Group Blog
All Blog
--- ชี วิ ต เ ห มื อ น ฝั น อั น อ า ดู ร : เ ง า จั น ท ร์ ---












“สายน้ำเอย…
ใครจะรู้เจ้าหลากเลยถึงถิ่นไหน
เหล่าคนกล้าจะฝ่าฟันไป
เก็บดอกไม้มาให้เจ้า…อรชุน…
พ่อเป็นสายน้ำ เจ้าเป็นสายลม
ผูกพันเกลียวกลมด้วยรักเกื้อหนุน
ท่องในโลกกว้างใต้แสงจันทร์อ่อนละมุน
เจ้าอรชุนคือผู้ชนะ…”





คุณที่รัก

เราอ่านนวนิยายเรื่อง “ ชี วิ ต เ ห มื อ น ฝั น อั น อ า ดู ร ”ของเงาจันทร์จบไปอีกเล่มแล้วล่ะจ้ะ
ผลงานเล่มนี้ของเงาจันทร์เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชะตากรรมของมนุษย์ได้ก่อขึ้น โดยเธอหวังเพียงว่า คนเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้แพ้หรือผู้ชนะ จะทุกข์ยากลำเค็ญเพียงไร จงอย่าได้หวั่นเกรง เพราะชะตากรรมคือกับดักชีวิตของมนุษย์ที่แต่ละคนหลีกหนีไม่พ้นอยู่แล้ว…เพียงแต่ใครจะตัดสินใจสู้กับโชคชะตากรรมด้วยวิธีใด ด้วยการต่อความผูกพันหรือควรจะลืมมันเสีย…ก็เท่านั้นเอง แม้จะมีความตายมารออยู่ข้างหน้าก็ตาม

ภาษาเขียนของเงาจันทร์นั้น ไม่พูดถึงเสียเลยคงเป็นไปไม่ได้นะ เพราะเล่มนี้ก็ไม่ต่างจากที่เราเคยอ่านมา ไม่ว่าจะ ปรารถนาแห่งแสงจันทร์ ฤดูฝันอันแสนสั้น และในรูปเงา เราอยากบอกว่าเป็นงานวรรณศิลป์เป็นวรรณศิลป์แบบหวาน ๆ เศร้า ๆ งดงามและโรแมนติกเลยเชียวนะ

นวนิยายเรื่องนี้ค่อนข้างยาว พระเอกชื่ออรชุน เราควรจะเรียกว่าพระเอกหรือตัวเอกของเรื่องดีนะ แต่เขาเป็นตัวแทนของมนุษย์เดินดินทั้งหลายผู้เป็นเหยื่อแห่งชะตากรรมที่คนอื่นได้ก่อขึ้นรวมทั้งเป็นเหยื่อของชะตากรรมที่ตัวเขาเองได้ก่อขึ้นเองด้วย เขาต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งดีและร้ายต่าง ๆ นานา

“…วันหนึ่งเขาจะตกเป็นทาสของราคะเช่นเดียวกับผู้คนทั้งหลายเหล่านี้หรือไม่นะ เขาจะต่อสู้หรือหลีกหนีมันได้พ้นหรือ…เขาจะกล้าทำชั่วเหมือนที่พ่อทำกับใคร ๆ ไหมนะ…และหากวันหนึ่งเขาได้เห็นแม่ของเขาจูบกับคนอื่นเช่นนี้…โอ!..”

การรู้เท่าทันความจริงของชีวิตทำให้เราเจ็บปวดน้อยลงเมื่อต้องเป็นผู้แพ้หรือผู้ถูกกระทำ คนเราไม่ว่าจะต้องผ่านทุกข์ยากลำเค็ญอันสาหัสเพียงไร เขาก็คงยังรักหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของตนเองไว้ได้

“…มีมาเพิ่มอีกสองคนเหรอ..ไม่ไหวนะ..” นางร้องอย่างเห็นขัน แววตาสับสนด้วยมึนเมา นางมองไม่เห็นทั้งอรชุนและนกุล แต่ทั้งสองจำนางได้แม่นยำ นางคือสมรแม่ของนกุลนั่นเอง…”

