All Blog
เดือนที่ 4 (15 พฤศจิกายน - 14 ธันวาคม 2551)
เดือนที่ 4 (15 พฤศจิกายน - 14 ธันวาคม 2551)



Create Date : 26 พฤษภาคม 2552
Last Update : 27 กรกฎาคม 2552 10:39:46 น.
Counter : 387 Pageviews.

1 comment
เดือนที่ 3 (15 ตุลาคม - 14 พฤศจิกายน 2551)
เดือนที่ 3 (15 ตุลาคม - 14 พฤศจิกายน 2551)



Create Date : 26 พฤษภาคม 2552
Last Update : 27 กรกฎาคม 2552 10:38:42 น.
Counter : 399 Pageviews.

2 comment
เดือนที่ 2 (15 กันยายน - 14 ตุลาคม 2551)
เดือนที่ 2 (15 กันยายน - 14 ตุลาคม 2551)

น้องคิดแต่งตัวเตรียมไปหาหมอครับ



ชั่งน้ำหนักได้ 4,995 กรัม ขาดอีกนิดเดียวก็ 5 กิโลแล้วครับ หมอบอกว่าทำน้ำหนักได้ดีมาก ส่วนสูงก็เยี่ยม 57 ซม. ครับ ถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ เป็นเพราะผมกินเก่งและชอบออกกำลังกายโดยการถีบขาครับ








Create Date : 20 พฤษภาคม 2552
Last Update : 27 กรกฎาคม 2552 10:38:09 น.
Counter : 450 Pageviews.

0 comment
เดือนที่ 1 (15 สิงหาคม - 14 กันยายน 2551)
คุยกันก่อน ...

วันนี้ (เริ่มเขียน 11 พฤษภาคม 2552) ตั้งใจมาอั๊บบล๊อกค่ะ ไม่ได้เขียนมานานมากกกกก จนจำวิธีเข้าเกือบไม่ได้แน่ะ ช่วงแรก ๆ ยุ่งจริง ๆ และคิดว่าน่าจะจำความรู้สึกเหล่านั้นได้ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ มันเลือนลางมากค่ะ ความเหนื่อยกายเหนื่อยใจ (เพราะเกร็งกับการเลี้ยงลูกคนแรก) มันหายไปหมด เวลาเห็นรอยยิ้มของน้องคิด เลยทำให้ไม่ค่อยมีรายละเอียดมากนัก อาจจะมีแค่คำบรรยายใต้ภาพเท่าที่จำได้ ส่วนใหญ่จะเป็นการแซวลูกมากกว่าค่ะ แต่คาดว่าเดือนที่ 9 เป็นต้นไป คงจะได้เกาะติดสถานการณ์กันแล้วหละ เพราะน้องคิดเริ่มกินนอนเป็นเวลามากขึ้น

เดือนที่ 1 (15 สิงหาคม - 14 กันยายน 2551)

ช่วงเดือนแรก ต้องจดรายละเอียดกิจกรรมทุกอย่างลงในกระดาษเลยค่ะ ไม่ได้กระแดะนะคะ แต่เพราะว่ามันจำไม่ได้จริง ๆ เลี้ยงลูกทุกวัน กิน อึ ฉี่ นอน แม่ปั๊มนม วน ๆ ไป วน ๆ มา มันนึกไม่ออกค่ะ ป้อนนมแม่เท่าไหร่ ป้อนนมชงเท่าไหร่ จดหมดค่ะ

กินอาหารเยอะมาก กินจนเหนื่อยเลยค่ะ ต้องกินกระเพาะปลาสดตุ๋นเกือบทุกวันเลย เป็นอาหารเรียกน้ำนมอย่างนึงค่ะ พวกแกงเลียงเอย ไก่ผัดขิง ฯลฯ กินไปกินมา ไม่ไหวค่ะ ... ขอเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นบ้าง

เดือนแรก น้องคิดหน้าตาเฉย ๆ ซึม ๆ ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยลืมตาเลยค่ะ ตาตี่ ๆ จมูกบาน ๆ หน้าลอก ๆ เค้าว่ากันว่าเด็กเดือนนี้ยังมองไม่เห็นอะไร เห็นแต่เป็นขาว ๆ หรือดำ ๆ

เอาเป็นว่ามาดูรูปกันก่อนดีกว่าค่ะ


































Create Date : 22 เมษายน 2552
Last Update : 27 กรกฎาคม 2552 10:37:27 น.
Counter : 492 Pageviews.

