Group Blog
### ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ...จริงหรือ ? ###










" ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ"

  คำนี้ ช่างกินใจจริง..จริ๊งงงง
ใครนะช่างสรรหามาเปรียบเทียบ
ฉันได้ยินมาตั้งแต่เด็กแล้วละนะ
  แสดงว่าคำนี้มันต้องมีอายุมากกว่าตัวฉันแน่นอน
   ฉันชักสนใจ และเริ่มสงสัยขึ้นมาอีกแล้วซิว่า
  เป็นเป็นจริงดั่งว่าหรือเปล่า
   จากหนังสือที่ฉันอ่านผ่านมาถ้าเกี่ยวกับดวงตา
ก็มากมายเชียวละ
ตาเชื่อม ตาละห้อย ตาเยิ้มตาแดง ตากุ้งยิง
  โอ๊ย.....สารพัดที่มันเกี่ยวกับดวงตาน่ะ
แต่ที่แน่ๆฉันพบบ่อยๆ   กับพ่อหนุ่มหลายรุ่นนะ
  ที่ชอบทำ "ตาประกาย" น่ะ
เมื่อมันเกิดเป็นตาประกายแล้วเก็บอาการไม่ค่อยอยู่ละก็
  ต้องส่งผ้าเช็ดหน้าให้ซับน้ำลายด้วยนะ ถึงจะเข้ากันดี    
ฉันเริ่มเข้าใจแล้วละ ถ้าเราจะศึกษาคนให้ถ่องแท้ละก็
ก่อนอื่นต้องศึกษาเจ้าดวงตานี่ก่อน
เพราะถ้าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ
งั้นเรามองแค่ดวงตาเราก็ต้องรู้ได้ซิว่า เขาคิดอะไรอยู่ 
   เอาละสนุกละงานนี้
และแล้วคนช่างสงสัยแบบฉันก็เริ่ม่ปฏิบัติการ
   "สบตาเธอ" ทันที



เขาเป็นหนุ่มใหญ่ แต่งตัวดี พูดจาช้าๆ เสียงเบาๆ
  เขาเดินเข้ามายกมือไหว้ฉัน แล้วยิ้มน้อยๆ  
ฉันก็ยกมือไหว้ตอบและถามไปว่า
  "ฉันพอจะช่วยเหลืออะไรเขาได้บ้าง"
   ก็เราทำงานด้านบริการประชาชน
เราก็ต้องถามเพื่อเปิดโอกาสให้เขาพูดคุย
และขอให้ฉันใช้หน้าที่การงานช่วยเหลือเขา
   "เชิญนั่งค่ะ....มีอะไรให้รับใช้บอกได้นะคะ" 
ช่วยได้ก็จะช่วยหากไม่ผิดกฎหมาย
  หรือขัดต่อระเบียบคำสั่งละก็ยินดีค่ะ
    เขานั่งลงตรงหน้าฉันก้มหน้าน้อยๆ ไม่ยอมสบตา
ฮั่นแน่...หรือจะรู้ว่าเราคอยสบตาอยู่
เขาเริ่มพูดช้าๆว่า เขาถูกรังแก
  ไม่ว่าเขาจะทำอะไรแลดูผิดไปหมด
ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมคนอื่นถึงมองเขาในแง่ร้ายอย่างนี้
   เขาไม่อยากได้ใยดีของๆใคร
แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ใครมาครอบครองของๆเขา
  เอาละซิเรื่องอะไรกันนะ ใครที่รังแกใคร ใครถูกรังแก
โอ๊ย...มันยุ่งเหยิงอะไรเช่นนี้นะ
   ฉันค่อยๆพูดกับเขาว่า
   "ไหนคุณลองเล่าสาเหตุการถูกคนเข้าใจคุณผิด
มาให้ฟังหน่อยซิ  เรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร
   ค่อยๆเล่าไปนะฉันจะฟัง"
   เขาเริ่มเล่า ว่าเขานั้นอาศํยอยู่ที่บ้านใกล้ๆกับตลาดนี่เอง
เขาอยู่กับหลานสาวอายุ 15 ปี
และเขาได้ส่งเธอเรียนหนังสืออยู่ 
 เขาไม่ได้บอกฉันหรอกว่าหลานสาวนั้นเขาได้แต่ใดมา....
  ฉันก็ไม่ได้ซักถาม



