Bloggang.com : weblog for you and your gang
just can't {imagine} our ends
Group Blog
first impression
films
memorize
เพื่อนรักสี่ขา
อะไรๆที่เก็บได้ตามรายทาง
~guestbook~
DE.O. Magazine to free your mind
อ่านหนังสือกันเถอะ
ทักทายรายวัน
...
สมุดภาพ~*
อย่าปล่อยให้ชีวิตขาดดนตรี
หนังสือฉันเอง
All blogs
เรื่องนี้ต้องดูในโรงเท่านั้น "H O M E"
Across the Universe หนังที่ทำให้ฉันไล่ตามหาสี่เต่าทอง
Lust, Caution
Accepted หนังเพื่อวัยรุ่นไทย
Bourne Ultimatum สมใจคอแอคชั่นเขาล่ะ
Im Cyborg , But Thats Ok. ถึงจะบ้า ก็บ้า ร้าก
Pans Labyrinth ถึงเวลาจัดเรตได้แล้วนะ!!!
ชวนไปดูTHE VILLAGE ALBUM แบ่งปันความประทับใจ...
-12- ที่มาก่อน -13-
))<>(( forever.
REINCARNATION กล้องถ่ายผี (ไม่ชอบชื่อไทยเอาซะเลย)
UNITED 93
the BOW (L'arc)
NARNIA ฉบับภาพยนตร์เป็นอย่างไรกันบ้าง
Bangkok DemocraZy
say 'YES' if u feel 'YES'
หลอน...ไม่หลับ แล้วยังกระสับกระส่าย
อยากมีเวรกรรมที่จับต้องได้ตามราวีจัง ...อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม
Patch adams หนังที่เราอยากให้หมอทุกคนได้ดู
...Grace สาวน้อยผู้ลึกลับ...
นี่หรือ...คือสิ่งที่คนในชาติปฏิบัติต่อกัน
ร้อยพันเหตุผลที่คนเลิกกัน...5x2
...ความหวังของเด็กน้อย Pursy...จะถูกถมจนเต็ม
บ้านสุดท้าย...ที่ปลายฟ้า
WOW!
Spring,summer,autumn,winter and Spring with SPOILED
รักหนัง ชอบหนัง (แทบกินหนังแทนข้าวแย้ว) อ่านกันได้ spoil ม่ายเยอะหรอก
WOW!
ก่อนแวะชม
ขอบอกกล่าวสักเล็กน้อยค่ะ
บทความนี้เขียนขึ้นก่อนที่จะได้ไปชมนะคะ
แต่มีเนื้อหาบางส่วนที่คนที่ยังไม่ได้ดู(และยังอยากดูอยู่)ไม่ควรอ่าน
แต่เราเองได้ไปดูมาแล้วล่ะไว้จะมา REVIEW ตอนว่างๆกว่านี้นะคะ
นี่คือ BEFORE ละกันนะคะ
จริงๆเขียนเสร็จก่อนวันที่ 19 มิ.ย.แล้วค่ะ
เพราะเป็นบทความที่เขียนทดลองให้กับนิตยสารเล่มหนึ่งเพื่อสมัครงาน ก็เลยไม่กล้าเอามาลง
ทว่า ... อ่อนด้อยค่ะ ประกาศผลไปแล้ว
ยอมรับอย่างหน้าชื่น
แต่จะพยายามต่อไป...สู้เค้านะ อิอิ
WAR OF THE WORLDS (2005)
ฤาจะเป็น สงคราม(ระหว่าง)โลกครั้งสุดท้ายของมนุษยชาติ
ใครเลยจะนึกว่าหนังเรื่องนี้ สร้างจากบทประพันธ์ที่มีอายุ (นับถึงช่วงออกฉาย) ยาวนานถึง 107 ปีแล้ว
แต่คงมีอีกหลายๆ คนพอจะทราบว่า มีหนังชื่อเดียวกันนี้เช่นกันออกฉายในโรงเมื่อปี 1953 (เคยนำกลับมาฉายในเคเบิลที่มักโฆษณาว่าเยาวชนที่รับชมจะเริ่มมีจานดาวเทียมงอกออกมาจากหัว)
มนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจินตนาการ เหนือคำใดจะบรรยายได้ใกล้เคียง
