Group Blog
All Blog
ขวัญใจคอเหล้า.....เจ้าปลากุุแร



"ปลากุแร" ที่่เห็นในภาพน่ะ กุแรโป๊ะ นะจ๊ะ ถ้าไม่ใช่
โป๊ะเราก็ยังไม่เคยเห็นใครจะจับมันได้มากหรอก ปลาพวกนี้อาศัยอยู่
ในน้ำไม่ลึกมากหรอก แถวๆๆชายฝั่งน่ะ และอยู่กันเป็นฝูง ตัวก็ไม่โต
มากหรอกนะก็แค่เท่าที่เห็นนี่แหละก็เรียกได้ว่าเต็มที่แล้วละ (อ้อ..ขอ
อธิบายเรื่องน้ำลึก น้ำตื้น ของคนทะเลหน่อยนะ น้ำตื้นน่ะอย่างน้อยๆๆ
ก็สูงกว่าหัวคนเวลายืนสักสองสามวานั่นแหละ สำหรับคนก็ลึกน่าดูละ
แต่สำหรับทะเลเขาเรียกน้ำตื้นน่ะ ส่วนน้ำลึกนั้น ก็ไกลออกไปอีกมาก
จนเรียกว่าเรือเดินทะเลเขาใช้สวนสนามกันได้นั่นแหละ เข้าใจแล้วนะ
จ๊ะ เดี๋ยวจะหลงผิดคิดว่าน้ำตื้นคนยืนถึง จะจมน้ำตายซะเปล่าๆๆน่ะ)
ปลากุแรจะมีลักษณะตัวเล็กเท่าที่เห็น เกร็ดมากมาย สีของตัวก็สวยซะ
เป็นสีเงินและสีเขียวส่งประกายแวววาวเชียวนะ ไอ้ประกายแวววาวน่ะ
คุณรู้ไม๊ เวลากลางคืนเขาว่ายอยู่ในน้ำทะเลน่ะเดือนเต็มดวง ซึ่งเรา
เรียกว่าเดือนหงายน่ะ ตัวเขาจะส่งประกายในน้ำเป็นพรายน้ำสว่างไสว
สวยเชียวนะ สัตว์ทะเลส่วนมากก็อย่างนี้แหละกลางคืนใครจะเห็นสัก
กี่คนว่าพวกมันส่งประกายในน้ำน่ะ คุณลองวาดภาพดูซิ สว่างไสวออกสี
เขียวน้อยๆๆ วิ่งไปวิ่งมาในน้ำน่ะ เราว่าสวยกว่าหิ่งห้อยบนตามชายคลอง
อีกนะ สมัยเราเด็กๆๆเวลาพ่อจับโป๊ะกลับเข้าฝั่ง ได้ปลากุแรมากมาย
แม่เราจะเอาขึ้นไปขายในตลาดสด ซึ่งเราก็จะติดตามไปด้วย ตอนนั้น
ราคาปลากุแรกิโลกรัมละแค่สองบาทเท่านั้น เวลามีคนซื้อแม่ก็จะใช้เส้น
เถาวัลย์เล็กๆๆร้อยที่ตาปลา เป็นพวงให้กับลูกค้าถือเดินกลับบ้าน ปัจจุบัน
นี้ปลากุแรกิโลกรัมละ 50 บาท ก็ไม่แปลกหรอกนะ เพราะปลาโป๊ะเหลือ
น้อยเต็มทีแล้ว พวกเรืออวนชายฝั่งออกไปวางอวนก็ไม่ค่อยจะได้กันนัก
แต่ที่แน่ๆๆๆ คนส่วนมากยังไม่ค่อยจะรู้จักปลากุแรกัน และไม่รู้จะเอามัน
มาทำอะไรกินดีด้วย เราขอแนะนำว่า ปลากุแรนั้น ถ้าเอามาขอดเกร็ด
ตัดหัวปาดท้องซะ แล้วเอาไปทอดกรอบ ราดน้ำปลา หรือซีอิ๊ว สักหน่อย
อร่อยมากเชียวนะ ชาวประมงเขาเอามาทำปลาพล่า หรือทำปลาแดดเดียว
กัน บางทีก็ใช้ต้มหวาน ก็ต้มน้ำปลาน้ำตาลและค่อยๆๆเคี่ยวจนงวดนั่นแหละ
สมัยเราเด็กๆๆ เราก็จะเห็นแม่เราเอาปลากุแรมาหั่นฝอย ทำเป็นปลาฮื่อแซ
ก็คล้ายๆๆสลัดนั่นแหละ แต่ผักที่ใช้เช่นผักบุ้ง ผักขึ้นใช่ นั้นเขาจะกรีดเป็น
เส้นๆๆน่ะ ใส่ได้อีกหลายผักนะ แล้วก็เอาปลากุแรหั่นฝอยวางบนผัก จาก
น้้นก็ราดด้วยน้ำปรุงรสที่ทำเอง จากน้ำมะขาม น้ำตาล น้ำปลา เคี่ยวแล้ว
ใส่ถั่วป่นลงไปคลุกเคล้าเท่านี้ก็ได้ ฮื่อแซ กินกันแล้ว เอ้าไหนๆก็บอก
การนำมาทำอาหารแล้ว จะบอกอาหารสุดยอดจากปลากุแรอีกสักอย่างก็
แล้วกันนะ ปลากุแรพล่าไง เราน่ะเห็นมาตั้งแต่จำความได้แล้วว่าบ้านเรา
จะต้องทำปลากุแรพล่าทุกวันเพราะ มันเป็นอาหารจานเดียวที่ได้เข้าไปต้้ง
โชว์อยู่กลางวงเหล้าของพ่อน่ะ วิธีการทำก็ไม่ยาก ก็เอาปลากุแรน่ะขอด
เกร็ดตัดหัวปาดท้องทิ้ง แล้วแร่ออกไปเป็นสองชิ้น ก้างกลางเอาชุบน้ำปลา
น้ำตาลตากแดดเป็นปลาหวานซะ จากนั้นก็หั่นเนื้อปลาออกเป็นท่้อนๆๆ
ประมาณท่อนละหนึ่งหรือสองเซ็นติเมตร ใช้หัวกะเทียมตำรวมกับพริกขี้หนู
พอหยาบๆๆนะ ตักใส่บนปลา จากนั้นก็ซอยตะใคร้ หัวหอมแดง ใส่ลงไป
คลุกเคล้าให้ทั่ว ใส่น้ำปลา น้ำตาลแค่ปลายช้อย บีบมะนาวลงไปจะเปรี้ยว
มากน้อยแล้วแต่ชอบคลุกเคล้าให้เข้ากันดี จากนั้นก็โรยด้วยใบสะระแหน่
เสร็จแล้ว ปลากุแรพล่า น้ำลายสอเชียวนะเธอ ฮ่าๆๆๆๆๆ เอ้าใจดีบอก
ปลากุแรจิ้มให้อีกอย่าง ขอบอกก่อนว่าซาซิมิญี่ปุ่นน่ะชิดซ้ายเลยนะ เอ้า
ลองทำดู เอาปลากุแรสดมาตัดหัวปาดท้อง จากนั้นก็แร่ปลาออกอย่าให้
สันหลังขาดจากกันนะ เอาก้างกลางออกซะ แล้วจัดการถลกหนังที่ยังมี
เกร็ดมาติดอยู่ออกทิ้งไป เราก็จะได้ปลากุแรลอกหนัง สองชิ้น ล้างให้
สะอาดแล้ววางผึ่งลงในจากที่มีชามเปล่าคว่ำอยู่ตรงกลางโป๊ะน้ำแข็งโม่
สักหน่อยให้เย็นชื่นใจ จากนั้น ก็ เอากระเทียม พริกขี้หนู เกลือเล็กน้อย
โขลกรวมกันหยาบหรือละเอียดแล้วแต่ชอบนะ ตักใส่ถ้วยบีบด้วยมะนาว
หรือถ้าไม่มีมะนาวก็ใช้น้ำส้มสายชูก็ได้ เสร็จแล้วน้ำจิ้มปลากุแรดิบ เอ้า
เอาตะเกียบคีบปลาลงจิ้มน้ำจิ้มแล้วใส่ปากเคี้ยวได้เลย สุดยอดดดดไม๊ล่ะ
อร่อยกว่า ซาซิมิ ซะอีก หากินยากด้วยนา ต้องทำกินเอง อ้อ...อย่าลืม
ดื่มสักก๊งสองก๊งก็ช่วยส่งเสริมความอร่อยได้อีกหน่อยนะ ฮ่าๆๆๆๆ เมาแล้ว
อย่าลืมร้องเพลงพรานทะเลล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ เอ้าเอาเนื้อไปร้องเล่นกันนะ

ชีวิตที่คร่ำกลางน้ำเวียนวน
ลอยล่องกลางชลไม่พ้นทำไป
อยู่กับเรือเบื่อใจ ผองพรานทะเลเร่ไป
อยู่ห่างไกลกลางสายชล

มองน้ำตรงหน้าจรดฟ้าไกลๆ
ว้าเหว่ดวงใจไม่เห็นผู้คน
คลื่นและลมสู้ทน ทุกข์ใจปานใดไม่บ่น
สู้แดดฝนลำบากกาย

อยู่หว่างทะเลนานนาน
ท้องเรือเป็นบ้านท้องธารเรือนตาย
สิ้นชีพสิ้นชนม์เคราะห์ร้าย ศพฝังโดยง่าย
ฝากเอาไว้ใต้คงคา

เพียงเห็นริมฝั่งสักครั้งดีใจ
มาบกทีไรให้แสนปรีดา
ใกล้แผ่นดินเข้ามา เหมือนมีวิมานตรงหน้า
ปลิ้มหนักหนา แทบจูบดิน




วิธีทำปลากุแร ก็เอามีดไม่ต้องใหญ่หรอกแค่มีดเล็กก็พอ
ขอดเกร็ดปลาออกให้หมดแล้วก็ตัดหัวปาดท้องทิ้ง จากนั้นก็แล้วแต่จะ
เอาไปทำอะไรละ เอาไปทอดก็บั้งสักหน่อย เอาไปทำปลาพล่าปลาดิบ
ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้น เอาไปย่างก็ไม่ต้องขอดเกร็ดนะ แค่ตัดหัวปาด
ท้องก็พอ ย่างไฟรุมๆๆนะอย่าไฟแรง เพราะปลากุแรน่ะ เขามีสโลแกน
ส่วนตัวว่า "เห็นฟ้าก็ตาย เห็นไฟก็สุก" ดังนั้นก็รู้แล้วซินะว่าคุณจะไม่มี
โอกาสได้เห็นปลากุแรดิ้นแน่นอน นอกจากคุณจะต้องไปจับมันเองเท่านั้น
ปลากุแรนอกจากจะทำปลาพล่า ปลาดิบ ทอด ย่าง ทำปลาหวานแล้ว
กุแรยังสามารถเอามาแกงเผ็ด หรือแกงป่าได้อร่อยพอๆๆกับปลาเห็ดโคน
ทีเดียวแหละนะ







❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖ ❖



Create Date : 03 พฤษภาคม 2554
Last Update : 7 มีนาคม 2558 20:32:10 น.
Counter : 5217 Pageviews.

1 comments
  
ปลากูแร
โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:04:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