หางาน
 
 

ช็อตเด็ด คลิปวงจรปิด เพื่อนนศ รุมสะกำ เบนซ์ เดอะกิ๊ก3

ช็อตเด็ด คลิปวงจรปิด เพื่อนนศ รุมสะกำ เบนซ์ เดอะกิ๊ก3






เผยช็อตเด็ด คลิปวงจรปิด เพื่อนนศ รุมสะกำ เบนซ์ เดอะกิ๊ก3

        เผยนาทีระทึกขวัญ !! จากกล้องวงจรปิด ของอพาร์ทเม้นท์ย่าน ม.กรุงเทพ ที่ เบนซ์ กัญญ์วรา นางเอกจากภาพยนตร์เรื่อง เดอะกิ๊ก 3 พักอาศัยอยู่ และถูก เพื่อนนักศึกษาบุกทำร้ายร่างกาย โดยใช้ถังดับเพลิงพังประตูห้อง และลากตัว สาวเบนซ์ ออกมารุมตบคาห้องพัก ท้าทายสายตาผู้คน และ กล้องวงจรปิด ที่จับภาพการกระทำอันอุกอาจของ เพื่อนนักศึกษา สาวไว้ทั้งหมด ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้ (20 ก.ย.)  คู่กรณี ทั้งชายและหญิง รวม 4 คน ได้เข้ามอบตัวและให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ย่าน จ.ปทุมธานี โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นไว้ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว !!!



เพื่อน นศ. รุมตบ เบนซ์ ภาพจากกล้องวงจรปิด



เพื่อน นศ. รุมตบ เบนซ์ ภาพจากกล้องวงจรปิด



เพื่อน นศ. รุมตบ เบนซ์ ภาพจากกล้องวงจรปิด



เพื่อน นศ. รุมตบ เบนซ์ ภาพจากกล้องวงจรปิด



เพื่อน นศ. รุมตบ เบนซ์ ภาพจากกล้องวงจรปิด



เพื่อน นศ. รุมตบ เบนซ์ ภาพจากกล้องวงจรปิด



เพื่อน นศ. รุมตบ เบนซ์ ภาพจากกล้องวงจรปิด


ขอขอบคุณ GossipStar








 

Create Date : 21 กันยายน 2553   
Last Update : 21 กันยายน 2553 10:56:31 น.   
Counter : 902 Pageviews.  


แบงค์ ฉุนร้านทำแฟนเจ็บ นิหน่า โร่แจ้งตำรวจ

แบงค์ ฉุนร้านทำแฟนเจ็บ นิหน่า โร่แจ้งตำรวจ





แบงค์ ฉุนร้านทำแฟนเจ็บ นิหน่า โร่แจ้งตำรวจ

    แสนเจ็บใจฟุตบอลแพ้...คนยังได้รับบาดเจ็บสำหรับผู้ประกาศสาวจาก ช่อง 7 สี ''นิหน่า'' สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา ตามลุ้นตามเชียร์ หงส์แดง ปะทะ ปีศาจแดง จนเลือดอาบจากกระเบื้องร้านดังย่านราชเทวีหล่นใส่ศีรษะเต็มๆ ถึงกับล้มฟุบ โชคดีไม่เจ็บมาก วอนขอให้ทุกร้านตรวจตราดูแลความปลอดภัยของร้านให้ดีเพื่อความปลอดภัยของ ลูกค้าทุกคน

    จากเมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 19 กันยายนที่ร้าน ''ฮิบ'' ร้านอาหาร แอนด์ ผับ ดังย่านราชเทวีซึ่งเป็นสถานที่เชียร์ฟุตบอลทีม ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูล ปะทะ ''ปีศาจแดง'' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งผลปรากฏว่าทีม หงส์แดง แพ้ ปีศาจแดง ไป ''2-3'' ซึ่งในร้านดังกล่าวเป็นแหล่งรวมสาวกลิเวอร์พูลจำนวนมากที่มารวมตัวกันเชียร์ ทีมรักกันอย่างสนุกสนาน แต่สุดท้ายกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันซึ่ง ''นิหน่า'' สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา

    โดยในช่วงเช้าของวันที่ 20 กันยายน ''นิหน่า'' ที่ยังอยู่ในสภาพมึนๆ งงๆ เล็กน้อยได้เดินทางไปถ่ายทำละครเรื่องสวรรค์สร้าง ของทางช่อง 7 สีก่อนเวลา 16.30 น. จะเดินทางมาที่ สน.พญาไท เพื่อลงบันทึกประจำวัน โดยมี ร.ต.ธนาวัฒน์ เทิ้มพงพันธุ์ เป็นผู้รับการลงบันทึกประจำวัน

    จากนั้นนิหน่าก็เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าตนเองได้เดินทางไป พร้อมกับแฟนหนุ่ม ''แบงค์'' พชร ปัญญายงค์ และเพื่อนๆ สาวกลิเวอร์พูลอีกเกือบ 10 ชีวิตไปร่วมเชียร์ฟุตบอลแมตช์หยุดโลกที่ร้านแห่งนี้ แต่ระหว่างที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมของลิเวอร์พูลกำลังจะยิงฟรีคิกจากบริเวณ 25-30 หลาและหากได้ประตูนี้จะสามารถตามตีเสมอทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่คอบอลตัวจริงแทบอยากจะปิดตาลุ้นเช่นเดียวกับ ''นิหน่า'' ที่อดรนทนไม่ไหวขอหันหลังให้กับทีวีแล้วเดินออกไปนอกร้านเพราะกลัวกับความ ผิดหวัง

