก่ขาดหวานอย่างเรา

ก็ต้องเติมหวานเข้าไปหน่อยเผื่อจะพูดจาหวานๆกับเขาได้บ้าง

 สำหรับ่เครื่องพะโล้นั้น ไม่ต้องกังวลกับมันหรอก

มีขายในท้องตลาดทั่วไป

มันสำคัญตรงการเพิ่มความอร่อยในน้ำต้มนี่ซิ

พริกไทย กระเทียม รากผักชี ไงจ๊ะ ร่วมด้วยช่วยกันตำเขาให้เข้ากัน

อย่าใช้เครื่องปั่นนะมันจะแหลกเกินจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

แค่โขลกให้เข้ากันก็น่าจะพอแล้วนะ

แล้วนำไปผัดกับน้ำมันนิดเดียวแค่ให้หอม

แล้วค่อยใส่ผงพะโล้ลงไปคลุกเคล้าผัดให้หอม

ถ้าใส่หมูก็นำหมูลงไปร่วมด้วยช่วยกันผัดให้เข้ากันเชียว

แต่ไม่จำเป็นต้องให้หมูสุกเพราะเราต้องนำไปต้มเคี่ยวอยู่แล้ว

 เสร็จแล้วก็ตักใส่หม้อที่เคี่ยวน้ำตาลทิ้งไว้เติมน้ำลงไปให้ท่วม

เตรียมตัวเคี่ยวด้วยไฟปานกลางพอเดือดพล่านค่อยหรี่ไฟ

แล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆ

สำหรับเต้าหู้นั้นเราก็ทอดให้เหลืองกรอบนอกนุ่มใน

แล้วนำไปใส่ในหม้อต้มไปด้วยกัน

ส่วนไข่นั้นต้องต้มให้สุกก่อนปอกเปลือกแล้วก็นำลงไปเคี่ยวรวมกัน

เคี่ยวไปร้องเพลงไปอย่างมีความสุข

ไม่ช้าเธอก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุยเชียวละ

จัดการตักใส่ชามโรยผักชีสักนิด

แค่นี้แหละพะโล้อันแสนอร่อยก็เสร็จเรียบร้อยแล้วจ้า