หางาน
 
ด่วน!หาม"ฟีล์ม-รัฐภูมิ"เข้าห้องไอซียู

ด่วน!หาม"ฟีล์ม-รัฐภูมิ"เข้าห้องไอซียู





        ญาตินำนักร้องนักแสดงชื่อดัง“ฟีล์ม รัฐภูมิ”เข้าห้องไอซียู โรงพยาบาลบีเอ็นเอช เหตุจากกินยาเกินขนาด"เฮียฮ้อ"แจงไม่มีเจตนาหมิ่น"แอนนี่"ยอมรับระวังคำพูดมากขึ้น ลั่นขอรับผิดชอบคำพูดทั้งหมด ขณะที่"แอนนี่"ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ หลังข่าวสะพัดเปลี่ยนชื่อเปิดบัญชีรับเงิน 5 แสน


        ( 4 ต.ค.)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ บริษัท อาร์เอส ยืนยันว่า ทางญาติได้พา ฟีล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ นักร้องนักแสดงชื่อดัง เข้าห้อง ไอซียู โรงพยาบาลบีเอ็นเอช สาเหตุเกิดจากการกินยาเกินขนาด โดยนายปณต ชัยจินดา หรือ โน้ต ผู้จัดการฟิล์ม ให้สัมภาษณ์ในรายการ เช้าดูวูดดี้ ทางโมเดิร์น ไนน์ทีวี ถึงอาการล่าสุดของฟิล์ม ว่า ขณะนี้ ยังอยู่ในห้อง ICU อาการไม่ถึงกับโคม่า แต่คาดว่าน่าจะมีผลต่อระบบการหายใจ ทราบจากแอร์พี่ชายของฟิล์มว่า เมื่อคืนฟิล์มได้มีการพูดคุยกับ พจน์ อานนท์ จากนั้นกินยาคลายเครียดก่อนนอน คาดว่ายังเครียดอยู่จึงกินยาเพิ่ม จึงเกินขนาด


        วูดดี้ถามว่า ทราบหรือไม่ว่าฟิล์มได้พูดคุยกับแอนนี่หรือยัง โน้ตตอบว่า ได้มีการติดต่อไปหลายครั้ง แต่มีคนกลางคอยรับสายแทนตลอด สรุปคือยังไม่ได้คุยกัน


        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม บริษัทอาร์เอส ต้นสังกัดของนักร้องหนุ่ม"ฟิล์ม" รัฐภูมิ ส่งอีเมล ไปยังสื่อมวลชนหลายสำนัก โดยอ้างว่าเป็นคำกล่าวของนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือเฮียฮ้อ ต่อกรณีที่เกิดขึ้นว่า "ผมรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และขอเรียนชี้แจงว่าผมมิได้มีเจตนาที่จะดูหมิ่นเหยียดหยาม หรือทำลายเกียรติใคร เป็นเพียงการชี้แจงข้อเท็จจริงที่ได้รับจากบุคคลที่เชื่อถือได้ ให้สังคมได้รับรู้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งเท่านั้น พร้อมกันนี้ก็ยินดีน้อมรับคำวิจารณ์และรับผิดชอบต่อสิ่งที่กล่าวไปในวันนั้น โดยจะระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวเนื่องกับปัญหาของศิลปินในสังกัด "ฟิล์ม" รัฐภูมิ และคู่กรณีผ่านสื่อมวลชนครับ"


        ขณะเดียวกัน ทีมข่าวยังได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของ "ฟิล์ม" รัฐภูมิ พบว่าศิลปินชื่อดังยังคงพักและเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านย่านห้วยขวาง ไม่ได้ออกไปทำงานที่ไหน และผู้จัดการส่วนตัวของนักร้องหนุ่มได้แจ้งว่า ในวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม เวลา 14.00 น. บรรดาแฟนคลับได้นัดหมายขอพบฟิล์มที่บ้านย่านห้วยขวาง เพื่อให้กำลังใจนักร้องดัง และพูดคุยถึงความคืบหน้ากรณีที่ตกเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้


        ส่วนที่มีกระแสข่าวอ้างว่ารายการตีสิบได้โฆษณาถึง 70 ตัว พร้อมกับรับรายได้จากค่าโฆษณา  22 ล้านบาท จากการเชิญ แอนนี่ บรู๊ค มาเป็นแขกรับเชิญนั้น นายวิทวัส สุนทรวิเนตร์ หรือเสี่ยวีที ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะการขายโฆษณาต้องวางแผนเป็นเดือน 