    จนกระทั่งกัปตันทีมลิเวอร์พูลยิงฟรีคิกตีเสมอได้สำเร็จทุกคนที่ อยู่ในร้านต่างกระโดดโลดเต้นกันด้วยความยินดีและดีใจเช่นเดียวกับนิหน่าที่ เดินออกไปยืนอยู่ด้านนอกของร้านที่มีระเบียงชั้น 2 ยื่นออกก็ดีใจและเตรียมที่จะเดินกลับมาเข้าในร้าน แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ๆ ก็มีชายร่างท้วมๆ คนหนึ่งหล่นลงมาจากชั้น 2 พร้อมกับเศษกระเบื้องหล่นตามมาเป็นจำนวนมาก และหลังจากนั้น ''นิหน่า'' ก็เซลงไปนั่งด้วยความรู้สึกทั้งมึนและงง

    ''ตอนนั้นที่จำได้คือเจอร์ราร์ดยิงประตูตีเสมอได้ แล้วทุกคนดีใจมาก กระโดดส่งเสียงกันดังทั้งร้าน แล้วนิหน่าก็ได้ยินเสียงอะไรดังอยู่ใกล้ๆ แต่หลังจากนั้นก็นั่งตัวงอลงและภาพที่เห็นคือเศษกระเบื้องอยู่ใกล้ตัวเต็มไป หมด ก็มีหลายคนกรูเข้ามาถามว่าเป็นยังไงบ้าง เป็นอะไรหรือเปล่า ตอนนั้นก็บอกไปว่าเปล่าไม่เป็นอะไรแต่ก็รู้สึกงงๆ จนเอามือไปจับที่ศีรษะก็เห็นมีเลือดออกก็เจ็บก็เลยไปโรงพยาบาล ก็มารู้ทีหลังว่าเพดานร่วงเพราะคนกระโดดด้วยความรู้สึกดีใจ และทะลุลงมาโดนเราเต็มๆ ค่ะ''

    จากนั้น ''นิหน่า'' ก็เล่าถึงบาดแผลบนศีรษะว่าเย็บถึง 3 เข็มด้วยกัน

    ''เย็บไป 3 เซ็นลึก 2 มิล.และก็ที่แขนขา คอ เขียวนิดหน่อยค่ะ''

    ระหว่างการให้สัมภาษณ์ของนิหน่านั้นแฟนหนุ่ม ''แบงค์-พชร'' ที่อยู่เคียงข้างก็เล่าเสริมว่า ''ผู้ชายที่หล่นลงมา ตัวใหญ่ ตัวท้วมๆ เขาไม่ได้เป็นอะไรมากแต่ผมจับกระเบื้องดูแล้ว ระเบียงที่ใหญ่ไม่สมส่วนกันไม่ถูกหลักวิศวกร''


    ''นิหน่า'' เล่าต่อว่า ''ทางเจ้าของร้านบอกว่าตรงที่นิหน่าอยู่ และไม่ใช่ส่วนที่คนจะไปนั่งกันอยู่แล้ว แต่ช่วงนั้นคนล้นมาก เอาเก้าอี้ลากมานั่งกัน แต่ทางร้านยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง นิหน่าก็เลยมาลงบันทึกประจำวันไว้ค่ะ ส่วนแม่ก็โกรธมากบอกว่าถ้าลูกตายไปจะทำยังไงเขาก็กลัว อยากให้ทำให้ถูกต้อง ถ้าร้านทำไม่ถูกก็อยากแก้ไข ถ้าห้ามคนเดินผ่านก็น่าจะติดป้ายไว้ พื้นอ่อนเดินผ่านไม่ได้ ติดเอาไว้ก็จะไม่เข้าไปยุ่งแต่นี่ไม่มีอะไรเลย อยากให้เป็นบทเรียนของทุกฝ่ายอาจจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไม่ใช่เราแล้วไม่ เป็นข่าวอีกก็ได้ จึงอยากให้เขาแก้ไขอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาดูแลไม่ใช่ประเทศนี้ใคร จะสร้างอะไรขึ้นมาก็ได้ แม่ถามขึ้นมาก็อึ้งไม่รู้เรื่องวิศวกรเลย แต่แบงค์กับเพื่อนๆ เป็นวิศวะรู้สึกโมโหมากค่ะ''

    เมื่อ ''นิหน่า'' เล่ามาจนถึงตอนนี้แบงค์ที่ยืนฟังอยู่ก็เริ่มมีอาการโมโหและเล่าว่า ''ในโต๊ะผมมี 15 คนวันนั้นเป็นวิศวกร 10 คนรวมถึงผมด้วยทั้งหมดดูด้วยตาเปล่าก็รู้แล้วว่าไม่ถูกต้อง ให้เจ้าของร้านเอาลายเซ็นวิศวกรมาดูว่าควบคุมอนุมัติโดยวิศวกรไหมดูกันว่า ทางร้านต่อเติม อะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า ถ้าต่อเติมเจ้าของร้านก็ผิด แต่เมื่อเช้าเจ้าของร้านโทร.บอกว่าไม่มีการเซ็นและควบคุมโดยวิศวกรอย่างถูกต้องฉะนั้นโยธาธิการเขตพญาทำไมปล่อยให้สร้างมาได้ยังไง ทำไมสร้างกันได้ แล้วผับที่เหลือล่ะ เหตุซานติก้าที่ผ่านมาอะลุ้มอล่วยกันยังไง''

