--- There's a Boy in the Girl's Bathroom ---
บันทึกการอ่าน
บรัดเล่ย์ เด็กเกเรหลังห้องเรียน
There's a Boy in the Girl's Bathroom
::
บรัดเล่ย์ ชอล์กเกอร์ส นั่งประจำอยู่หลังห้อง--ที่โต๊ะตัวสุดท้าย แถวสุดท้าย ไม่มีใครนั่งติดกับเขา ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือข้าง ๆ ดูแล้วเหมือนกับว่าเขาโดดเดี่ยวอยู่อย่างนั้นแหละ
ถ้าเลือกได้ เขาอยากจะนั่งอยู่ในตู้เก็บของ แล้วเขาก็จะปิดประตู จะได้ไม่ต้องฟังครูเอ๊บเบลสอน เขาว่าครูเอ๊บเบลคงไม่สนใจหรอก ครูอาจจะชอบเสียด้วยซ้ำ รวมทั้งคนอื่น ๆ ในห้องด้วย ทุกคนคงรู้สึกโล่งอกมากขึ้นถ้าเขาเข้าไปนั่งในตู้เก็บของ แต่โชคไม่ดีที่เขาไม่สามารถเอาโต๊ะใส่เข้าไปในตู้ได้...
ฉั น หั ว เ ร า ะ ก๊ า ก กับบทเริ่มต้นของหนังสือเล่มนี้เพราะเคยเป็นเด็กหลังห้องมาก่อนหรือเปล่านะ แต่ส่วนใหญ่แล้ว เด็กหลังห้องนั้นมักจะเป็นบริเวณสุญญากาศที่ครูมองไม่เห็นเสมอเช่นในกรณีของเด็กน้อยบรัดเล่ย์คนนี้ แต่นั่นก็เพียงเริ่มต้น...
และ
...ถ้าไม่เชื่อก็โทรไปถาม...ดูก็ได้
คำโกหกที่เป็นไม้ตาย อ้างอิงชื่อผู้ใหญ่คนนั้นคนนี้ไปทั่ว
เขาพอใจที่จะทำให้คนอื่นไม่ต้องมาวุ่นวายกับเขามากนัก
และรักที่จะทำตัวเอง ให้เป็นเด็กเกเรอยู่เสมอ
เขาคิดว่าเขามีดีกว่าคนอื่นเสียด้วย
ฉันชอบวรรณกรรมเยาวชนเล่มนี้อีกเล่มนะ อดคิดไม่ได้เลยว่า หนังสือสำหรับเยาวชนนั้นน่าจะเป็นหนังสือที่เขียนให้ผู้ใหญ่ได้อ่านมากกว่า แต่ก็นั่นแหละ เด็ก ๆ อ่านก็จะรับสารตรงไปตรงมาและสนุกสนานกับตัวละครได้
ฉันหลงรักเด็กน้อยบรัดเล่ย์แบบไม่รู้ตัว ทั้ง ๆ ที่ฉันไม่ค่อยชอบเด็กดื้อ ๆ ซน ๆ แต่เจ้าหนูบรัดเล่ย์นี่มีอะไรน่าสนใจ เขาสร้างจินตนาการได้บรรเจิดสดใส ช่างคิด ช่างฝันมาก และก็อดนึกถึงครูผู้ดูแลเด็กซน ๆ แบบบรัดเล่ย์ด้วยซึ่งจะมีทางออกกับเด็กอย่างเขาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง คิดแบบร้ายสุด ๆ นั่นคือ ตัดหางปล่อยวัด ทำเป็นมองไม่เห็นพวกเขาเพราะไม่ใช่เด็กนักเรียนในฝันของครูหลาย ๆ คน ไหนจะสร้างปัญหา ไม่สนใจสิ่งที่ครูสอน ชอบรังแกเพื่อน ไม่ชอบคบหาหรือสุงสิงกับใคร แล้วครูแบบไหนกันนะที่จะมารับมือกับเด็กอย่างบรัดเล่ย์ได้ เป็นภาระหนักของครูที่ต้องทำมากกว่าหน้าที่ครู และในเรื่องนี้ ครูคาล่าร์น่ารักมากและเธอมองเห็นสิ่งพิเศษในตัวของเด็ก สิ่งที่ดีของครูคือเปิดใจรับและพยายามค้นหาด้านลึก มองเห็นศักยภาพในเชิงลึกของเด็กด้วยความเข้าใจและดึงมันออกมา เด็กบางคนยากจะเข้าถึงทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้ว เขาเปิดประตูรอเราอยู่ตลอดเวลา
ฉันเองก็ลุ้นอยู่ตลอดเวลาเช่นกันว่า บรัดเล่ย์ต้องทำได้ ดูเหมือนบรัดเล่ย์จะไม่มีเพื่อนหรือไม่ชอบคบใครแต่เขายังมีตุ๊กตาที่สะสมเป็นสัตว์เล็ก ๆ ที่เขาสร้างบทสนทนาได้อย่างน่ารักและอ่อนโยน ซึ่งเด็กแบบนี้ต้องมีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่แน่ ๆ เพียงแต่เขายังสนุกอยู่ในโลกจินตนาการ รอเวลาเพื่อเชื่อมต่อกับโลกจริงได้อย่างมีความสุข
ขอบคุณครูคาร์ล่าที่น่ารักที่เห็นคุณค่าและความดีงามของคน
และหน้าสุดท้ายที่หลุยส์ ซัคเกอร์ นักเขียนอเมริกันคนนี้บอกว่า ตัวละครส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจจากเด็ก ๆ แห่งโรงเรียนประถมศึกษาฮิลล์ไซด์นั่นเองและครูคาล่าร์ก็มีต้นแบบในชีวิตจริงอีกด้วย
อ่านแล้วนอกจากได้ความสนุกสนานกับตัวละครและหัวใจซื่อ ๆ ของเด็ก ๆ และมากกว่านั้น เราอาจจะมีสายตาใหม่ในการมองเด็กซน ๆ คนหนึ่งก็เป็นได้ค่ะ
::
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย
เป็นเด็กหลังห้อง แถวสุดท้ายเหมือนกันครับ แต่ไม่ได้เกเร แต่ก็ซนเอาเรื่องครับ
ชอบหนังหนังสือวรรณกรรมเยาวชนครับ