just can't {imagine} our ends
Group Blog
 
All blogs
 
ได้หนังสือมาน้อยกว่าที่คิดไว้--อ่านจบไปสองเล่มแล้ว- _-*

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไปงานหนังสือเมื่อวันศุกร์
แต่วันเสาร์ก็หาเวลาไปจนได้ค่ะ
รายงานชื่อหนังสือที่ได้มาจากงานสัปดาห์หนังสือค่ะ

เรียงตามลำดับที่ซื้อเลยละกัน

1. bioscopeเล่มล่า โป๊มั้ยพี่! ที่บูธ (คนค้นคน...น่ะค่ะ)

2. ความสุขของกะทิ(เล่ม1) ณ บูธนายอินทร์

3. อมตะ - มิลาน คุนเดอรา (แบบว่าน่าอ่านมากกกกก)

4. คือพจนาซาราทุตรา - นีทเช่

5. อลินา - อลาอิส นิน (วรรณกรรมอีโรติคคลาสสิค)

6. แตงดองแกล้มชอคโกแลต - สเตฟานี (บันทึกของเด็กก็ไม่ใช่สาวก็ไม่เชิง ยังกะเพลงแม่บริทนิ แต่เขียนดีจังเลย แอบอิจฉาน้องเค้า ตอนนี้เค้าคงเป็นน้าเราได้แล้วล่ะมั้ง แปลจากภาษาฝรั่งเศส หนึ่งในภาษาที่เราอยากเข้าใจ+เรียนมากกกกกกก)

7. จินตนาการย้อนศร - ฉัตรเฉลิม ตันติสุข




8. ฟาเรนไฮต์ 451 อุณหภูมิเผาหนังสือ - เรย์ แบรดบิวรีย์ เขียน / ชาญ คำไพรัช แปล

"หนังสือต่อต้านเผด็จการเล่มนี้ จินตนาการถึงสังคมมนุษย์ยุคที่มีการห้ามอ่านหนังสือ ใครมีหนังสือในครอบครองถือว่าผิดกฎหมาย...ผู้รักษากฎหมายสูงสุดคือ พนักงานดับเพลิง ซึ่งมีหน้าที่สอดส่องเอาหนังสือไปเผา (แปลกไหม!) หนังสือเล่มนี้เป็น "หนึ่งในสิบ" ของนิยายวิทยาศาสตร์ที่"สิงห์" ยกให้"

(สิงห์สนามหลวง : โลกหนังสือ พฤษภาคม 2525)


ยังไม่ได้อ่าน แต่เคยได้ยินกิตติศัพท์มาพอควร ยกความมาจากปกหลัง

9. ปีศาจ - เสนีย์ เสาวพงศ์ (เขาว่าเป็นหนึ่งในหนังสือดีร้อยเล่มที่คนไทยควรอ่าน ) คำที่ปรากฏในหน้าที่ 3 "...ไม่เป็นการเกินเลยนักที่จะถือว่าหนังสือเล่มนี้เป็น สงครามและสันติภาพ ของไทย..."


อันดับ 3-9 ได้จากบูธ โฆษิต และที่กล้าซื้อเยอะๆที่บูธนี้ เพราะว่าเขาขายราคา 50 % จากราคาปกค่ะ (จริงๆ อยากได้มากกว่านี้อีกค่ะ แต่กลัวไม่มีเวลาเดินจนทั่วงานแล้วพลาดหนังสือดีๆไป)


(จริงๆมีเล่มที่อยากอ่านมากๆ คือ หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว กับ ก่อนรัตติกาลจะดับสูญ เจอเล่มแรกแล้ว แต่ไม่กล้าซื้อค่ะ ไว้รอราคาลงกว่านี้อีกหน่อยดีกว่า ส่วนเล่มที่สองหาไม่สำเร็จ)

อยากมีเวลาเดินมากกว่านี้ เพราะไปถึงงานก็ประมาณทุ่มนึงเห็นจะได้ ...แต่รอเดือนตุลาที่จะถึงดีกว่า



