หางาน
 
เจ๊เบียบ หนุน แอนนี่ ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ

เจ๊เบียบ หนุน แอนนี่ ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ








"เจ๊เบียบ"หนุน"แอนนี่"เมินตรวจดีเอ็นเอ ให้สอนลูกจำพ่อชื่อ"ฟิล์ม"จนตาย ซัด"พจน์"แฉฝ่ายหญิงใส่ห่วง

"เจ๊เบียบ"หนุน"แอนนี่"ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ ให้ลูกจำพ่อชื่อ"ฟิล์ม"จนวันตาย

           เมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 22 ก.ย. นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กล่าวผ่านรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ถึงกรณีกระแสข่าว ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ศิลปินนักร้องชื่อดังในสังกัด มีความสัมพันธ์กับ แอนนี่ บรู๊ค หรือรุ่งนภา แก้วไทรหาญ นักแสดงสาว จนมีบุตรด้วยกัน กลายเป็นข่าวคึกโครมวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วประเทศ ว่า ต้อง ชมเฮียฮ้อ (นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส กล่าวว่า เฮียฮ้อเป็นเจ้านายที่ให้ความยุติธรรม เป็นแบบอย่างของผู้ชายที่รับผิดชอบ ที่ออกมาให้ความยุติธรรมมากๆ ตนต้องขอชื่นชมเฮียฮ้อที่เข้าใจปัญหา

           "แล้วพี่แดงได้ฟังอีกคนหนึ่งไม่รู้เขาเป็นใคร เหมือนเป็นคนปั้นฟิล์ม ออกมาบอกว่าผู้หญิงทำหมันแล้วไม่ต้องใส่ถุงยางอนามัย พี่แดงว่าผู้ชายที่พูดถึงคนอื่นอย่างนี้ใช้ไม่ได้ ถึงรักกันยังไงก็ไม่ควรพูดถึงบุคคลที่สาม ในฐานะที่ตัวเองเป็นผู้ใหญ่กว่าและในฐานะลูกผู้ชาย" นางระเบียบรัตน์ กล่าว และว่า คนที่พูดมีสิทธิ์พูดข้างนอกแต่ไม่มีสิทธิ์พูดต่อสาธารณะ

           นางระเบียบรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่ เรื่องนี้มีประโยชน์กับผู้หญิงที่ไม่รักนวลสงวนตัว มีเพศเสรีจะทำมาซึ่งปัญหากระทบสังคม แต่ขอชื่นชมแอนนี่มีจิตวิญญาณความเป็นแม่ ไม่คิดทำลายลูก แม้ผู้ชายไม่รับผิดชอบ ก็จะก้มหน้าก้มตาเลี้ยงลูกเอง ฟิล์มต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ตั้งแต่ไม่ออกสื่อ

           นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ฟิล์มบอกให้ผู้หญิงตรวจดีเอ็นเอเหมือนตบหน้าและดูถูกผู้หญิงว่าสำส่อน "ฟิล์มต้องขอโทษทุกคน ทั้งแม่แอนนี่ แอนนี่ และลูกชาย รวมทั้งสังคม พร้อมยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นพลาดไปแล้ว แล้วคุณไม่มีสิทธิ์อธิบายว่าเคยโอนเงิน ไปเยี่ยมโรงพยาบาล

           ทั้งนี้ นางระเบียบรัตน์ ยืนยันว่า แอนนี่ไม่จำเป็นต้องพาลูกไปตรวจดีเอ็นเอ "เด็กไม่ต้องคลางแคลงใจ เพราะพ่อของเขาชื่อฟิล์ม ให้จำจนถึงวันตาย"

"เฮียฮ้อ"ลั่นหนีความจริงไม่พ้นจี้ตรวจ "DNA"ชี้เด็กมีสิทธิรู้ใครเป็นพ่อ-แม่ เผย "พจน์-ฟิล์ม"พูดตรงกัน

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา วันที่ 21 ก.ย.  นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์  หรือ เฮียฮ้อ สัมภาษณ์ผ่านรายการ "เจาะข่าวเด่น" ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3  ซึ่งดำเนินรายการโดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถึงกรณีสั่งระงับงานทุกอย่างของ ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์

