== ดีใจที่ยังไม่รวย(มาก) ==

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา 5/6/2013 มีข่าวใหญ่ของคนใกล้ชิด(พ่อของเพื่อนสมัยมัธยมนะ) ที่มีเหตุการณ์ฆ่ากันตายบนธนาคาร ระหว่างเจ้าหนี้(นอกระบบ) กับ ลูกหนี้ผู้หมดสิ้นหนทางในชีวิต

ข่าวว่ากันว่า คนกู้เอาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปขายฝากไว้ ราคาประเมินน่าจะอยู่ที่สัก 50 ล้าน แต่ขายฝากแบบนี้คงได้เงินไปแค่ไม่เกิน 60% ของราคาประเมิน ลูกหนี้จบวิศวะ แกลงมือสร้างอพาร์ทเม้นบนที่ดินของพ่อแม่ด้วยตนเอง จนใกล้เสร็จแล้ว แต่ในที่สุดก็หลุดสัญญาจนได้ ขอประนีประนอมหนี้หลายหนแล้วยังตกลงกันไม่ได้ ตอนแรกเข้าใจว่า ดอกเบี้ยที่คิด 2% กว่าๆ คือดอกทั้งหมดแล้ว 20-30 ล้านดอกเยอะนะ แต่เอาเข้าจริง พี่ๆ บอกว่า 2% กว่าเนี่ย ต่อเดือนนะยะหล่อน ไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าไม่จ่ายก็ทบต้นเข้าไปอีก รวมๆ ถ้าปีนึงก็ปาไป 30% เห็นจะได้ เจ้าหนี้โหดน่าดู แต่ต้องเข้าใจว่า เป็นเงินร้อน แล้วลูกหนี้ไม่มีปัญญาไปกู้แบงค์แล้ว ดังนั้นโอกาสได้มันเยอะ จากประสบการณ์ที่คุยกับผู้ใหญ่ การขายฝากอย่างนี้ค่อนข้างอันตรายถ้าเจอคนที่ไม่ดีจริงๆ ถ้าวันที่ครบกำหนดสัญญาบางที ถ้าเค้าอยากได้ที่ดินหรือสินทรัพย์ของเราจริงๆ เค้าจะตุกติกไม่ให้เข้าพบบ้าง หนีไป ตจว. บ้าง ติดต่อไม่ได้บ้าง เพื่อเค้าจะได้ยึดทรัพย์ของเราไปเป็นของเค้าได้ทันที เพราะสัญญาก็ระบุไว้ชัดเจน และ เงินที่เค้าให้เรายืมนั้นก็ต่ำกว่าราคาประเมินค่อนข้างมากอยู่แล้ว มีแต่ได้กับได้

แวดวงนี้ คนรวยๆ ส่วนใหญ่มักจะทำธุรกิจแบบนี้กัน ทำกันเป็นทีม มีหลายหุ้นเลยทีเดียว บางคนตุกติกบ่อยๆ ขาดสัญญาแล้วยึดๆ ไม่มีการประนีประนอม ปัจจุบันจ้างบอดีการ์ด อดีตทหารมาคอยคุ้มกัน เพราะศัตรูเยอะกลัวว่าลูกหนี้เก่าๆ จะมาล้างแค้นเอา รวยนะ แต่ต้องหวาดระแวงตลอดเวลา อะไรกันเนี่ย จะรวยไปทำไม

พ่อแม่เราเลยสอนว่า เวลาต้อนคนที่ไม่มีทางสู้กับเรา(ในกรณีที่เรามีอำนาจมากกว่าเค้า) เราอย่าต้อนให้เค้าจนมุมเหมือนหมาจนตรอก เราต้องเผื่อพื้นที่ให้เค้าหายใจบ้าง ให้เค้ามีทางออกที่เป็นประโยชน์ทั้งของเราและของเค้าด้วย เคยสังเกตุใช่มั้ย หมาจนตรอกมันกัดไม่เลือก เพื่อตัวเองจะได้อยู่รอด แล้วสู้แบบไม่คิดชีวิตด้วยแรงแค้น ไอ้คำว่า บันดาลโทสะเนี่ย ทำคนตายมานักต่อนักแล้ว ต้องมีสติ และไม่โลภดีที่สุด

เจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำเอาเราพวกที่อยากรวยเร็วๆ (ฮ่าๆๆ) ในสมัยก่อน บ่นตลอดเมื่อไหร่จะรวยๆ เจอแบบนี้เข้าไปอึ้งเลย เข้าใจแล้วว่าเงินไม่ใช่คำตอบของทุกอย่างหรอก เรามีกินมีใช้ก็พอเพียงแล้ว ได้กินครบทุกมื้อ (บางมื้อมีแพงบ้าง) มีที่ซุกหัวนอน พอมีเงินเก็บเพื่อใช้รักษาโรค และท่องเที่ยว ได้ทำงานที่ตัวเองชอบ มีคนดีๆ ที่ไม่ได้คบเราเพื่อหวังผลประโยชน์อยู่รอบๆ ตัว แม่งง มันเท่ห์มากเลยนะ ชีวิตแบบนี้ ตื่นเช้ามาได้ออกกำลังกาย อีกต่างหาก จะเอาอะไรมากมายกับชีวิตนัก ถ้าหยุดอยาก ก็พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ มันก็สุขใจ ปวดหัวกับการกังวลว่าเมื่อไหร่เราจะรวย เฮ้อ

