วังปารุสกวัน พิพิธภัณฑ์ตำรวจ
เห็นเพื่อนในเฟสบุ๊คไปเที่ยวชมวังปารุสกวัน แล้วชอบมากเลยค่ะ สถาปัตยกรรมสวยงามมาก เลยหาโอกาสไปชมมั่ง
วังปารุสกวัน ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนพิษณุโลก ตัดกับถนนราชดำเนินนอก ประตูที่สามารถเข้าได้ คือ ประตูที่อยู่บนถนนศรีอยุธยานะคะ
นุ้ยไปวันอาทิตย์ค่ะ บรรยากาศถนนแถวนั้นเงียบมากๆ ที่วังยิ่งเงียบค่ะ นุ้ยไปกับเพื่อนสองคน แล้วก็มีผู้เข้าชมอื่นอีกคนเดียว รวมแล้ว 3 คนถ้วนค่ะ เจ้าหน้าที่ก็น่ารัก พาเข้าชม อธิบายอย่างละเอียด ไม่มีทีท่าจะเบื่อเลยค่ะ ไปถึงก็เข้าชมวีดีทัศน์ก่อนนะคะ
เจ้าหน้าผู้นำชมค่ะ
ห้องแรกที่เข้าชม ห้องนี้เคยเป็นที่ประชุมของคณะราษฎร์ ในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ห้องถัดไปจะเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับรัชกาลที่ 6 ค่ะ ส่วนเรื่องราวโดยละเอียดของท่านเจ้าของวังเดิม
ทุกส่วนประกอบของวังนี้บ่งบอกถึงความละเอียดและใส่ใจของผู้สร้างนะคะ สวยงามไปซะทุกอย่าง
ขึ้นชั้นบนกัน เจ้าหน้าที่บอกว่า ช่วงมีชุมนุมมีระเบิดหลายครั้ง ทำให้กระจกหน้าต่างแตกไปหลายบาน น่าเสียดายจังเลยนะคะ
ห้องชั้นบนค่ะ ลวดลายประดับผนังและเพดานละเอียด สวยงามมากค่ะ
นิทรรศการเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ในพระราชดำริเกี่ยวกับตำรวจค่ะ
ปืนติดเฮลิคอปเตอร์ที่ในหลวงท่านทรงออกแบบเพื่อให้ใช้ในภารกิจปราบปรามผู้ก่อการร้าย เพื่อให้นักบินสามารถยิงได้เลย ช่วยลดความสูญเสียกำลังพลที่จะมายืนถือปืนค่ะ
ด้านนอก ทางไปพิพิธภัณฑ์ตำรวจ ตุ๊กตาหินอ่อนที่นี่สวยงามละเอียดละออทุกชิ้นเลยนะคะ เห็นว่าหม่อมคัทรินโปรดการจัดสวน
หลังจากชมทุกจุดในตึกจิตรลดาแล้ว เจ้าหน้าที่จะพาเดินไปที่พิพิธภัณฑ์ตำรวจค่ะ
บริเวณจุดลงทะเบียน มีเจ้าหน้าที่รับช่วงพาชมต่อค่ะ ภายในจัดแสดงวิวัฒนาการของตำรวจตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน
แสดงการทำงานของตำรวจหน่วยต่างๆ โดยกดที่ปุ่ม แล้วไฟจะสว่างในจุดที่ตำรวจหน่วยนั้นๆ ทำงานค่ะ
แสดงการทำงานของหน่วยอรินทราช
แสดงการสืบหาหลักฐานจากวัตถุพยานต่างๆ
กำแพงนี้แสดงผลงานการทำงานของตำรวจค่ะ หลายๆ ท่านเรารู้จักกันดี และได้เสียชีวิตไปแล้วจากการปฎิบัติหน้าที่
สวยทุกมุมเลยนะคะที่นี่ ที่สนามยังเห็นฝาขวดน้ำเกลื่อนเลยค่ะ คงเป็นพวงมาจากการชุมนุม ที่มีการใช้ที่นี่เป็นจุดพัก
