เที่ยวพม่า ตอนที่ 2...ลุยฝนไปพระธาตุอินทร์แขวน
กลับมาจากพม่าเรียบร้อยแล้วค่ะ เที่ยวไม่ครบตามแผน เจออุปสรรคหลายอย่าง แต่สนุกสนานมากมาย

ยังไงต้องขอกลับไปอีกสักครั้งแน่นอนค่ะ...ใช้เวลาพักเหนื่อยอยู่หลายวัน คงได้เวลาอันควรเริ่มเขียนบล๊อคสักที

ไม่งั้นคงลืมข้อมูลหมดแน่ๆ เลย นุ้ยเดินทาง 6 พฤศจิกายน 2557 ค่ะ ....พอเครื่องบินใกล้ถึงสนามบินย่างกุ้ง

กัปตันก็ประกาศว่า ขณะนี้ ที่สนามบินย่างกุ้งฝนตกหนัก ไม่สามารถนำเครื่องลงได้ ต้องบินวนประมาณ 30 นาที

ก็เตรียมใจมาแล้วนะคะว่าคงเจอฝนแน่นอน แต่ก็ไม่คิดว่าฝนจะตกหนักขนาดนี้ มองออกไปนอกหน้าต่าง

เจอแต่ภาพขาวโพลนมองไม่เห็นอะไรเลยค่ะ แต่ผ่านไปครึ่ง ชม. ฟ้าก็เริ่มเปิด นำเครื่องลงได้แล้ว

สิ่งแรกที่เห็นเลย คือ ต้นไม้เยอะมาก เหมือนกับที่เคยได้ข่าวมาเลย ว่าคนพม่ารักต้นไม้ ตาย 1 ปลูกเพิ่ม 3 

มีเรื่องตลกที่สนามบินคือ ในห้องน้ำค่ะ...ตอนรอต่อคิวก็ว่าทำไมแต่ละคนเข้าไปนานจัง พอเข้าไปถึงได้รู้ว่าเค้าใช้ระบบเซ็นเซอร์

ก็พยายามเอามือไปกดๆ จิ้มๆ โบกผ่านจุดที่คิดว่าเป็นเซ็นเซอร์ เอ๊ะ ทำไมน้ำไม่ไหล นานมากๆ จนต้องตะโกนถามเพื่อน

เพื่อนบอกให้เดินออกมาเลยค่ะ เดี๋ยวชักโครกจะลงไปเอง .... อิ อิ อายจัง เค้าก็เขียนอยู่เซ็นเซอร์ระยะ 2 เมตร

ที่สนามบินรถตู้ที่เช่าไว้มารอรับอยู่แล้วค่ะ ที่เซอร์ไพร์สคือ เค้าแถมไกด์มาด้วย ชื่อโตซิน 

พอจัดการเรื่องสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็จัดการแลกเงินกันค่ะ เบื้องต้นแลกกันคนละ 100 USD ก่อน

ตามเรทวันนั้นแลกได้คนละ 100,400 จ๊าด (แบงค์ดอลล่าร์ที่จะนำไปแลกห้ามยับ ขาด พับ หรือมีรอยเปื้อนนะคะ )

ออกเดินทางค่ะ แต่ฝนตก รถติด ไม่ต่างกับกรุงเทพเลย

วันนี้คงเป็นวันทำบุญใหญ่ของเค้านะคะ เจอรถแบบนี้เยอะแยะไปหมดเลย

จุดแรกที่เราแวะกัน คือ พระพุทธไสยาสน์ชเตาเลียว ค่าเข้าชม จะเป็นแบบเหมาชมเมืองหงสานะคะ 10,000 จ๊าด 

ถ้าจะถ่ายรูปด้วย ก็ต้องซื้อคูปองถ่ายรูปอีก 300 จ๊าด เค้าจะให้เราแขวนคูปองไว้ที่กล้องค่ะ

สงสัยจะมาหลบฝนกัน

ด้านหน้าก็ดูเหมือนวัดบ้านเรานะคะ มีคนมากราบไหว้ พอเดินมาด้านหลังตกใจ มาปิ๊กนิคกันเลยเหรอคะ

