just can't {imagine} our ends
Group Blog
 
All blogs
 

คงหายไปสักพักนะคะ

ฝากข้อความไว้ที่นี้ แล้วจะติดต่อกลับไปนะคะ
ขอหายตัวจากโลกนี้ไปสักพักดีกว่า

ไว้จะกลัยมาใหม่ค่ะ
*
*
*




บางครั้ง การยอมรับความจริง
มันยาก -- เหลือเกิน








เต้าหู้ของเรา
จะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะ

รักหนูนะ
*
*
*





 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2548 8:26:33 น.
Counter : 328 Pageviews.  

เมื่อวานไปสมัครงานมา(อีกละ)

อยากได้งานนี้จังเลย
ไปสมัครมาเมื่อวาน
เค้านัดสิบโมง อิฉันไปถึงพอดีเด๊ะ เพราะคุณมอไซค์รับจ้างช่วยชีวิต
แหะๆ ก็คนไม่คุ้นเคยแถบนั้นนี่นา
ไปถึง เค้าก็ให้กรอกใบสมัครและทำข้อสอบเลย
เฮ่อ รู้สึกว่าทำได้ไม่ดี แต่สองชม.ครึ่งที่หมดไป
ก็เต็มที่แล้วล่ะ
ต้องไม่เสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำสิ

แต่แอร์ในนั้น ยังกะอยู่แถบขั้วโลก
มือไม้ชาไปหมด ยิ่งเขียนไม่ค่อยออกอยู่

ปวดหัวจัง แต่ต้องทำให้เสร็จ
บ่ายสองครึ่ง ออกมาจากที่นั่น ถึงรถไฟฟ้า
แค่ 5 นาทีเอง ไหงขามาพี่มอไซค์เก็บเราตั้ง 20 แน่ะ
รีดเลือดกันชัดๆ หูย...
ว่าแล้วก็ไปหาข้าวกินข้างนอก
ก่อนกลับมาสลบเหมือดที่บ้าน
ตื่นมาอีกที ค่ำมืดแล้ว

สี่ทุ่ม ดู HOUSE ติดใจหมอปากหมาคนนี้ซะแล้วสิ
เจอพ่อคนไข้ต่อยด้วยคราวนี้ น่าสงสาร
รู้สึกได้รู้อะไรๆเกี่ยวกับโรคภัยมากขึ้น นอกจากการปะทะคารมในเรื่องแล้วอ่ะนะ

นั่งอ่านการ์ตูน รอดูบอลตอนตีหนึ่ง45
ดูยังไม่ทันจบครึ่งแรก
เอ่อ ไปนอนดีกว่าว่ะ เซ็งด้วย ง่วงด้วย
ตอนเช้าวันนี้ตื่นมา อ้าว แพ้ไปแล้ว ง่ะ
หงส์เอ๋ย ปีกไม่หายเสียทีนะ
แต่จะรอวันที่หงส์กลับมานะ (อีกกี่ชาติเนี่ย)




 

Create Date : 26 ตุลาคม 2548    
Last Update : 26 ตุลาคม 2548 11:00:44 น.
Counter : 410 Pageviews.  

กรรมของหนูกับภูสอยดาว

เวรกรรมมีจริงหรือไม่ ใครไปดูอหิงสา(หรืออยากดู) แวะไปเยี่ยมกันได้ที่//www.bloggang.com/viewblog.php?id=pompom67&group=4



ต่อไปนี้ที่จะอ่าน เป็นนิทานสอนใจเรื่องหนึ่งค่ะ





ณ ประเทศไทย

หนูน้อย “ปอม” นามสมมติ เป็นเด็ก เอ้ย! หนูตัวหนึ่งที่มีความคิดแปลกๆ อยู่ในหัวอันกะจิดริด
หนูปอมเฝ้าใฝ่ฝันอยากไปสอยดาวจากฟ้ามาเอาไว้ใช้แทนโคมไฟที่บ้านมาตั้งนานแล้ว
แต่หนูปอมยังเล็กนัก เธอคิดว่าถ้าไปตัวเดียวอาจคว้าดาวไว้ไม่อยู่ น่าจะหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ไปด้วยกันถ้าจะดี


วันหนึ่ง มีเพื่อนหนูนักเดินทางในหมู่บ้านเดียวกัน ชักชวนหนูปอม ไปภูสอยดาว

หนูปอมคิดว่า คงสบโอกาสที่จะทำความฝันให้เป็นจริงสักที และคงเป็นคราวนี้แหละ
เธอจึงบอกแผนการที่วางไว้ในหัวเธอมาตลอดเวลาที่ผ่านมาให้เพื่อนๆหนูฟัง