        "ทั้งหมดไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง เพราะเราขายโฆษณาล่วงหน้ากันเป็นเดือน โฆษณาเราเต็มปกติอยู่แล้ว คงขายเพิ่มไม่ได้ แล้ววันที่บันทึกเทปแอนนี่ นักข่าวก็คงทราบว่ากว่าเราจะได้สัมภาษณ์ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว วันรุ่งขึ้นก็ออกอากาศ เราคงไม่สามารถขายโฆษณาหลังเที่ยงคืนได้ เพราะบริษัทเขาปิด บอกตามตรงว่าโฆษณาเราเต็มอยู่แล้ว แล้วเราไม่ได้ขายเพียงคนเดียว แต่ทางช่อง 3 ขายด้วย แล้วเราเพลนกันเป็นรายเดือน อย่างที่บอกว่าโฆษณาเราเต็มตลอด เดือนหน้าก็เต็ม การที่เอาแอนนี่มาไม่ได้ทำให้เราขายโฆษณาได้มากกว่าเดิม เพราะมีกฎหมายควบคุมของกรมประชาสัมพันธ์ดูแลอยู่แล้ว" นายวิทวัสกล่าว


         ถามว่าเรตติ้งรายการตีสิบ ในวันที่ออกอากาศ แอนนี่ เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าของรายการกล่าวว่า เรตติ้งขึ้นแน่นอน เพราะส่วนหนึ่งมาจากกระแสสังคม และการนำเสนอของสื่อมวลชน


        "เรตติ้งขึ้นแน่นอน เป็นธรรมชาติ เพราะทั้งกระแสสังคมที่กำลังได้รับความสนใจ และการนำเสนอของสื่อไม่ว่าจะเป็น คม ชัด ลึก ช่วย หรือสื่อฉบับอื่นๆ ที่ช่วยนำเสนอ ผมว่าเป็นธรรมชาติที่รายการไหนก็ตามได้นำเสนอ เพราะกำลังเป็นกระแสสังคมที่ได้รับความสนใจอยู่แล้ว เมื่อมีกระแสคนก็ดู ส่วนเรตติ้งในวันนั้นก็อยู่ที่เรตติ้ง 7 กว่าๆ ถามว่าสูงสุดเท่าที่ทำรายการมาหรือไม่ สำหรับเทปนี้ไม่ใช่ เพราะเคยมีสูงสุดกว่านี้ แต่เรตติ้งปกติอยู่ประมาณ 4-5" พิธีกรชื่อดังกล่าว


        ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้ยังมีกระแสข่าวอ้างว่า แอนนี่ บรู๊ค ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ฐิฏิพร เสฏฐภูมิ พร้อมกับเปิดบัญชีธนาคารหนึ่ง เป็นจำนวนเงิน 5 แสนบาท กระแสข่าวดังกล่าวทำให้มีข่าวลืออีกว่าแอนนี่ เตรียมแถลงข่าว แต่เมื่อได้โทรศัพท์ติดต่อไป เพื่อสอบถามถึงกระแสข่าวดังกล่าว ปรากฏว่าปลายสายมี น.ส. สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง เป็นผู้รับโทรศัพท์ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้ไม่มีการแถลงข่าวใดๆ ทั้งสิ้น และตอนนี้อยู่กับแอนนี่ที่คอนโด


        น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง ชี้ว่า การที่เฮียฮ้อออกหนังสือแสดงความเสียใจ ไม่มีเจตนาดูหมิ่นเหยียดหยามแอนนี่นั้น คนที่พูดควรจะไปทบทวนดูว่า สิ่งที่ตัวเองทำในวันนั้นเป็นยังไง การพูดว่าเสียใจอย่างเดียวคงไม่พอ วันที่เฮียฮ้อแถลงข่าวพูดให้แอนนี่เสียหาย ประชาชนทั่วประเทศเห็นได้ว่าสิ่งที่ทำในวันนั้นคืออะไร แต่วันนี้มาแสดงให้เห็นว่าไม่เจตนา ซึ่งจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจในการดำเนินคดีกับทุกคนที่ทำให้เสียหาย แอนนี่ยังจะใช้กฎหมายในการปกป้องตัวเองและลูกต่อไป วันนี้ทีมกฎหมายได้พูดคุยกันและเร่งเก็บรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วน


        เมื่อถามว่า หลายคนอยากให้ตรวจดีเอ็นเอ มีโอกาสที่จะเปลี่ยนใจหรือไม่ น.ส.สุเพ็ญศรีกล่าวว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเจ้าตัวจะเป็นคนพูดเอง ได้แนะนำว่า ถ้าเขายังไม่มีการดำเนินการทางกฎหมาย การอยู่เฉยๆ เป็นสิทธิที่แม่ทำได้ ถ้าฟิล์มยื่นร้องต่อศาล ต้องดูในโอกาสต่อไป แต่ตอนนี้ยังไม่มี เป็นสิทธิของแม่ เพราะได้บอกไปแล้วว่าจะไม่ใช้สิทธิขอให้ใครมาเป็นพ่อหรือรับรองบุตร


 


 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก คมชัดลึก









Create Date : 04 ตุลาคม 2553
Last Update : 4 ตุลาคม 2553 9:33:23 น. 1 comments
Counter : 825 Pageviews.  
 
 
 
 
เวรกรรมมีจริง
 
 

โดย: Kavanich96 วันที่: 4 ตุลาคม 2553 เวลา:10:48:31 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

pondpai
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




น้องพลอยตัวน้อย
[Add pondpai's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com