กลิ่นอาหารหอมยั่วใจ พาลให้เราหิวข้าวไปด้วยเลย

เดินดูภาพติดผนัง เค้าทำเป็นภาพนูนต่ำ สวยงามดีนะคะ

ทางเข้าอลังการมากค่ะ

อยากออกไปดูว่าเค้ามีอะไรขายมั่งใจจะขาด

ใครจะไปพม่า ขอเตือนเรื่องห้องน้ำไว้ก่อนนะคะ ห้องน้ำที่วัดนี้ เสียค่าบริการ 300 จ๊าด นุ้ยก็คิดว่าต้องโอเคแน่ๆ มีเก็บค่าบริการ

พอเข้าไปแล้วแทบหงายท้อง เป็นส้วมหลุม กลิ่นนี่ไม่มีคำบรรยาย ออกมาหน้าซีดกันทุกคน 

จากนั้นก็เดินทางต่อไปพระธาตุอินทร์แขวนค่ะ นุ้ยได้ซิม telenor มากจาเพื่อน เวลาอยู่ในย่างกุ้งสัญญานดีมาก

พอเข้าเขตเมืองหงสา สัญญานก็หาย ใช้การไม่ได้โดยสิ้นเชิงค่ะ 

กว่าจะไปถึงบริเวณที่จะขึ้นรถไปพระธาตุอินทร์แขวนก็เย็นแล้วค่ะ ฝนยังตกไม่หยุด เลยต้องซื้อถุงใส่กระเป๋ากัน

ตกเป็นเงินไทยประมาณ 15 บาท เสื้อกันฝนก็มีขายนะคะ ซื้อในเซเว่นเมืองไทยก็ 29 บาท มาซื้อที่นี่ 60 บาทค่ะ

อ่านตามรีวิวต่างๆ เค้าเรียกกันว่ารถขนหมูค่ะ แต่ก็ยังโชคดีเดี๋ยวนี้มีที่นั่งพนักพิงอย่างดี ไม่ใช่แบบไม้กระดานพาดแล้วค่ะ

ค่ารถคนละ 2,500 จ๊าด เวลาขึ้นต้องระวังหน่อยนะคะ นุ้ยโดนคุณป้าชาวพม่าเบียดเกือบตกลงมา คนก็ไม่เยอะ รถก็ยังไม่เต็ม

ไม่รู้จะรีบแซงทำไม อยู่พม่าต้องทำใจเรื่องโดนแซงคิวเลยค่ะ  กรุ๊ปเราโชคดีที่โตซินเป็นคนประสานงานเรื่องรถให้

เลยได้ลงจุดที่ชาวพม่าลง เดินแค่ 200 เมตรก็ถึงที่พักแล้ว ปกตินักท่องเที่ยวต้องลงอีกจุดนึง แล้วเดินต่อ หรือใช้บริการเสลี่ยง

ถึงจะเดินใกล้ แต่เจอฝนแบบนี้ก็ไม่มีอารมณ์จะแบกกระเป๋ากันเองแล้วค่ะ ใช้บริการลูกหาบกัน เค้าคิดค่าบริการไม่แพง

กระเป๋าใบละ 1,000 จ๊าด เท่านั้นเอง นุ้ยพักที่โรงแรมไจ้ทิวค่ะ เช็คอินแล้วก็จะได้บัตรแบบนี้มา

 ออกไปไหว้พระธาตุกันค่ะ.....ถึงฝนจะตก แต่คนก็ยังเยอะอยู่นะคะ

คนเยอะมากค่ะ เข้าไม่ถึง อ่อนแรง หนาว กลับที่พักดีกว่าค่ะ กะไว้ว่าดึกๆ ค่อยมาใหม่ ปรากฏว่าฝนตกหนักกว่าเดิม นอนยาวเลยค่ะทีนี้

วันแรกนี่รูปไม่ค่อยมีนะคะ ฝนตกหนัก  ทั้งกล้องใหญ่ทั้งมือถือ เก็บแอบฝนหมดเลย  รอลุ้นกันใหม่วันต่อไปค่ะ

ปล.สำหรับใครที่ไม่ได้จองบุปเฟ่ต์ของทางโรงแรมไว้ ฝั่งตรงข้ามก็มีร้านอาหารนะคะ

ราคาไม่แรง ราคาประมาณจานละ 3,500-5,000 จ๊าดค่ะ

ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ 




Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2559 15:06:49 น.
Counter : 795 Pageviews.