1 comment
ลูกคิดมารายงานตัวแล้วค้าบบบบบบบบบ...ผม
สวัสดีครับ พี่ ป้า น้า อา ที่เคารพทุกท่าน

ในที่สุดลูกคิดลืมตาก็ออกมาดูโลกแล้วครับ เมื่อวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2551 เวลา 01.26 น. ด้วยน้ำหนักขึ้นชก 3,360 กรัม ส่วนสูง 53 ซม. ครับ

กระทู้สุดท้ายที่ลูกคิดทิ้งท้ายไว้ว่า "ลูกคิดมีเรื่องตื่นเต้นมาเล่าให้ฟัง" มาม๊ามาอัพเดตเพิ่มเติมตอนสองทุ่ม (ยังมีกะใจจะเล่นคอมพ์อีกเนอะ) พอปิดเครื่องเสร็จ ก็อาบน้ำเข้านอนครับ

พอสามทุ่มมาม๊าก็เริ่มปวดท้องมากขึ้น จากชั่วโมงละครั้งเป็นทุกครึ่งชั่วโมง และพอสี่ทุ่มก็เริ่มปวดเป็นทุกสิบนาที (ยังไม่รู้ตัวว่านี่คืออาการปวดท้องคลอด) นอนไปนอนมา มีเสียงดัง "โพละ" ในท้อง ก็ยังสงสัยว่าเสียงอะไร ซักพักเหมือนมีเลือดออก ก็รีบไปห้องน้ำ เพราะรู้สึกเหมือนจะปวดชิ๊งฉ่อง แต่ทำไมมันเยอะจัง ปรากฏว่ามันเป็นน้ำเดินครับ มาม๊าก็ยังใจเย็น อาบน้ำสระผม (เพราะได้ยินว่าคลอดแล้วห้ามสระผม โชคดีนะที่ตัดผมสั้นเลยหละ)

ไปถึงโรงพยาบาลพญาไท 3 ตอนห้าทุ่มนิด ๆ มีหมอเวรมาดูอาการ ตรวจภายในแล้วก็แจ้งไปยังลุงหมอชาญชัยที่ฝากท้อง ได้ความว่า ปากมดลูกยังไม่เปิด แต่น้ำเดินแล้ว ถ้ารอให้คลอดเองคงจะอันตราย เตรียมตัวผ่าดีกว่ามั้ย "ตกลงค่ะ" ลุงหมอบอกว่างั้นเดี๋ยวเจอกัน

ตกลงว่าก็ผ่าเสร็จ น้องออกมาตอน 01.26 น. ด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปิติของมาม๊าออย ตอนที่ได้เห็นหน้าลูกน้ำตาที่ไหนไม่รู้มันไหลออกมาเองเนอะ คนที่เป็นแม่ ๆ แล้วทุกคนในห้องนี้คงรู้ดี ออยเห็นหน้าลูกแล้วมั่นใจว่าลูกชั้นแน่นอน เพราะว่าจมูกเหมือนกันเด๊ะเลย (แบบว่าบานอ่ะ) "สำเนาถูกต้อง"

รูปนี้เป็นรูปแรกเกิดครับ ยังไม่ลืมตา



ผมต้องใส่หมวกไว้หนึ่งวันเพื่อปรับอุณหภูมิครับ ตัวผมไม่เหลืองเลยไม่ต้องเข้าตู้อบ

ผมน่าจะได้เจอกับมาม๊าตั้งแต่สาย ๆ แล้ว แต่ว่าเกิดการผิดพลาดเล็กน้อยเพราะตอนสาย ๆ พยาบาลห้องเนิสเซอรี่โทรมา ปาป๊ารับสาย พยาบาลโทรมาบอกว่าน้องหิว ขออนุญาตให้นมนะ ปาป๊าก็หันมาถามมาม๊า มาม๊าก็นึกว่าจะเอาน้องมาให้นมก็เลยบอกไปว่าโอเค ปรากฏว่า เป็นการให้นมผง เฮ้อ อดดูดนมมาม๊าเลย กว่าจะได้เจอกันก็ตอนเย็นครับ พยาบาลพามาให้ดูดกระตุ้น มาม๊ายังมีสายน้ำเกลืออยู่ ยังอุ้มให้นมไม่สะดวก

ไว้มาต่อนะครับ

(มาต่อวันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน 2552 น้องคิดอายุ 8 เดือน 7 วันแล้วครับ อาจจะเล่าไม่ละเอียดเพราะเวลาก็ล่วงเลยมาหลายเดือน แต่เชื่อเถอะว่าความรู้สึกยังคงอยู่เลย หลับตานึกภาพได้เป็นฉาก ๆ)



ปรากฏว่ามีน้ำนมไหลออกมาด้วยครับ เป็นหยด ๆ พยาบาลยังบอกว่าน้ำนมแม่มาเร็วนะเนี่ย คืนนี้สงสัยจะคัดแน่ ๆ เลย ผมก็ดูดนมมาม๊าใหญ่เลยครับ ผมดูตัวเล็กมาก ๆ เมื่อเทียบกับมาม๊า พอดูดกันไปได้ซักครึ่งชั่วโมงพยาบาลก็พาผมกลับไปที่ห้องเนิสเซอรี่ครับ มาม๊าอยากให้ผมอยู่ด้วย แต่ปาป๊าอยากให้มาม๊าพักผ่อนเพราะเพิ่งผ่าตัดเสร็จ ผมก็เลยอดเลยครับ