สรุยุทธถาม :  อนาคตฟิล์ม ตอนนี้ จะเป็นอย่างไร เมื่อแอนนี่ไม่ตรวจดีเอ็นเอ

เฮียฮ้อ :  ผมไม่อยู่ในฐานะที่จะมีสิทธิบอกให้ใครตรวจหรือไม่ตรวจดีเอ็นเอ เพราะเป็นเรื่องของคนสองคน แต่อยากให้ปัญหามันจบชัดเจนอยู่กับฟิล์มและแอนนี่ โดยใช้ความบริสุทธิ์ ความจริงใจทั้ง 2 คน  ความจริงทุกอย่างจะปรากฎ ผมไม่เชื่อว่า จะมีใครในโลกที่เดินหนีความจริงไปตลอดชีวิต อยู่กับอะไรได้ชั่วครั้งชั่วคราว แต่คนเราหนีความจริงไม่ได้

ความจริง ทั้งข้อมูลของฟิล์มและแอนนี่ เหมือนพูดคนละอย่าง โดยทั้งข้อมูลที่ได้จากฟิล์มซึ่งคุยกับผม  และฟังจากแอนนี่ซึ่งพูดในรายการคุณสรยุทธ ประกอบกับข้อมูลจากตัวผมเองที่มีอยู่  จากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการมา 30 ปี  ตอนนี้ก็อาจไม่สำคัญ เพราะมันเลยมาแล้ว  แต่มันอยู่ที่ว่า เมื่อมีเด็กเกิดมา ผมว่าก็ควรจะพิสูจน์ดีเอ็นเอ เพราะฟิล์มก็ประกาศว่า ถ้าเด็กคนนี้ เป็นลูกของเขาก็จะยอมรับ

ถาม :  เมื่อบังคับแอนนี่ไม่ได้  และเฮียฮ้อก็สั่งระงับงานของฟิล์ม มองอีกด้านเหมือนกดดันแอนนี่  ขณะที่อีกด้านก็มองเหมือนโหดร้ายกับฟิล์ม

เฮียฮ้อ : ฟิล์มเหมือนลูกผม ทำอะไรก็คิดเยอะเหมือนกัน ส่วนตัวรักเหมือนลูกหลาน ผมดูแลฟิล์มมาตั้งแต่อายุ 17 ปี รักเหมือนลูก กว่าจะตัดสินใจตรงนี้ก็คิดเยอะ มันมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจและธุรกิจ ทำอะไรก็ลูกเราก็เจ็บปวด แต่ที่แอนนี่พูด การที่ทิ้งเรื่องไว้อย่างนี้โดยไม่พิสูจน์มันเป็นการทำร้ายฟิล์ม  ผมพูดไปแล้ว ศิลปินมีลูกมีครอบครัว ไม่ใช่เรื่องแปลก ขึ้นอยู่กับว่า ประชาชนจะตัดสินใจยังไง ซึ่งเมื่อพิสูจน์ว่าเด็กเป็นลูกฟิล์ม แล้วเขารับผิดชอบเรื่องก็แฮปปี้ ปชช.ก็ตัดสินใจเอง  ที่สั่งระงับงานก็ต้องการให้ฟิล์มใช้เวลาไปคลี่คลายปัญหา  แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ  เพราะตอนนี้สภาพจิตใจฟิล์มก็ไม่พร้อมที่จะทำงานด้วย  รวมถึงเหตุการณ์ที่และสถานการณ์ข่าวทำให้เราต้องตัดสินใจอย่างนี้  ในเง่มุมผู้ใหญ่ไม่ไดเข้าข้างใคร เห็นใจทั้งสองฝ่าย ผมบอกกับฟิล์มว่า สภาพจิตใจฟิล์มทำงานไมได้ และอาร์เอสก็ปล่อยให้แผนงานใหญ่ๆ ไม่เดินไม่ได้  ซึ่งฟิล์มเขาก็เสียใจ เพราะเขาคาดหวังในงานใหญ่ๆ ที่ต้องดร็อปไป  ส่วนตัวหวังให้ทั้ง 2 คน เดินมาพิสูจน์ความจริง อย่าหนีความจริง  สำหรับฟิล์มช่วงนี้ก็ได้คุยกัน เขาเสียใจ ก็ต้องทำใจ