0 comment
มิงกะลาบา พม่า ตอนที่ 1...เตรียมตัว...
ยังค่ะ...นุ้ยยังไม่ได้ไป แต่จะเดินทางวันที่ 6 พฤศจิกานี้แล้ว เลยเริ่มเขียนบล๊อคก่อน จะได้ไม่ต้องมาย้อนเขียนเรื่องก่อนไปอีก

เอนทรี่นี้จะว่าด้วยเรื่องราวของการเตรียมตัวไปพม่าของนุ้ยนะคะ เผื่อเป็นแนวทางสำหรับใครที่กำลังจะวางแผนไปเที่ยว

จุดหมายปลายทางของทริปนี้คือ ย่างกุ้ง หงสา พระธาตุอินทร์แขวนค่ะ กรุ๊ปของนุ้ยมีสมาชิกร่วมทริปทั้งหมด 10 คน

เป็นเด็กอายุ 7 ขวบ 1 คน ผู้ใหญ่ 9 คน ราคาของบางอย่างที่จะลงรายละเอียด จึงเป็นราคาเหมานะคะ เดินทาง 6-8 พ.ย

จริงๆ นุ้ยว่าตารางแน่นไป แต่ด้วยความผิดพลาดทางเทคนิค เพราะตอนแรกที่จะไป นุ้ยกะว่าจะสำรวจย่างกุ้งอย่างเดียวให้ทั่ว

เลยแพลนแค่ 3 วัน 2 คืน แต่พอมีสมาชิกเยอะขึ้น มีคนอยากไปพระธาตุอินทร์แขวนก็ต้องเลยตามเลยค่ะ

จองตั๋วเครื่องบิน 

นุ้ยจองตั๋วโปรของแอร์เอเซียไว้ตั้งแต่เดือนเมษายนโน่นแน่ะค่ะ หลังจากช่วยกันหาวัน หาราคาที่ถูกที่สุด จึงได้วันตามนี้มา

ราคาถูกบ้าง แพงบ้าง แต่หารเฉลี่ยออกมาแล้ว ได้ตั๋วไปกลับคนละ 704 บาทค่ะ  

สายการบินให้นำสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องได้ 7 กก. นะคะ กรุ๊ปนุ้ยเลยซื้อน้ำหนักเพิ่มรวมกันเป็นบุ๊คกิ้งไป 

(ขาไป ซื้อ 25 กก. หาร 5 ตกคนละ 110 บาท ส่วนขากลับนุ้ยซื้อคนเดียว 25 กก. 550 บาทค่ะ เพราะญาติเยอะ)

หลังจากเสร็จเรื่องตั๋วเครื่องบิน ก็เริ่มหาข้อมูลค่ะ ทริปนุ้ยไปกันเอง ไม่ได้ใช้บริการบริษัททัวร์ ก็ซื้อหนังสือมาอ่าน

ดูโปรแกรมของบริษัททัวร์ และอ่านรีวิวต่างๆ ขอบคุณบล๊อคเกอร์ทั้งหลายที่เขียนรีวิวทริปนะคะ

เป็นประโยชน์กับคนที่จะเดินทางไปที่นั้นๆ จริงๆ 

ปัญหาแรกที่กรุ๊ปเราเจอเลย คือ เพื่อนใส่นามสกุลตอนจองตั๋วผิดค่ะ วิธีการแก้ปัญหาก็คือ 

1. ส่งหน้า Passport ไปที่ email : thailand-support@airasia.com 
2. หลังจากนั้น 30 นาที ให้โทรไปที่ Call Center 02-5159999
3. เมื่อ Operator รับสายให้แจ้งว่าได้ส่ง email passport ขอเปลี่ยนแปลงนามสกุลที่ผิดเข้าไปให้ ให้เค้าตรวจสอบว่าได้รับหรือไม่
    หากได้รับแล้วเค้าจะเมล์ Itinerary มาให้ค่ะ

การขอวีซ่า

เบื่อการรอยเหมือนกันนะคะ แต่ระหว่างยังไม่ถึงวันก็เที่ยวในเมืองไทยไปพลางๆ หาข้อมูลไปเรื่อยๆ พอใกล้ๆ วันไปซักเดือนนึง

