พจน์ แถลงสู้ หอแต๋วแตกฯ เปล่าทำภาษาวิบัติ

   
พจน์ อานนท์ ตั้งโต๊ะแถลงชื่อหนัง ''หอแต๋วแตก แหวกชิมิ''
ไม่มีเจตนาทำภาษาวิบัติ
ยันไม่ต้องแก้ไขเพราะผ่านกองเซนเซอร์หมดแล้วทั้งเรื่องโปสเตอร์และเปลี่ยนคำ
ว่า ''แหก'' เป็น ''แหวก'' เหน็บเพลงลูกทุ่ง ''เห็นหมีหนูมั้ย''
ทำไมไม่โดนแก้ เผยความคืบหน้าคดี แอนนี่ บรู๊ค อาร์เอสฟ้องกลับแล้ว

   
จาก กรณีที่ภาพยนตร์เรื่อง ''หอแต๋วแตก แหวกชิมิ''
ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักการเมืองผู้หนึ่งว่าทำให้ภาษาไทยวิบัติ
โดยเฉพาะการนำคำว่า ''ชิมิ''
ซึ่งเป็นคำแสลงที่ใช้กันในหมู่วัยรุ่นที่เพี้ยนมาจากคำว่า ''ใช่ไหม''
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 53 ที่ผ่านมา  พจน์ อานนท์  ผู้กำกับฯ
ของหนังเรื่องหอแต๋วแตกฯ ได้ออกมาแถลงถึงเรื่องดังกล่าว
โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่มีเจตนาทำให้ภาษาไทยวิบัติแต่อย่างใด
แต่เป็นการตั้งชื่อเพื่อความตลกของหนังเท่านั้น
ทั้งนี้ที่ผ่านมาหนังหอแต๋วแตกได้ผ่านขั้นตอนของกองเซนเซอร์ซึ่งตนก็ได้ปรับ
เปลี่ยนตามที่กองเซนเซอร์ต้องการหมดแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโปสเตอร์ที่เดิมทีพระเอกของเรื่อง ''แทค'' ภรัณยู
โรจนวุฒิธรรม  ใส่เพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว
ก็ได้ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกเปลี่ยนเป็นกางเกงขายาว
รวมทั้งชื่อของหนังก็เปลี่ยนจากคำว่า ''หอแต๋วแตก แหกชิมิ'' มาเป็นคำว่า
''หอแต๋วแตก แหวกชิมิ''
ซึ่งก็ได้รับอนุญาตให้ผ่านจากกองเซนเซอร์เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นตนคงไม่จำเป็นต้องแก้ไขอะไรอีก

   
''มันคงไม่ต้องแก้อะไรแล้วเพราะมันผ่านเซนเซอร์หมดแล้ว
กองเซนเซอร์เป็นคนไตร่ตรองเรื่องนี้ สำหรับการออกมาพูดครั้งนี้จริงๆ
คือเราอยากจะออกมาพูดตั้งนานแล้วว่าเราไม่มีเจตนาจะทำให้ภาษาไทยวิบัติ
แล้วคำว่าแหกมันก็ใช้กันทั่วไปอยู่แล้ว แหกหู แหกตา
แต่ว่าท่านก็บอกให้เปลี่ยน เราก็เปลี่ยนให้เป็นแหวก
มาทีนี้ท่านก็มาติติงเรื่องชิมิอีก ก็ไม่รู้จะทำมาหากินอะไรกันแล้ว
ซึ่งคำนี้มันไม่ใช่ศัพท์ราชการ มันเป็นคำใช้เฉพาะกลุ่มเดี๋ยวก็เปลี่ยนแล้ว
ทีมีเพลงออกมาร้องว่า เห็นหมีหนูมั้ย เห็นหมีหนูมั้ย
นั่นก็เหม็นกันทั้งประเทศไปแล้ว ผมว่าตรงนี้น่าแก้ไขมากกว่า
นี่ก็ว่าจะทำหนังเรื่องต่อไปชื่อเรื่อง เห็นหมีหนูมั้ย
คือตุ๊กตาหมีของเด็กมันหายไปไง ก็เลยออกตามหา แล้วก็มีท่านี้ด้วยนะ
หมีหนูอยู่ไหน!'' พจน์กล่าวอย่างอารมณ์ดี

   
''เรื่องฟ้องตอนนี้มันพูดอะไรไม่ได้ แล้วทางทนายของเราคือทางอาร์เอส
เค้าเป็นคนจัดการให้ แล้วตอนนี้หลักฐานที่เรามีอยู่ก็แน่นปึ้ก
แต่มันเอาออกมาให้ดูได้ ถ้าถามว่าเราพร้อมที่จะสู้มั้ย เราพร้อมที่จะสู้
และก็ยังยืนยันว่าไม่ได้หมิ่นประมาท
เพราะว่าเราดูจากเทปที่พี่ไปออกรายการและที่นักข่าวมาสัมภาษณ์ไม่มีตรงไหน
ที่หมิ่นประมาทเลย จะมีก็ตรงที่นักข่าวเอาไปพาดหัวกันนั่นแหละ
ตรงนั้นที่จะโดน แต่เค้าก็กำลังหานักข่าวไปช่วยขึ้นศาลด้วยนะ ก็หลบกันดีๆ
แล้วกัน (หัวเราะ) ส่วนเรื่องฟ้องกลับ ถ้าตัวพี่เสียหายพี่ฟ้องกลับ
แต่ตอนนี้ทางของอาร์เอสเค้าฟ้องไปแล้วแต่ไม่เป็นข่าว
ไม่ได้ฟ้องแอนนี่คนเดียวนะ ไปสืบดูว่าฟ้องใครอีก แต่เค้าไม่อยากเป็นข่าวไง
เพราะอยากให้จบไปได้แล้ว เรายุ่งกับเรื่องชาวบ้านมานานแล้ว
เรามายุ่งเรื่องชิมิดีกว่า''