เจอหุ้นตกมาหลายวัน กลับไปอ่านเว็บบอร์ดหลายแห่ง บางคนเนี่ย ..เครียดยังกับว่าบริษัทที่ถือหุ้นมันจะเจ๊ง ถล่มทลาย หรือ บางวันหุ้นที่ตัวเองถืออยู่กระโดดขึ้นนิดหน่อย ก็ดีใจตื่นเต้นมากมาย พอตกก็หดหู่ อยากจะคัทลอส เฮ้อ.. เมื่อก่อนเราก็เป็นแบบนั้น คัทโน่น คัทนี่ คิดว่าหนีออกจากตลาดก่อนจะเจ๋งมาก แต่พอเอาเข้าจริง คนที่อดทนกว่า มักจะได้ผลตอบแทนอย่างงดงามจริงๆ ตอนนี้นั่งดูมันตกทุกวัน อยากรู้ว่าจะตกไปถึงเมื่อไหร่ เราจะอดทนได้มากน้อยแค่ไหน ขัดใจอ่ะ วันศุกร์ดันเขียวซะงั้น

ปล. หุ้นบางตัวราคาตกนะ แต่ราคายังไม่เท่ากับปีที่แล้วเลย ยกตัวอย่าง SCB นะ ปีที่แล้วเดือน ตุลา เรายังเก็บกันที่ 157-161 อยู่เลย ปีนี้ว่าตกสุดๆ แล้ว ตอนศุกร์แสนล้าน ลงต่ำสุดก็ 173 ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ประมาณ 173 บาท ถ้าดูเทรนด์มันก็ยังอยู่ในขาขึ้นอยู่ดีถ้าถือตั้งแต่ ตุลา ปีที่แล้วในราคานี้ ปีนี้ลงมาถึงแค่นี้ ก็แค่ขาดทุนกำไร แต่ในอนาคต ปีหน้า มค.-กพ. อาจจะวิ่งไปไกลกว่านี้ เพราะผลประกอบการดี ก็เป็นได้ ไม่มีเหตุการณ์อะไรบอกให้คัทลอสได้เลยนี่นา ปันผลก็จ่ายทุกปี จริงป่าวน้า

เนี่ย ตลาดหุ้นสอนอะไรเราหลายๆ อย่างมากกกกกก

สอนให้เข้าใจอารมณ์โลภ สอนให้เข้าใจความไม่แน่นอนของทุกอย่าง มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป แค่เราเชื่อมั่นในสิ่งที่เราตัดสินใจมันก็น่าจะเพียงพอ และอดทน พระพุทธเจ้าสอนไว้ ว่า มนุษย์ล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร

เราเชื่อเหมือนกันว่า ทุกอย่างเราทำสำเร็จได้ ถ้าเราดื้อที่จะเพียรกับมันเพียงพอ ไม่มีใครเก่งมาแต่เกิด แต่เราเลือกที่จะศึกษาและเรียนรู้กับมันได้
อีกอย่าง ปล่อยวางอนาคต ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอนะ

หายได้น้อย ก็ใช้ไม่มาก มีหนทางประหยัดก็ทำไว้ก่อน
เครียดมาก เดี๋ยวก็แก่ไปเป็นมะเร็งเหอะ อดใช้ชีวิตที่มีความสุขที่ปูทางมาอย่างดีแล้วนะ สิวขึ้นด้วย ไม่สวยเลยช่วงนี้ ฮ่าๆๆๆ






Create Date : 08 มิถุนายน 2556
Last Update : 8 มิถุนายน 2556 13:44:04 น.
Counter : 3018 Pageviews.

0 comment
== จิ้นกันไปกับธุรกิจ ==
หลังจากได้อ่านบทความของ อ.นิเวศน์ ที่ให้ค้นหา หุ้นที่ชนะตลอดกาล ให้ได้ อืมม.. ไอเดียอาจารย์เจ๋งอ่ะ เชื่อแล้วที่ ไอน์ไสตน์บอก "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" รู้แต่เรื่องงบ อ่านสัดส่วนทางการเงินได้ก็จริง แต่จิ้นไม่ออกเนี่ย ลำบากอยู่ เพราะตลาดทุนเนี่ย คือ การคาดเดาอนาคตซะเยอะ

อาจารย์บอกเราผ่านยุคเรืองรองของพลังงานมาแล้ว หุ้นชนะเลิศคือ PTT
ตอนนี้กำลังอยู่ในยุคการก่อร่างสร้างตัว หุ้นชนะเลิศคือ SCC