กรุ๊ปเราก็ต้องไปทำวีซ่ากันแล้วค่ะ (แอบนินทาในใจ จะเข้า AEC อยู่แล้ว ยังจะให้ทำวีซ่าอีกเนอะ) เอกสารที่ต้องใช้ก็ 

1. พาสปอร์ตฉบับจริง ยังไม่หมดอายุภายใน 6 เดือน
2. สำเนาพาสปอร์ต 1 ฉบับ
3. แบบฟอร์มขอวีซ่า (จะไปขอเจ้าหน้าที่ที่สถานฑูตก็ได้) หรือโหลดตามเว็บข้างล่างนี้
https://docs.google.com/file/d/0Bz01pUrAQ4SdMl82aUFoOXVOaTg/edit
4. รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป ต้องเป็นพื้นหลังสีขาวหรือสีอ่อนเท่านั้น
    - ติดรูป 1 รูปในแบบฟอร์มขอวีซ่า
    - อีกรูปที่เหลือ ใช้คลิปหนีบกระดาษหนีบกับสำเนาพาสปอร์ตกับฟอร์มขอวีซ๋า
5. เตรียมเงินไปจ่ายค่าทำ VISA  มี 3 แบบ
    - ธรรมดา ( 3 วัน ) = 810 บาท ต่อคน
    - ด่วน ( 2 วัน ) = 1,025 บาท ต่อคน
   - ด่วนพิเศษ ( รอรับตอนบ่ายวันเดียวกัน ) = 1,200 บาท ต่อคน
***เฉพาะด่วนพิเศษต้องมี สำเนาตั๋วเครื่องบินหรือ itenary ด้วย

วัน-เวลาเปิดบริการของสถานฑูตดังนี้
วันจันทร์-ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดของไทยกับพม่า)
1. ยื่นขอ visa ตั้งแต่ 09:00-12:00 น.
2. รอรับ visa ตั้งแต่ 15:30-16:30 น.

ปัญหาที่เจอในการขอวีซ่าก็คือ คนที่ทำงานพวกสำนักพิมพ์ เจ้าหน้าที่เค้าจะถามว่า ใช่โรงพิมพ์ของรัฐมั้ย ถ้าไม่ใช่เค้าก็ปล่อยผ่านค่ะ ทั้งกรุ๊ปวีซ่าผ่านหมด มีปัญหาคนเดียว กรอกเอกสารไม่เรียบร้อย แล้วไม่ได้ไปเอง (สามารถฝากเพื่อนยื่นให้ได้นะคะ) ก็ต้องกลับมาจัดการใหม่ให้เรียบร้อย ขอวีซ่าพม่าไม่ยากค่ะ ใครจะไปมาขอเองก็ได้ ตอนแรกกลุ่มนุ้ยก็จะพึ่งบริการเอเย่น แต่เค้าชาร์จเกือบเท่าตัว เลยจัดการกันเองค่ะ มันไปรับก็จ้างแมเซนเจอร์ไปรับให้ อ้อ..เดี๋ยวนี้ e-visa ด้วยนะคะ ค่าธรรมเนียม 1,650 บาท ค่ะ

ที่พัก

- ที่พักบนพระธาตุอินทร์ นุ้ยนอนที่ Kyaik Hto Hotel  ค่ะ ห้องละ 3 คน ตกคนละ 40 USD
  (ที่พักที่นี่จะได้ราคาใกล้ๆ วันไปค่ะ เค้าไม่ยอมเปิดราคาก่อน นุ้ยไปช่วงไฮซีซั่น ราคาเลยค่อนข้างสูง)

- ที่พักในย่างกุ้ง นุ้ยใช้บริการของ Direct Myanmar เค้ามีห้องให้เช่าค่ะ https://th.airbnb.com/rooms/3871572
  นอนเตียงได้ 6 คน นอนโซฟา 1 คน  รวมเป็น 5700 บาท + Service tax 8% = 6156 บาทค่ะ
  ส่วนนุ้ยไปนอนบ้านเพื่อนพี่ในกรุ๊ปที่มาด้วยกันประหยัดเงินไป อิอิ

การเดินทาง

- รถตู้เช่าเหมาตั้งแต่วันที่ 6-8 พ.ย. ค่ะ กรุ๊ปนุ้ยใช้บริการของ Nay Linn Car Rental Myanmar 
  เป็นรถคอมมูเตอร์ 14 ที่นั่ง ราคาเหมา 450 USD ตกคนละ 50 USD