“ไม่ใช่เราไม่เห็นด้วยนะ แต่เท่าที่เราอยู่มาถึงตอนนี้กัน มีใครเก็บดาวมาไว้ที่บ้านกันได้มั่งล่ะ”
“อ้าว ก็รู้ได้ยังไงล่ะ ว่าพวกเขาไม่มีดาวอยู่ที่บ้าน บางทีของแบบนี้ใครเขาจะเอามาอวดกัน มันต้องเป็นความลับสิ”

“เอาเหอะนะ ช่วยเราหน่อย ไว้ได้ดาวมาแล้ว มาแบ่งกันใช้ก็แล้วกันนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าได้กลับมา ปอมก็เอาไปเถอะ แล้วเราค่อยมาเยี่ยมมันที่บ้านปอมก็ได้”

หนูปอมยิ้มแก้มแดง ดีใจจนแทบกระโดดตีลังกาฟิกแฟกเกลียวคู่ ก่อนเก็บคอ งอขา แล้วม้วนหน้าไปข้างหลัง
ก่อนจบด้วยท่าของนักยิมนาสติกของไทย (ทำไมต้องเมืองไทยเหรอ หนูปอมก็ไม่รู้เหมือนกัน)

เด็กหนูทั้งสองตกลงกันว่า จะออกเดินทางตอนดึกๆของคืนวันรุ่งขึ้น




ในคืนก่อนออกเดินทาง...
หนูปอมออกมาเดินฝันหวานอยู่หน้ารู (ก็คือหน้าบ้านน่ะล่ะ) ใส่รองเท้าแตะคู่เก่า และตอนที่เธอเดินออกมา ฝนยังไม่หยุดร่ำไห้ เธอรู้สึกอยากปลอบใจฝน แต่แล้ว “พรืดดดดด” เสียงปะทะโครมเล็กๆดังแว่วยามฝนหมาดเม็ดลง



เธอลืมไปว่าหน้ารูตอนฝนหยุดใหม่ๆ มันช่างลื่นแสนลื่น ประกอบกับรองเท้าแตะคู่เก่ง ที่ไร้ดอกยางยึดแม้ดินชุ่มน้ำสักเล็กน้อย เธอเอาเข่าหนูทั้งคู่ของเธอกระแทกลงรับแทนหน้า หรือขาหน้าทั้งสองก่อนจะเกาะเกี่ยวอะไรได้ทัน

และเมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้น เจ้าหนูนักเดินทางย่องมาตามหนูปอมที่หน้ารูเพื่อจะปรึกษาและวางแผนเดินทางกันให้เป็นมั่นเป็นหมาะ กลับต้องผิดหวัง เมื่อเห็นหนูปอมร้องโอดโอยเอาเท้าหน้ากุมเข่าไม่ปล่อย

“ไปทำอะไรมาเนี่ย เจ็บมากรึเปล่า แล้วแบบนี้จะไปกันคืนนี้ได้ยังไงล่ะ”
“เจ็บสิ ถามได้ ...แต่คืนนี้ เราก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะ ทำยังไงดีล่ะ เราอุตส่าเฝ้ารอมาตลอด คิดว่าจะได้ไปแล้วเชียว”
“อย่าเสียใจไปเลย แต่ยังไงเราก็จะไปนะ ถึงปอมจะไม่ไปก็ตาม”
“อ้าว ทิ้งกันแบบนี้เลยเหรอ”
“ฉันน่ะ เป็นหนูนักเดินทางนะ ถึงคนไม่ครบ กำหนดการก็ยังต้องเป็นไปตามนั้น ไว้คราวหน้าแล้วกันนะ แล้วฉันจะดูลาดเลามาเผื่อว่าดาวดวงไหนอยากมาอยู่กับเธอบ้างยังไงเล่า”

เมื่อแยกกันแล้ว น้ำตาหนูปอมนองหน้า
เฝ้าแต่โทษดินฟ้าอากาศและรองเท้าแตะผู้ซุ่มซ่าม
แต่ประกายตาเปี่ยมด้วยความหวัง ว่าสักวัน ดาวดวงใสจะมาอยู่สุกสกาวในห้องนอนของเธอ

*
*
*

หนูน้อยผู้ประมาท และขาดสติ ไม่คิดเลยสักนิดว่าเธอไม่ระมัดระวังในการกระทำของตนเอง
ผลที่ได้ ไม่ดีกับใครเลย
แต่ตัวเธอนั่นแหละจะรู้สึกแย่ที่สุด

