หางาน
 
เอ ปัดกุนซือ แอนนี่ จุ๊น



เอ ปัดกุนซือ แอนนี่ จุ๊น






เอ โต้เป็นกุนซือ แอนนี่ ขอโทษทำพ็อกเกตบุ๊กพาดพิง โกโก้

เอ ศุภชัย โต้เป็นกุนซือให้แอนนี่ บรู๊ค ปัดรู้เห็นเรื่องแอนนี่กับจุ๊น กิตติคุณ เมินพจน์ อานนท์ เหน็บเป็นกะเทยอยากหาตังค์ซื้อกระเป๋า ปัดฉีกสัญญามาริโอ้ ยันไม่เคยเซ็น...

          
เรียกว่าถูกจับตามองไม่น้อยสำหรับพ็อกเกตบุ๊ก "เอ-ศุภชัย นักฉกไร้ยางอาย"
ของผู้จัดการดาราคนดัง เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร
เพราะยังไม่ทันที่หนังสือจะวางแผงก็ตกเป็นข่าวไปแล้ว โดยมีคู่กรณีอย่าง
โกโก้-นิรุณ ลิ้มสมวงศ์ ให้สัมภาษณ์ว่าไม่พอใจที่ เอ
เขียนพาดพิงตนเองในหนังสือ และอาจจะมีการฟ้องร้อง รวมไปถึงผู้กำกับชื่อดัง
พจน์ อานนท์ ก็ไม่วายแอบเหน็บถึง เอ ว่า เป็นกะเทยหาตังค์ซื้อกระเป๋า
รวมไปถึงข่าวที่ว่านักแสดงสาว แอนนี่ บรู๊ค และนักแสดงในสังกัดของ เอ อย่าง
จุ๊น-กิตติคุณ สัมฤทธิ์พันธ์สุข
จะมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวพ็อกเกตบุ๊กด้วย
แต่พอนักข่าวมารวมตัวกันในงานนี้ที่บีทูเอส ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
กลับไม่เห็นเงาของทั้งคู่แต่อย่างใด

           แต่ถึงยังงั้น เอ
ก็ต้องออกมาเคลียร์ประเด็นฉาวหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องที่ว่า เอ
และกะเทยจอมแฉดารา เฮเลน-ปวรา ศิริสาร เป็นกุนซือให้ แอนนี่
และรู้เห็นเป็นใจเรื่องของ แอนนี่-จุ๊น ไหนจะข่าวทะเลาะพระเอกลูกครึ่ง
มาริโอ้ เมาเร่อ จนฉีกสัญญา รวมถึงข่าวทะเลาะกับ มิ้นท์-ณัฐวรา วงศ์วาสนา
เพราะกิ๊กกับพระเอกหนุ่ม หมาก-ปริญ สุภารัตน์ จน มิ้นท์
หอบผ้าผ่อนออกจากบ้านของ เอ และรวมไปถึงข่าวที่ เอ
ใช้คำพูดรุนแรงกับเด็กในสังกัดเกินไปอีกด้วย

คิดยังไงถึงทำพ็อกเกตบุ๊ก?