คืนนั้นเอง นมก็คัด และได้ขอเครื่องปั๊มนมจากพยาบาลมาปั๊ม แต่ ... ใช้ไม่เป็นอ่ะ ปั๊มไปข้างละ 15 นาทีแน่ะ (ที่จริงควรจะให้เด็กดูดกระตุ้นมากกว่า หรือถ้าปั๊มก็ควรจะประคบร้อนและใช้มือนวดเต้านมให้นิ่มก่อนปั๊ม)

วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2551 (อายุ 2 วัน)

วันนี้ตอนเช็ดตัวช่วงเช้ามีพยาบาลที่เคยมีลูกมาช่วยนวดเต้านมให้ด้วย พี่เค้าใจดีมาก ๆ เค้าบอกว่าต้องอดทนนะ ... อืม เจ็บมากเลยหละ แต่พอพี่เค้านวดเสร็จก็ดีขึ้น แถมยังช่วยเบิกกระเป๋าร้อนไฟฟ้ามาให้ด้วย ใจดีจริง ๆ

มาม๊าเริ่มปวดแผลผ่าตัด เพราะยาหมดฤทธิ์ไปแล้ว เลยต้องกินยาแก้ปวดทุก 4 ชั่วโมง ไม่งั้นไม่ไหว พยาบาลและหมอบอกว่ากินได้ ไม่มีผลกับน้ำนม เวลานอนกลิ้งไปกลิ้งมา (หมอบอกให้ขยับตัวบ่อย ๆ แผลจะได้ไม่ยึด) มันมีอาการคล้าย ๆ มีลูกบอลกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในท้องของเรา ลุงหมอชาญชัยเรียกว่า “มดลูกกลิ้ง”

วันนี้เดินไปให้นมน้องคิดที่ห้องเนิสเซอรี่เองเลย ไปทุก ๆ 4 ชั่วโมง ค่อย ๆ เดินไป เจ็บนิดหน่อยแต่ทนได้ แผลจะได้ไม่ยึดอย่างที่หมอบอกไว้

น้องคิดหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนของมาม๊า ไม่มีที่ท่าว่าจะตื่นเลย ต้องแกล้ง...เอามือเขี่ยแก้มบ้าง คลายผ้าห่อตัวบ้าง เพื่อให้น้องคิดดูดนม ปรากฏว่าดูดไปข้างละเกือบครึ่งชั่วโมง ... ก็เริ่มเจ็บหัวนมข้างซ้าย ... อดทนหน่อยเพื่อลูก

วันนี้มีสาธิตอาบน้ำให้ลูกด้วย

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2551 (อายุ 3 วัน)



วันนี้หัวนมข้างซ้ายแตกมีเลือดไหลซิบ ๆ พยาบาลเลยบอกให้งดให้ดูดข้างซ้ายประมาณ 2 มื้อ แล้วให้เอาน้ำนมทาหัวนมบ่อย ๆ น้องคิดเลยได้ดูดแต่ข้างขวา ดูดไปหลับไป เด็กหนอเด็ก

อ้อ วันนี้ได้ฝึกอาบน้ำให้น้องคิดด้วยหละ ตื่นเต้นมากเลย ปวดข้อมือขวาอยู่ด้วย ตอนแรกจะให้ยายของน้องคิดอาบให้ แต่ยายบอกว่าฝึกอาบเองสิ มีพยาบาลคอยช่วยอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวหรอก น้องคิดน่ารักมาก ร้องไห้แป๊บเดียวก็หยุด ผิดกับเด็กที่อยู่ข้าง ๆ ร้องดังและนานมากกกกกกกก แต่ตอนนั้นเราไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เพราะจดจ่ออยู่กับน้องคิด กลัวทำน้องหลุดมือ

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม 2551

วันนี้จะกลับบ้าน (ตรอกจันทร์) แล้วสินะ ต้องรอลุงหมอมาตรวจแผลก่อนถึงจะกลับบ้านได้ ระหว่างนั้นก็ไปให้น้องดูดนม ปรากฏว่าหัวนมข้างขวาก็แตกตามมาติด ๆ เฮ้อ เจ็บจัง พยาบาลเลยขอให้งดทั้งสองข้าง แล้วให้น้องคิดกินนมผงไปก่อน (ทำไมไม่แนะนำให้ปั๊มนมเนอะ ... ได้น้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย )

กว่าจะกลับถึงบ้านก็บ่ายสี่โมงแล้ว นั่งได้แป๊บเดียว น้องคิดก็เริ่มกระสับกระส่าย และร้องไห้ ... คงจะหิว เราก็เริ่มร้องไห้ แข่งกับลูก ทำไงดีหละเนี่ย อ้าว ชงนมสินะ แล้วก็เอาไซริงก์ป้อน เอ้า ป้อนก็ป้อน...ทั้งน้ำตานี่แหละ (ลูกกินน้ำตาเราไปหลายหยดเหมือนกันนะ คงสงสัยว่าทำไมวันนี้นมมันเค็ม ๆ อิอิ) ทำไงหว่า ไม่เคยป้อนด้วยไซริงก์อ่ะ อยู่ รพ. ก็ให้ดูดเต้า แต่นี่พยาบาลบอกให้งดเพราะไม่งั้นแผลติดเชื้อจะเป็นอันตรายกับลูกถ้าดูดเชื้อเข้าไป

ทีนี้ไม่รู้อีกว่าลูกกินนมกี่ออนซ์ เลยต้องโทรไปถามพยาบาล เค้าบอกว่า 2 ออนซ์ เอ้า 2 ก็ 2 ... กว่าจะป้อนหมดก็เกือบชั่วโมง เอ แล้วคืนนี้น้องจะนอนยังไงหว่า ทำไม่เป็นอ่ะ ไม่เคยกล่อมลูกนอน ... เฮ้อ



ลืมเล่าไปว่าเราสองคน (มาม๊าออยและน้องคิด) จะต้องมาอยู่ที่บ้านตรอกจันทร์ (บ้านอั่วม่าหรือยาย) เพราะอาม่าหรือย่าอายุมากแล้ว แล้วก็ผ่าตัดปอดมาด้วย ไม่ค่อยแข็งแรง คงจะช่วยดูแลน้องคิดไม่ไหว และปาป๊าก็กำลังจะกลับบ้าน ... เฮ้อ เราจะผ่านคืนนี้ไปได้อย่างไรเนี่ย ดูมันเคว้งคว้างโหวงเหวงจังเลยนะ

คืนนั้นทั้งคืนไม่ได้นอนเลย เพราะลูกกินนมเกือบตลอดเวลา กว่าจะป้อนหมดก็เกือบชั่วโมง นอนได้แป๊บนึงก็ร้องไห้อีกแล้ว คิดว่าหิวก็ชงนมป้อนใหม่ (ที่จริงอาจจะไม่ได้หิวก็ได้นะ ... )

เวลาแต่ละวันผ่านไปช้ามาก เพราะลูกดูดนมแล้วเจ็บหัวนมจนน้ำตาไหล ปากก็คอยบอกลูกว่า “อ้าปากกว้าง ๆ นะลูก” มือก็คอยดันหัวนมให้เข้าปากลูกให้ลึกที่สุด ก็อดทนให้ลูกดูดทั้ง ๆ ที่เจ็บและเลือดเริ่มไหลซิบ ๆ เพราะทั้งแม่แฟนและแม่เราบอกว่าใคร ๆ ก็เจ็บต้องอดทน....ดูดได้ห้าหรือสิบนาทีก็ต้องหยุดและลูกเริ่มร้องเพราะไม่อิ่ม ก็ต้องผสมนมผงให้ลูกกิน กว่าจะป้อนด้วยไซริงหมดสองออนซ์ก็หมดไปเกือบชั่วโมงเพราะลูกกินไปหลับไป ยังไม่ถึงสองชั่วโมงร้องอีกแล้ว (ตอนนั้นไม่รู้ว่าอาจจะร้องเพราะปวดฉี่ ไม่สบายตัว อึดอัด ปวดอึ ฯลฯ) นึกว่าหิวนมก็ป้อนอีก นอนแป๊บ ๆ ก็ตื่น

กว่าจะมารู้ทีหลังคือว่า ถ้าป้อนนมบ่อย ๆ ยิ่งถ้าเป็นนมผงจะย่อยยากกว่านมแม่ (กินนมแม่แล้วจะอึบ่อยกว่ากินนมผง) กระเพาะน้องไม่ได้พัก ต้องทำงานตลอดเวลาทำให้เค้าอึดอัดค่ะ จะนอนก็ไม่ได้นอนอย่างสบาย

ช่วงสองอาทิตย์แรก อั่วม่าช่วยอาบน้ำให้น้องคิด เพราะว่าแผลมาม๊ายังไม่หายดีและเจ็บข้อมือด้วย แต่พอเข้าอาทิตย์ที่สาม อั่วม่ามีธุระต้องไปขอนแก่นหลายวัน มาม๊าก็สามารถอาบน้ำให้คิดได้ด้วยตัวเอง







Create Date : 25 กันยายน 2551
Last Update : 23 เมษายน 2552 0:02:03 น.
Counter : 569 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  

คุณรักผมและผมรักคุณ
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]