อ่า.. เรามาคิดแล้วล่ะ ว่า หุ้น 2 ตัวนี้มีอะไรๆ เหมือนๆ กันคือ ใครจะทำอะไร บริษัทไหน.. กินรวบทุกอย่าง ทั้งพี่ปอพี่เค้าผูกขาดธุรกิจพลังงาน ใครจะทำอะไรเกี่ยวกับพลังงานต้องผ่านพี่เค้าหมด ไม่ว่าจะเชลล์ เอสโซ่ ปั๊มไหนๆ ก็ต้องใช้ผ่านพี่ปอ

SCC ปูนใหญ่ก็เหมือนกันนะ ในตลาดมีหุ้นรับเหมาก่อสร้าง มีหุ้นอสังหา เต็มไปหมด ยากจะคาดเดาว่า ปีนี้หุ้นตัวไหนจะชนะเลิศ ยิ่งพวกบ้านจัดสรร ล่ะก็สูสีมาก เราไม่อยู่ในวงการยากจะคาดเดา จากการสำรวจอดีตมา ปีก่อนโน้นๆ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ก็เก่ง ถัดมาคงเป็นยุคของศุภาลัย แอลพีเอ็น พฤกษา และการกลับมาของแสนสิริ ทุกตัวรายได้ดีนะ แย่งตลาดกันค่อนข้างรุนแรง เราไม่รู้ได้ว่า ค่ายไหนจะวิน แถมรายได้ของอสังหาแบบนี้ 2 ปีขึ้นถึงจะรับรู้รายได้ จริงมั้ย แหะๆ แต่ถ้าใครก่อสร้าง ทั้งรายเล็กรายน้อยในประเทศนี้ ยังไงๆ ก็ต้องมีส่วนเอี่ยวกับพี่ปูนแน่นอน ลูกค้าเราเนี่ย... เป็นดีลเลอร์ของปูนใหญ่ ปัจจุบัน ทำคอนโดขาย 2 โครงการแล้ว บริษัทเล็กๆ ไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรอก แต่เชื่อมั้ย ของทั้งโครงการ จะหนีพ้นเครือปูนไปได้อย่างไร (อันนี้ทำให้เข้าใจว่า ทำไมหุ้นปูนวิ่งจาก 90 กว่าๆ มา 400 กว่าๆ อย่างว่อง) คือกินรวบทุกอย่าง ถือว่าเป็น super stock ณ.ปี 2013 อย่างแน่นอน

อันนี้ก็จิ้นต่อจากอาจารย์นะ..

ถ้าเราไม่ซื้อหุ้นในกลุ่มอสังหาเลยดีกว่ามั้ย(เดายากเกิน)
เปลี่ยนความคิด ปูนใหญ่คือต้นน้ำ
แล้วสมมติคนซื้อบ้านไปแล้ว ไม่ว่าจะโครงการไหน เล็กๆ ในท้องถิ่น ใหญ่ๆ ในตลาดหุ้น อยากจะตกแต่งเพิ่มเติม สมมติ โครงการเล็กๆ ในจังหวัด มีสัก 300 หลัง(เล็กบ้านแกจิ 555) สร้างครัวไทยๆ (โครงการสมัยนี้ไม่มีครัวไทย)
จ้างช่างเล็กๆ มาต่อเติม สินค้าที่สั่งก็ต้องมาจาก ดีลเลอร์พี่ปูนอีก (ร้านเล็กๆ) อีกที่ที่ได้รับอานิสงค์ คงเป็นพวก Homework HomePro Global Boonthavorn ไรเทือกนั้น ลูกค้าจะเป็นลูกบ้านของโครงการไหน เค้าก็มีสิทธิมาช็อปของพวกนี้ที่นี่ทั้งนั้น อีกอย่าง โครงการบ้าน ขายแล้วขายเลย จบนะฮะ ต่อเติมก็นานๆ ที ทำทีเดียวใหญ่ๆ ไปเลย แต่ไอ้ของจุกจิกอ่ะ ชั้นวางของ พรมเช็ดเท้า ผ้าม่าน หมอน หลอดไฟ โอยย จิปาถะ อันนั้นอ่ะ เยอะ มันมีหมดอายุด้วยนะ ยังไงต้องกลับมาซื้ออีก เรื่อยๆ พวกเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ด้วย เลยเล็งมาที่โฮมโปรนี่แหละ (มันเดินสำรวจง่ายมันใกล้บ้านด้วย อยู่ในโลตัสอีกต่างหาก) เออแฮะ ถ้าพูดถึงปลายน้ำ โฮมโปร กะ ก๊วนๆ(จริงๆ คือคู่แข่ง) ก็รับเละอ่ะสิ จริงมั้ย แถมบ้านโบราณที่สร้างเอง(แบบบ้านเรา) คือ ลูกค้าที่แสนดีของโฮมโปรเลย ตอนเราปรับปรุงบ้านเนี่ย.. ซื้อของโฮมโปรหมดไปหลายแสนนะ แถมพี่แกทำค้าปลีก(เออ..โฮมโปรคือค้าปลีก) รายได้เป็นเงินสดนะฮ้า..แต่จ่ายพวกดีลเลอร์เป็นเครดิต ตอนนี้ทำบัตรเครดิตการ์ดเอง ได้ดอกอีกนะ ถ้าลูกค้าผ่อน เอ๊ะ มีแต่ได้กับได้นี่นา