          
"ตอน แรกมีคนชวนทำเยอะมาก พอดีพี่ต้อย แอคเนอร์
โทรมาขอว่าช่วยทำหนังสือเล่มนี้ให้พี่หน่อย
ก็ถามพี่ต้อยว่าจะให้เขียนเรื่องอะไรเพราะเอก็ไม่ได้มีเรื่องให้เขียนเยอะ
มาก พี่ต้อยก็บอกว่าเอไปคิดเรื่องมาแล้วกัน
ก็เลยบอกว่าทำเรื่องความงามได้มั้ย พี่ต้อยก็หายไป 1
เดือนแล้วโทรมาบอกว่าถ้าพี่ทำเรื่องความงาม หนังสือพี่เจ๊งแน่เลย
ฉะนั้นทางเดียวที่ทำได้คือทำเรื่องของเอเอง เพราะมีทั้งเรื่องตลกและร้องไห้
หัวเราะเคล้าน้ำตา ชีวิตที่ลำบาก ผ่านการเป็นเด็กบ้านนอกมาทำงานในวงการนี้
ก็เลยโอเคไปแต่ก็บอกว่าเอเขียนไม่เป็นนะ พี่ต้อยก็บอกว่าจะมี Ghost Writer
เขียนให้ คือพี่เกี๊ยะ โดยพี่เกี๊ยะจะเสิร์ชข่าวในอินเตอร์เน็ตทุกอย่าง
หนังสือทุกเล่ม และจะเอามาถามเอว่าข่าวที่เกิดขึ้นมาเป็นจริงมั้ย
และเพิ่มเติมในส่วนประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนจะมาเป็นผู้จัดการดารา
ซึ่งตอนที่หนังสือกำลังจะออกเป็นช่วงที่พี่เอป่วยพอดีแล้วอยู่เชียงใหม่
แล้วพี่เกี๊ยะจะส่งต้นฉบับให้ดู แต่ด้วยความที่เราสนิทกับพี่ต้อยพี่ติ่งมาก
เราไว้ใจกันเลยบอกว่าตามสบาย ยังไงหนังสือก็ต้องออก แล้วเอก็ไม่สบายด้วย
ก็เลยให้ทางพี่ต้อยและต้นสังกัดหนังสือจัดการ แต่ก็มีคนอ่านให้ฟัง
แต่ไม่ได้อ่านทุกตัวอักษร เพราะปกติเป็นคนสมาธิสั้น
ไม่ค่อยอ่านอะไรละเอียดมาก บางทีสัญญานักแสดงยังอ่านไม่หมดเลย
แค่เห็นตัวเลขก็เซ็นแหลกเลย (ยิ้ม)"

ถ้ามีการพาดพิงถึงบุคคลอื่นๆจะทำยังไง?

          
"ใน ฐานะที่พี่เอเป็นเจ้าของหนังสือ ถึงจะไม่ได้เป็นคนเขียนหรืออะไรก็ตาม
พี่เอก็ขอโทษคนที่เราพาดพิง ณ ตรงนี้
ถือว่าเราช่วยกันทำบุญเพราะว่าพี่เอไม่ได้เขียนพ็อกเกตบุ๊กเพื่อให้ตัวเอง
รวยขึ้นมากกว่านี้ พี่สบายใจมากเพราะเงินที่ได้มาเนี่ยคือทำบุญ
ไม่ใช่พี่เอาหน้าคนเดียวนะครับ
คนที่อ่านหนังสือแล้วก็อยากให้ทุกคนคิดว่าคนที่มีชื่อในหนังสือเล่มนี้คือคน
ที่ทำบุญในครั้งนี้ด้วยนะครับ"

โกโก้ไม่ค่อยพอใจที่พาดพิงถึง และอาจมีการฟ้อง?

          
"คือ ในความรู้สึกตัวเองนะ ถ้าพี่เป็นน้องเค้า
พี่ก็รู้สึกไม่พอใจเหมือนกัน เพราะว่าเรื่องจบไปตั้งนานแล้ว
แล้วทำไมต้องมาขุดลงในหนังสือ แต่อย่างที่บอกหนังสือมี Ghost Writer
เขียนให้ แล้วเค้าเอาข่าวมาถาม พี่ก็ถามพี่เกี๊ยะว่าเป็นยังไง
คือพี่ไม่ทราบกระบวนการทำงานว่าเราต้องขออนุญาตอะไรรึเปล่า
เพราะเป็นหน้าที่ของ Ghost Writer
แต่พี่ต้องขอโทษแทนคนทำงานร่วมคณะเดียวกับพี่เอ
เพียงแค่อยากให้หนังสือเล่มนี้มีอรรถรส รู้สึกเหมือนทำบุญด้วยกัน
ถามว่ากลัวถูกฟ้องร้องมั้ยทุกคนก็ต้องกลัวกันหมด
พี่เอก็รู้สึกว่ามีอะไรก็พูดคุยกันได้ครับ คิดว่าเราทำดีแล้ว
ถามว่าถ้าเค้าติดต่อมาจะทำไง
ก็จะให้ทางพี่ต้อยทางคนทำหนังสือจัดการหมดเลยเพราะพี่เอเป็นแค่เจ้าของ
หนังสือ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อมาครับ
สิ่งที่พาดพิงก็ต้องขอโทษแทนทุกคนด้วย แต่ไม่ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น
พี่แค่บอกข้อมูลในบางเรื่อง นึกว่ามีการขออนุญาตกันแล้ว
พี่ว่ามีอะไรก็หันหน้าเข้าหากันครับ ไม่ใช่ว่ามีอะไรก็ทะเลาะฟ้องร้องกัน
ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมีการฟ้องร้อง คิดว่าเป็นเรื่องที่ทางหนังสือเป็นคนทำ
ไม่คิดว่าจะมีปัญหาใหญ่ขนาดนี้ ถ้ามีปัญหาก็ช่วยกันแก้ไขครับ"