เมื่อพ่อมด(ผู้กำกับ)แห่งวงการภาพยนตร์จับมือ (เป็นครั้งที่2 - ครั้งแรกจาก Minority Report เมื่อปี 2002) กับดาราชายผู้น่าจับตามอง (ฝีมือการแสดง + คู่ควงของเขา) Steven Spielberg และ Tom Cruise และต้องไม่ลืมน้องหนูมหัศจรรย์คนใหม่ของ Hollywood เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Dagota fanning ซึ่งฝากผลงานให้ประจักษ์กันแล้วหลายเรื่อง และเคยร่วมงานกับ Spielberg (เป็น producer) มาแล้วในเรื่องทำนองนี้ แต่เป็นทางจอแก้วกับ Taken (2002) สำหรับคอหนัง Sci-fi คงมิอาจพลาด WOW! หรือ WOTW กันด้วยประการทั้งปวง
โดยส่วนตัว สปีลเบิร์กเองต้องการทำหนังเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว (คงเป็น 10 ปีแล้วล่ะ) โดยที่เขามี script ตอนที่หนังสือเรื่องนี้ดัดแปลงเป็นบทละครวิทยุ ของ Orson Welles (1938) ทว่าโครงการนี้ต้องพับไป เมื่อ ID4 (1996) ออกฉาย และกว่าความฝันของเขาและครูซจะเป็นจริง กินเวลานานใช่ย่อยเลย อาจบางทีสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ก็ต้องการเวลาที่เหมาะสมที่จะบ่มเพาะความใหญ่ยิ่งนั้นจนสุกงอม และเวลาที่ได้ทุ่มเทและเฝ้ารอมาตลอดนั้นคงจะควรค่ากับผลงานที่หอมหวานน่าลิ้มลอง เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้คนทั้งโลก(ก็ว่าได้)
ทางครูซให้สัมภาษณ์ว่า หนังเรื่องล่าสุดของเขาจะมากด้วยความตื่นเต้น และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้ชมอย่างแน่นอน และภาพยนตร์ยังพยายามรักษาเนื้อหาให้เป็นไปตามบทประพันธ์เดิมของ Wells มากที่สุด
บทภาพยนตร์โดย David Koepp ( Spider-Man , Panic Room , Secret Window ) ซึ่งก่อนหน้านี้ เครดิตอยู่ที่ Josh Friedman ( co-writer จาก Sahara ) ในช่วงการพัฒนาบท และท้ายที่สุดเครดิตอยู่ที่โคเอปป์คนเดียว โดยที่เขาจะทำให้ นิว อิงแลนด์ (และกลุ่มคนในชนชั้นแรงงาน) เป็นที่เริ่มต้นของเรื่องราวอันน่าสะพรึงนี้
เรื่องราวโดยสังเขป บอกเล่าผ่านมุมมองของครอบครัวชาวอเมริกันธรรมดาๆ ครอบครัวหนึ่ง ที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากวิกฤตการณ์ที่มีโลกเป็นเดิมพัน พ่อ Ray Ferrier (Cruise) แม่ Mary Ann (Miranda Otto) และลูกสาว Rachel (Dagota Fanning) ซึ่งผู้เป็นพ่อ (มีอาชีพในอู่เรือสื่อถึงชนชั้นแรงงาน) ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือและปกป้องแก้วตาดวงใจของเขา โดยที่อีกฝ่ายเป็น ALIEN = ต่างด้าว ซึ่งก็คงต่างดาวด้วย ร่างกายของพวกเขาเป็นแบบ Tripods นั่นก็คือ หุ่นยนต์กลต่อสู้ที่มีสามขาและที่สำคัญคือมันสามารถบังคับตัวเองได้ พวกมันได้ส่งไตรพอดส์มาเป็นกองหน้าโจมตี ก่อนจะให้มนุษย์ต้องผวาหนักกว่ากับโฉมหน้าของกองทัพที่แท้จริง
ด้วยงบของหนัง ซึ่ง ณ ตอนนี้ อยู่ที่ 128 ล้านดอลล่าร์ และสเปเชียลเอฟเฟคที่มากถึง 500 ชอต ถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในหนังของสปีลเบิร์กเลยทีเดียว รู้แบบนี้แล้ว แค่เข้าไปดูเฉพาะฉากที่มีเอฟเฟคก็คงคุ้มแล้วล่ะ
พัฒนาการของ War of the Worlds :
1898 ปีแรกที่ War of the worlds ตีพิมพ์ H.G.Wells ผู้แต่งหนังสือเรื่องนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจาก
1. สืบเนื่องจากเมื่อปี 1894 ดาวอังคารมีวงโคจรเข้าใกล้โลกมาก และมีนักบินอวกาศชาว
อิตาเลียน Giovanni Schiaparelli ได้ค้นพบ canali = channals หรือช่อง ในภาษาอังกฤษ แต่ผู้คนกลับพากันเข้าใจว่าเขาเห็น canals หรือคลอง ซึ่งในช่วงนั้น กำลังให้ความสนใจกับเรื่องความเป็นไปได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอื่นกันอย่างมาก ทุกคนต่างตื่นเต้นระคนแตกตื่นกับความรู้ใหม่(ที่ผิดๆ) ที่พวกเขาเพิ่งได้รับ
2. Wells มีเจตนาประชดประชัน โดยเปรียบเทียบการบุกรุกโลกของชาวดาวอังคาร กับ ลัทธิเจ้าอาณานิคมของประเทศบ้านเกิด ซึ่งก็คืออังกฤษ ที่ ณ ขณะนั้น กำลังแผ่ขยายอำนาจอย่างไม่ยำเกรงผู้ใด (โดยที่เขาได้ความคิดจากการรวมชาติและการทหารของเยอรมนีมาอีกที ในช่วงนั้นมีนวนิยายหลายชุดที่เกี่ยวข้องกับการทำนายการเกิดสงครามในยุโรป และ Wells นำมาปรับใช้)
1938 ออกอากาศทางวิทยุ หรือละครวิทยุนั่นเอง โดย Orson Wells
1953 สร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรก กำกับโดย Byron Haskin อำนวยการสร้างโดย George Pal
ซึ่งก็โด่งดังมากในยุค 50 และได้รับรางวัลออสการ์สาขาเทคนิคพิเศษสเปเชียลเอฟเฟค
1970 ทำเป็นหนังสือการ์ตูนโดย มาร์เวล คอมมิค จะมีการเพิ่มช่วงเหตุการณ์หลังสงครามไว้ด้วย
1980s สร้างเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์
2005 และในปีนี้ ต้องถือเป็นฉบับ remake และไม่ได้มีแต่ฉบับของสปีลเบิร์กเท่านั้น ยังมีอีกฉบับของ Pendragon pictures ( ใช้งบประมาณไม่เกิน 20 ล้านเหรียญฯ แต่ค่อนข้างแน่นอนว่าคงไม่ฉายในโรง และอาจไม่ได้เข้าไทย ติดตามกันต่อได้ที่ //www.pendragonpictures.com)
ในภาคนี้ (จริงๆมันก็มีภาคเดียวนี่) มนุษย์ต่างดาว(ชาวอังคาร-ตามบทประพันธ์)คงต้องหาดาวดวงอื่นเป็นของตัวเองแล้วล่ะ เพราะดาวอังคาร ณ ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีและการสำรวจอวกาศที่ก้าวล้ำขึ้น พบข้อเท็จจริงหลายอย่าง รวมทั้ง มีความเป็นไปได้น้อยมาก (ถึงมากที่สุด ก็ประมาณ 1%) ที่จะมีเผ่าพันธุ์ใดสามารถดำรงอยู่ได้ (มีรายงานว่าพบเพียง Bacteria และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมากๆ เท่านั้น) คงต้องรอดูว่าผู้บุกรุกในคราวนี้จะมาไม้ไหนกัน
ต่อจากนี้ มีการเปิดเผยเนื้อหาที่อาจมีผลต่อผู้อ่านที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ และคิดจะไปดู ไม่สมควรอ่านอย่างมาก มิฉะนั้น จะเสียความรู้สึกได้และคงไม่อยากเข้าไปตีตั๋วรับชมกัน เราเตือนคุณแล้วนะ นะ นะ
เป็น spoil จากหนังของปี 1953 ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงที่ WAR OF THE WORLDS (WOW / WOTW) จะเจริญรอยตามครรลองนี้
เหตุการณ์เริ่มต้นจากเกิดอุกกาบาตจำนวนมาก พุ่งเข้าสู่โลก โดยหาสาเหตุไม่ได้ แต่เมื่อเข้ามาใกล้ในระยะที่มีเครื่องมือ (ในปัจจุบันก็น่าจะเป็นดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ)ตรวจจับได้ กลับพบว่า มันคือกลุ่มยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว (ก็แน่ล่ะ) จากนั้น ผู้บุกรุกก็ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น มุ่งเป้าเข้าโจมตีทุกสิ่งทุกอย่างด้วยรังสีทำลายล้าง เมืองทั้งเมืองกลายเป็นซากปรักภายในไม่กี่อึดใจ มนุษย์ผู้อ่อนแอ พยายามเข้าเจรจาแต่ไม่เกิดผล จึงต้องประกาศสงคราม ทั้งๆที่รู้ว่าไม่สามารถต่อกรกับเหล่าชาวต่างดาวได้ ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ไม่ว่าใช้ยุทโธปกรณ์ใดต่างไม่อาจทำลายหรือแม้แต่ระคายผิวกลุ่มผู้บุกรุก ผู้คนล้มตายเป็นประวัติการณ์ ถึงขนาดต้องตัดสินใจใช้นิวเคลียร์เข้าสู้ ก็ยังไม่เป็นผล จนท้ายที่สุด เมื่อมนุษย์กลุ่มสุดท้ายใกล้ถึงจุดจบ เหตุการณ์ (
กลับเป็นตรงกันข้าม ยานรบต่างดาวต่างร่วงลงลำแล้วลำเล่าดั่งใบไม้ยามฤดูหลุดร่วง ใครกัน พระเอกผู้ขี่ม้าขาวมาช่วยกู้โลกได้ทันเวลา
) จะดำเนินต่อไปเช่นไร แล้วมนุษย์โลกจะมีอนาคตอย่างไร ติดตามได้ที่โรงภาพยนตร์ใกล้คุณ 29 มิถุนายน กับมหาสงครามล้างโลก
They murder everything that moves.
ประโยคหนึ่งจาก WOTW (1953 ) ที่บรรยายการทำลายล้างของผู้บุกรุกได้เห็นภาพมาก...
เกร็ดเล็กๆ ของ H.G. Wells :
- เขาเป็นผู้ประพันธ์เรื่อง Time Machine ที่เป็นต้นฉบับของหนังเรื่องเดียวกันเมื่อไม่นานมานี้ เพียงแต่จินตนาการอันเพริดแพร้วของเขารังสรรค์งานชิ้นนี้ขึ้นตั้งแต่ปี 1895 ย้ำ 1895 เมื่อเขาอายุได้ 29 ปี
- ในเรื่อง WOW เขาได้ทำนายถึง Tanks , Nuclear War & Gas Warfare หรือแม้แต่ Laser
โดยส่วนใหญ่สิ่งที่เขาทำนายนั้น อิงมาจากในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและอารยธรรมเก่าแก่ โดยในสมัยนั้น แง่มุมในการเสนอ จะเป็นไปในเชิงศาสนามากกว่าวิทยาศาสตร์ดังเช่นปัจจุบัน
( พูดเรื่องนี้แล้วขอนอกเรื่องสักนิด ก็ทำให้นึกถึง สุนทรภู่ กวีเอกของไทย ที่บรรยายภาพพจน์ของเรือเหาะ ก่อนจะมีเครื่องบินจริงๆ และท่านยังได้ทำนายสิ่งที่จะมีขึ้นบนโลกอีกหลายหลาก ด้วยจินตนการที่หาที่สิ้นสุดไม่ได้ )
แล้วคุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่า ที่สงสัยว่า บุคคลเปี่ยมล้นจินตนาการและความสามารถเหล่านี้ เป็นมนุษย์โลก แน่หรืออย่างไร
ข้อมูลประกอบการเขียน
//www.imdb.com
//www.waroftheworlds.com
//www.pantip.com café ห้องเฉลิมไทย คลับ sci-fi
//www.eveofthewar.com/movies
//www.spielbergfilms.com
//www.abc.net.au บทสัมภาษณ์ Spielberg โดย Andrew Denton
//www.wsu.edu
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
quin toki
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
everything has a begining , has an end.
link to my thought
~~*http://pompom67.bloggang.com*~~
บล็อกน้อยอิเหละเขะขะ
เก็บ+กระจุกของไว้สารพัด
สารบัญก็ไม่มีให้กดง่ายๆ ขออภัยด้วยเน้อ
เคยมีคนบอกกับเราว่า
ถ้าเราไม่ได้ดูหนัง
คงหายใจไม่ออกสินะ
...
ขาดหนัง
ก็ขาดใจ
(ไอ้บ้าเอ๊ย!)
เข้าใจพูดนะเนี่ย
>_<
นิตยสารดีโอ DE.O. Magazine E-Book
issue 6
L.O.V.E.
Open publication
- Free
publishing
-
More thai
คุณป้าสุวคนธ์ ไม้แดง
และหมาแมวจรนับร้อย
ที่กำแพงเพชร
เล่นกับแกรี่ได้นะจ๊ะ (แต่แกรี่ตัวนี้ไม่มีเขี้ยวเท่านั้นแหละ)
adopt your own virtual pet!
Friends' blogs
merveillesxx
ฝนหน้าหนาว
รำเพย
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
grappa
it ซียู
yadegari
เจไอ
อู๋ปังจู้
รสา รสา
Lord of Sorcerers
ชมจันทร์
อุบลวัลย์
Eeyore
เด็กชายก้อง
ดา ดา
Bluejade
วัสส์
5150_b
yuttipung
จอดป้ายด้วยครับ
wbj
กีวี่สีฟ้า
beautyswan
star_hunt
das Kino
มัชฌิมา
ต้นตุลา
puimnida
Cybercat
แตนต่อย
ลำพูริมน้ำ
คุณป้ายังปิ๊ง
คุณน้องเต้
สาวไกด์ใจซื่อ
tiktokthailand
gluhp
noom_no1
Aka Prita
winston
psaksiamkul
jonykeano
ninaM
ช่างไฟ
"แมวน้ำ"
Carlziess Lens
คนผิดชื่อก้อง
miragery
ป้ามด
sun-flower
La Estrella Brillante
หมาเลี้ยงแกะ
SevenDaffodils
Q.NUH
neozero
จันทร์น้อย
k.j
อะไรดี
Cooking_For_Love
earn_kool
กัมม์
ผีพราย... ใต้แสงจันทร์
amornsri
renton_renton
Johann sebastian Bach
รักบังใบ
หมอแมว
ลวิตร์
theheadbanger13
the grinning cheshire cat
Jannyfer
กาแฟรสเสน่หา
kanokwantui
lunaloca
Webmaster - BlogGang
[Add quin toki's blog to your web]
Links
มติชนอาทิตย์สุขสรรค์
หนอนน้อยนักแทะกับวินทร์ เลียววาริณ
นักเขียนไทย
sick people is magic
pulp fic moviemag
นิตยสารข้าวโพดคั่ว
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน : กลางวันมืด กลางคืนกลับสว่าง
บล็อค filmsick
บล็อค chibi
Madeleine de Scudery
lido-siam-scala
the radio
open online
ฟังมาโนช พุฒตาล คนกรุงเก่าเล่าเรื่อง ที่คลื่นความคิด
quin toki hi5
คลิปเยี่ยมป้าและหมาแมวกำแพงเพชร youtube
DE.O. magazine
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.