เราจะไปหงุดหงิดกับการเดาว่าปีนี้อสังหาตัวไหนจะแรงไปทำไมกันนะ
เราว่า..ใครซื้อบ้านของที่ไหน ยังไงๆ ก็มาช็อปที่นี่ อันนี้วินสุดๆ อ่ะ

จิ้นซะ..เหนื่อย แต่คิดแบบนี้แล้ว ว่าจะหาจังหวะ ขายหุ้นอสังหาออก มาจบที่นี่แหละ จะได้ไม่ต้องลุ้นมาก ถือยาวๆ อย่างสบายใจที่สุด

เดี๋ยวจะไปจิ้นเรื่องอื่นต่อ สนุกดี

ขอบคุณ อาจารย์ค่ะ จากใจจริง ถ้าไม่มีไกด์อย่างอาจารย์ อิฉันคงงมเข็มไปอีกหลายปีเลยค่ะ





Create Date : 01 มิถุนายน 2556
Last Update : 1 มิถุนายน 2556 10:06:30 น.
Counter : 2602 Pageviews.

0 comment
== ใครบ้างที่ไม่เคยล้มเหลว ===
== ใครบ้างที่ไม่เคยล้มเหลว ===

เมื่อวันก่อน เราไปหม่ำข้าวกับ พี่คนนึงมา ก็พอรู้จักกันอยู่พอสมควร รู้ว่าพี่เค้าก็ซื้อๆ ขายๆ หุ้นด้วย แต่แกเป็นแนวไม่บอก ไม่แชร์ เราเลยไม่ค่อยรู้ว่าแกเล่นแนวไหน จากที่เห็นว่า หุ้นบ้านเราพุ่งแรงแล้วหล่นฮวบ มาจนบัดนี้ หุ้นบางตัวก็ไม่ได้กลับไปที่ไฮเดิมที่เคยทำไว้(แสดงว่าปั่นกันเข้าไป) เราเองก็มีประดับพอร์ตอยู่ 2-3 ตัว แต่ไม่เครียดมาก เพราะพื้นฐานยังโอเค เลยถามพี่เค้าเล่นๆ ว่าพอร์ตเป็นไงบ้างแล้ว พี่เค้าบอก พี่ไม่สนใจแล้ว หุ้นขึ้นเท่าไหร่ๆ พอร์ตก็แดง ปล่อยไปเลย เล่นเกมส์ดีกว่า ไม่ค่อยเข้าไปดูแล้ว อ้าว..ไหงงั้นอ่ะ ทำไมถอดใจกันง่ายๆ แบบนี้ หรือพี่เค้าจะเป็นวีไอ(จำเป็น) ก็ตามนั้น

เราอ่ะ ชอบอ่านคอลัมภ์ ถนนนักลงทุนในเว็บของกรุงเทพธุรกิจ ย้อนอ่านไปเยอะๆ หลายๆ คน เราอยากรู้ว่าคนที่สำเร็จในตลาดหุ้นส่วนใหญ่คิดยังไง ใช้กลยุทธอะไรในการลงทุน และขอสารภาพว่า ไปเปิดอ่านหนังสือประสบการณ์การลงทุนของหลายๆ ท่านในร้านหนังสือ(แบบฟรีบ้าง ซื้อบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะฟรี ฮ่าๆๆ) อยากรู้ว่าเริ่มลงทุนด้วยเงินเท่าไหร่ใช้เวลานานแค่ไหนจึงประสบความสำเร็จ แต่ละคนขอบอกว่า ประสบการณ์ยาวนานจริงๆ และทุกคนส่วนมาก 80%-90% ต่างเคยล้มเหลวมาก่อนทั้งนั้น แม้แต่วีไอต้นตำหรับเมืองไทยอย่าง อ.นิเวศน์ ก็เริ่มมาจากความล้มเหลวในช่วงต้มยำกุ้ง ที่ถูกให้ออกจากงาน บางคนก็ลงทุนแล้วขาดทุน 90% ของพอร์ตก็มี บางคนเจอวิกฤติทั้งต้มยำกุ้ง ทั้งแฮมเบอร์เกอร์ คนที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ คือคนที่ยังใจสู้ไม่ถอย ยอมรับความล้มเหลวที่เกิดขึ้น แล้วพัฒนาตัวเองจากจุดนั้น มองหาจุดอ่อนของตัวเองเจอ บางคนเขียนหนังสือ แล้วมองย้อนกลับไปวิเคราะห์พฤติกรรมของตัวเองในช่วงนั้น และมองเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น รู้จักยอมรับและเผชิญกับมัน พร้อมที่จะพัฒนาตัวเอง อ่านหนังสือ เข้าอบรม เข้าฟังสัมนาเกี่ยวกับการลงทุน ปรับมุมองจากการเก็งกำไร เป็นการลงทุน รู้จักการวิเคราะห์ธุรกิจ และมุมมองในการลงทุนชัดเจนมากขึ้นไม่หนีออกจากตลาด ผ่านทั้งอารมณ์อยากซื้อ อยากขาย ตกรถ ติดดอย ขายหมู เป็นมาทั้งหมด บางคนทำธุรกิจเจ๊ง แต่ก็ยังไม่ถอดใจที่จะรีบลุกขึ้นมาพัฒนาตัวเองในมุมมองใหม่ๆ จนปัจจุบันพวกเขาเหล่านี้ก็ยังไม่หยุดคิดหยุดที่จะค้นหาความรู้ในการลงทุน และ มีแง่คิดดีๆ มาให้เรามองในมุมที่แตกต่างเสมอ

คนเราไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ล้มเหลวมาก่อน เฮียจ็อบส์ เนี่ยสุดๆ เสียตำแหน่งซีอีโอไปต่อหน้าต่อตา แต่เฮียเอาคืนแบบสุดติ่ง ไม่ช้าไปหรอก 10 ปีเอง แต่ถ้าคนล้มแล้วไม่ยอมลุกอ่ะสิ เป็นสิ่งที่แย่มาก จมปลักอยู่กับกองทุกข์อันนั้นตลอดเวลาไม่ได้วิเคราะห์จุดอ่อนของตัวเอง เราว่าของพวกนี้เอามาปรับใช้ในเกือบทุกอย่างของชีวิตได้นะ

อ่ะ ง่ายๆ ไอ้เกมส์ที่ฮิตสุดๆ ลูกอมของหนู(Candy Crush Saga) เวลาไม่ผ่านด่านเรามีความเพียรเล่นมันอยู่นั่นแหละ และเชื่อมั้ย มันผ่านนะ มันเกิดทักษะ บางทีหยุดเล่นไปหลายวัน กลับมาเล่นได้มุมมองใหม่ๆ เล่นทีเดียวผ่านไรงี้ หรือเมื่อปีที่แล้ว บอกใครว่าชั้นจะวิ่ง มินิมาราธอนนะ มีแต่คนขำ เราฟังก็เงิบบ จะไหวป่าว เชื่อมั้ย ที่ผ่านมาปี 2012 เราวิ่งมินิไป 4 รายการ เข้าเส้นชัยหมดทุกรายการ ถึงเวลาไม่ดีมากเท่าพวกนักกีฬาเก่งๆ แต่ก็ไม่ได้เข้าบ๊วยนะ(อาจจะรองบ๊วย ฮ่าๆๆ) สร้างความภูมิใจแก่ตัวเองยิ่งนัก ตอนนี้เริ่มซ้อมวิ่งฮาล์ฟมาราธอน วิ่งวันละ 6-8 กิโลทุกวัน ทุกเช้า ชิลล์ๆ มากๆ
ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ แต่เพราะความเพียร เราซ้อมอาทิตย์ละ 5-6 วัน หยุดวันเดียว ร่างกายแข็งแรง วิ่งได้ไม่เหนื่อย ทุกอย่างต้องอาศัยเวลาและความตั้งใจที่จะเอาชนะมัน

ถึงตอนนี้ เราก็ยังเป็นเบบี้ในตลาดหลักทรัพย์ แต่เรามีมุมมองใหม่ๆ มากขึ้น เมื่อก่อนคิดแต่ capital gain อย่างเดียว ริจะเป็น VI เจอตลาดตกหนัก 3 วันติดยังทนไม่ไหว แต่ตอนนี้ได้แต่หาความรู้เพิ่มเติม อ่านหนังสืออีก(บางเล่มอ่าน 2 รอบ ทบทวนว่าไอ้ที่คิดเมื่อก่อนถูกหรือเปล่านะ) ตอนนี้มีหุ้นบางตัวที่วิเคราะห์เอง เออเอง ซื้อเอง (ในช่วงที่ใครๆ ก็อยากขาย ทำเป็นใจกล้าขาสั่น) บังเอิญเขียวมา 3 ตัว แต่ไอ้ที่ซื้อตามชาวบ้าน ที่เค้าว่ากันว่า ที่กร๊าฟตัดแล้วๆ ขึ้นรถเลยพวก วลีสุดฮิตของโบรก "เราแนะนำ Buy" เนี่ย ดอยกันเป็นทิวแถว หุ้นดีแต่ซื้อผิดเวลา ก็เฮ้อ เหนื่อยใจได้นะ แต่พอเริ่มรู้แนวทางแล้ว คัทไปหลายตัว ซึ่งตัดสินใจดีที่สุดเพราะอนาคตดิ่งเหวจริงๆ เริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ไกลๆๆๆๆ มาบ้างแล้ว ก็ยังต้องฝึกฝนและพัฒนาต่อไป

ปล. เกลียดบัญชีได้ D+ นะ แต่ตอนนี้อ่านงบเป็นนะ เอิ้กๆ กินยาขมวิชาที่เกลียดที่สุด ตอนเรียนฟันดาแมนทัลในมหาลัย มันก็ผ่านมาได้นิ




Create Date : 30 พฤษภาคม 2556
Last Update : 30 พฤษภาคม 2556 15:47:34 น.
Counter : 2738 Pageviews.

0 comment
== ธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคม ==
อันนี้ เพิ่งเกิดความคิดว่า เรามานั่งดู ผลประกอบการย้อนหลังเป็นหมวดหมู่ดีกว่า เพื่อที่จะมองออกว่า เราควรลงทุนในธุรกิจอะไรดี

ช่วงนี้เห็นสื่อสารมาแรง เขียวยกแผงมาเป็นเดือน เลยนั่งดูงบ ดูอัตราส่วนทางการเงิน (จาก excel ของคุณพี่กวี) โอวว แจ่มมากมาย

ดูมาทั้งหมด 27 ตัวในกลุ่ม รู้สึกอึนๆ มาก พี่ใหญ่อย่างน้าแอ้ด ผลงานสุดยอดจริงๆ ROE 2012 80 ฝ่าๆ เลยไปดูไตรมาสล่าสุด โอ๊ะ ปาไป 94 แล้วทำไมน้าแอ้ดถึงวิ่งปรู้ดเยี่ยงนี้ เข้าใจล่ะ รองลงมาคงเป็น อินทัช และ น้าดีแทก ก็ยังให้ากำไร และผลการประกอบการดีทีเดียว แต่ไม่เด่นเท่ากับน้าเค้าจริงๆ นะ ส่วนพี่ทรูก็ยังขาดทุนอยู่ หวังจะเทิร์นอะราวด์ ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ เราว่าทุ่มการตลาดมาก แต่เคยใช้เครือข่ายเค้าแล้วไม่อินอ่ะ

ส่วนตัวอื่นๆที่ มาร์จิ้นยังดี ส่วนใหญ่จะลงทุนวางเครือข่ายใยแก้วและให้เช่าแบนด์วิท หรือ ขายเน็ท อย่างพวก SAMART,JAS,SYMC ไรงี้ ไม่งั้นก้อดาวเทียมให้เช่าอย่าง THCOM หรือไม่ก็ดีลเล่อร์ขายโซลูชั่นของไอบีเอ็มของบริษัทเมทโทร ก็ยังมีกำไรขั้นต้น สองหลัก

แต่เราว่านะ ธุรกิจที่ค่อนข้างจะกำไรน้อย (เมื่อเทียบกับรายรับ ที่เป็นหมื่นล้าน แต่กำไร หลักร้อยล้าน) ก็จะเป็นพวกขาย อุปกรณ์ Hardware computer พวก SIS,SYNEX,SVOA ไรงี้ ของพวกนี้ ใครๆ ก็ขายได้ ถ้ามีเงินทุนจากจีนถูกแสนถูก คู่แข่งเยอะ เพราะเราไม่ได้ใส่ how to ของเราลงไป เรามีแต่ me too ไง มาร์จิ้นต่ำอ่ะ 5-6% เท่านั้นเอง ของตกรุ่นเร็วอีกต่างหาก ตอนนี้ ดูพฤติกรรมตัวเองแฮะ พีซีไม่ต้องพูดถึง ไม่มีแล้วที่ใช้ส่วนตัว เลิกใช้มานานกว่า 7 -8 ปีแล้ว มีแต่แลปทอป 1 ตัว เมื่อก่อนเปิดทุกวัน ตั้งแต่มีไอโฟนเมื่อปี 2010 ถ้าไม่ทำงานที่เน้นการพิมพ์หรือต้องรันโปรแกรม เราแทบจะไม่เปิด แลปทอปเลย แต่เปิดไอโฟนทุกวัน เช้ายันดึก เอ๊ะ เลยกลับมาดูมาร์จิ้นของ JMART บ้าง อัตรากำไรสุทธิจริงๆ แค่ 4.3% กำไรเน็ทๆ ก่อนหักภาษี อยู่ประมาณ 11% เองอ่ะ คนที่รวยคงเป็นเจ้าสามซุงกะแอปเปิ้ลมากกว่าสินะ แถมไอโฟนยังเน้นให้ซื้อกะพวกโอเปอเรเตอร์อีก ราคาถูกพร้อมโปร

ธุรกิจพวกนี้ นับวันเราว่าจะถดถอยลง นี่แหละมีน้องคนนึงทำเป็น ผจก ขายฮาร์ดแวร์พวกนี้อ่ะ เป้าลดแล้วเครียดถึงเสียชีวิต

กำไรสู้พวก อาหารและการเกษตรไม่ได้ ขี้หมูขี้หมา พี่แกมาแล้ว 20% ถ้าพวกไฮโซอย่าง หนูมิ้น วิ่งไป 50-60% เลยทีเดียว

อีกอย่างนะ เศรษฐกิจตกต่ำเมื่อไหร่ ของพวกนี้อ่ะ จะถูกมองว่าฟุ่มเฟือยแน่นอน มันต้องถูกลดลงเป็นอย่างแรกเลย เมื่อคนไม่มีเงิน