ทั้งหมดนี่คือ ค่าใช้จ่ายที่ชำระไปแล้ว และรายละเอียดก่อนที่นุ้ยจะเดินทางนะคะ เดี๋ยวกลับมาแล้วจะรีวิวเพิ่มเติมค่ะ

หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างนะคะ อ้อ..อีกนิดนึง เงินดอลล่าร์ที่จะไปแลกเป็นเงินจ๊าด ต้องใหม่ ห้ามยับ ห้ามเป็นรอยนะคะ

สรุปค่าใช้จ่ายก่อนไป

1. ค่าตั๋วเครื่องบิน                                704      บาท

2. ค่าซื้อน้ำหนักเพิ่ม                             660      บาท

3. ค่าถ่ายรูปทำวีซ่า                              120      บาท

4. ค่าทำวีซ่า                                        810      บาท

5. ค่าที่พัก Kyaik Hto Hotel                 1,304     บาท   (40x32.60)

6. ค่าเช่ารถตู้                                      1,630     บาท   (50x32.60)

รวม   5,228 บาทค่ะ 




Create Date : 04 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2557 13:41:53 น.
Counter : 1163 Pageviews.

0 comment
ล่องเรือชมวิวแก่งกระจาน

จริงๆ ตั้งใจว่าจะไปพะเนินทุ่งค่ะ ออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณตีสอง ไปถึงใกล้รุ่งเช้า

พอถึงด่านทางขึ้นบ้านกร่าง เจอป้ายประกาศปิดบ้านกร่าง ห้วยแม่สะเรียง เขาพะเนินทุ่ง ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2557

ทำอะไรไม่ได้ค่ะ ปิดคือปิด ก็ต้องถอยลงมานอนพักบนรถกันที่ทำการ อช.แก่งกระจาน 

พอพระอาทิตย์ขึ้นก็ไม่รู้จะไปไหนกัน เพราะตั้งใจจะมาที่พะเนินทุ่งที่เดียวเลย ระหว่างนั่งจิบกาแฟ

ก็เห็นว่าเค้ามีเรือนำเที่ยว เลยลองใช้บริการดู มาหลายครั้งแล้วไม่เคยใช้บริการสักที

ค่าเรือเจ้านึงบอก 900 อีกเจ้าคิดหนึ่งพัน ก็ต่อรองลงมาเหลือ 800 บาท เพราะไปกันสีคนจะได้หารลงตัวพอดี

ใช้เวลาในการล่องเรือไปกลับประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะ ก็นั่งชมวิวไปเรื่อยๆ

กิจกรรมที่เห็นส่วนใหญ่น่าจะเป็นการตกปลา 

มีการปลูกพืชบนน้ำบ้างเป็นระยะ คนขับเรือบอกว่าคือผักเอื้อง ลักษณะจะคล้ายๆ ผักบุ้งค่ะ

จุดแรกที่เรือพาแวะ คือ เกาะที่มีน้องลิงอยู่ค่ะ พอได้ยินเสียงเรือก็วิ่งมารอกันแล้ว

เค้ามีขนมขายให้เราไว้แจกลิง ถุงละ 20 บาท ก็ฉีกถุง โปรยลงน้ำ เดี๋ยวน้องลิงจะว่ายมากิน

เห็นแล้วก็น่าเวทนานะคะ ขนมแบบนี้ไม่น่าจะเหมาะกับลิง แต่บนเกาะคงหาอะไรกินยากแล้ว

บางตัวก็ปีนมากินบนเรือเลย 

เพื่อนก็ตั้งข้อสงสัยขึ้นว่า ลิงมาอยู่บนเกาะได้ยังไง นุ้ยเลยคิดว่าน่าจะอยู่ก่อนสร้างเขื่อนหรือเปล่า

พอน้ำท่วมเข้ามาก็ไปไหนไม่ได้แล้ว นึกถึงคลิปตอนที่ปล่อยน้ำเข้าเขื่อนรัชชประภาเลยค่ะ มีสัตว์กี่ตัวไม่รู้ที่ต้องตายเพราะน้ำท่วม