เราอ่านแต่ละช่วงแต่ละตอน ครอบครัวของเพื่อนสนิทอรชุน ครอบครัวคนรอบข้างและความเป็นไปของโลกมันช่างอลวน สับสนเสียเหลือเกิน เรานึกเอาใจช่วยตัวละครอยู่ตลอดว่า เขาจะสามารถยืนอยู่ในโลกนี้อย่างไม่ปวดร้าวได้อย่างไร อรชุนอาจดูเหมือนแพ้แต่หัวใจเขาไม่ควรแพ้ เราหวังไว้เช่นนั้น หวังว่ามนุษย์ไม่ควรจะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ แม้จะมีช่วงเวลาว้าวุ่นหรือ่อนไหวไปไม่ถูกทางก็ตาม เขาจึงไม่ใช่พระเอก เขาจึงเหมือนเรา ๆ นี่แหละ อย่าให้ชะตากรรมมาทำลายจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์เลย

“ฟ้าไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะอยู่หรือตาย ฟ้าไม่เคยเอาใจใส่เขา แม้ขณะที่เขาดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากตลอดมา เราเคยรักท้องฟ้าสีน้ำเงินที่เงียบงันนั้นอย่างไร ในนาทีสุดท้ายของชีวิต เขาก็ยังรักมันมากดุจเดิม ดอกพญาสัตบรรณสีนวลเนียนร่วงพร่างพรูราวกับจะต้องการคำอำลากับเขา…เขามองดูดอกไม้อย่างอ่อนโยน…”

เถอะนะเจ้าอรชุน แม้บางขณะรักแท้อันไม่จริงได้บังเกิด ก็ได้แต่เพียงหวังว่า ไม่ว่าเราจะเป็นผู้แพ้หรือผู้ชนะในบั้นปลายก็ตาม จงรักษาดวงใจอันดีงามไว้ให้สง่างามเพราะโลกยังเข้าข้างคนบริสุทธิ์อยู่เสมอ






อยากให้คุณอ่านอีกเช่นกันนะ
ด้วยรัก
ภูเพยีย












Create Date : 21 กันยายน 2559
Last Update : 21 กันยายน 2559 8:27:24 น.
Counter : 592 Pageviews.

2 comment
--- บั น ทึ ก เ ช้ า ที่ ฝ น ต ก แ ล ะ ยั ง ไ ม่ อ ย า ก ห ยุ ด ---












ลูกค้าที่เคยเจอกันมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือนก่อน เขาเป็นลมพิษ และถามสาเหตุซ้ำไปซ้ำมาของการเป็นลมพิษ เราก็พยายามอธิบายสาเหตุของลมพิษเท่าที่รู้แบบซ้ำไปซ้ำมาโดยไม่เบื่อหน่าย พยายามอธิบายสุดฝีมือเท่าที่จะทำได้เพราะดูเขาเป็นกังวลและมีทีท่าว่าจะเข้าใจ

เช้านี้เขาตากฝนมา พูดจาสุภาพเรียบร้อยเหมือนเดิมพร้อมบอกเราว่า กรุณาฟังเขาให้จบก่อนนะ เขาต้องการคำปรึกษา ฉันพยักหน้า

ลมพิษของผมยังไม่หาย เป็นมาเกือบเดือนแล้ว ผมไปหาหมอทุกหมอทั่วฝาง ไปสวนดอก ศรีพัฒน์ ไปปปปป ))) มาทั่ว ไม่มีใครให้คำตอบผมได้ ผมเบื่อหมอและหมอก็เบื่อผม ตอนหลัง หมอ(ชื่อหมอ)บอกผมว่าไปตรวจเลือดเลยถ้าอยากเป็นอะไร เพราะอธิบายยังไงผมก็ไม่พอใจ

ฉันพยักหน้า ปล่อยให้เขาอธิบายต่อ

ผมคาดว่า สาเหตุเกิดจากกรดไหลย้อน เหมือนมีขนมไข่มาจุกที่คอ ผมกินกาวิสคอนไปหนึ่งขวด อาการจุกที่คอหายและผื่นก็หาย แต่ก็หายไม่นาน ฤทธิ์ยาหมด ผื่นก็ขึ้นอีก