ดังนั้น และฉะนั้นฉะนี้ ถ้าลงทุน คงเลือก พวกโอเปอร์เรเตอร์โทรศัพท์กับพวกวางโครงข่ายๆ (แต่อันนี้ธุรกิจเข้าใจยากจัง บังเอิญโง่เรื่องสื่อสารและเน็ทเวิร์คมาก) ดูธุรกิจน่าตื่นเต้นเกินไปมั้ง สายนี้คงได้แต่เฝ้าดู มีตังและราคาพวกพี่ใหญ่ๆ ลดลงมา ก็จะขอเก็บไว้บ้างไรบ้างล่ะนะ




Create Date : 25 พฤษภาคม 2556
Last Update : 25 พฤษภาคม 2556 15:08:09 น.
Counter : 2741 Pageviews.

0 comment
== เม่ามือใหม่ ทบทวนการลงทุน ==
ผ่านพ้นไป เกือบ 5 เดือนแล้ว ในปี 2556

เม่าน้อยกลอยใจอย่างเรา ได้ฝ่าฟันความระทึก ความสนุกในตลาดทุนไทยมาบ้าง
ตอนนั้นที่อยู่ในเวลานั้น เครียดค่ะ ขอบอกว่า เครียในระดับนึงเลย จากหน้าใสไร้สิว
เป็นหน้าหงอย มีรอยสิวเต็มไปหมด จริงๆ นะ ยิ่งคิดยิ่งเครียด ไม่รู้จะเครียดไปทำไม ฮ่าๆๆ

ทบทวนนิดนึงถึงข้อผิดพลาด

1. สดค่ะ คิดว่าลงทุนไม่ยาก แค่ถือยาวๆ นี่จัดว่าอ่านหนังสือเยอะประมาณนึงนะ ทั้ง อ.นิเวศน์ ปีเตอร์ลินช์ หนังสือบัญชีเบื้องต้น อ่านรายงานการประชุมของบริษัท อ่านๆๆๆ น่าจะสัก 20-30 เล่ม แต่ว่าไปนะ เค้าเตือนหลายเล่มก็ไม่เชื่ออ่ะ ยิ่งตอนปู่แตะ 1600 เนี่ย คิดว่าไปต่อแน่ๆ มั่นใจ ฮึกเหิมมากกก ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนต้องขายทำกำไร เพราะยังไงมันต้องไปต่อ แต่เจอ ศกตัวกร์แสนล้านเข้าไป อึ้งๆๆๆๆ เราก็ตื่นตูมมาก ทั้งๆ ที่หุ้นบางตัวเราเก็บตั้งแต่ พย. 55 ไม่ขาดทุนนะ แต่บ้าจี้ขาย คัทลอส งงมาก คัททำไม ?? บ้าบออ่ะ ตอนนั้นอารมณ์พาไป ลืมถามตัวเอง เข้าซื้อด้วยเหตุผลอะไร แล้วออกด้วยเหตุผลอะไร งง ตัวเอง สับสน แต่เข้าใจอารมณ์ที่ตลาดขึ้นมาสูงๆ แล้ว ทุกคนในตลาดเล่นกันหลายรอบ แต่ละรอบก็มีกำไรเยอะแยะ ดังนั้น เมื่อเจอแรงเทขายนำ ทุกคนก็พร้อมที่จะขาย ทั้งขายขาดทุนไปบ้าง หรือขายกำไรน้อยไปบ้าง เพราะกำไรมาก่อนหน้านี้ หุ้ๆๆนลงไป 50 จุด

2. ขายแล้วเข้าซื้อเร็วเกินไป กลัวไม่ได้หุ้น กลัวหุ้นวิ่งไป สรุปดอย

3. โลภอยากได้ปันผล ซื้อก่อนหน้าปันผลไม่กี่วัน หลังจากนั้น หุ้นลงยาว 3 เดือน กว่าจะฟื้น ดอยๆๆๆ

4. ตอนเก็งกำไรหนักๆ โลภมาก อยากได้เงิน เพื่อนบอกหุ้นปั่น เล่นท้ายตลาด ดอยอยู่นาน และตัดใจคัทลอส ดีมาก เพราะ ผล ประกอบการ หุ้นตัวนี้มันห่วยจริงๆ ตอนนี้ลงไปถึงก้นเหวแล้วยังไม่รู้ เป็นครั้งแรกที่ดีใจที่คัทลอส และเข้าใจว่าการคัทลอสสำคัญ มากกว่าการขายหุ้นดีๆ ที่ยังวิ่งทำกำไรให้กับเรามากยิ่งนัก


5. Biglot จาก CPALL ซื้อไม่ดูตาม้าตาเรือ เพิ่งดูเทคนิคใหม่ๆ เข้าใจว่าหุ้นวิ่งขึ้นแน่ๆ เลยซื้อเพราะ MACD คอนเฟิร์ม เจอบิ๊กล็อตเข้าไป ยังตามเก็บถัวเฉลี่ย
แต่พอเจอดีลแมคโครไปอีกรอบ หุ้นยังไม่เคยเด้งเกิน 45 เลย เทคนิคว่าดีแล้ว เจอปัจจัยพวกนี้ไป ก็ตายหยังเขียด ใช้เทคนิคเพียวๆ ก็ไม่ไหวนะ ต้องตามข่าวด้วย เลยมีประสบการณ์ เจอบิ๊กล็อต AMATA คุณวิกรมขาย เราเลยขายตาม รอดตายไป กำไรนิดหน่อย และล่าสุด บิ๊กล็อต AAV ตัดใจคัทลอสไปเลย สัญญาไม่เป็นสัญญานี่นา เจ้านายบอกไม่ขายใน 3 ปี ตอนนี้ตัดใจขาย ต่อไปจะเชื่อได้ ฤา ดังนั้น ซื้อหุ้นต้องตามข่าวด้วยนะ*****

6. คิดๆ แล้ว อยากรวยเร็วและโลภนี่แหละ น่ากลัวที่สุด

เมื่อก่อนอ่านงบนิดหน่อย

ตอนนี้เริ่มจริงจังกับข้อมูลทางบัญชีมากๆ

ดูหมด กำไรขั้นต้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน รายได้ก่อนหักภาษีและดอกเบี้ย หนี้ต่อส่วนเจ้าของ EPS, P/E, เงินปันผล, BV,P/BV ที่สำคัญคือ ROE นี่แหละ ที่ใช้กรองหุ้นที่เราอยากได้

เมื่อก่อนเกลียดบัญชีมาก สอบยังได้ D+ ตอนนี้อ่านแล้วอ่านอี ก เปิดงบ เปิดแบบ 56-1 ดูอย่างละเอียด เอามาคำนวณใน excel ด้วย

แนะนำ facebook คุณกวี ชูกิจเกษม พี่เค้าแจกเอกเซลสำหรับอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ ให้เรามากรองหุ้น ย้อนหลัง 10 ปี ส่วนของปีนี้ คงต้องมาคำนวณใส่กันเอง ก็ดีนะ จะได้เข้าใจมากขึ้น


ตอนนี้ใจเย็นลงเยอะ หุ้นปั่นขายไปหมดแล้ว เหลือแต่หุ้นดี แต่ซื้อผิดเวลา ปู่ไป 1600 ปอดยังแดงอยู่เลย

ซื้อหุ้นวันนี้ไม่ได้รวยพรุ่งนี้ หรือสิ้นเดือนนี้นะ ถ้าอย่างนั้นมันเป็นการพนันไปแล้ว พี่ไปซื้อหวยดีกว่า บริษัทที่อยู่ในตลาดเค้าก็ต้องขอเวลาพิสูจน์ตัวเองเหมือนกัน ส่งงบให้เราทุกไตรมาส เปิดดูสักหน่อยดีกว่า จะได้รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไงบ้างแล้ว ใส่ใจเหมือนเราลงทุนไปกับเค้าเถอะ เดี๋ยวปลายปี กลางปีเค้า
ให้ปันผลไว้กันขนม

ตอนนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนคัดกรองหุ้น ดูพวกนี้แหละ แบ่งเป็นอุตสาหกรรม เรียงตามมาร์เก็ตแคปในตลาด เปิดดูทุกตัวไปก่อน แล้วค่อยกรองทีหลัง ได้รู้ว่าตัวนี้อะไรคือจุดเด่นของเค้า แต่..เราว่า กำไรมาก ดีก่า ลด คชจ เก่งนะ
แต่ลด กำไรมาก ลด คชจ เก่ง ผู้บริหารมีธรรมาภิบาล จะสุดยอดของบริษัทเลย


หวังว่าคงจะเจอสักตัว เอาไว้กินไว้ใช้หลังเกษียณก็แล้วกันนะ

เลิกโลภ แล้วจะไม่จน ว่างั้น ??



Create Date : 24 พฤษภาคม 2556
Last Update : 24 พฤษภาคม 2556 14:59:38 น.
Counter : 2956 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  

m-e-e-n-a
Location :
ภูเก็ต  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



ชอบกิน
ชอบวิ่ง
ชอบว่ายน้ำ
ชอบทำอะไรก็ได้ให้เอนโดรฟีนหลั่ง
ชอบถ่ายรูป
ชอบออกเดินทาง
ชอบหลายอย่าง บางอย่างทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่อยากทำ

อิสระของชีวิต ไม่ใช่เพราะมีเงินเพียงพออย่างเดียว
เราต้องมีเวลาให้กับของกินที่มีประโยชน์ ทำประโยชน์ให้กับสังคม สังสรรค์เฮฮากับเพื่อนดีๆ ออกเดินทางค้นหาคำตอบของชีวิต ดูหนัง ฟังเพลง เสพงานศิลป์ เพื่อความรื่นรมณ์อีกด้าน และที่สำคัญมีเวลาใส่ใจกับคนในครอบครัวของเราด้วย ทำอย่างนี้ได้เมื่อไหร่.. ชีวิตเราจะสมบูรณ์ที่สุด