ตอนนี้อ่าน แตงดองแกล้มชอคฯ กับ ความสุขของกะทิ จบแล้ว
สำหรับแตงดองฯ รู้สึกชอบมาก+ทึ่งเด็กอายุ13ที่เขียนอะไรได้อย่างนี้ ถึงจะมีคนเก่งช่วยเรียบเรียงให้ก็เถอะ
แต่... ไม่ค่อยประทับใจกับตอนจบนัก (เพราะเรื่องนี้มีน้องแมวเข้ามาเกี่ยวข้องและ...
ใครที่อ่านแล้วก็น่าจะรู้ว่าเป็นยังไงต่อค่ะ)

ส่วน ความสุขของกะทิ
ทำให้เราปริ่มๆว่าจะร้องไห้ตั้งหลายตอน
เขียนดีค่ะ แต่เราอ่านแล้วรู้สึกหน้าหมอง อ่านแล้วยิ่งรู้สึกเศร้ากว่าเดิม( ขณะที่อ่านมีเรื่องส่วนตัวที่ทำให้ไม่ค่อยสบายใจอยู่ด้วยค่ะ) ทั้งจริงๆ เรื่องนี้มีแง่งามอยู่มากมายค่ะ

คิดไว้ว่า...เล่มนี้ต้องอ่านมากกว่าหนึ่งรอบแน่นอน
คงเพราะแค่เปิดอ่าน ก็ต้องอ่านจนจบ เลยอาจมีบางทีที่ต้องเร่ง (เริ่มอ่านตอนดึกแล้ว)


วันนี้ เริ่มจับ "อมตะ"ค่ะ รู้สึกว่าต้องขอตัวไปอ่านต่อแล้วค่า

มีเรื่อง "โก๊ะ"สุดๆ เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
คือ เรามีเรื่องไม่ค่อยสบายใจน่ะค่ะ ก็เลยหาเรื่องออกไปข้างนอก ซึ่งที่คุ้นๆให้ไปได้ก็มีไม่กี่ที่หรอก
...เราเดินจากราชเทวี มาที่สยามสแควร์...
แต่ไปหาที่นั่งแถวๆหน้าโรงลิโดค่ะ
นั่งอ่านแตงดองฯไปซักพักก็คิดว่า ไปเดินต่อดีกว่า
ก็เลยเตร็ดเตร่ไปแถวคลองบุญมา
เดินดูโน่นนี่ไปเรื่อยๆ

ในที่สุดก็ย้อนกลับมาหาที่นั่งพักแถวโรงหนังอีกที
แต่คราวนี้เป็นสกาลาค่ะ

แล้วก็คิดว่า น่าจะดูหนังสนุกๆซะหน่อย
จะได้ลืมๆ เรื่องในหัวไปบ้าง แค่ชม.สองชม.ก็ยังดี
แล้วเห็นรอบหนังใกล้ถึงก็เลยเดินไปจองเลย

ในใจคิดว่าตัวเองกำลังจะดูเรื่อง she's the man เต็มที่เลย (ไม่ได้เอะใจอะไรเลย เอ แต่จะว่าไปก็ตะหงิดๆนิดนึง เพราะรอบมันน่าจะเป็น 18.30 มากกว่า 18.45 นี่หว่า แล้วก็ทำไมหนังมันนานจังหว่า แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรต่อ ช่างไร้สติแล้วก็หัวกลวงมากๆตอนนั้น)

...เข้าโรงไปก็จบโฆษณาน้ำดำยี่ห้อหนึ่งพอดี
พอจบเพลงสรรเสริญปุ๊ป

เอ ทำไมหลังจากตย.หนังแล้วยังมีตย.ไม่จบไม่สิ้นอีกนะ
เอาแล้วไงล่ะ มีเสียงโหยหวน(ประมาณหนังอินเดีย หรือแนวๆนั้น ชักยังไงๆ แล้วสิ) โอ แล้วไม่ต้องสงสัยเลย หน้าclive owen โผล่ขึ้นมาเปิดเรื่อง

นึกขำตัวเอง แล้วก็คิดว่า ถ้าทนความหนักของหนังไม่ได้ก็คงต้องยอมเสียตังค์ คงต้องเดินออกกันบ้างล่ะ

แต่ก็ผิดคาดแฮะ
หนังสนุกมาก
3 ดารานำ เล่นได้ไม่ผิดหวังเลยแหละ
ชอบทั้งสามคนเลย

แถมหนังยังจิกกัด ความหวาดระแวง การเหมารวม(กรณีที่ชาวมุสลิมและคนที่ดูเหมือน ทั้งๆที่ไม่ใช่ เป็นผู้ถูกกระทำหลังจาก 9/11)

และยังมีปม ที่ลูกอีช่างเดาอย่างฉัน เดาไงก็เดาไม่ถูก


ออกจากโรงด้วยรอยยิ้ม
และความประทับใจกับตัวหนัง ตัวแสดง เพลงเปิดและปิดเรื่อง

รู้สึกจะเป็นเพลง gowinda (ถ้าผิดขออภัย)

และยังก้องอยู่ในหัวตอนนี้เลยแหละ




สบายใจขึ้นแล้ว
โก๊ะซะขนาดนี้



Create Date : 10 เมษายน 2549
Last Update : 11 เมษายน 2549 0:43:57 น. 15 comments
Counter : 504 Pageviews.

 


inside man ซะงั้นใช่มั้ยคะ

งานหนังสือ ข้าพเจ้า (จำเป็นต้องไป) มาสี่วัน วันที่ห้าก็ไปทำธุระเรื่องอื่น เดินดูงานให้เสียตังค์จนได้

ว่าไปแล้วงานหนังสือครั้งนี้ ข้าพเจ้าก็ซื้อหนังสือน้อยกว่าปีก่อนๆ

อย่าพลาด"หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว"นะคะ

เล่มโปรดของข้าพเจ้าเลย


โดย: เจ้าหญิงวีนัส (ohvenus ) วันที่: 11 เมษายน 2549 เวลา:0:39:54 น.  

 
หนังสือน่าอ่านเยอะนะคะ

ความสุขของกะทิ เราอ่านแล้วก็ร้องห่มร้องไห้เหมือนกันค่ะ ไม่ได้อ่านหนังสือแนวนี้ที่ทำสะเทือนใจขนาดนี้มานานแล้ว

ถึงเลือกเล่มนี้มารีวิวไงคะ (ตอนแรกว่าจะเอาติสตูน่ะ)

เราซื้อเล่ม ๒ มาแล้ว แต่หลายเสียงบอกว่าสู้เล่ม ๑ ไม่ได้นะคะ



ยินดีกับการอ่าน อ่านเล่มไหนจบแล้วมารีวิวนะ แตงดองฯ เรายังไม่ได้อ่านเลยแหละ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 เมษายน 2549 เวลา:8:47:46 น.  

 
ฮือ... อ่านแล้วตาร้อนผ่าว ๆ อยากไปงานหนังสือ อยากไปดูหนัง อยากนอนอยู่บ้าน แง๊ววววววว

หนังสือน่าอ่านเยอะแยะไปหมดค่ะ ตอนนี้ไอ้โพก็หัวกลวง เห็นอะไรก็อยากอ่าน แต่อ่านแล้วมันคงไหลทะลุช่องกลวงไปหมดแน่ ๆ เลยอาศัยนั่งฟังคนอื่นที่อ่านแล้วมาย่อยให้ฟังสนุกกว่า อิอิ

สุขสันต์วันอังคารนะคะ


โดย: Poceille วันที่: 11 เมษายน 2549 เวลา:11:06:21 น.  

 
เราว่าเราไปเจอคุณ grappa แล้วล่ะค่ะ
หลังจากที่เดินเลยผ่านบูธนั้นไปแล้ว เราก็ยังหันไปมองหน้าอีกที (แล้วก็นึกถึงรูปในบล็อค ...รูปวาดได้คล้ายตัวจริงมากกกกกค่ะ) แต่ด้วยความอะไรก็ไม่ทราบ ในตอนนั้นมันไม่กล้าซะอย่างนั้นค่ะ

กลับมาเช็ครายละเอียดของบูธนั้นอีกที
แล้วก็เหมือนจะได้ข้อมูลมาจากบล็อคน้องเมอร์น่ะ

(น้องเขาป่าวบอกนะคะ)



โดย: quin toki วันที่: 11 เมษายน 2549 เวลา:22:25:13 น.  

 
จะเรียกว่าวันดีก็ได้มั้งคะ

แต่ว่า..วันเกิดเราเป็นวันที่จำง่ายนะ แต่เพื่อนๆ มักลืม เพราะส่วนใหญ่มันเป็นวันที่ทุกคนทำงาน (ออกทัวร์) น่ะค่ะ เฮ้อ

เอ่อ..ขอไม่รับพรที่อวยพรให้อ่านหนังสือจบภายในเดือนนี้นะคะ

เพราะ ๑. เป็นไปไม่ได้ ๒. ถ้าเป็นไปได้ เราต้องดิ้นรนซื้อเล่มใหม่มาหาอ่านอีก (ซึ่งไม่มีตังค์แย้ว)


ขอบคุณที่ไปอวยพรวันเกิดค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:9:24:26 น.  

 
หมู่นี้บล๊อกไหนๆก็มีหนังสือแฮะ ชอบๆ อ่านจบไวๆและเล่าสู่กันฟังนะคะ สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ


โดย: รักบังใบ วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:15:07:18 น.  

 
อ้าว ของเราก็มีเรื่องหนังบ้างนะคะ แต่เดี๋ยวว่าจะมีรูปที่ไปสมุยมาฝากกัน แล้วก็ยังไม่ได้เผางานแต่งเพื่อนที่ไปมาเมื่อเดือนที่แล้วเลยค่า

คุณสาวไกด์ อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้สิคะ
อิๆ
กลับมาแล้วเล่าให้ฟังด้วยนะคะว่าไปไหนมา
(สอดรู้เค้าอีก)


โดย: quin toki วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:16:36:03 น.  

 
8. ฟาเรนไฮต์ 451 อุณหภูมิเผาหนังสือ - เรย์ แบรดบิวรีย์ เขียน / ชาญ คำไพรัช แปล
ว่าแล้วว่าทำไมคุ้นๆ มีการพิมพ์ใหม่โดยคนแปลคนใหม่ด้วยอ่ะคับ
ใช้ชื่อภาษาไทยว่า "ฟาเรนไฮต์ 451 เผาหนังสือให้หมดโลก"
แปลโดย : กรกฎ
สนพ. : Enter books

เคยจับ อมตะ อ่านเช่นกันคับ แต่ไปได้ไม่ถึงสิบหน้า วาง
555555555


โดย: wanwitcha วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:13:37:34 น.  

 
อะไรกันคะ อมตะ สนุกมากๆ วางแทบไม่ลงเลยนะเนี่ย


โดย: quin toki วันที่: 21 เมษายน 2549 เวลา:23:26:10 น.  

 
เข้ามาขอบคุณและซาบซึ้งค่ะ

เข้าไปเม้นท์แบบนั้นเขินเลย

รู้สึกดีจัง



โดย: เจ้าหญิงวีนัส IP: 202.183.233.27 วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:2:05:40 น.  

 
สวัสดีค่ะ

จริงๆ คำว่าจริต เมื่อก่อนเวลาได้ยินเราจะรู้สึกไม่ดีก่อนเลย (เพราะก่อนหน้านั้นได้ยินแต่ดัดจริตไง) แต่พอตอนอกหักแล้วไปบวช คนที่เค้าสอนเดินจงกรมเค้าจะพยายามสอนให้มองไปในระยะไกล แต่สายตาเรากลับมาที่ระยะใกล้ พ้นปลายเท้าไม่เท่าไหร่ พอรู้ตัวเราก็พยายามกลับไปมองเหมือนเดิม

คนสอนเค้าสังเกตเห็นก็เลยบอกว่า ไม่เป็นไรไม่ต้องฝืน จริตแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ก็เลยเริ่มเข้าใจคำนี้มากขึ้นแหละค่ะ แหะๆ


เรามีแม่เป็นครูค่ะ ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อยากเป็นครูก็ได้

สำหรับหนังสือของแทนไท เพื่อนเราอ่านมีทั้งชอบไปเลย กลับไม่ชอบมากนะคะ แต่ถ้าไปอ่านไดอารี่ของแทนไทมาแล้วก็น่าจะโอเคแหละค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:8:51:28 น.  

 
มีหนังสือตัวเองอ่านไม่พอ กลับบ้านมาเมื่อวาน ตบ "ดอน กิโฆเต้ ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน"ของเจ้าน้องชายมาอ่านค่ะ (เป็นเล่มสีเขียวแฮะ เห็นน้องว่าเล่มแดงหมดค่า) อ่านไปสองภาคแล้ว
เป็นหนังสือเล่มนึงที่ได้ยินมาตั้งนานแล้ว
เพิ่งได้อ่านเมื่อวานนี้เอง และก็ผิดคาดจริงๆ
ไม่ได้ตั้งความหวังว่าจะได้อ่านเรื่องแบบนี้

แต่ก็ดีมากค่ะง่วงแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานอีกแล้วเหรอเนี่ย อยากอยู่บ้านนอนอ่านหนังสือ + ดูหนังจังเลยยยยยยย


โดย: quin toki วันที่: 24 เมษายน 2549 เวลา:1:54:14 น.  

 
มีความสุขในวันทำงานนะคะ ส่วนอยู่บ้านนอนอ่านหนังสือ + ดูหนัง

ข้าพเจ้าจะจัดการทำเยี่ยงนั้นให้เอง


ดีใจจริงๆนะคะที่ชอบล็อก

ขอบคุณมากค่ะ ชื่นใจ


โดย: เจ้าหญิงวีนัส (ohvenus ) วันที่: 24 เมษายน 2549 เวลา:3:20:02 น.  

 
แล้วลองเอา อมตะ มาอ่านอีกสักทีละกันค่ะ
ช่วงนี้กำลังอ่านหวานแหววแนวแจ่มใส ฮิๆๆๆๆ
มาตามไปเที่ยวยกสุดท้ายของสงกรานต์ค่ะ


โดย: wanwitcha วันที่: 24 เมษายน 2549 เวลา:11:32:06 น.  

 
ฟาเรนไฮต์ 451 อุณหภูมิเผาหนังสือ ตอนนี้ได้รับการแปลและพิมพ์ใหม่ โดย สนพ.แจ่มใส ชื่อว่า ฟาเรนไฮต์ 451 เผาหนังสือให้หมดโลก

ตามนี้ครับ //www.jamsai.com/bookstore/basket.asp?proid=974-92844-3-7&submit=Detail&pg=13&select1=0

แล้วอย่างนี้เล่มไหนจะได้อรรถรสกว่านั้นนะเนี่ย


โดย: rsamlha (rsamlha ) วันที่: 11 สิงหาคม 2549 เวลา:18:22:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

quin toki
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




everything has a begining , has an end.

link to my thought
~~*http://pompom67.bloggang.com*~~




บล็อกน้อยอิเหละเขะขะ
เก็บ+กระจุกของไว้สารพัด
สารบัญก็ไม่มีให้กดง่ายๆ ขออภัยด้วยเน้อ




เคยมีคนบอกกับเราว่า
ถ้าเราไม่ได้ดูหนัง
คงหายใจไม่ออกสินะ

...
ขาดหนัง
ก็ขาดใจ
(ไอ้บ้าเอ๊ย!)

เข้าใจพูดนะเนี่ย
>_<








นิตยสารดีโอ DE.O. Magazine E-Book

issue 6

L.O.V.E.







คุณป้าสุวคนธ์ ไม้แดง

และหมาแมวจรนับร้อย

ที่กำแพงเพชร



เล่นกับแกรี่ได้นะจ๊ะ (แต่แกรี่ตัวนี้ไม่มีเขี้ยวเท่านั้นแหละ)
Friends' blogs
[Add quin toki's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.