เจ้าหน้าที่ได้ช่วยอธิบายคำว่า ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ให้ฟังค่ะ ว่าคือ ทรัพย์สินของกษัตริย์ที่ถูกยึดเป็นของแผ่นดินในช่วงเปลี่ยนการปกครอง บริหารโดยกระทรวงการคลัง ไม่ใช่ทรัพย์สินของในหลวงอย่างที่หลายคนเข้าใจ ....ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และทรัพย์สินส่วนพระองค์เป็นคนละส่วนกัน ดังนั้นกลุ่มที่ชอบโจมตีในหลวงควรทำความเข้าใจซะใหม่นะคะ
ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ แวะพักผ่อนหย่อนใจที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ไปมาอีกแล้วค่ะ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ไม่ได้ใกล้บ้านนะคะ แต่ก็ชอบไป เพราะมันสงบดี
แล้วก็มีอะไรให้ดูเพลินๆ เยอะแยะ ยิ่งช่วงนี้เห็นมีกลุ่มดูนกไปทำกิจกรรมกันบ่อยๆ ก็ได้อาศัยเดินตามๆ เค้าไปค่ะ แต่ว่าจำชื่อนกไม่ได้ซักตัว
ท่าทางช่วงนี้อาหารจะอุดมสมบูรณ์ กลมเชียว
แอบถ่ายตอนเค้าเดิน
ถ่ายยากถ่ายเย็นมากค่ะ นกนี่ไม่ค่อยอยู่นิ่งๆ กันเลย
ผีเสื้อช่วงนี้รู้สึกว่ามีไม่ค่อยมีสีแปลกๆ เลยค่ะ
คงผ่านสงครามมาเยอะนะคะ รุ่งริ่งเชียว
ท่าทางจะอร่อยนะเนี่ย
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมกันนะคะ กิจกรรมถวายยา 100 วัด 3จังหวัดชายแดนใต้
ครงการนี้เป็นกิจกรรมร่วมระหว่างโครงการพระราชดำริ และกลุ่มปันของใช้ให้น้องค่ะ
โดยกลุ่มปันของใช้ให้น้อง เป็นผู้รวบรวมสิ่งของและเงินบริจาค นำไปส่งมอบให้กับโครงการพระราชดำริฯ ที่จังหวัดปัตตานี ถนนหนทางในจังหวัดปัตตานี จะมีพี่น้องทหารคอยรักษาความปลอดภัยตลอดค่ะ สงสารทหารจับใจ ฝนตกแดดออกก็ต้องทน
นุ้ยว่าปัตตานีเป็นจังหวัดที่น่าอยู่นะคะ ทิวทัศน์สวยงามมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเหตุรุนแรงรายวัน
ถ้าเป็นปกติ คงแวะจอดรถถ่ายรูปกันหลายที่เลยค่ะ วิวสวยมาก
ตามวัดต่างๆ จะมีทหารคอยรักษาความปลอดภัย
วัดยานิการาม มีหลวงพ่อจำวัดอยู่รูปเดียว ถามหลวงพ่อว่ากลัวมั้ย ทำไมถึงยังอยู่ที่นี่ ท่านบอกก็กลัวแต่ถ้าท่านไป ชาวบ้านจะพึ่งใคร
เท่าที่สังเกต วัดที่ปัตตานีจะใหญ่โตทุกวัดนะคะ แสดงว่าเมื่อก่อนพุทธศาสนาคงรุ่งเรืองเหมือนกัน ที่นี่คือวัดทรายขาวค่ะ
ตอนกลางคืนได้มีโอกาสไปเยี่ยมจุดเฝ้าระวังต่างๆ ชาวบ้านต้องรวมตัวกันตั้งกลุ่ม เพื่อรักษาความปลอดภัย ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าที่นี่คือเมืองไทย เท่าที่ได้คุยกับทหารในหลายๆ จุดส่วนใหญ่ไม่ใช่คนในพื้นที่่ทั้งนั้นเลย แต่ขออาสามาลงพื้นที่
เก็บบรรยากาศงานวัดลอยฟ้ามาฝากค่ะ
เมื่อวานไปเดินงานวัดลอยฟ้าที่สยามพารากอนมาค่ะ เลยเก็บบรรยากาศมาฝาก เผื่อใครสนใจค่ะ