    ยิ่งให้สัมภาษณ์ดูเหมือน ''แบงค์'' เริ่มมีอารมณ์ขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากอาจจะเป็นห่วงแฟนสาวมากเกินไปจน ''นิหน่า'' ต้องรีบห้ามบอกให้ใจเย็นๆ ก่อนจะเบี่ยงประเด็นเล่าติดตลกว่าถึงแม้จะเจ็บตัวแต่ระหว่างไปโรงพยาบาลก็ ยังเช็กผลผ่านทางโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอดเวลาเช่นกัน  

    โดยเหตุการณ์ในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ร้านแห่งนี้มี ''นิหน่าได้รับบาดเจ็บแต่เพียงผู้เดียวซึ่งเจ้าตัวก็ถือว่าฟาดเคราะห์เพราะ เดือนหน้าก็เป็นเดือนเกิดที่ตนเองจะมีอายุครบ 28 ปีแล้ว

    ''ใช่ทั้งร้านเจ็บอยู่คนเดียว แต่เจ้าของร้านเขาก็รู้สึกผิด เขาก็ตามมาที่โรงพยาบาล มาขอโทษยินดีให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง แต่ที่มาลงบันทึกประจำวันไม่ใช่ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายอะไร เรามีประกันรักษาตัวเองอยู่แล้ว แต่อยากให้ดูการสร้างให้ถูกต้องปลอดภัยกับคนอื่นๆ ด้วยค่ะ''

    ส่วนอาการบาดเจ็บในตอนนี้นิหน่าบอกอีกไม่กี่วันน่าจะหายจากอาการเคล็ดขัดยอกแล้ว

    ''ตอนนี้แผลเย็บไม่มีปัญหา กระดูกคอก็ปกติแล้ว ถ้ามีอาการสมองจะอาเจียนออกมา ที่ผ่านมายังโอเคอยู่ ยังสามารถเล่นตลกได้ และพรุ่งนี้ก็ต้องไปหาหมอล้างแผลที่เย็บเพราะเป็นไหมตัดกลัวติดเชื้อตอนนี้ สระผมไม่ได้ 5 วันห้ามโดนน้ำ ไม่เป็นไรค่ะฟาดเคราะห์''

    แต่ถึงอย่างไรก็ตามด้วยความเลือดหงส์รุนแรง ''นิหน่า'' ก็บอกว่าไม่เข็ด แดงเดือดเมื่อไหร่ขอตามเชียร์ใจขาดดิ้นเหมือนเดิม

    ทางด้านความเคลื่อนไหวของร้านดังย่านราชเทวีในตอนนี้นั้นปิดทำการ เมื่อโทรศัพท์สอบถามไปที่ร้านก็พบกับพนักงานของร้านก็ได้แจ้งกับผู้สื่อข่า ว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมให้ข่าวใดๆ โดยบอกว่าตอนนี้ทางร้านอยู่ในช่วงปิดให้บริการอยู่ จึงไม่สะดวกที่จะให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น




ขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา






 

Create Date : 21 กันยายน 2553   
Last Update : 21 กันยายน 2553 10:55:07 น.   
Counter : 1535 Pageviews.  


ลงโทษ ฟิล์ม หรือบีบ แอนนี่ ตรวจดีเอ็นเอ

ลงโทษ ฟิล์ม หรือบีบ แอนนี่ ตรวจดีเอ็นเอ






 


ลงโทษ ฟิล์ม หรือบีบ แอนนี่ ตรวจดีเอ็นเอ

    "...จริงๆ เธอนะหรือ...เธอรู้เต็มอก ไยจึงมาเพ้อพก...โกหกหน้าตาย ใจนึงก็รัก...จับจิตฝังใจ ใจนึง...ก็แสนจะแค้นเธอ..."เสียงเพลงรอสายจากโทรศัพท์มือถือของ "แอนนี่ บรู๊ค" ผู้ที่กำลังถูกจับตามองทุกฝีก้าวว่าเป็นแม่ของลูกนักร้องดัง "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" จริงหรือ???

 
    กรณีข่าวฉาวที่กำลัง เป็นกระแสทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อยู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อทีวีแทบทุกสำนัก เกี่ยวกับนักร้องหนุ่มหน้าเกาหลี ''ฟิล์ม'' รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ที่ไปมีความสัมพันธ์กับดาราสาว "รุ่งนภา แก้วไทรหาญ" หรือที่รู้จักกันในนาม "แอนนี่ บรู๊ค" หลังจากร่วมงานละครเรื่อง "ปีศาจแสนกล" เมื่อประมาณช่วงเดือน ก.ย. 52 และจู่ๆ ก็มีข่าวว่า "แอนนี่" เพิ่งคลอดลูกชายหน้าตาน่ารักน่าชังวัยเพียง 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งพ่อของเด็กไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นนักร้องหนุ่มซูเปอร์สตาร์ที่ชื่อว่า "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" นั่นเอง...
     
    นักร้องชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตก "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักเขาคนนี้อยู่แล้ว...ยิ่งได้ยินข่าวว่า "ทำผู้หญิงท้อง" เพียงชั่วข้ามคืน ทำเอาชื่อเสีย(ง) "ฟิล์ม" ยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ณ เรียกว่าวินาทีนี้ทุกคนต่างจับตามอง "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" นักร้องหนุ่มวัยเพียง 26 ปีอยู่ทุกฝีก้าวกับข่าวฉาวดังกล่าวว่าเป็นความจริงหรือหลอกกันแน่???
     
    โดยก่อนหน้านี้ "ฟิล์ม" ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยยอมรับว่าเคยคบหากับ "แอนนี่ บรู๊ค" จริง! แต่ไม่ได้เป็นแฟนกันถึงขั้นต้องเปิดเผยความสัมพันธ์ดังกล่าวพร้อมเผยว่าช่วย ค่าทำคลอด 2 แสน และเตรียมรอผลพิสูจน์จากการตรวจดีเอ็นเอ ส่วนทางฝั่ง "แอนนี่" ได้อุ้ม "น้องฑีฆายุ" วัย 3 เดือนออกมาเปิดใจทั้งน้ำตา พร้อมเผยเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับซูเปอร์สตาร์ชื่อดังอย่างหมด เปลือก
     
    และหลังจากที่ "แอนนี่ บรู๊ค" ไปออกรายการ "เจาะข่าวเด่น" ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เพียงแค่ 20 นาที ภาพลักษณ์ของซูเปอร์สตาร์คนดัง "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า จากคนที่เคยมองว่าเป็นพระเอกที่แสนดี มาดแมน สุภาพบุรุษ กลายเป็น "ผู้ชายไร้ความรับผิดชอบ" โดยคำพิพากษาจากประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมไทยไปโดยปริยาย
     
    ในทางกลับกัน "แอนนี่ บรู๊ค" ผู้รับแต่บทร้ายในละคร ภาพลักษณ์จากการถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่มากมายจนถูกมองว่าเป็น "ผู้หญิงแรง" และ "ผู้หญิงไม่ดี" กลายร่างเป็น "นางเอกในชีวิตจริง" ขึ้นมาทันที
     
    แต่ก็ไม่วายมีข้อกังขาและข้อสงสัยตรงคำพูดของทั้ง "ฟิล์ม" และ "แอนนี่ บรู๊ค" ที่พูดไม่ตรงกันนั่นก็คือเรื่องของการตรวจดีเอ็นเอ พิสูจน์หาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีเรื่องราวดังกล่าวทั้งหมด
     
    ฟิล์ม : "...ผมตั้งใจจะไปตรวจดีเอ็นเอเร็วๆ นี้ ถ้าผลออกมาเป็นลูกผม ผมยินดี ถ้าผมทำจริง ผมยินดีรับ ที่ผมออกมาแถลงข่าววันนี้ผมมีแต่ความจริงใจมาอธิบายให้ฟัง..."
     
    แอนนี่ : "...หนูเคยชวนเค้าไปตรวจแล้วตอนท้อง 4 เดือน แต่เค้าไม่ตรวจเค้าบอกว่าเชื่อใจ แล้วพอมาตอนนี้จะตรวจเพื่ออะไร เรื่องดีเอ็นเอตอนนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่มันสำคัญตรงที่ความรู้สึก ตอนที่คนยังไม่รู้ยังไม่รับเลย แล้วถ้าจะรับเพราะสังคมบีบให้รับก็อย่าดีกว่า.."
     
    จาก 2 คน 2 คำพูดที่แตกต่างหันโดยสิ้นเชิง ทำให้หลายคนต่างกังขาว่าใครกันแน่ที่พูดความจริง??? จนเป็นข้อถกเถียงขึ้นมาทันทีว่า "ควร" หรือ "ไม่ควร" ที่จะมีการตรวจดีเอ็นเอ ที่ทาง "แอนนี่" ผู้เป็นแม่ยืนยัน...นั่งยัน...นอนยันชนิดที่ว่า "ไม่ตรวจเด็ดขาด"
     
    สุดท้ายก็เป็นไปตามคาด เมื่อทางบิ๊กบอสต้นสังกัดนักร้องหนุ่ม "ฟิล์ม''รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ได้ออกมาแถลงแก้เกมกับข่าวสุดฉาวของนักร้องชายที่ทำเงินมากเป็นอันดับ 1 ในสังกัด โดยการลงดาบออกคำสั่งระงับงานของ "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ทุกชิ้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อให้ "ฟิล์ม" ได้ใช้เวลาจากวันนี้เป็นต้นไป ไปจัดการชีวิต จัดการปัญหาต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อน อย่างไม่มีกำหนด พร้อมบอกผ่านถึง "แอนนี่ บรู๊ค" เป็นนัยๆ ว่าอยากให้มีการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์เรื่องราวทุกอย่าง
     
    โดย "บทลงโทษ" ที่ "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ได้รับในคราวนี้มันราวกับว่าเป็นการ "เชือดไก่ให้ลิงดู" เสียแต่เนิ่นๆ แท้จริงหรือหลอก (ตา) ซึ่งต่างจากกรณีนักร้องคนอื่นๆ ในสังกัดเดียวกัน ที่เคยมีข่าวฉาวต่างๆ ออกมามากมาย ซึ่งบทลงโทษจะได้รับเพียงแค่ "คำตักเตือน" เท่านั้น!!!
     
    หากลองวิเคราะห์ถึงบทลงโทษของ "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" กับความผิดพลาดในครั้งนี้ ซึ่งยังชี้ไม่ชัดว่าซูเปอร์สตาร์คนดังจะเป็น "พ่อของลูก" ดาราสาว "แอนนี่" ตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่!?! และบทลงโทษจากบิ๊กบอสต้นสังกัด ค่อนข้างที่จะดูรุนแรงเกินไปกับการ "จบอนาคต" ของผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ด้วยหรือเปล่า เพียงเพราะตัดสินจากกระแสสังคมที่พิพากษา "ฟิล์ม" ไปก่อนเท่านั้นเองหรือ
     
    เนื่องจากที่ผ่านมาตั้งแต่ทุกคนรู้จักผู้ชายที่ชื่อว่า "ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์" กับเส้นทางในวงการบันเทิงตลอดระยะเวลา 6-7 ปีเต็ม "ฟิล์ม" ก็สร้างชื่อเสียง , สร้างผลงานออกมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเพลง , หนัง , ละคร , ฯลฯ จนในชีวิตแต่ละวันแทบจะไม่มีการได้หยุดพักเลยด้วยซ้ำ และที่สำคัญถือได้ว่าเป็นนักร้องอันดับต้นๆ ที่สามารถทำเงินให้กับต้นสังกัดปีหนึ่งเกือบ 10 ล้านบาท หากเกิดการแบนงานของ "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ขึ้นมาจริงผู้ชายที่มีความฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นซูเปอร์สตาร์ดังอย่าง "ฟิล์ม" คงจะต้อง "ดับอนาคต" ตัวเองไปพร้อมๆ กัน เช่นเดียวกับต้นสังกัดของ "หนุ่มฟิล์ม" ยอมที่จะทิ้งนักร้องระดับซูเปอร์สตาร์ที่สร้างมากับมือ แถมสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างไม่รู้จบได้จริงหรือ???
     
    มุมมองตรงกันข้าม...นั่นก็คือ...แท้จริงแล้วต้นสังกัดของ "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" อาจจะไม่ได้แบนงานทั้งหมด เพียงแต่ต้องการดูฟีดแบ็กที่ตอบกลับมาหลังประกาศ "บทลงโทษ" นักร้องฉาว! ด้วยการแบนงานอย่างไม่มีกำหนด ว่ามีกระแสกลับมาที่ตัวนักร้องหนุ่มอย่างไร , จะสามารถเรียกคะแนนความสงสารคืนให้กับ "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ได้มากน้อยขนาดไหน หลังจากที่ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็น "ผู้ชายไร้ความรับผิดชอบ" ไปแล้ว...!!! ก่อนที่จะ "แก้ปมปัญหา" ดังกล่าวด้วยวิธีอื่นๆ ต่อไป!
     
    อีกหนึ่งข้อสงสัยนั่นคือสาเหตุที่ต้นสังกัดออกมาประกาศแบนงานนักร้องฉาวคน ดังในครั้งนี้ เพราะเนื่องจากก่อนหน้านี้ "แอนนี่ บรู๊ค" เคยพูดผ่านทางรายการ สื่อให้เห็นถึงความรักที่ผู้หญิงคนหนึ่งมีให้กับผู้ชายอีกคนหนึ่งโดยไม่ได้ คาดหวังอะไรตอบแทนว่า "ที่ผ่านมาตนเองยอมปิดเรื่องทุกอย่าง เนื่องจากไม่อยากทำลายอนาคตของคนที่ตนเองรัก..."  ด้วยชนวนเหตุจาก "ความรัก" นี่เอง...ที่ต้นสังกัดนักร้องดังใช้เป็นชนวนการส่งสัญญาณกลายๆ เพื่อให้ "แอนนี่" ยอมใจอ่อนและสงสารผู้ชายที่เธอรักอย่าง "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" จนพาลูกชายของเธอไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อหาข้อสรุปว่านักร้องคนดัง "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" เป็นพ่อของ "ด.ช.ฑีฆายุ" ตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่???
     
    คราวนี้เห็นที่ว่าก็ต้องขึ้นอยู่กับทางฝั่งของ "แอนนี่" ผู้หญิงที่ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายเพียงลำพัง โดยไม่มีบริษัทต้นสังกัดหรือผู้จัดการส่วนตัวมาคอยดูแล "ภาพลักษณ์" ต่างๆ ทั้งสิ้น...จะเปลี่ยนใจกลับมาตรวจดีเอ็นเอให้รู้ดำรู้แดง ให้เรื่องทุกอย่างยุติลงอย่างไว หรือจะยืนกรานคำเดิมว่า "ไม่ตรวจ" และไม่ใส่ใจกระแสวิจารณ์ว่าตัวเธอเป็น "ผู้หญิงไม่ดี" ก็ตาม ซึ่งในทางกลับกัน...เรื่องฉาวดังกล่าวก็จะไม่มีบทสรุปตายตัวในตอนจบเหมือนใน ละครว่า...จะลงเอยอย่างไร?
     
    ต่อให้ทางออกและข้อสรุปของเรื่องดังกล่าวจะเป็นอย่างไรก็ตาม...คนที่น่าเห็น ใจก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเด็กน้อยที่เปรียบเสมือน "ผ้าขาวบริสุทธิ์" ที่เกิดขึ้นมาด้วยความไร้เดียงสาและไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่กับการกระทำของ ผู้ใหญ่ทั้ง "หวังดี" หรือ "หวังผลประโยชน์" ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นชีวิตของแต่ละคนที่จะเดินก้าวต่อไปข้างหน้าไม่มีใครเป็นผู้ลาก จูงชีวิตของเราได้ นอกเสียจากตัวเราที่จะตัดสินใจทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง...!



แอนนี่ น้องฑีฆายุ

ขอบคุณข้อมูลจาก สยามดารา







 

Create Date : 21 กันยายน 2553   
Last Update : 21 กันยายน 2553 10:53:32 น.   
Counter : 848 Pageviews.  


มดดำ โต้แฉ ฟิล์ม ทำ แอนนี่ ท้อง

มดดำ โต้แฉ ฟิล์ม ทำ แอนนี่ ท้อง







มดดำ โต้ แฉ ฟิล์ม ทำ แอนนี่ ท้อง เผย หนุ่ม บ่นซวยมีเอี่ยวเป็นพ่อเด็ก

         พิธีกรฝีปากกล้า มดดำ คชาภา ตันเจริญ โต้ ! เป็นตอปล่อยข่าวนักร้องหน้าเกาหลี ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัยพ์ ทำดาราสาว แอนนี่ บรู๊ค ป่อง รับเคลียร์นักร้องหนุ่มแล้ว เผยอีกฝ่ายรู้สึกเครียดหนักถึงกับออกปากว่าพร้อม ก้มหน้ารับกรรม ที่ตนก่อเกิด แฉกลับ แอนนี่ บรู๊ค ไม่ได้ขับรถไปคลอดลูกเองอย่างที่ให้ข่าว แต่ผู้จัดการของ ฟิล์ม รัฐภูมิ เป็นคนพาไป วอนอย่าเพิ่งตัดสินจากข่าวฝ่ายเดียว เปรยพิธีกรคู่หู หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย บ่นซวยมีเอี่ยวเป็นพ่อของเด็ก พร้อมแนะให้ แอนนี่ บรู๊ค ตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ความจริงและความสบายใจของทุกฝ่าย!!

           ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ว่าเราเป็นต้นตอคนปล่อยข่าว ฟิล์ม รัฐภูมิ ทำดาราสาว แอนนี่ ท้อง จริงหรือเปล่า มดดำ คชาภา ร้องเสียงหลง ก่อนชี้แจงว่า

           ''โห...ไม่ได้ปล่อยเลยเมื่อวานเพิ่งได้คุยกับฟิล์ม คุยกันพอสมควรเหมือนกัน เราไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยก็โทรไปเช็คกับพี่หนุ่มกรรชัยว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง พี่หนุ่มบอกว่าสงสัยจะท้องจริงเพราะว่าในทวิตเตอร์มีทวิตว่าผู้หญิงออกมาเปิดเผยแล้ว ฟิล์มถึงออกมาแล้วก็หายไปเลย (เหมือนเราเป็นตัวจุดชนวน?) คงไม่หรอก เพราะแฉแต่เช้าวันพุธ เป็นวันที่มีข่าวอยู่แล้ว อย่างที่บอกว่ามดดำเอาข่าวที่อยู่ในกระแสมาเสนอเท่านั้น (ซีเรียสมั้ย?) ครั้งนี้ซีเรียสมาก เพราะมันเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวคน จนถึงเมื่อวานเพิ่งได้คุยกับฟิล์มตอนแรกให้ใครโทรไปก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้ เราก็ถามเขาว่าเป็นยังไงบาง เขาบอกว่าพี่ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ตัวน้องเองก็เครียดมาก เราก็ได้เคลียร์กันหมดแล้ว''

          ''เราให้กำลังใจเขาไปเยอะเมือนกัน ส่วนใหญ่เขาจะคุยกับพี่พจน์ อานนท์ มากกว่าเขาจะคุยกันทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะตอนมีเรื่องหรือไม่มีเรื่อง จนในที่สุดเพิ่งได้มาคุยแล้วบอกเขาว่าพี่ไม่ได้เป็นคนจะทำให้เป็นเรื่องอะไรแบบนั้น แต่มันมีข่าวมาจะไม่ให้พี่พูดมันคงไม่ใช่ (บอกเขาว่ายังไง?) ก็บอกเขาไปว่าเดี๋ยวมันจะดีขึ้นเอง เราก็ถามเขาต่อไปว่าจะเอายังไงต่อไป เขาบอกว่าผมรอตรวจ DNA อย่างเดียวพี่ ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ''