ถาม :  แต่ถ้าแอนนี่ยีงยืนยันที่จะไม่ตรวจดีเอ็นเอ จะเป็นการกดดัน แอนนี่ไหม

เฮียฮ้อ :  เป็นเรื่องผมต้องทำ ไม่มีทางเลือก ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างก็ไม่มีทางออก เราไม่สามารถออกงานของฟิล์มได้อยู่แล้ว อาร์เอสก็ไม่มีทางเลือก เลยต้องดร็อป มีงานบางงานที่รอได้ แต่บางงานรอไม่ได้ ก็ ต้องดูว่า จะเปลี่ยนตัวหรือเปล่า  ผมว่าเรื่องแอนนี่น่าจะจบอยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจของทั้ง 2 ฝ่าย

ถาม : ตอนแรกแอนนี่ให้ฟิล์มพิสูจน์ด้วยการตรวจดีเอ็นเอตั้งแต่ตอนท้อง 4 เดือน แล้ว พอเกิดเรื่อง ฟิล์มก็จะมาขอตรวจเนื่องจากโดนสังคม แต่แอนนี่บอกว่า มันไม่ประโยชน์แล้ว

เฮียฮ้อ : ผมคิดว่า เราฟังใครไม่ได้ตอนนี้  แต่ข้อมูลของคนสองคนจะเชื่อใคร  แต่เท่าที่คุย พจน์ อานนท์  ที่เล่าให้ฟัง มันก็ตรงกับที่ฟิล์มเล่าให้ผมฟัง เป็นข้อมูลเดียวกัน เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) ผมพูดกับนักข่าว บอกฟิล์มโทรมาหาเมื่อวันศุกร์  วันทีแอนนี่ ให้สัมภาษณ์รายการคุณสรยุทธ ฟิล์มบอกข้อมูลไม่ตรง เขามีหลักฐาน  แต่ผมบอกเชื่อใครไม่ได้ทั้งคู่

ถาม ทำไมไม่ให้ฟิล์มมาพูดเอง

เฮียฮ้อ : ผมคิดว่าเขายังไม่พร้อม เมื่อเช้าก็คุย เขาโทรมาพูด ไม่ร้องไห้แล้ว แต่เสียงหงอยๆ เขาเข้าใจสิ่งที่ผมตัดสินใจ ฟิล์มมันรักเคารพผมเหมือนพ่อ ผมก็รักมันเหมือนลูก เขาบอกเสียใจที่ทำให้เฮียมายุ่งปวดหัว เขาขอเวลาตัดสินใจ ขอเวลาทำใจ

ถาม คิดว่า ฟิล์มจะจัดการเรื่องนี้ยังไง

เฮียฮ้อ : ผมก็แนะเขาว่า ถึงเวลาเขาคงต้องเข้าไปพูดคุยอะไรบ้าง กับทางแอนนี่ เท่าที่ผมอ่านข่าว เขาบอกจะไปคุยกัน แต่มันก็ต้องมีคนอื่นอยุ่ด้วยอยู่ดี  ถึงได้บอกว่า เป็นเรื่องของคนสองคน วันนี้ถ้าตั้งใจจบ ก็ต้องจบจริงๆ

ถาม : เฮียพร้อมจะเป็นคนกลางนั่งฟังทั้งฟิล์มและแอนนี่พูดพร้อมกันหรือเปล่า โดยที่ไม่เข้าข้างใคร

เฮียฮ้อ : ได้ ถ้าคิดว่า วิธีนั้นเป็นประโยชน์เป็นทางออกที่ดีได้ ผมก็ยินดี  ที่ผ่านมา หลายๆคนว่าผมว่า รุนแรงมากไปกับฟิล์มหรือเปล่า แต่ผมว่า มันเป็นเรื่องราวที่เราปกครองคน เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเราต้องตัดสินใจ

ถาม : วันที่สัมภาษณ์ ก็พยายามถามแอนนี่หลายหนว่า   ทำไมไม่ตรวจดีเอ็นเอ แต่แอนนี่บอกไม่ตรวจแล้ว ต่างคนต่างอยู่

เฮียฮ้อ : ผมคิดว่า ถ้าเรื่องของผู้ชาย หญิงคบกันแล้วเลิกกัน จะจบง่าย วันนี้มีเด็กเกิดขึ้นมา อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็มีสิทธิต้องรู้ว่าใครเป็นแม่เป็นพ่อเขา
วันนี้ ข้อมูลที่ได้จาก 2 ฝ่ายไม่สำคัญแล้ว สำคัญอยุ่ที่ตัวเด็ก

ถาม : ทางออกมีอะไรอีก ถ้ามองในอาคคตของฟิล์ม

เฮียฮ้อ : คิดว่า อยู่ที่คน 2 คน ถ้าอยากให้เรื่องจบ เดินมาพิสูจน์ ทางที่สอง ผมยินดี ถ้าให้ผมไปนั่งฟัง2 คน เรื่องนี้เริ่มที่สองคน จะจบได้ ก็ 2 คน

ถาม : เรื่องที่เกิดขึ้นเสียหายขนาดไหน

เฮียฮ้อ : แง่ธุรกิจเสียหายไม่มาก แต่ที่เสียหายคือเรื่องของการเตรียมงาน บางงานประสานเป็นปี บางแผนต้องเปลี่ยนหรือเปล่าต้องดูสถานการณ์อีกที

ถาม : แต่ในเมื่อข้อมูลจากสัมภาษณ์แอนนี่  กับของฟิล์มที่คุยกับเฮีย พูดไม่ตรงกัน

เฮียฮ้อ : ผมมีข้อมูลของผมอีกด้าน ผมบอกฟิล์มว่า เป็นลูกผู้ชายถ้าทำให้เด็กเกิดมาต้องรับผิดชอบ ถ้าไม่รับผิดชอบก็ไม่ใช่คน เรื่องราวนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการก็มีเรื่องนี้เกิดขึ้น ช่วงเวลาที่เกิดขึ้น คนก็ไปปรักปรำต่างๆนานๆ พอเรื่องพิสุจน์ความจริงออกมา ก็ไม่ใช่

ถาม :  เฮียจะพูดอะไรกับแอนนี่

เฮียฮ้อ : คิดว่าเป็นเรื่อง2 คน เลยเถิดมาขนาดนี้ วันนี้มีโอกาสแก้ไขในสิ่งที่ถูกต้องแก้ไขเสีย เรื่องของแอนนี่ กับฟิล์ม เล็กกว่าเด็กคนนี้ อย่าทำผิดซ้ำกับเด็กคนนี้

ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์รายการเจาะข่าวเด่น นายสุรชัย ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวนอกรอบ ว่า  เมื่อเช้าคุยกันฟิล์มยังเศร้าๆ แต่เขาก็ยังขอบคุณที่เฮียตัดสินใจ และขอโทษที่ทำให้บริษัทยุ่งยาก  โดยที่ไม่ได้พุดถึงแอนนี่เลย ก็บอกครอบครัวเขาให้ดูแลฟิล์มดีๆ ให้แม่ของฟิล์มอยู่ใกล้ๆ เขา ทั้งนี้ได้สอนเขาว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด และสุดท้ายทุกคนจะผ่านมันไปได้

เมื่อถามว่า เฮียฮ้อแถลงเหมือนกดดันแอนนี่  นายสุรชัยดกล่าวยืนยันว่า ไม่ ได้กดดันใคร ถ้ากดดัน น่าจะกดดันฟิล์มมากกว่า  หลายคนไม่เข้าใจที่แถลงเมื่อวาน ส่วนที่ไม่เอาฟิล์มมาแถลง  ก็เพราะคนที่จะพูดกับสื่อต้องมีสภาพจิตใจพร้อมก่อน  ซึ่งหลังวันศุกร์เป็นต้นมา เมื่อแอนนี่ออกมาพูดฟิล์มเขาก็แย่

ส่วนกรณีแฟนคลับฟิล์มมี2กระแส บางคนต่อว่าเฮียฮ้อแรงไปที่ไปตัดงานเขา เพราะเหมือนฟิล์มเป็นเสาหลักชของบ้าน อีกกลุ่มก็เข้าใจ นั้น นายสุรชัยกล่าวว่า "เดี๋ยวต้องดูกันอีกทีนึง"

อย่างไรก็ตาม นายสุรชัยกล่าวว่า ที่ออกมาพูดในครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาหวังผลอะไร เหมือนอย่างที่บอกว่า ทุกอย่างต้องตัดเรื่องกระแส และทำความจริงให้ปรากฎ และตนคิดว่า ทุกคนน่าจะอยากจบกับเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นจะมีชีวิตที่มีความสุขไม่ได้ ส่วนเรื่องงานพรีเซนเตอร์ต่างๆ ของฟิล์ม  ที่เคยมีอยู่ก่อนหน้านี้ที่ออกไม่ได้มีการถอดออก แต่ในส่วนพรีเซ็นเตอร์ที่กำลังมีอยู่นั้นทางอาร์เอส ได้ส่งคนไปคุยกับเจ้าของผลิตภัณฑ์สินค้าว่า ตอนนี้ฟิล์มไม่พร้อมที่จะทำงานก็ต้องยกเลิกไป

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะมีผลต่อสัญญาอาร์เอสที่ทำกับฟิล์มหรือไม่ นายสุรชัยกล่วว่า ฟิล์มกับอาร์เอสเราไม่ได้คุยกันเรื่องสัญญา และเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบ ส่วนที่เคยพูดว่า  จะส่งฟิล์มเป็นเอเชียนสตาร์ ก่อนหน้านี้ ก็อย่าเพิ่งมองไปไกลขนาดนั้นเลย

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า  จากการที่คุยกับฟิล์ม  เจ้าตัวบอกเชื่อไหมว่า เด็กเป็นลูกของเขา  นายสุรชัยกล่าวว่า  "เรื่องบางเรื่องผมว่า อย่าพูดดีกว่า เพราะ จะทำให้ทุกอย่างจบยากขึ้น"

เมื่อผู้ข่าวถามต่อว่า มีกระแสข่าวว่า ทางอาร์เอส เสนอให้แอนนี่ไปตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาล โดยใช้หมอที่ทางอาร์เอสเป็นคนเลือกให้ทำ ให้แอนนี่ไม่ยอมไปตรวจ  นายสุรชัย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีหลายกระแสเข้ามามาก และมีบุคคลที่ สาม สี่ ห้า เข้ามาเกี่ยวข้อง มีองค์กร มีหน่วยงานต่างๆ ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคน จะจบได้ก็ที่คนสองคน คนอื่นไม่น่าจะไปเกี่ยวข้อง

 "ไม่ว่าจะเป็นศิลปินหรือนักแสดงก็ เป็นแค่คนธรรมดา เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้กับทั่วไปเพียงแต่ในกรณ๊นี้ทั้งคู่เป็นคนมีชื่อ เสียง เลยเป็นที่สนใจ แต่เมื่อเกิดปัญหาแล้ว ก็ต้องแก้ปัญหา"




ขอบคุณข้อมูลจาก มติชนออนไลน์






Create Date : 22 กันยายน 2553
Last Update : 22 กันยายน 2553 11:02:02 น. 2 comments
Counter : 630 Pageviews.  
 
 
 
 
ไหนว่าเรื่องของคนสองคนไงครับเจ๊
 
 

โดย: SriSurat วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:13:42:48 น.  

 
 
 
ถ้าจะให้้ยุติธรรม ควรจะตรวจดีเอ็นเอ ถ้าเด็กไม่ใช่ลูกฟิล์มหล่ะ พวกคุณคิดว่ามันไม่ใช่บาปกับตัวเด็กและฟิล์มเหรอ
 
 

โดย: NumKalasin วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:10:32:22 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

pondpai
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




น้องพลอยตัวน้อย
[Add pondpai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com