ฉันพยักหน้า

บอกผมให้ชัด ๆ หน่อยว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่

ฉันเลยตอบไปว่า ความจริงคุณก็น่าจะได้ยินคำอธิบายอย่างกระจ่างมาหมดแล้วจากหมอทุกหมอ แต่คุณไม่วางใจ หมอคงบอกคุณแล้วใช่มั้ยว่า ผื่นแพ้เกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่เลี่ยงได้คือเรื่องอาหารที่แพ้ เครื่องสำอางที่ใช้หรือยาบางอย่าง แต่อากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงความเครียดที่ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง..

ใช่..ผมเครียดมาก ทำไมมันไม่หายขาด ผมเบื่อจะกินยา ผมอยากหายขาด เจ๊เข้าใจหรือเปล่า

โรคนี้มันไม่หายขาดหรอก กินยาป้องกันก็อาจจะพอช่วยได้นิดหน่อย แต่เราก็ตอบไม่ได้จริง ๆ หรอกว่าเราแพ้อะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจจะหลาย ๆ อย่าง

ทำไมใคร ๆ ก็ตอบไม่ได้ว่าสาเหตุชัด ๆ น่ะเกิดจากอะไร

เขาตอบคุณกันทุกคนแล้ว แต่คุณไม่พยายามฟังด้วยความเข้าใจว่า ผื่นแพ้นี่มันไม่ได้ร้ายแรงแต่มันน่ารำคาญ โชคดีที่ไม่เกี่ยวกับระบบหายใจ มันไม่หายขาดเพราะเราควบคุมอากาศที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ร่างกายเราไม่คุ้นกับสิ่งแปลกปลอม ...(ยังไม่ทันได้พูดต่อ)

ใช่สิ ..เจ๊ไม่เคยเป็น เลยไม่เข้าใจ

เป็น นี่ก็เป็นมาเป็นเดือนแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เป็นไม่เลือกที่

เป็นแค่ไหนเชียว ของผมนี่ตาบวม

ก็ไม่แค่ไหน ก็แค่ตาบวม แค่ผื่นขึ้นจนไม่เห็นเนื้อตัวเอง ก็แค่คัน ทรมานกับอาการคันจนน้ำตาไหล ก็แค่อยากเกาให้เนื้อเปิดหรือถลกหนังออก แต่ก็เลือกกินยาแก้แพ้และรอจนยาออกฤทธิ์ ระหว่างที่รอเวลามันยืดยาวกว่าปกติ ก็แค่นั้นจริง ๆ

ก็มันไม่หายขาด สาเหตุมันคืออะไรแน่ อยากรู้แค่เนี้ยะ

ฉันเบื่อแล้ว และเงียบ

เจ๊ก็ตอบไม่ได้ แสดงว่าต่อไปผมไม่ต้องไปหาหมอ จะอดอาหาร จะได้ไม่อืดท้อง โรคกระเพาะทำให้เป็นผื่น ว่าแต่ว่า เจ๊มีกาแฟลดความอ้วนขายมั้ย

อิเจ๊ส่ายหน้าเพราะอธิบายนานจนหิวข้าว เกรงผื่นลมพิษจะตื่นเหมือนกัน

งั้นผมคงเป็นไปจนตาย (ลากเสียงตายยาวววววว) ไปหาใครก็ตอบไม่ได้ซักคน ...เขาบ่นเสียงดังและออกจากร้านไป







บันทึกเช้าที่ฝนตกและยังไม่อยากหยุด
ฉันจิบกาแฟ ดูฝน ...










Create Date : 19 กันยายน 2559
Last Update : 19 กันยายน 2559 14:02:15 น.
Counter : 651 Pageviews.