ข่าวว่าตอนแรกแอนนี่กับจุ๊นจะมาร่วมงานด้วย?

            "อ๋อ ไม่มีครับผม ไม่ได้มาตั้งแต่ตอนแรกแล้วครับ"

มีข่าวว่าดูคิวหรือหางานให้แอนนี่?

         
"ไม่ จริงครับ คือตามที่ข่าวลือเกิดขึ้นเหมือนเขียนเป็นเรื่องราวใหญ่โต
พี่รู้สึกว่าบางคนก็คิดได้ มันไม่ดีมันบาป
แต่ถ้าสมมติว่ามีงานติดต่อผ่านพี่เอมาแล้วให้น้องเค้า
พี่ก็ยินดีนะครับเพราะอย่างน้อยถือว่าให้แม่ได้เงินไปซื้อผ้าอ้อมให้ลูก
แต่ตอนนี้ไม่มีครับ แต่เท่าที่ทราบก็มีติดต่อผ่านน้องเต๋า ทีวีพูล
แล้วเค้าติดต่อผ่านเฮเลน แล้วเฮเลนติดต่อไปทางแอนนี่ครับ แต่ทางพี่ไม่มีเลย
เพราะพอหลังเกิดเรื่องนั้นขึ้น
พี่ก็พาคุณพ่อคุณแม่น้องอั้มและน้องอั้มไปเกาหลี เพิ่งกลับมาได้ 3
วันเองครับ"

แล้วที่พจน์ อานนท์ เหน็บว่าเป็นกะเทยอยากหาตังค์ซื้อกระเป๋าล่ะ?

         
"อ๋อ พี่ว่าสถานะอารมณ์ของคนเราบางทีมันเกิดจากความร้อน
ทุกคนก็รักลูกตัวเอง พี่เข้าใจทุกอย่าง มันไม่ได้พูดคุยกัน
การเข้าใจผิดมันก็เกิดขึ้น แต่ถ้าเรามาพูดคุยกันปัญหาก็ไม่เกิดขึ้น
พี่พจน์มีสิทธิ์ที่จะคิดจะพูด แต่ถ้าทุกอย่างเย็นลงมา
พี่ว่าทุกอย่างแก้ไขไปในทางที่ดีขึ้นครับ
ก็ยินดีคุยนะครับเพราะพี่พจน์เป็นพี่ที่พี่เอรู้จัก
พี่พยายามเข้าใจโลกมนุษย์ เวลาเรารักของหวงของ
จะทำยังไงก็ได้ที่จะให้เหตุการณ์ผ่านไปได้ด้วยดี บางทีอาจจะมีคำพูดอะไร
แต่ตัวเราเองถูกกระทำแล้วรับได้ เราก็ต้องเย็น
ถ้าร้อนตอบก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาครับ ก็ไม่โกรธครับ เพราะถ้าโกรธก็จบก็พัง
ฉะนั้นต้องใจเย็น แล้วเวลาจะช่วยเราแก้ไขทุกอย่างได้เอง"

มีข่าวว่าเอและเฮเลนเป็นกุนซือให้แอนนี่และรู้กันเรื่องจุ๊น?