จุดหมายปลายทางของการล่องเรืออยู่ที่นี่ค่ะ สำนักวิปัสสนาเกาะศักดิ์สิทธิ์พระโพธิสัตว์แก่งกระจาน นุ้ยไม่ได้ถ่ายบรรยากาศมาเลยค่ะ

ไหว้พระเสร็จก็เดินตามน้องนกไป

พอเดินไปใกล้ๆ ก็โดดหนีกันหมดเลย ได้แต่รูปไกลๆ มาค่ะ

น้องหมาที่นี่ก็มีหลายตัวค่ะ แอบสงสัยเหมือนกันว่ามายังไง

เห็นเรือเข้ามาหลายลำ แต่ไม่ค่อยมีใครเดินขึ้นไป จริงๆ แล้วเดินไม่ไกลนะคะ นิดเดียวเอง

เกาะเล็กๆ ไม่ค่อยมีอะไรมากมาย เห็นพระท่านว่ามีพระพุทธรูปอยู่รอบๆ เกาะ ให้เดินไปขอพร

แต่พอดีพวกนุ้ยมีเด็กมาด้วย เลยไม่ได้เดินไปค่ะ ......ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ




Create Date : 13 สิงหาคม 2557
Last Update : 13 สิงหาคม 2557 14:24:35 น.
Counter : 1140 Pageviews.

2 comment
ร่วมส่งกำลังใจให้ทหารชายแดนใต้ด้วยกันนะคะ
ในช่วงนี้คงได้ข่าวการสูญเสียที่ชายแดนใต้ไม่เว้นแต่ละวัน ชาวบ้านก็อยู่กันด้วยความหวาดผวา
เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงานตัวเป็นเกลียว เหนื่อยก็เหนื่อย เสี่ยงก็เสี่ยง ไม่รู้ภัยจะมาถึงตัววันไหน
เราอยู่แนวหลังมาช่วยกันส่งกำลังใจไปให้ที่นั่นกันเถอะนะคะ 

แอบเอาภาพจากเฟสบุ๊คคุณทหารมาแปะให้ดู ว่าทหารที่อยู่ในเพื้นที่จริงๆ เค้าลำบากกันขนาดไหน



ฝนตกแดดออกก็ต้องทำหน้าที่กันไป



นอกจากป้องกันภัย แล้วยังต้องทำอย่างอื่น เพื่อให้เข้าถึงชาวบ้านในพื้นที่



ของที่เราส่งกันไปตาม ฉก.ใหญ่ๆ ต่างๆ มักจะไม่ค่อยถึงมือทหารหน่วยเล็กๆ หรอกค่ะ
เพราะเหตุผลด้วยจำนวนกำลังพล และการเดินทางขนส่ง นุ้ยจึงเลือกที่จะส่งมอบให้กับทางโรงเรียน
เพื่อมอบให้ถึงมือทหารหน่วยเล็กๆ ที่แทบไม่เคยได้รับสิ่งของจากหน่วยงานไหนเลย
อย่างหน่วยคุ้มครองครู คุ้มครองพระ ซึ่งความเสี่ยงสูงมาก 
พระและครูเป็นเป้าหมายหลักที่จะถูกสังหาร คนคุ้มกันจึงเสี่ยงมากขึ้น



ของที่จะส่งลงไป ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน อาหารกระป๋อง อาหารแห้ง 
หรือบางคนก็ส่งเป็นขนม เพื่อเป็นของขวัญให้กำลังใจแก่ทหาร 



ถึงของจะไม่มากไม่มาย แต่อย่างน้อยก็ทำให้ทหารชายแดนรู้ว่า คนไทยไม่ทิ้งกันนะคะ



หรือจะเลือกส่งเป็นของให้กับเด็กๆ ชายแดนใต้ก็ได้ค่ะ





หนังสือพร้อมการ์ดเล็กๆ เขียนให้กำลังใจ ก็พอทำให้เด็กๆ ยิ้มได้



ใครสนใจอยากร่วมส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวใต้ หรือทหารชายแดน สามารถส่งลงไปโดยตรงได้เลยค่ะที่

โรงเรียนบ้านป่าไร่ ม.3 ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี 94180

ถ้าต้องการภาพอัพเดทสิ่งของที่ถึงมือพี่น้องชาวใต้ เด็กๆ และทหาร
วงเล็บไปนิดนึงนะคะว่า (ส่งกำลังใจให้น้องชายแดนใต้)
แล้วรอชมภาพได้ที่ https://www.facebook.com/songjaihainong ค่ะ





Create Date : 30 กรกฎาคม 2557
Last Update : 30 กรกฎาคม 2557 11:41:43 น.
Counter : 3092 Pageviews.