1 comment
--- ค ว า ม ท ร ง จำ บ า ง อ ย่ า ง มั น ไ ม่ ไ ด้ ห า ย ไ ป ---










ตอนเป็นเด็กหญิง
มีเรื่องซน ๆ ที่ได้ซน
เคยมีเรื่องสนุกที่อยากทำ แต่ไม่ได้ทำ
ทิ้งเรื่องเศร้าใส่กระป๋องก้นรั่ว
แต่ความเศร้า เชื่องแสนเชื่อง
มันไม่เคยบินไปไกลจากกล่องใบเล็ก
ปล่อยให้ความทรงจำบางอย่างวนไปวนมา
บางครั้ง ปลายพู่กันของฉัน
จึงแตะแต้มบางอย่างแทนหัวใจ
เป็นเรื่องเล่าบนหน้ากระดาษ
เก็บวันเวลาที่แสนงามบางเวลาเอาไว้
ไม่ให้ร่วงโรยไปกับวัน

ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าเราจะกลับมาครุ่นคิดเรื่องความทรงจำ
และการทำงานของสมอง
บางความทรงจำของฉันกับพ่อยังเดินสวนทางกันอยู่

ช่วงหลัง ๆ พ่อโทรฯมาเพื่อเล่าบางเรื่องและย้อนถามเรื่องบางเรื่องที่ฉันจำไม่ได้
พ่อบอกว่า พ่อฝันเห็นฉันใส่ชุดกระโปรงสีชมพูซึ่งฉันจำไม่ได้ว่าฉันเคยมีกระโปรงสีนี้
ฉันไม่ชอบสีชมพู พ่อยังบอกว่า พ่อคิดถึงแต่เรื่องเก่า ๆ ว่าจูงมือฉันบ่อย ๆ
ฉันจะกำมือพ่อไว้แน่นราวกับพ่อจะหาย
ฉันจำไม่ได้ว่าฉันทำแบบนั้น
แต่ฉันดีใจที่พ่อเล่าและรู้ว่าฉันเคยทำแบบนั้น

ฉันบอกพ่อว่า เรากำลังเป็นคนแก่กันไงล่ะพ่อ
หนูก็ชอบคิดเรื่องเก่า ๆ ของเราเหมือนกัน
หนูจำได้แต่ว่าพ่อมาหาตอนกินข้าวกลางวันที่โรงเรียน
และพ่อรู้ว่าอาหารวันต่อไปมีอะไร หนูตื่นเต้นที่พ่อรู้อะไรล่วงหน้า
แล้วมันก็จริงอย่างที่พ่อบอกไว้

แทบทุกครั้งที่พ่อมาหา พ่อจะป้อนยาสีฟ้าขม ๆ ให้กิน
เป็นยาแก้ปวดฟัน เข้าใจว่าเป็นเพนนิซิลลินเม็ดซึ่งต้องเอามาบดเอง
ขมปี๋เลย พ่อจำได้หรือเปล่า

เออ..พ่อจำไม่ได้เลยเว้ย ตอนนี้ ...แล้วเราก็หัวเราะกัน

นั่นล่ะ เรามีความจำไม่เหมือนกัน
หนูก็จำไม่ได้ว่าหนูเคยใส่กระโปรงสีชมพู
จำได้ว่าใส่แต่เสื้อปู ต้องใส่ทุกวัน
พ่อโกรธที่หนูร้องไห้ใส่เสื้อปู
พ่อจำได้หรือเปล่า

นี่ก็จำไม่ได้ ...พ่อว่าอย่างนั้น

แล้วพ่อจำต้มยำปลาทูสดกับหอยแครงลวกได้หรือเปล่า
เออ..อันนี้จำได้ พวกแกชอบกิน
แต่ก่อนหอยแครงกิโลละบาทสองบาท ถูกจะตาย
เดี๋ยวนี้กิโละ 150 บาท แพงจนไม่อยากกิน

ฮ่า ฮ่า ฮ่า งั้นไว้หนูไปหา เราทำหอยแครงลวกกินเถอะพ่อ
เราไม่จนเหมือนก่อนแล้วนะ แต่ก่อนนี่ กินปลาทูก็ไม่กล้าให้ใครรู้
เดี๋ยวนี้มีแต่คนมีตังค์นะที่ได้กินปลาทู

ฉันได้ยินเสียงพ่อหัวเราะ
แค่นี้ ฉันก็ชื่นใจแล้ว

ความทรงจำบางอย่างมันไม่ได้หายไปและมันไม่มีวันหายไป
แต่มันอาจจะอยู่ลึกเกินไป ไม่ได้เรียกมาใช้งานบ่อย
มันเป็นความทรงจำที่ไม่มีประโยชน์กับใคร
และไม่ควรจะเจ็บแปลบกับมันถ้าเพียงสักคนจะลืม



ภูพเยีย













Create Date : 17 กันยายน 2559
Last Update : 17 กันยายน 2559 8:15:31 น.
Counter : 640 Pageviews.

1 comment
--- ป่ ว ย ---












ครบรอบหนึ่งอาทิตย์ของการป่วยพอดี !
ฉันเริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวตั้งแต่เช้าวันศุกร์ที่แล้ว
ปวดกล้ามเนื้อและยืนโงนเงน

แต่เรามีภารกิจที่ต้องทำคือซ้อมวิ่ง
เสาร์นี้ เราต้องตื่นซ้อมวิ่งยาว 35 กิโล

คืนวันศุกร์ก็เหมือนทุกครั้งที่เราซ้อมวิ่งคือ
เรากินอาหารให้อิ่ม เตรียมอาหารสำหรับมื้อเช้า
และเข้านอนแต่หัววัน

คนอื่นอาจไม่เข้าใจ จะอะไรกันนักหนา
กะแค่วิ่ง ทำไมต้องซ้อมกันขนาดนี้

เราจำเป็นต้องซ้อมเพื่อปรับสภาพร่างกายให้รู้ว่า
จะต้องรับศึกหนักในการวิ่งครั้งต่อไป
จู่ ๆ นึกอยากลงแข่งแล้วไม่ซ้อม คงวิ่งไม่ได้
และยังไงก็ทนสภาพนั้นไม่ได้ อาจบาดเจ็บจนวิ่งต่อไปไม่ได้
นั่นไม่ใช่ความต้องการของเรา

เราวางแผนการวิ่งมาราธอนเพียงปีละครั้ง
มันสำคัญกับเรามากพอสมควร
แต่ก็ลดความสำคัญลงไปเมื่อสุขภาพไม่ไหวจริง ๆ

การป่วยไข้มาเยือนแบบช้า ๆ
ลมฝนที่ว่าหอม สดชื่น แต่ก็มากับเชื้อโรคเล็ก ๆ น้อย ๆ
แดดอ่อนยามสาย อ่อนโยน แต่ก็ซ่อนความแปรปรวนไว้ในนั้น
กลิ่นลมหนาวรวยระรินให้ชื่นใจ ทักทายฤดูใหม่ที่จะมาถึง
หรืออาจหาญวิ่งกลางฝนปรอย เพราะบางอย่างก็อยากลองดู
วิ่งชนอุปสรรคก็ต้องเจออุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา

อาจติดเชื้อแบคทีเรียในอากาศ จากลมหายใจของลูกค้า
เขารับจากฉัน ฉันรับจากเขา เรามีโอกาสป่วยได้เท่า ๆ กัน
ทั้งที่พยายามดูแลรักษาสุขภาพตามสมควร
กินอาหารดี กินผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อน
แต่ก็เลี่ยงอาการป่วยไข้ไม่ได้
ความแปรปรวนในร่างกาย
ความเปลี่ยนแปลงภายในของเรา
แล้วจะโทษใครไปทำไม ป่วยการเปล่า ๆ



เมื่อป่วยก็ต้องพัก..เรื่องง่าย ๆ
วางทุกอย่างข้างหน้าตามที่ตั้งใจไว้ ไม่ต้องเสียดาย
ไม่ต้องไปกังวล เพราะแต่ละวัน เราซ้อมเต็มที่ทุกครั้ง
เราวิ่งตามแผนและไม่สาหัสจนร่างกายทนไม่ไหว
เราไม่ได้ประมาท แต่เราเป็นมนุษย์ธรรมดา
ที่ป่วยได้ และ หายได้

ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา
ต้องมาทำงานตามปกติด้วยสภาพร่างกายไม่ปกติ
ปวดหัวมากทุกวัน เจ็บคอ ไอ ระโหยโรยแรง
ดื่มเกลือแร่วันละสี่แก้ว พยายามกินอาหารแม้ไม่อร่อย
กลับบ้านก็นอนพัก ไม่อยากสนทนากับใคร
หน้าตาไม่รับแขก ไร้ความสุขมาก

นึกถึงชีวิตในวันปกติ
คนที่มีจิตใจสดชื่นแจ่มใสมักอยู่กับคนสุขภาพดี

เมื่อสุขภาพไม่ค่อยดี
ก็ถึงเวลาที่เราต้องดูแลสุขภาพใจให้ดี
อย่าให้ล้มเหมือนร่างกาย

ฝืนหน่อย ก็ควรทำ
เพื่อตัวเอง เพื่อคนใกล้และคนรอบข้าง
ไม่ต้องกังวลอะไรกับอาการป่วยไข้ มันคือธรรมชาติ
ฉันรักตัวเองและดูแลตัวเองอย่างดี
ไม่ได้ฟูมฟาย พักผ่อนและไม่ได้โอดครวญให้ใครเป็นห่วง
ใช้ชีวิตตามปกติในวันไม่ค่อยปกติ

แต่ที่ดีใจคืออาการป่วยของหมาชราในบ้าน
เขาดีขึ้น ไม่ร้องโหยหวนทั้งคืน เหมือนอาทิตย์ที่ผ่านมา
บางทีมันเกิดจากอาการป่วยข้างใน เขาบอกเราไม่ได้

เราป่วย เขาป่วย
เราหงุดหงิด แต่เขาไม่รู้
เผลอเบื่อหน่ายเขา ยามร่างกายเราอ่อนแอ
พอเห็นเขาพยายามมารอรับเรากลับบ้านทุกเย็น ก็สงสาร
น้ำตาจะไหล เขาไม่รู้อะไรด้วย ป่วยก็ยังมารับ-ส่ง
ตามเวลาปกติ ในวันที่เขาไม่ปกติเช่นกัน

การเลี้ยงหมาสักตัว
ต้องเอาใจใส่อย่างมาก
เรามีเรื่องสุขทุกข์ มีเรื่องราวของตัวเอง
แต่เขาไม่มี มีแต่เรา
รอเราทุกวัน
ขอโทษนะที่หงุดหงิดใส่
จะพยายามมีสติกว่านี้
รู้สึกผิดที่ไม่ดีกับเขา

การป่วยไข้สอนอะไรหลายอย่าง
สนใจ ใส่ใจความรู้สึกกันให้มากกว่าเวลาปกติ
เราป่วย เขาก็ป่วย แต่เขาช่วยตัวเองไม่ได้และต้องการเรา
บางวันเขาต้องลากขา ร้องเรียกเราตอนนอนหลับไหลเพราะเหนื่อย ล้า
เขาอยากบอกเราว่าเขาปวด ไม่สบายตัว เท่านั้นเอง
ความรักของเขาที่มอบให้เราไม่น้อยลงเลย
ยังจงรักภักดีทุกวัน

ส่วนแมว เขายังสุขสบายดี
เขาป่วยเมื่อไร เราถึงจะได้กอดเขา
เรารักกันห่าง ๆ ไม่เป็นภาระแก่กันและกัน
ดูสบายใจและรู้ซึ้งอย่างยิ่งว่า
ความรัก เราครอบครองไม่ได้
ก็แค่รัก...



เช้านี้...
อาการไม่ค่อยดีขึ้นเลย
ฝนทำท่าจะตกอีกยกใหญ่ ฟ้าครึ้ม หม่น
คิดว่า พักอีกสักอาทิตย์ คงจะดีขึ้น


งดการซ้อมวิ่ง
หรืออาจงดการลงวิ่งในงานจริง ๆ
ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่นะ



ภูพเยีย
16 กันยายน 2559















Create Date : 16 กันยายน 2559
Last Update : 16 กันยายน 2559 11:58:16 น.
Counter : 676 Pageviews.