*
*
*





นิทานเรื่องนี้ มาจากเรื่องจริงของตัวเอง
แถมยังเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เองด้วย
ฮือๆ ซุ่มซ่ามเองจะโทษใคร
ก็อดไปเที่ยววันนี้ตามระเบียบ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว
ส่งผลร้ายไปนานกว่านั้นและมากกว่านั้นมากๆ


ทำอะไร ต้องไม่ประมาท
ฝากเตือนทุกคนด้วยค่ะ

ป.ล. ขอโทษน้าแอมป์ ล่า และตีก มา ณ ที่นี้ อุตส่าห์คิด ฝัน กันมาตั้งเป็นนาน เตรียมการเดินทาง หาข้อมูลมากมาย แต่ท้ายที่สุด เราก็ไปไม่ได้ เพราะความเลินเล่อ ที่น่าเตะเป็นที่สุด

ไว้เที่ยวเผื่อเราด้วยนะ

จากหนูผู้ขาเดี้ยง






 

Create Date : 20 ตุลาคม 2548    
Last Update : 20 ตุลาคม 2548 12:15:01 น.
Counter : 676 Pageviews.  

สวัสดีวันเสาร์ค่ะ

เหอๆ สืบเนื่องจากเมื่อคืนได้ดูหนัง


"HAWKING"

ทางช่อง hallmark ค่ะ (ไม่ได้จะโอ่ว่าติดเคเบิลแล้วมีจานดาวเทียมร่าอยู่บนหัวหรอกนะคะ--คือท่านเจ้าของบ้านแกอยากดูบอลมากกกกกกก เป็นเหตุผลเดียวที่ยังติดเจ้าค่ะ อิฉันก็เสียดายกะตังถ้าติดแล้วปล่อยให้มันสูบเลือดกับปูผอมๆ ก็เลยต้องหาอะไรเข้าตัวซะบ้าง พักนี้เงินน้อยร้านเช่าหนังอย่าหวังจะได้ตังจากอิฉันเลย ไม่มีทาง 55)

เอ่อ ยังอยู่กันรึเปล่าเนี่ย

ทีแรกก็ยังไม่ค่อยสนใจดูเท่าไหร่ค่ะ
แต่พอรู้ว่าเค้าเป็นโรคอะไร และเค้าค้นพบอะไรบ้าง
โอ้ อัจฉริยะสุดๆ แล้วทำไมเค้าต้องเจอโรคแบบนี้ด้วยฟะ



"...ผลงานค้นคว้าที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Hawking มากที่สุดก็คือ



ทฤษฎีหลุมดำ (black hole) และทฤษฎีที่ว่าด้วยกำเนิดและจุดจบของจักรวาล





เขาป่วยเป็นโรค amyothropic lateral sclerosis ซึ่งโรคนี้ ทำให้ระบบประสาทส่วนกลางของเขาควบคุมกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายไม่ได้เลย อวัยวะหนึ่งเดียวของเขาที่ทำงานคือ สมอง

เวลาเขาต้องการจะสนทนาติดต่อกับโลกภายนอก เขาจะใช้เครื่องพูดโดยใช้นิ้วกดปุ่มของตัวอักษรต่างๆ ประกอบ เป็นคำที่เขาต้องการแล้วจึงกดเครื่องออกเสียง


เมื่อปี พ.ศ. 2531 เขาได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ
A brief History of Time ซึ่งว่าด้วยประวัติของเวลา หนังสือเล่มนี้ติดอันดับหนังสือที่ขายดีที่สุดในโลกเล่มหนึ่ง โดยมียอดจำหน่ายกว่าสิบล้านเล่ม
ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ ถึง 40 ภาษา

ภาษาที่เขาใช้ในการสื่อสารในหนังสือนั้นเรียบง่าย
และทั้งเล่มมีสมการอยู่เพียงสมการเดียวคือ E=mc2


จากประวัติศาสตร์ที่เป็นมา เรายังไม่เคยมีนักวิทยาศาสตร์ ระดับรางวัลโนเบลคนใดเขียนหนังสือจนสามารถติดอันดับ หนังสือขายดีที่สุดในโลกเลย

ชีวิตของนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะคนนี้ได้แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่า วิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นวิทยาการที่ต้องใช้สมอง ไม่จำเป็นต้องอยู่ในร่างกายที่ปกติเสมอไป..."