           ''แหม...ดวงกำลังขึ้น ทำไมเราไปฟังความฝ่ายเดียวหรือเปล่า ทำไมไม่รอให้ฟิล์มกลับมาก่อนดีกว่ามั้ย แล้วเราค่อยลองถามเขา เขาอาจจะมีอะไรบางสิ่งบางอย่าง โอเค..หลายๆ คนก็บอกในแง่มนุษยธรรมมันควรจะเป็นอย่างนี้ มันควรจะเป็นอย่างนั้น แต่ที่คุยกับเขามาสิงที่ผู้หญิงพูดมันยังไงอะที่บอกว่าขับรถไปคลอดเอง แต่ที่มดดำฟังจากน้องมาน้องเขาบอกว่าคนที่พาไปคลอดคือผู้จัดการแล้วคนที่พาไปฝากท้องคือแม่ ซึ่งทำไมเราไม่รออีกสักแป๊บนึงดีว่ามั้ย การกลับมาของน้องครั้งนี้อาจจะมีใบเสร็จ อาจจะมีหลักฐานอะไร''

            ''อย่างที่พูดไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าถ้าเป็นลูกของเขา เขาก็ยอมรับ มดดำไม่ได้จะมาพูดเพื่อปกป้อง บางทีเรารู้สึกผิดที่วันนั้นพูดข่าวนี้ออกไป แต่ว่ามันก็เป็นหน้าที่ (ฟิล์มเขาจะออกมาพูดอีกหรือเปล่า?) เขาบอกเขาคงไม่พูดอะไรอีกแล้ว เอาจริงๆ รู้จักกับมันมาตั้งนานแล้วเพิ่งเห็นมันสลดจริงๆ มันบอกว่าผมยอมรับกรรมของผม เราไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก ฟิล์มอยากให้ตรวจ DNA เท่านั้นเอง ถ้าเป็นลูกเขาก็ยินดีรับไว้''

            พอผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า หนังสือพิมพ์หลาย ๆ ฉบับบอกว่าหน้าเหมือนพี่ หนุ่ม กรรชัย ด้วย ในฐานะเป็นน้องที่สนิทรู้สึกยังไงบ้าง มดดำ คชาภา เผยว่า

            ''เมื่อวานก็ถาม แกล้งแซวว่าเดี๋ยวตรวจ DNA ไปมาเป็นลูก หนุ่ม กรรชัยล่ะ น่าจะเอาเส้นผมของพวกดาราชายทุกคนมานั่งตรวจหมดเลยสรุปเป็นของใคร อันนี้คือพูดเล่นๆ (พี่หนุ่มว่ายังไงบ้าง?) เขาบอกว่ารับรองอันนี้ไม่ได้แอ้ม เอ๋ะอะเป็นพี่หมด คน(แอนนี่ไม่ตรวจอยากฝากบอกอะไรเขามั้ย?) จริง ๆ มันไม่ใช่เรื่องของเราเนอะอยากทำใครท้องก็ทำไม่เป็น เพื่อความสบายใจ มดดำว่าทางออกควรตรวจ DNA ถ้าใช่เขาก็ยอมรับ แต่ถ้าเป็นอย่างนี้เดี๋ยวมันจะลำบากกันหมด''



หนุ่ม กรรชัย



ฟิล์ม แอนนี่ น้องฑีฆายุ


ขอขอบคุณ GossipStar








 

Create Date : 21 กันยายน 2553   
Last Update : 21 กันยายน 2553 10:52:08 น.   
Counter : 902 Pageviews.  


ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้า เฮียฮ้อแถลงข่าว อนาคตฟิล์ม

 


       Smiley ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้า เฮียฮ้อแถลงข่าว อนาคตฟิล์ม Smiley


       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีของ "ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ กับนักแสดงสาวลูกครึ่ง "แอนนี่ บรู๊ค" ที่คลอดน้องทีฆายุ วัย 3 เดือน ล่าสุด นักแสดงสาวได้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนักร้องดัง ทั้งนี้ บริษัทอาร์เอส แจ้งว่า เฮียฮ้อ เตรียมแถลงข่าวเรื่องอนาคตของฟิล์ม ที่อาคาร 3 ตึกเชษฐโชติศักดิ์ บริษัทอาร์เอส ซ.ลาดพร้าว 15 กทม. ในวันนี้ 20 ก.ย. เวลา 11.00 น.


 


 


เฮียฮ้อ-สุรชัยเปิดแถลงข่าวระบุให้ฟิล์มพักงานทุกชิ้นก่อนเพื่อไปแก้ไขปัญหากับแอนนี่ แต่ยืนยันยังไม่เลิกสัญญา แนะความจริงเป้นสิ่งที่ต้องพิสูจน์


เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 20 ก.ย. เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ บอสใหญ่ค่ายอาร์เอส ต้นสังกัด ฟิล์ม-รัฐภูมิ ได้เปิดแถลงข่าวถึงกรณีที่ฟิล์มตกเป็นข่าวว่ามีความสัมพันธ์กับดาราสาว แอนนี่ บรู๊ค จนตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายวัย 3 เดือน


