ห่างหายจากการทำฮาวทูแบบภาพไปนานมากกกก อาจจะเพราะแบบคลิป
สะดวกกว่าด้วย แต่ยังไงแบบภาพก็คลาสสิคกว่าอยู่ดี >.<
ลุคที่เลือกมาเป็นแรงบันดาลใจคือจากละครเรื่อง"บ่วง"
ที่ย้อนไปในยุคเก่า แนวการแต่งหน้าสมันนั้นถ้าไม่หวานอ่อนช้อย
ก็แรงจัดจ้านไปเลย เช่เลือกเอาจัดจ้านมาดีกว่า เบื่อแนวหวานๆงิ๋มๆ

สปอนเซอร์ครั้งนี้จาก //www.princessofnaturals.com
ที่ให้ตัว LaurEss PURE Mineral Cosmetics หรือ MMU นั่นเอง
พอได้รู้ธีมยังหนักใจอยู่ เพราะลุคนี้ต้องปกปิดและเข้มสุดยอด
ตอนแรกยังแอบหวั่นๆว่าMMUจะทำได้เหรอ!!!!!

แต่สาบานเถอะว่า รูปBefore&After ใช้MMUทั้งสิ้น โอ้แม่เจ้าตอนแรก
เห็นภาพยังแทบไม่เชื่อ มันเนียนและนวลมาก กลัวจะคิดว่าแต่งและรีทัช
แต่จริงๆแล้วใช้4ตัวด้านบนนั้นจริงๆ สุดยอดมากๆแทบไม่ต้องใช้รองพื้นเลย

ขั้นตอนแรก : เช่เลือกใช้รองพื้นสีPure Gold เข้มสุดอยู่ในโทนเหลือง
เพราะผิวต้องคมเข้มนิดนึง แต่ไม่ถึงกับผิวแทน เอาให้พอถ่ายรูป
แล้วดูพอดีกับผิวเป็นพอ เลือกใช้คู่กับFlat Top ทำให้ปกปิดดีมากขึ้น
เพราะขนแปรงแน่นและนุ่มมากมาย ปลื้มแปรงตัวนี้สุดๆ

ขั้นตอนสอง : ใช้แปรงแต้มผงคอนซิลเลอร์ ทาบริเวณใต้ตา เพราะช่วงนี้
ใต้ตาแดงและคล้ำมาก สีmmuค่อนข้างขาวกลัวจะวอก เลยทาไม่มาก
เน้นรองพื้นบริเวณที่ต้องการจะปกปิดอีกที จากนั้นตามด้วยแป้ง โดยใช้
คาบุกิปัด ช่วยกระจายเนื้อแป้งได้ดี  

ขั้นตอนสาม : ใช้แปรงหัวตัด หรือใครมีแปรงที่จะเอาไว้เฉดดิ้งอยู่แล้ว
ก็ใช้แบบนั้นไป เช่เลือกใช้เนื้อรองพื้น แต่เป็นสีPure Bronze มาใช้แทน
เพราะสีนี้ออกอันเดอร์โทนชมพู เช่ผิวเหลืองเวลาใช้สีเข้มที่สุดของโทนเหลือง
ก็ยังเนียนกับผิว แต่พอใช้เข้มสุดของโทนชมพูหน้ากลับหมองคล้ำ--''
ก็เลยเปลี่ยนมาใช้เป็นเฉดดิ้งแทน ปรากฏว่าเข้าท่าเหมือนกัน >.<

มาถึงขั้นตอนของดวงตา เลือกโทนสีดำที่ไม่วิ๊งมาก
1.เขียนคิ้วโทนสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เช่เลือกเขียนตามแนวคิ้วแบบเดิม
2.ใช้Pencil Eyeshadow สีเทาแบบแมต วาดช่วงแนวหางตา
จากนั้นเกลี่ยให้ทั่วเปลือกตาด้วยนิ้ว ให้สีเบลนกระจายสม่ำเสมอ

3.เลือกใช้แปรง Defining Angle Brush หัวแปรงจะตัดนิดนึง
แต้มอายแชโดว์สีดำด้าน หรือวิ๊งเล็กน้อย คัดบริเวณเบ้าตา
4.จากนั้นใช้แปรงหัวแหลม Soft or Smoky Eye brush
แต้มอายแชโดว์สีเดิมเกลี่ยบริเวณใต้หางตาดังภาพ

5.เน้นการเขียนอินเนอร์ทั้งขอบตาบนและล่าง ตามแนวขอบตา
แล้วค่อยเขียนด้านบนตามรูปตาเหมือนเดิม
6.ดัดขนตาปัดมาสคาร่าและติดขนตาปลอม เช่ไม่เน้นขนตาปลอม
ที่ยาวเป็นแพลืมตาทีแทบจะทิ่มคิ้ว แต่เน้นหนาแบบธรรมชาติ
เลือกแบบขนตาปลอมธรรมชาติ ไม่ยาวมากมาซ้อนกัน จะดูหวานมากกว่า

ขั้นตอนทาลิปสำคัญไม่แพ้การเตรียมผิว ถ้าสังเกตุคนสมัยก่อน
เค้าจะนิยมใช้แบบดินสอเขียนขอบปากก่อน มันช่วยให้ขอบปาก
คมและเป็นแนวเส้นมากกว่าการใช้ลิปทาจากแท่ง เช่เลือกใช้สีแดง
ที่ใกล้เคียงกับลิปสีม่วงพลัมลงก่อน

ที่จริงอยากได้ลิปที่เข้มๆเหมือนสีเลืดหมู แต่หาไม่ได้TT
เลยใช้ผสมกันเนี่ยแหล่ะ ลิปสีVolga แบบแมตของNarsทายากมาก
ทาเดี่ยวๆจากแท่งไม่ได้เพราะมันจะติดเป็นสีดำๆ เลยต้องใช้แปรงขยี้
เนื้อลิปก่อนทา พอผสมกันแล้วกลายเป็นสีแดงที่เข้มมากกว่าเดิม

จบแล้วววว ภาพBefore&Afterอีกสักรอบ ชัดเจนมากเรื่องการปกปิด
พอถ่ายภาพออกมาเรียบเนียนเหมือนทารองพื้น แต่มันคงไม่ติดทนเท่า
รองพื้นแบบเนื้อครีม ซึ่งตรงนี้เป็นข้อเสีย แต่ข้อดีก็มีเช่น ไม่อุดตัน
เบาสบายผิวมากๆ เวลาเป็นสิวก็ใช้mmuเป็นตัวช่วยทุกทีถ้าจะแต่งหน้า
............................................................................
ลุคอยากได้แบบแพง แต่คงไม่ไหวอินเนอร์เราไม่มีขนาดนั้น TT
เอาตามสไตล์เช่ไปก่อนก็แล้วกัน >.<

หลายคงอาจจะลืมดูไปว่าเช่ไม่ปัดแก้ม เช่ใช้ตัวเฉดดิ้งปัดแทน
เพราะถ้าปัดสีชมพูหรือแดงดูเยอะเกินไป ควรปัดโทนน้ำตาลหรือเบจจะดีกว่า
จบแล้วค่ะสำหรับลุคที่แบบสาวย้อนยุค ที่จริงอยากทำผมแบบม้วนขดๆ
แต่ไม่ไหวทำเองไม่ได้ TT รวบตึงไปก่อนละกัน วันนี้ไปแล้ว
ราวหน้าจะมาลุคไหนยังไง ลองติดตามดูละกันนะคะ Bye........

Create Date : 04 มิถุนายน 2555
Last Update : 21 กรกฎาคม 2556 21:31:49 น.		13 comments
Counter : 4717 Pageviews.
Share Tweet