2 comment
--- บ า ป ---










ฉันกับพ่อ โทรฯคุยกันเกือบทุกวัน คุยนั่นนี่ สัพเพเหระ
บางวันพ่อโทรฯมา ฉันก็มักจะพูดติดปากว่า "มีรายยยย"
พ่อก็จะบอกว่า "ไม่มีอะไรหรอก โทรฯมาเฉย ๆ ไม่มีธุระอะไรสำคัญ"
ฉันหัวเราะ "ไม่มีอะไรก็โทรฯได้นะพ่อ แค่โทรฯหาก็รู้แล้วว่าพ่อคิดถึง"

[เมื่อวาน ฉันป่วยอีกรอบ หลังจากอาการไอเรื้อรังและไข้สูงมาทั้งอาทิตย์
ฉันกินอาหารเหมือนกับทุกคนในบ้านกิน แต่ฉันท้องเสียอย่างหนัก คนเดียว
กินยา รู้สึกคลื่นไส้ตลอดเวลาอยากอาเจียน ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง อยากจะนอนกับนอน
ฉันเคยเป็นหนักกว่านี้ ขนาดที่โก่งคออาเจียนออกมาแบบแบล็กคอฟฟี่
ครั้งนั้น เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ กว่าจะฟื้นตัวก็หลายวัน
แต่ครั้งนี้ เหมือนอาการป่วยยังเรื้อรัง ไม่หายปลิดทิ้งเหมือนครั้งนั้น
แต่ฉันต้องมาทำงานแล้วในวันนี้
แต่อาการป่วยแบบนี้ ฉันไม่ได้เล่าให้พ่อฟัง ]


พ่อถามว่า "มีพวก18 มงกุฏโทรฯมาบ้านบ้างมั้ย"

"มีสิ-- พวกที่ชอบขายประกันทางโทรศัพท์ พวกให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร
อ้างว่าเราเป็นหนี้บัตรเครดิต หนูไม่เสียเวลาคุยด้วยหรอกพ่อ ส่วนใหญ่จะรีบวาง"

"พ่อไม่วางนะ พ่อมีเวลาคุยกับมัน"

"ยังไงเหรอพ่อ..."

"มันโทรฯมาจากสหธนาคาร พ่อเลยถามมันว่า
สหธนาคารนี่มันธนาคารอะไร มันบอกพ่อว่า เป็นธนาคารที่รวมหลาย ๆ ธนาคารไว้ที่เดียวกัน
เป็นที่คอยเช็คลูกค้าที่มีปัญหากับธนาคาร คอยเตือนลูกค้าเรื่องชำระเงินผิดเวลา
หรือบางทีก็แจ้งเราเรื่องถูกรางวัลแต่เราต้องโอนเปอร์เซ็นต์ส่วนต่างให้ก่อน
ไม่งั้นก็แจ้งดอกเบี้ยที่คุ้มค่าสำหรับลูกค้า"

"อืมมม..แล้วไงต่อพ่อ"
"พ่อถามมันว่า ...ใช่พวกที่ต้มตุ๋นคนให้ไปโอนเงินเข้าบัญชีหรือเปล่า"
"แล้วมันว่าไง"
"มันเงียบ..สักพักมันก็บอกว่า ไม่ใช่นะลุง
พ่อเลยบอกว่า --- ดีแล้ว ))
อย่าไปหลอกใครเค้า มันบาป "

"พ่อว่าอย่างนี้เลยเหรอ"

" พ่อไม่ได้ว่านะ พ่อถามมันไปตรง ๆ มันวางหูไปเลย...แต่พ่อก็คิดในใจนะว่า
บางเรื่องก็เกิดจากความโลภของเราด้วยนะ อย่าขาดสติและก็อย่าไปเชื่ออะไรง่าย ๆ "


:)))




คุยกับพ่อ
13 กันยายน 2010










Create Date : 13 กันยายน 2559
Last Update : 13 กันยายน 2559 11:08:42 น.
Counter : 629 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com