บรรยากาศภายในงานค่ะ โรงแสดงธรรม มีการแสดงบนเวทีด้วย ตัวอย่างเสื้อที่นุ้ยช้อบมาจากงานนี้ค่ะ สินค้าของจิตนครและสวนโมกข๋ไม่มีเงินทอนนะคะ ต้องเตรียมเงินไปให้พอดี และก็ไม่มีถุงใส่นะคะ เตรียมถุงกันไปเองด้วยค่ะ แบบเสื้อของจิตนครเพิ่มเติมค่ะ กิจกรรมสกรีนผ้า ช่วยๆ กันถือ แล้วตัดแบ่งกันค่ะ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ ^_^ นอนขนำกลางทะเลที่สินมานะฟาร์มสเตย์
การเดินทางไปสินมานะฟาร์มสเตย์ จะมีเรือของทางฟาร์มมารับที่ท่าเรือสินมานะค่ะ
เป็นเรือขนาดใหญ่ มีเสื้อชูชีพให้ใส่ และมีการบรรยายถึงพื้นที่ และวิถีชีวิตของชาวประมงตลอดเส้นทาง
สิ่งที่สังเกตได้ตลอดทางคือ ทะเลสะอาดมากค่ะ เค้าบอกว่าถ้ามีขยะแม้แต่ชิ้นเดียว ชาวประมงที่เลี้ยงหอยจะเดือดร้อนมาก
เค้าจึงมีระบบการจัดการขยะ และบำบัดน้ำเสียก่อนลงทะเล ถ้าทุกที่ทำได้แบบนี้คงจะดีนะคะ นั่งเรือไปประมาณ 30 นาทีก็ถึงฟาร์มแล้วค่ะ เลือกที่นอนได้ตามอัธยาศรัย ที่นี่ไม่มีแบบห้องส่วนตัวนะคะ
ภาพห้องนอนรวมค่ะ รับลมทะเลสบายเชียว บางคนเลือกที่จะนอนเต๊นท์ ส่วนนุ้ยไปนอนเตียงริมระเบียงค่ะ
ไปถึงก็พักผ่อนตามอัธยาศรัยคะ ...ส่วนที่พักอาศัยจะมี 2 ชั้น ส่วนด้านล่างสุด จะเป็นพื้นที่เพาะเลี้ยงหอยนางรมค่ะ
ไฮไลท์ของที่นี่คือการชิมหอยนางรมสด หอม อร่อยมากค่ะ
หลังอาหารเย็นมีการแสดงหนังตะลุงให้ดูด้วยค่ะ เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ดู สนุกจริงๆ ค่ะ
รอดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็น
ตอนกลางคืนที่นี่ดาวสวยมากค่ะ เสียดายที่ไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไป เลยไม่ได้ถ่ายดาวเลย ตื่นเช้ามาก็มีกาแฟ โอวัลตินไว้บริการค่ะ อาหารเช้าเป็นข้าวต้มทะเลอร่อยๆ แต่ก่อนทานอาหารเช้าก็ขอรอดูพระอาทิตย์ขึ้นซะหน่อย
ชาวประมงเริ่มงานกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเลย
รับประทานอาหารเช้าเสร็จ ก็อาบน้ำเตรียมตัวกลับบ้านค่ะ ขากลับก็ยังมีวิทยากรบรรยายเรื่องราวต่างๆ ตลอดทางเช่นเดิม ชาวประมงกำลังทำรั้ว แถวนี้น้ำไม่ลึกมากนักค่ะ
คงเป็นครอบครัวใหญ่ ที่นี่มีทั้งการเพาะเลี้ยงหอยนางรม หอยแครง และหอยแมลงภู่ค่ะ
ศาลากลาง เป็นที่ประชุมของชาวประมงค่ะ
บริเวณปากน้ำ
อิจฉาวิถีชีวิตชาวประมงจังเลยค่ะ ได้อยู่กับอากาศดีๆ วิวสวยๆ กินอาหารทะเลอร่อยๆ แต่ต่างคนต่างก็คงมีความลำบากกันคนละอย่างนะคะ เวลาไปเที่ยวแบบนี้ เหมือนเวลาหยุดหมุน ไม่อยากกลับมาทำงานเลยค่ะ....ขอบคุณที่แวะเข้ามาชมนะคะ... |
ท่องเที่ยวไปตามใจฉัน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |