just can't {imagine} our ends
Group Blog
 
All blogs
 
UNITED 93

หลังจากเครื่องบินทั้งสามลำ พุ่งชนเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว
นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินลำสุดท้ายในปฏิบัติการก่อการร้ายระดับโลก







“วิกฤตการณ์สร้างวีรบุรุษ”
9/11 เป็นคำที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว(2001/2544) ใช้เรียกเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจากผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบิน 4 ลำ ให้พุ่งชนตึกเวิลด์เทรด เซนเตอร์ และเพนตากอน โดยที่ อีก 1 ลำที่เหลือ ตกบริเวณ Shanksville , Pensylvania
ซึ่งคาดว่าหากเป็นไปตามแผนการ เป้าหมายของเที่ยวบินนี้อาจเป็นอะไรที่ใหญ่หลวงกว่า 3 ลำแรกก็เป็นได้

อาจเป็นเพราะเครื่องขึ้นช้าไป 45 นาที
และสามารถใช้โทรศัพท์บนเครื่องได้

บรรยากาศของหนัง หากใครได้ดูหนังช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา น่าจะได้เห็นตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาแล้ว ซึ่งออกแนวสารคดี และนำเสนอตามเวลาจริงที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น





กำกับโดย ผู้กำกับชาวอังกฤษ Paul Greengrass
ทำไมผกก.อังกฤษ ถึงอยากทำหนัง(สะเทือนใจอเมริกา)เรื่องนี้
หรือคนอเมริกันไม่กล้าทำ (แต่ก็ไม่จริงเสมอไป เพราะหนังเรื่องล่า WTC ของโอลิเวอร์ สโตนนั่นไง ใกล้จะเข้าแล้ว เป็นอีกเรื่องที่น่าจะเรียกน้ำตาน่าดูชม และก็เป็นวีรบุรุษแบบฉบับอเมริกันจ๋าอีกแล้ว ...ไม่เห็นค่อยทำหนังในมุมของผู้ก่อการร้ายซักเท่าไหร่ )

เขาให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างหนังเรื่องนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านเกิดเมื่อ 20 ปีมาแล้ว (อังกฤษ) กรณีระเบิดโรงแรมสมัยที่มีมากาเร็ต แทตเชอร์เป็นนายกฯ โดยกลุ่ม IRA และจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟใต้ดินเมื่อปีที่แล้วก็มีส่วนในการผลักดัน และเริ่มต้นทำหนังเรื่องนี้ ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

If we don't learn from history, then it is bound to repeat itself.

ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยเก่า ถ้าเราศึกษามัน มันอาจจะทำร้ายจิตใจเราที่ต้องจำไว้เตือนตัวเราเอง แต่ถ้าเราหลงลืมมันไป มันก็พร้อมจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก

ปีนี้ หลังจากหนังเรื่องนี้ เราคงได้มีโอกาสดูหนังเกี่ยวกับเหตุการณ์ 9/11 อีกกับ World Trade Center ของโอลิเวอร์ สโตน ที่มีนิโคลัส เคจ แสดงนำ ซึ่งต่างจากเรื่องนี้ ที่ใช้ดาราหน้าใหม่ และบทจนท.ที่เกี่ยวข้องบางคน ก็ใช้ตัวแสดงจริงๆ เลยทีเดียว


สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93
ผู้โดยสาร 37 คน (รวมผู้ก่อการร้าย 4 คน)
นักบิน + แอร์ 7 คน


และแม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะผ่านมา 5 ปีแล้วก็ตาม มีหลายๆคน ไม่อยากดูหนังเรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป ยังคงรับไม่ได้ที่จะต้องรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2

แต่อีกหลายๆคน กลับเห็นตรงกันข้าม อยากจะดูเพื่อที่จะย้ำเตือนตัวเองไว้ไม่ให้ลืมสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น และหมายจะป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก


The Legend of United Flight 93
by Ted Rall
ให้มุมมองที่น่าสนใจมากว่า มีอะไรปกปิดข้อเท็จจริงการระเบิดของไฟลท์นี้เอาไว้หรือไม่ ในขณะที่ทั้งสามลำพุ่งชนเป้าหมายไปแล้ว ได้มีการสั่งการให้Air Force ยิงมิสไซล์ใส่ลำสุดท้ายนี้หรือไม่ ที่น่าสงสัยคือ พบซากที่นั่งและเศษกระดูกรวมทั้งพลาสติกไหม้ ห่างจากที่เกิดเหตุ 2ไมล์ครึ่ง ซึ่งถ้าเครื่องบินระเบิดจากผู้ก่อการร้ายที่มีระเบิดผูกติดตัวไว้ ไม่น่าจะมีรัศมีของการระเบิดที่กระจายเช่นนั้น
//www.commondreams.org/views06/0308-26.htm

DAVID BEAMER
พ่อของ Todd หนึ่งในผู้โดยสารบนเที่ยวบิน 93 ให้ความเห็น(ด้วย)ถึงหนังเรื่องนี้
//www.opinionjournal.com/editorial/feature.html?id=110008294

THE TOP 40 REASONS TO DOUBT THE OFFICIAL STORY OF SEPTEMBER 11th, 2001
ข้อกังขาในเรื่องราวที่เผยแพร่ออกมากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ
//www.911truth.org/article.php?story=20041221155307646

ผกก.ให้สัมภาษณ์ว่าเขาได้รับคำถามประเภทที่ว่า ไม่คิดว่ามันเร็วไปหรือที่ทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมา คำตอบของเขาคือ ผมว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะมองย้อนไปยังเหตุการณ์ ณ วันนั้น เพราะเราอาจเจอสิ่งที่เราเห็นด้วย(ใจ)มากกว่าที่เราคิด(เราเห็นด้วยตา)กันอยู่ทุกวันนี้ก็ได้
ที่มา //www.freerepublic.com/focus/f-new/1623538/posts


ญาติของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ไฟลท์ 93 ให้ความร่วมมืออย่างดีกับทีมงาน และทีมงานก็พยายามจำลองทุกรายละเอียดให้ใกล้เคียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากที่สุด ลูกสาวให้สัมภาษณ์ว่าแม้แต่ชุดที่ใส่ในวันนั้นของแม่เธอในหนังก็เหมือนกับในวันนั้น หนังสือที่แต่ละคนอ่าน หรือแม้แต่ลูกอมที่พวกเขาชอบ

ทั้งนี้เพื่อความสมจริง ทีมผู้สร้างได้แยกนักแสดงที่แสดงเป็นเหล่าผู้ก่อการร้าย กับนักแสดงอื่นๆ ออกจากกัน ทั้งที่พักระหว่างการถ่ายทำ ที่ฝึกซ้อมบท หรือการกินอาหารร่วมกันก็ตามที เพื่อไม่ให้พวกเขาคุ้นเคยกัน และเป็นผลดีต่ออารมณ์ที่แสดงออกมาในหนัง
ที่มา //www.imdb.com


หนังที่สร้างจากเรื่องจริง
ตอนจบเป็นอะไรที่ใครๆ ก็รู้ว่าต้องเกิดอะไรขึ้น
หากแต่เหตุผลที่เรายังยืนยันจะรอดูหนังเรื่องนั้นๆ ด้วยใจจดจ่อ
อาจเป็นเพราะ อยากรู้ว่าการนำเสนอของคนทำหนังจะออกมาเป็นอย่างไร
การตีความ และมุมมองที่เขามีต่อเหตุการณ์นั้นๆ เป็นเช่นไร

คงไม่ได้ต้องการสร้างมาเพื่ออุทิศให้กับผู้ประสบชะตากรรม ณ วันนั้น แต่เพียงอย่างเดียว
อย่างน้อย น่าจะมีอะไรเป็นประโยชน์ให้กับคนดูอย่างแน่นอน

“ไม่มีใครจะมาช่วยเราได้ตลอดหรอก เราต้องลองช่วยเหลือตัวเราเองก่อนหวังพึ่งคนอื่น
และต้องลงมือทำทันที เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเราถ้ายังนั่งอยู่เฉยๆ รอความหวังลมๆแล้งๆ คืออะไรก็น่าจะรู้กันดี”



ไม่ทราบว่า Flight 93 Memorial สร้างจริงแล้วหรือยัง
เนื่องจากแบบที่ออกมา เหมือนเป็นการนำเอาสัญลักษณ์ของเสี้ยวพระจันทร์สีแดง ที่สื่อถึงศาสนาอิสลามมาใช้ เป็นที่ถกเถียงกันพอสมควร ทั้งๆที่สถาปนิกผู้ออกแบบ พอล เมอร์ดอค จะออกมายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับอิสลามก็ตาม และสิ่งที่เขาต้องการสื่อถึงจริงๆ คือ การผืนดินโอบรัดผู้สูญเสีย ณ จุดเกิดเหตุเอาไว้ ล่าสุดได้ยินข่าวว่ามีการเปลี่ยนแบบไปแล้ว



ที่มา //www.post-gasette.com/pg/05251/567702.stm



ขอไว้อาลัยให้กับเหตุการณ์ 9/11 ผู้สูญเสียและญาติ มา ณ ที่นี้




Create Date : 07 กันยายน 2549
Last Update : 7 กันยายน 2549 13:29:41 น. 3 comments
Counter : 664 Pageviews.

 
ไปดูมาแล้วหรือ?

ชอบมั้ย?ๆๆๆ


วันนี้ไม่ใช่วันเกิดพี่ง่ะ

เมล์แจ้งเว็บมาสเตอร์ไปตั้งแต่เช้าแล้ว ยังไม่ได้แก้ไขเลยง่ะ

แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำอวยพรเน้อ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:15:46:18 น.  

 
อ้าว เหรอคะ แต่ว แต่ไม่เป็นไรเนอะ


จริงๆ เขียนเรื่องนี้ไว้พักนึงแล้ว
ได้ดู (แบบไม่ค่อยถูกกม.ค่ะ แหะๆ แบบว่าโหลดมาดูเพื่อจะเขียนสกู๊ปส่งนิตยสารฉ.หนึ่ง แล้วเค้าก็ไม่รับอ่ะ)

ไม่รู้จะเขียนอะไรมาลง เลยขุดของที่มีในคอมนี่ล่ะ


โดย: quin toki วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:22:31:55 น.  

 
น่าสนใจดีจังเลย อยากดูแล้ว


โดย: รักบังใบ วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:22:55:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

quin toki
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




everything has a begining , has an end.

link to my thought
~~*http://pompom67.bloggang.com*~~




บล็อกน้อยอิเหละเขะขะ
เก็บ+กระจุกของไว้สารพัด
สารบัญก็ไม่มีให้กดง่ายๆ ขออภัยด้วยเน้อ




เคยมีคนบอกกับเราว่า
ถ้าเราไม่ได้ดูหนัง
คงหายใจไม่ออกสินะ

...
ขาดหนัง
ก็ขาดใจ
(ไอ้บ้าเอ๊ย!)

เข้าใจพูดนะเนี่ย
>_<








นิตยสารดีโอ DE.O. Magazine E-Book

issue 6

L.O.V.E.







คุณป้าสุวคนธ์ ไม้แดง

และหมาแมวจรนับร้อย

ที่กำแพงเพชร



เล่นกับแกรี่ได้นะจ๊ะ (แต่แกรี่ตัวนี้ไม่มีเขี้ยวเท่านั้นแหละ)
Friends' blogs
[Add quin toki's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.