Stephen William Hawking


ข้อความที่ quote มาจากเวบนี้ค่ะ
//www.ipst.ac.th/ThaiVersion/publications/in_sci/hawking.html

และอีกเวบค่ะ
//www.bangkokbiznews.com/scitech/2003/0626/index.php?news=p1.html


(อิฉันนี่มัน out จริงๆ) ตอนที่หนังสือของคุณ Hawking ออกมารู้สึกจะสองเล่ม(รึเปล่า) ตอนนั้นมีเพื่อนคณะคนนึงแนะนำให้อ่าน แต่เราก็เฉย
เพราะรู้สึก anti ว่าจะฮิตอะไรกันนักหนา
แต่มาวันนี้ อยากหาอ่านใจจะขาด เอ่อ คงต้องรองานหนังสือคราวหน้าแล้วเนี่ย

ตอนนี้เลยหาข้อมูลอ่านเอาทางเน็ตไปพลางๆ ด้วยใจจดจ่อก่อนแล้วกัน







แหม ในพันทิพนี่อยากรู้อะไรก็ได้ตามต้องการเสมอเลยนะนี่ ดีจัง : ) และแล้วความอยากรู้ของเราก็แตกแขนงไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ขอทีคอมอย่าแฮงค์ก็แล้วกัน

เรื่องของ "รูหนอน สำหรับเดินทางข้ามเวลา" อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจแฮะ ???? เข้าข้างล่างเลยจ้า
//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X3733819/X3733819.html

ฟิสิกส์แห่งการท่องเวลา เชิญทางนี้
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2450276/W2450276.html#49



ในที่สุดเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมาฝนก็เทลงมาและเพิ่งซาลงไป
ฟิสิกส์เป็นเรื่องน่าสนใจก็คราวนี้เองค่ะ
(ทำไมไม่หนุกเหมือนตอนเรียนฟะ)

วันนี้ทักทายเท่านี้ละกันค่ะ




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2548    
Last Update : 15 ตุลาคม 2548 18:56:01 น.
Counter : 620 Pageviews.  

ดู--เพื่อนสนิท--มาค่ะ

เคยมีอคติกับหนังที่จะไปดูกันบ้างรึเปล่า

เรานี่ล่ะ
อคติกับหนังเรื่องนี้
เพราะคุณแควนฉัน
เคยประสบเหตุการณ์จริงมากับตัว เป็นผลให้เค้ารบจะดูให้ได้ เราเองก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว(ถ้าไม่action จนเกินไป)

ดูแล้วไม่อินเลยค่ะ
เพราะดูด้วยความไม่เป็นกลาง
ทั้งๆที่ชอบทั้งตัวแสดงดากานดา กับ นุ้ย มากทีเดียว

จริงๆไม่ใช่หนังเขาไม่ดีนะคะ
เพียงแต่ถ้าคุณคิดแบบนี้ตั้งแต่ต้นแบบเรา
มันจะดูหนังไม่สนุก เท่านั้นแหละ

แต่ช่วงที่ขำก็ขำดีแฮะ
รู้สึกว่ามันเน้นฮามากไปหน่อย (โอ้พระเจ้า จอร์จ!)

คุณเจ๊ที่เล่นเป็นแตนพยาบาลสาวคู่กะนุ้ย
รู้สึกพี่แกขโมยซีนตลอดเลย (ยังกะคุณสมชาย 2 แน่ะ)

และ---ถ้าคนดูไม่คุ้นชินกับเจ้าชายน้อย
ก็อาจไม่เข้าใจบางสิ่งบางอย่างที่หนังต้องการสื่อก็ได้นะ





แต่
เรา
จะ
พยายาม
"เปิดใจ"
นะ






 

Create Date : 13 ตุลาคม 2548    
Last Update : 13 ตุลาคม 2548 12:06:33 น.
Counter : 489 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

quin toki
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




everything has a begining , has an end.

link to my thought
~~*http://pompom67.bloggang.com*~~




บล็อกน้อยอิเหละเขะขะ
เก็บ+กระจุกของไว้สารพัด
สารบัญก็ไม่มีให้กดง่ายๆ ขออภัยด้วยเน้อ




เคยมีคนบอกกับเราว่า
ถ้าเราไม่ได้ดูหนัง
คงหายใจไม่ออกสินะ

...
ขาดหนัง
ก็ขาดใจ
(ไอ้บ้าเอ๊ย!)

เข้าใจพูดนะเนี่ย
>_<








นิตยสารดีโอ DE.O. Magazine E-Book

issue 6

L.O.V.E.







คุณป้าสุวคนธ์ ไม้แดง

และหมาแมวจรนับร้อย

ที่กำแพงเพชร



เล่นกับแกรี่ได้นะจ๊ะ (แต่แกรี่ตัวนี้ไม่มีเขี้ยวเท่านั้นแหละ)
Friends' blogs
[Add quin toki's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.