         
"ยืน ยันว่าไม่จริงครับ
เพราะแค่เวลาที่พี่เอต้องดูแลเด็กในสังกัดเกือบร้อยคนก็ไม่มีเวลาอยู่แล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นคืออย่ามาแตะเด็กพี่เอคือจุ๊น
นอกจากเรื่องจุ๊นพี่ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น
เรื่องที่เกิดขึ้นให้เป็นเรื่องของพวกเค้ากันเอง"

แล้วที่แอนนี่-จุ๊นไม่ได้รู้จักเจอกันแค่ครั้งเดียวเพราะมีภาพออกมาด้วย?

          
"พี่ ทราบเท่าที่จุ๊นพูดครับ คือที่จุ๊นพูดก็เหมือนที่แถลงข่าวกับนักข่าว
วันที่พี่ไปขอร้องพ่อเค้าให้พาลูกชายเข้าวงการ แล้ววันนึงที่ลูกท่านมีปัญหา
คนที่ยืนเคียงข้างเค้าสักคนก็ไม่มี แล้วจะให้พี่ทิ้งเค้าเหรอ
วันนึงที่มีปัญหาพี่ขอแค่ยืนข้างเค้าแต่ไม่ต้องพูดก็พอแล้ว
พี่ไม่รู้ความจริงเป็นยังไง แต่พี่ก็ยืนอยู่ข้างที่เค้าแถลงนักข่าวฟัง
พี่เป็นแค่คนที่ดึงเค้าเข้ามาในวงการบันเทิง เวลาที่มีปัญหา
ถึงไม่ใช่จุ๊นหรือใครก็ตาม พี่ยืนอยู่ข้างเค้าแบบนี้
เพราะพี่ถือว่าพี่เป็นคนในครอบครัวของเค้า
ตอนนี้ก็ได้คุยกับจุ๊นบ้างเพราะพี่เพิ่งกลับจากเกาหลี น้องก็บอกสบายดี
อยู่กับครอบครัวที่เมืองไทยครับ"

การที่จุ๊นลาออกจากช่อง 3 มีผลกระทบกับเรามั้ย?

            
"มัน ก็มีผลกระทบเพราะมันคือรายได้ แต่น้องจุ๊นทำแบบนั้นเพราะอยากให้ช่อง 3
บริสุทธิ์ ตัวเค้าไม่อยากทำให้มีมลทินอะไรทั้งสิ้น
ถามว่าที่พูดไม่ตรงกับผู้ใหญ่มีผลกระทบกับพี่เอมั้ยไม่นะครับ
พี่ไม่ได้พูดอะไร จุ๊นเป็นคนพูด พี่กับทางช่อง 3 ก็รักกัน
พี่กับทุกคนก็ทำงานด้วยกันเพราะว่าทุกคนคือมนุษย์งาน
หน้าที่เราคือทำงานให้ดีที่สุด ส่วนผลกระทบกับน้องๆคนอื่นในช่อง 3
ก็ไม่มีครับ เมื่อวานก็เพิ่งพูดคุยกับผู้ใหญ่
แม้กระทั่งพี่สมรักษ์ก็ยังโทรคุยกันตลอดครับ"

เรื่องที่มาริโอ้ทะเลาะกับเอแล้วฉีกสัญญาล่ะ?

          "ไม่เคยเซ็นสัญญาเลยครับ ยังยืนยันคำเดิมว่าก็ดูแลกันเหมือนญาติครับ"

มีข่าวว่าเอใช้ถ้อยคำกับเด็กในสังกัดแรงไป?

         
"อ๋อ บางทีในการดูแลเด็กมันต้องแบ่งเป็นหลายเกรดนะ เหมือนเราดูแลลูก
บางครั้งถ้าทำผิดหนักจริงๆ พ่อพี่เอเป็นครู พ่อพี่เอยังตีเลย
สมัยที่พี่เรียนห้องเดียวกับที่พ่อพี่เอสอน
ฉะนั้นพี่พูดตรงๆเลยว่าก็มีคำพูดที่ดุและแรง แต่ถ้าทำผิดหนักครั้งที่ 1-3
ให้อภัย แต่ครั้งที่ 4 ต้องเรียกเข้ามาตักเตือน ตักเตือนไม่ได้ก็ต้องตี
พี่ก็บอกแล้วว่าถ้าแบบแมนๆจริงๆ ถ้าไม่ไหวก็ท้าต่อยกันเลย
เพราะเราไม่ได้คิดอย่างอื่นมากไปกว่าที่อยากให้พวกเค้าได้ดี เป็นเด็กดี
เป็นตัวอย่างที่ดีกับสังคม ซึ่งพ่อแม่ก็รับรู้
จะให้พี่มานั่งรับทุกข์คนเดียวพี่ก็ไม่ยอมนะ"

มีข่าวว่ามีคนไม่หวังดีปล่อยข่าวเรื่องเราจริงมั้ย?

          
"อัน นี้พี่เอไม่สามารถพิสูจน์ได้ครับ แต่พี่ว่าถ้ามีคนปล่อย
เค้าบอกว่าคนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ
มันเป็นเรื่องปกติที่คนจะเข้ามาต่างๆนานา
แต่ถ้าเราทำตัวเองให้เข้มแข็งหนักแน่นมั่งคงในความดี
พี่ว่าใครทำอะไรไม่ได้ครับ
ถามว่าคนปล่อยข่าวเป็นคนที่เคยใกล้ชิดพี่รึเปล่าอันนี้ไม่ทราบเหมือนกัน
ถ้าปล่อยได้ก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ
ลูกน้องพี่เอที่อยู่ทุกวันนี้ลับหลังมันยังนินทาพี่เอเลย พี่เอก็ไม่ถือสา
ช่างมันเถอะ ดีกว่ามันไม่พูดถึง"

ข่าวมิ้นท์-ณัฐวรา หอบผ้าออกจากบ้าน?

          
"อ๋อ พี่เอมีน้องสาวคือน้องแอล น้องเค้าเปิดร้านอยู่คนเดียว
พี่ซื้อตึกไว้ให้น้องเค้าเปิดร้านขายยา
พี่ก็เลยให้น้องมิ้นท์ไปอยู่เป็นเพื่อนน้องแอล เพราะแอลอายุ 30 กว่าแล้ว
ให้ช่วยดูแลมิ้นท์ ก็มีแอลอยู่กับมิ้นท์ แล้วมีแม่บ้านอีก 1 คนครับ
แต่น้องมิ้นท์ก็ไปๆมาๆเพราะบ้านแอลกับบ้านพี่ห่างกัน 500 เมตร
เวลามาทานข้าวก็มาครับ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ถามว่าเป็นเพราะเรื่องไปกิ๊กกับหมากรึเปล่าก็ไม่เกี่ยวครับ ไม่มีอะไร
ก็เคยเรียกมาถามแล้ว เค้าก็บอกว่าเป็นเพื่อนกัน
พี่ก็เห็นว่าเค้าเป็นเพื่อนกัน
แต่พี่ก็พยายามทำให้เค้ามองเห็นว่าถ้าเค้ากิ๊กกัน
เกิดวันนึงเล่นละครแล้วมองหน้ากันไม่ติด ปัญหาจะตามมา
เวลามีกิจกรรมแล้วคนนึงมาคนนึงไม่มา คือพี่เห็นมาหมดแล้ว
ก็สอนให้เค้าได้รับรู้ครับ อยู่ที่จะทำตามหรือเปล่า"

มีออกกฎมั้ยว่าห้ามเด็กเป็นแฟนกัน?

           
"ก็ มีนะ พี่ก็พูดว่าไม่อยากให้เด็กในสังกัดรักกันเอง
เพราะกลัวปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ของแบบนี้มันก็ห้ามกันไม่ได้น่ะ
ปากพี่บอกว่าห้าม แต่วันนึงถ้าเค้าจะแอบคบกันมันก็เป็นเรื่องของเค้าครับ
แต่พี่ก็ถือว่าพี่ไม่รู้ ถ้าพี่รู้พี่ก็แรงใส่เหมือนกันครับ (ยิ้ม)".







ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ




Create Date : 30 ตุลาคม 2553
Last Update : 30 ตุลาคม 2553 9:51:44 น. 0 comments
Counter : 913 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

pondpai
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




น้องพลอยตัวน้อย
[Add pondpai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com