ตลอดเวลาที่เขาเล่าเขาจะนั่งก้มหน้า
แสดงความเสียใจและน้อยใจตลอดเวลา
ผมชอบช่วยเหลือคน ใครเดือดร้อนมา
ขอความช่วยเหลือจากผม ผมไม่เคยขัดข้อง 
  ผมก็อยู่ในฐานะที่พอจะช่วยพวกเขาได้บ้างเท่านั้น
ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใดๆ 
 นอกจากเขาจะเห็นบุญคุณผมที่ช่วยเหลือ 
 เขาก็จะมีของมาตอบแทนบ้างเท่าน้ั้น
แล้วไงล่ะฉันเริ่มซักต่อทันที 
   เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เองครับ
  หลานสาวผมไปโรงเรียนและไม่ยอมกลับบ้าน
ผมได้ออกเที่ยวตามหา
   ไปเจอเธออยู่กับแม่เธอที่บ้านในหมู่บ้าน
ซึ่งห่างจากตลาดพอสมควร
ผมไปตามเธอกลับมาแต่เธอไม่ยอมกลับมาด้วย
   แถมคนแถวนั้นยังด่าว่าผมเสียๆหายๆ
  นี่มันอะไรกันครับ ผมไม่เข้าใจเลย
แถมพวกเขายังขู่ผมอีกว่าเขาจะแจ้งความจับผมเข้าคุก 
  ผมผิดอะไร ผมไม่รู้หาคำตอบไม่ได้ คุณช่วยผมที
เอาละๆ   ฉันพอเข้าใจนะ
(ฉันพูดไปทั้งๆที่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีนั่นแหละ)
ฉันจะช่วยหากคุณไม่ได้ทำอะไรผิด
มันอาจจะเป็นการเข้าใจผิดกันก็ได้
ขอให้คุณใจเย็นๆ  อีกสองวันมาใหม่นะ
  ฉันจะให้คำตอบว่าจะช่วยคุณได้อย่างไร
เท่านั้นแหละ ด้วยความดีใจและพอใจในคำตอบฉัน
  เขาได้เงยหน้าและสบตาฉันทันที



เสร็จฉันละ ณ.เวลานั้นฉันสบตาเขา
  ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปิติยินดี
และถ้ามองจ้องดีๆ
  จะเห็นความสมหวังซุกอยู่ในดวงตาคู่นั้นด้วย 
  ฉันอยากรู้ว่าทำไมดวงตามันเป็นแบบนั้น
และจะจริงหรือที่ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจน่ะ
   เขาลากลับไปพร้อมกับความดีใจ
ส่วนฉันนั้นก็ยังนั่งสงสัยและมีคำถามมากมายจากดวงตาคู่นั้น


วันรุ่งขึ้น ฉันออกเดินทางไปยังบ้านแม่ของเด็ก
ที่เขาอ้างว่าเป็นหลานสาวทันที
ฉันเข้าไปทักทายและเล่าเรื่อง
ที่ฉันได้รู้มาจากชายผู้นั้นให้แม่เด็กฟัง
   เพื่อขอความกระจ่างว่ามันเป็นมาอย่างไรกันแน่
แม่เด็กได้เล่าให้ฟังว่า
   เธอเดือดร้อนเรื่องเงินที่จะมาลงทุนปลูกแตงกวา
เพราะเธอต้องซื้อทั้งเมล็ดพันธุ์ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย
และตาข่ายที่จะขึงให้แตงกวาเลื้อย 
  เพื่อไม่ให้ลูกแตงกวาวางบนดิน 
 นอกจากลูกไม่สวยแล้ว
ยังจะเน่าเสียหายขายไม่ได้ราคาด้วย
ซึ่งก็ต้องใช้เงินหลายพันบาทไม่รู้จะไปหาที่ไหน
   เพื่อนเลยแนะนำให้ไปยืมจากชายผู้นั้น


เธอพร้อมกับลูกได้ไปที่บ้านของเขา
   และเอ่ยปากขอยืมเงิน
ฉันเห็นเขายิ้มเยือกเย็นแลเป็นคนใจดีคนหนึ่ง
  แม่เด็กกล่าว
เขาได้ซักถามฉันมากมายเกี่ยวกับตัวฉันและลูก
  ฉันไม่ปิดบังว่าพ่อเด็กเพิ่งจะตายไปเมื่อปลายปีนี้เอง
ถ้าเขายังอยู่เธอและลูกคงไม่ต้องลำบากเช่นนี้
เขาถามลูกสาวฉันว่าเรียนหนังสืออยู่รึเปล่า
เธอบอกว่ายังเรียนอยู่ชั้น ม.3
และได้บอกชื่อโรงเรียนไปด้วย
   เขาแสดงท่าทีเมตตาปรานีมาก
เขาเอามือลูบหัวลูกสาว
แล้วยังแสดงความเวทนาสงสาร
   เขาได้บอกกับฉันว่าเขาจะช่วยเหลือฉัน
โดยให้ยืมเงินไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
เมื่อขายแตงกวาได้แล้วก็ให้นำมาคืนก็แล้วกัน
   สำหรับลูกสาวฉันน้ัน อีกสองเดือนก็จะสอบไล่แล้ว
   เมื่อสอบเสร็จแล้ว  เขาอยากจะอุปการะให้ได้เรียนต่อ
  โดยเขาจะเป็นผู้ส่งเสียให้เรียนเอง แม่ไม่ต้องเดือดร้อน
มันช่างประทับใจจริงๆเขาช่างเป็นคนมีเมตตา
สมกับบุคคลิกตัวเขาเองจะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว



สองเดือนต่อมาเขาได้มาหาที่บ้าน
  และได้พูดคุยกับฉันและลูกสาว 
 เขาบอกว่าเขาอยู่คนเดียว  เมียก็ทิ้งกันไปแล้ว
  ส่วนลูกๆก็ออกเรือนไปกันหมด
   ในระหว่างปิดภาคเรียนนี้
  อยากขอให้ลูกสาวช่วยไปทำความสะอาดบ้านให้หน่อย
เขาจะให้ค่าแรง งานไม่มากหรอก
ฉันและลูกสำนึกในบุญคุณเขามากจึงตอบตกลง
และเมื่อโรงเรียนเปิดเขาก็ให้ลูกสาวฉันไปอยู่เป็นเพื่อน
โดยอ้างว่า บ้านเขาไม่มีเด็กๆอยู่มันดูเงียบเหงา
ถ้าลูกสาวไปอยู่เป็นเพื่อนก็ยังดี
และเขาก็จะช่วยดูแลเรื่องการเรียนของลูกให้ด้วย
เสมือนเป็นลูกสาวของเขาเองทีเดียว



ฉันและลูกสาวตกลง ลูกสาวฉันอยากเรียนสูงๆ
เพื่อต่อไปมีงานการทำจะได้ช่วยแม่ได้บ้าง
และมองดูแล้วก็ไม่น่าหวาดกลัวอะไร
ก็เขามีเมตตาซะปานนั้น 
 เมื่อลูกสาวไปอยู่ได้ไม่ถึงเดือน เขาก็เริ่มออกลาย
ลูกเล่าให้ฟังว่าก่อนไปโรงเรียน
เขาจะต้องกอดลูกสาวและหอมแก้มทุกครั้ง
พอกลับมาก็จะทำอย่างนั้นอีก แรกๆลูกก็ขัดเขิน
ต่อไปไม่เห็นมีอะไรก็เริ่มชิน
   ต่อๆมาเขาก็เริ่มลวนลามจับโน่นจับนี่ในตัวลูกสาว
แล้วก็กล่าวขอโทษว่าไม่ได้ตั้งใจ 
 มือมันไปโดนเอง อย่าถือสานะ
และแล้วในคืนหนึ่งเขาก็เข้าไปในห้องลูกสาว
หมายจะทำมิดีมิร้ายกับเด็ก 
  ด้วยความตกใจลูกสาวจึงวิ่งหนีกลับมาบ้าน
ร้องห่มร้องไห้เล่าให้แม่ฟัง
ฉันจึงไม่ยอมให้ลูกไปอยู่ด้วย 
 เขามาตามที่บ้านเมื่อไม่ได้ตัวลูกสาวไป
เขาก็ทวงเงินพร้อมดอกเบี้ยทันที
และขู่ว่าจะจับฉันเข้าคุกในฐานะฉ้อโกงเงินเขา
ฉันร้อนใจเลยไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง 
  เรื่องเลยแดงออกมา
ทุกคนจึงด่าว่าประนามเขา 
  และก็ได้รู้มาว่ามีอีกหลายรายที่โดนเช่นนี้
แต่เขาไม่เอาเรื่อง เพียงแต่หนีหายไปอยู่ที่อื่น



ฉันกลับมาด้วยความสลดหดหู่ใจยิ่งนัก  นี่มันอะไรกันนะ
   แล้ววันที่นัดก็มาถึง   เขาเดินยิ้มเข้ามาทักทายฉัน
 และขอฟังคำตอบจากฉัน
ฉันได้เล่าข้อมูลที่ได้รับมาให้เขาฟัง 
 ตลอดเวลาตาเขาลุกวาวส่อแววอาฆาตเห็นได้ชัด
เขานั่งฟังนิ่งไม่พูดจาเลย 
 ฉันเลยสรุปแถมให้เขาฟังว่า 
  หากแม่เด็กเอาเรื่อง เขาคงไม่พ้นคุกอย่างแน่นอน
  หลายกะทงเชียวละคุณ
โดยเฉพาะเด็กยังเป็นผู้เยาว์อยู่ด้วย 
คุณเอ๋ยไม่ได้ผุดได้เกิดแน่
เขาโกรธมาก แต่ก็ไม่พูดอะไร
  เดินหันหลังกลับไปทันที


ก็เพราะไอ้ดวงตาคู่นั้นแท้ๆ   ทำให้ฉันสงสัย 
 แล้วมันก็เป็นจริงอย่างที่สงสัยซะด้วย
เฮ้อ....อมิตพุทธ ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจจริง จริง


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥









Create Date : 18 พฤษภาคม 2554
Last Update : 3 กรกฎาคม 2559 12:55:23 น.
Counter : 3189 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