สุรชัย แถลงว่า วันนี้มีจะพูดใน 3 ประเด็น คือ 1.มุมมองต่อกรณีฟิล์ม และแอนนี่ 2.แนวทางของอาร์เอสต่อกรณีดังกล่าว และ 3. ทางออกในอนาคต ทั้งนี้เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัวของทั้งสองคน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความรับผิดชอบของบริษัทเพราะเป็นต้นสังกัดของฟิล์ม


"ขณะนี้ไม่มีใครทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับครอบครัวของทั้งฟิล์มและแอนนี่ และชีวิตใหม่ที่เกิดมา ซึ่งทั้งสื่อมวลชนและผมก็ควรจะพิจารณาเรื่องนี้ด้วยเหตุผลและด้วยความรอบคอบ ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัวมาพิจารณา"เฮียฮ้อกล่าว


ทั้งนี้เฮียฮ้อยอมรับว่า จริงๆแล้วที่ผ่านมา ได้รับข้อมูลที่ไม่ได้มาจากทั้งฟิล์มและแอนนี่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และพบว่ามีข้อมูลที่ไม่ตรงกับที่ทั้งสองคนพูด แต่เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้เแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด ถูกต้องที่สุด และยุติธรรมกับทุกฝ่าย ถ้าปล่อยเรื่องไว้ก็ไม่ดีกับใคร  เพราะเป็นการสร้างปมและทำร้ายเด็ก ความจริงคือสิ่งที่ต้องพิสูจน์ ความจริงจะเป็นสิ่งที่ปกป้องคน


สำหรับแนวทางของอาร์เอส เกี่ยวกับฟิล์มนั้น ขณะนี้เห็นว่า ควรระงับงานทุกชิ้นของฟิล์มไว้ก่อน เพื่อให้เวลาฟิล์มไปจัดการปัญหาให้เรียบร้อย ซึ่งยอมรับว่า งานที่ต้องระงับไปมีผลกระทบกับธุรกิจและแผนงานที่วางไว้บ้าง ถ้าวัดเป็นมูลค่าก็ไม่มากแต่สิ่งที่เสียไปคือโอกาส ก็ยอมรับว่าหนักใจเช่นกัน


อย่างไรก็ตามยืนยันว่าระงับงานก็เพื่อต้องการให้ฟิล์มมีเวลาในการจัดการปัญหา ไม่ใช่การยกเลิกสัญญาของฟิล์มที่มีต่ออาร์เอส


สุรชัยระบุว่า ขณะนี้งานของฟิล์มที่ต้องระงับคือ การออกอัลบั้มใหม่ เฟซทูเฟซ กับ เจอาร์ นักร้องเกาหลีวงบราวน์อายเกิร์ล รวมทั้งมิวสิคเพลงแรกของอัลบั้มดังกล่าว รวมทั้งภาพยนตร์ บางกอกกังฟูที่ได้เปิดกล้องไปเมื่อเร็วๆนี้ โดยให้ระงับคิวฟิล์มไว้ก่อน ส่วนการเดินทางไปร่วมงานเอเซียนซองค์ก็ต้องระงับเช่นกัน


"นักร้องจะมีลูกไม่ใช่เรื่องผิดปกติในสังคมปัจจุบัน การมีลูกสำหรับนักร้องไม่ผิด แต่อยากให้ทุกคนเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ฟิล์มอาจต้องเงียบหายไปจากวงการบันเทิงสักพัก ถ้าเด็กใช่ลูกของฟิล์มก็ต้องรับผิดชอบ


"ผมคิดว่าทางออกของปัญหาไม่มีอะไรมาก และรู้สึกเห็นใจแอนนี่ ไม่ว่าผลสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร ผมก็ยินดีให้ควาช่วยเหลือ ถ้าทุกฝ่ายมีความจริงใจบริสุทธิ์ใจในการแก้ปัญหา ทางออกก็มีแน่นอน ซึ่งสุดท้ายประชาชนจะตัดสินเองว่าจะสนับสนุนฟิล์มต่อไปหรือไม่"เฮียฮ้อกล่าว


สุรชัยยอมรับว่า ที่ผ่านมาฟิล์มได้โทรมาปรึกษาก่อนเปิดแถลงข่าวเมิ่อวันที่ 16 ก.ย.  โดยได้แนะนำฟิล์มไปว่า ผู้ชายคนหนึ่งถ้ามีส่วนทำให้เด็ก 1 คนเกิดมาก็ต้องมีความรับผิดชอบ


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามกรณีการตรวจดีเอ็นเอที่แอนนี่ได้ยืนยันว่าไม่ต้องการตรวจและจะพิสูจน์ได้อย่างไร เฮียฮ้อตอบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวที่เจ้าตัวคงต้องตัดสินใจเอง


อย่างไรก็ตามวันนี้เฮียฮ้อออกมาแถลงข่าวเพียงลำพังโดยไม่มีฟิล์มมาร่วมแถลงด้วย แต่มีรายงานว่า ฟิล์มมีการเครียดจัด และเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์หาเฮียฮ้อ ร้องไห้ฟูมฟาย และขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น







 

Create Date : 20 กันยายน 2553   
Last Update : 20 กันยายน 2553 12:25:10 น.   
Counter : 869 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  

pondpai
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




น้องพลอยตัวน้อย
[Add pondpai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com