1 comment
ทริปทำบุญโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก และมูลนิธิธรรมานุรักษ์
เป็นกิจกรรมที่นุ้ยไปร่วมกับโครงการปันของใช้ให้น้องค่ะ

นำแม็คเบอเกอร์ ขนม และอาหารแห้งไปมอบให้แก่เด็กๆ ทั้ง 2 ที่

สำหรับที่โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก มีการทำกิจกรรมเล่นเกมส์กับน้องๆ ด้วย

ทริปนี้มีน้องๆ ชั้น ม.5 จากโรงเรียนบางปะกอกวิทยาคมมาช่วยอีกแรงค่ะ น่าดีใจนะคะ มีใจเป็นอาสาตั้งแต่อายุยังน้อยเลย

เตรียมของมาให้น้องๆ เล่นกันด้วย

ยกลงจากรถปุ๊บ น้องๆมารุมปั๊บเลยค่ะ

น้องๆ เดินมาถามว่ามันคือเครื่องอะไร....มันคือ เครื่องทำสายไหมค่ะ

ระหว่างนั่งรอเราเตรียมงาน

สายไหมได้รับความนิยมมากค่ะ น้องบางคนกลับมาต่อแถวหลายรอบมาก

เห็นรอยยิ้มน้องๆ แล้วก็ดีใจค่ะ

เล่นเกมส์กันนิดหน่อย

มีความสุขกันทั้งผู้ให้ ผู้รับ

วันนี้มีผู้มาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันไปแล้วค่ะ ทีมเราจึงนำเบอเกอร์มาแจกแทน เป็นอาหารว่าง

ที่โรงเรียนหมู่บ้านเด็กนี่มีคนมาบริจาคค่อนข้างเยอะค่ะ จึงไม่ขาดแคลนอะไรมากนัก ถ้าจะขาด นุ้ยว่าคงเป็นความสุข

และความสนุกสนาน แว่บแรกที่เห็นน้องๆ นี่สายตาอ้างว้างจนน่าใจหายค่ะ ทำไมพ่อแม่บางคนถึงใจร้ายจัง ทิ้งลูกได้ลงคอ

เสร็จภารกิจที่นี่ พวกเราก็เดินทางต่อไปยังมูลนิธิธรรมานุรักษ์ค่ะ

ระยะทางอยู่ห่างจากโรงเรียนหมู่บ้านเด็กเพียง 3 กม. แต่มีผู้มาบริจาคค่อนข้างน้อย

ที่มูลนิธิ จะมีแม่ชีเป็นผู้ดูแลเด็กๆ เพราะฉะนั้นเด็กๆ ที่นี่จะเรียบร้อยมากค่ะ

เหล่าแม่ชีน้อย เนื่องจากไปตอนบ่ายแล้ว ทั้งเณรทั้งชี ฉันเบอเกอร์ไม่ได้แล้ว จึงต้องเก็บไว้ให้ฉันในวันถัดไป

บ่ายนี้ฉันได้แต่น้ำ และขนมที่ไม่ต้องเคี้ยวค่ะ อย่างเช่นช๊อคโกแลต 

ใครนำขนมไป ควรไปช่วงเช้านะคะ บ่ายๆ แบบนี้ ถือถ่ายรูปได้อย่างเดียวเท่านั้นเอง

นำขนมมาให้เด็กเล็กถึงห้องพัก 

ขอซักแช๊ะ ก่อนกลับค่ะ

ใครสนใจอยากมาทำบุญที่มูลนิธิธรรมมานุรักษ์ โทร.ติดต่อแม่ชีจุติภา ทรรพสุทธิ์ ได้ที่เบอร์ 0819351234 และ 0815723999 นะคะ

ขอบคุณที่แวะเข้ามาชมค่ะ ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.828299900513576.1073741837.490340790976157&type=1




Create Date : 07 กรกฎาคม 2557
Last Update : 7 กรกฎาคม 2557 12:33:20 น.
Counter : 2107 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

ท่องเที่ยวไปตามใจฉัน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog