just can't {imagine} our ends
Group Blog
 
All blogs
 
WOW!

ก่อนแวะชม
ขอบอกกล่าวสักเล็กน้อยค่ะ
บทความนี้เขียนขึ้นก่อนที่จะได้ไปชมนะคะ
แต่มีเนื้อหาบางส่วนที่คนที่ยังไม่ได้ดู(และยังอยากดูอยู่)ไม่ควรอ่าน
แต่เราเองได้ไปดูมาแล้วล่ะไว้จะมา REVIEW ตอนว่างๆกว่านี้นะคะ
นี่คือ BEFORE ละกันนะคะ
จริงๆเขียนเสร็จก่อนวันที่ 19 มิ.ย.แล้วค่ะ
เพราะเป็นบทความที่เขียนทดลองให้กับนิตยสารเล่มหนึ่งเพื่อสมัครงาน ก็เลยไม่กล้าเอามาลง
ทว่า ... อ่อนด้อยค่ะ ประกาศผลไปแล้ว

ยอมรับอย่างหน้าชื่น
แต่จะพยายามต่อไป...สู้เค้านะ อิอิ


WAR OF THE WORLDS (2005)
ฤาจะเป็น สงคราม(ระหว่าง)โลกครั้งสุดท้ายของมนุษยชาติ







ใครเลยจะนึกว่าหนังเรื่องนี้ สร้างจากบทประพันธ์ที่มีอายุ (นับถึงช่วงออกฉาย) ยาวนานถึง 107 ปีแล้ว
แต่คงมีอีกหลายๆ คนพอจะทราบว่า มีหนังชื่อเดียวกันนี้เช่นกันออกฉายในโรงเมื่อปี 1953 (เคยนำกลับมาฉายในเคเบิลที่มักโฆษณาว่าเยาวชนที่รับชมจะเริ่มมีจานดาวเทียมงอกออกมาจากหัว)

มนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจินตนาการ … เหนือคำใดจะบรรยายได้ใกล้เคียง





เมื่อพ่อมด(ผู้กำกับ)แห่งวงการภาพยนตร์จับมือ (เป็นครั้งที่2 - ครั้งแรกจาก Minority Report เมื่อปี 2002) กับดาราชายผู้น่าจับตามอง (ฝีมือการแสดง + คู่ควงของเขา) Steven Spielberg และ Tom Cruise และต้องไม่ลืมน้องหนูมหัศจรรย์คนใหม่ของ Hollywood เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Dagota fanning ซึ่งฝากผลงานให้ประจักษ์กันแล้วหลายเรื่อง และเคยร่วมงานกับ Spielberg (เป็น producer) มาแล้วในเรื่องทำนองนี้ แต่เป็นทางจอแก้วกับ Taken (2002) สำหรับคอหนัง Sci-fi คงมิอาจพลาด WOW! หรือ WOTW กันด้วยประการทั้งปวง

โดยส่วนตัว สปีลเบิร์กเองต้องการทำหนังเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว (คงเป็น 10 ปีแล้วล่ะ) โดยที่เขามี script ตอนที่หนังสือเรื่องนี้ดัดแปลงเป็นบทละครวิทยุ ของ Orson Welles (1938) ทว่าโครงการนี้ต้องพับไป เมื่อ ID4 (1996) ออกฉาย และกว่าความฝันของเขาและครูซจะเป็นจริง กินเวลานานใช่ย่อยเลย อาจบางทีสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ก็ต้องการเวลาที่เหมาะสมที่จะบ่มเพาะความใหญ่ยิ่งนั้นจนสุกงอม และเวลาที่ได้ทุ่มเทและเฝ้ารอมาตลอดนั้นคงจะควรค่ากับผลงานที่หอมหวานน่าลิ้มลอง เป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้คนทั้งโลก(ก็ว่าได้)

ทางครูซให้สัมภาษณ์ว่า หนังเรื่องล่าสุดของเขาจะมากด้วยความตื่นเต้น และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้ชมอย่างแน่นอน และภาพยนตร์ยังพยายามรักษาเนื้อหาให้เป็นไปตามบทประพันธ์เดิมของ Wells มากที่สุด

บทภาพยนตร์โดย David Koepp ( Spider-Man , Panic Room , Secret Window ) ซึ่งก่อนหน้านี้ เครดิตอยู่ที่ Josh Friedman ( co-writer จาก Sahara ) ในช่วงการพัฒนาบท และท้ายที่สุดเครดิตอยู่ที่โคเอปป์คนเดียว โดยที่เขาจะทำให้ นิว อิงแลนด์ (และกลุ่มคนในชนชั้นแรงงาน) เป็นที่เริ่มต้นของเรื่องราวอันน่าสะพรึงนี้

เรื่องราวโดยสังเขป บอกเล่าผ่านมุมมองของครอบครัวชาวอเมริกันธรรมดาๆ ครอบครัวหนึ่ง ที่ต้องหนีเอาชีวิตรอดจากวิกฤตการณ์ที่มีโลกเป็นเดิมพัน พ่อ Ray Ferrier (Cruise) แม่ Mary Ann (Miranda Otto) และลูกสาว Rachel (Dagota Fanning) ซึ่งผู้เป็นพ่อ (มีอาชีพในอู่เรือ—สื่อถึงชนชั้นแรงงาน) ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือและปกป้องแก้วตาดวงใจของเขา โดยที่อีกฝ่ายเป็น ALIEN = ต่างด้าว ซึ่งก็คงต่างดาวด้วย ร่างกายของพวกเขาเป็นแบบ “Tripods” นั่นก็คือ หุ่นยนต์กลต่อสู้ที่มีสามขาและที่สำคัญคือมันสามารถบังคับตัวเองได้ พวกมันได้ส่งไตรพอดส์มาเป็นกองหน้าโจมตี ก่อนจะให้มนุษย์ต้องผวาหนักกว่ากับโฉมหน้าของกองทัพที่แท้จริง

ด้วยงบของหนัง ซึ่ง ณ ตอนนี้ อยู่ที่ 128 ล้านดอลล่าร์ และสเปเชียลเอฟเฟคที่มากถึง 500 ชอต ถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในหนังของสปีลเบิร์กเลยทีเดียว รู้แบบนี้แล้ว แค่เข้าไปดูเฉพาะฉากที่มีเอฟเฟคก็คงคุ้มแล้วล่ะ
พัฒนาการของ War of the Worlds :
1898 ปีแรกที่ War of the worlds ตีพิมพ์ H.G.Wells ผู้แต่งหนังสือเรื่องนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจาก
1. สืบเนื่องจากเมื่อปี 1894 ดาวอังคารมีวงโคจรเข้าใกล้โลกมาก และมีนักบินอวกาศชาว
อิตาเลียน Giovanni Schiaparelli ได้ค้นพบ canali = channals หรือช่อง ในภาษาอังกฤษ แต่ผู้คนกลับพากันเข้าใจว่าเขาเห็น canals หรือคลอง ซึ่งในช่วงนั้น กำลังให้ความสนใจกับเรื่องความเป็นไปได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอื่นกันอย่างมาก ทุกคนต่างตื่นเต้นระคนแตกตื่นกับความรู้ใหม่(ที่ผิดๆ) ที่พวกเขาเพิ่งได้รับ
2. Wells มีเจตนาประชดประชัน โดยเปรียบเทียบการบุกรุกโลกของชาวดาวอังคาร กับ ลัทธิเจ้าอาณานิคมของประเทศบ้านเกิด ซึ่งก็คืออังกฤษ ที่ ณ ขณะนั้น กำลังแผ่ขยายอำนาจอย่างไม่ยำเกรงผู้ใด (โดยที่เขาได้ความคิดจากการรวมชาติและการทหารของเยอรมนีมาอีกที ในช่วงนั้นมีนวนิยายหลายชุดที่เกี่ยวข้องกับการทำนายการเกิดสงครามในยุโรป และ Wells นำมาปรับใช้)
1938 ออกอากาศทางวิทยุ หรือละครวิทยุนั่นเอง โดย Orson Wells
1953 สร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรก กำกับโดย Byron Haskin อำนวยการสร้างโดย George Pal
ซึ่งก็โด่งดังมากในยุค 50 และได้รับรางวัลออสการ์สาขาเทคนิคพิเศษสเปเชียลเอฟเฟค
1970 ทำเป็นหนังสือการ์ตูนโดย มาร์เวล คอมมิค จะมีการเพิ่มช่วงเหตุการณ์หลังสงครามไว้ด้วย
1980s สร้างเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์
2005 และในปีนี้ ต้องถือเป็นฉบับ remake และไม่ได้มีแต่ฉบับของสปีลเบิร์กเท่านั้น ยังมีอีกฉบับของ Pendragon pictures ( ใช้งบประมาณไม่เกิน 20 ล้านเหรียญฯ แต่ค่อนข้างแน่นอนว่าคงไม่ฉายในโรง และอาจไม่ได้เข้าไทย ติดตามกันต่อได้ที่ //www.pendragonpictures.com)

ในภาคนี้ (จริงๆมันก็มีภาคเดียวนี่) มนุษย์ต่างดาว(ชาวอังคาร-ตามบทประพันธ์)คงต้องหาดาวดวงอื่นเป็นของตัวเองแล้วล่ะ เพราะดาวอังคาร ณ ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีและการสำรวจอวกาศที่ก้าวล้ำขึ้น พบข้อเท็จจริงหลายอย่าง รวมทั้ง มีความเป็นไปได้น้อยมาก (ถึงมากที่สุด ก็ประมาณ 1%) ที่จะมีเผ่าพันธุ์ใดสามารถดำรงอยู่ได้ (มีรายงานว่าพบเพียง Bacteria และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมากๆ เท่านั้น) คงต้องรอดูว่าผู้บุกรุกในคราวนี้จะมาไม้ไหนกัน

ต่อจากนี้ มีการเปิดเผยเนื้อหาที่อาจมีผลต่อผู้อ่านที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ และคิดจะไปดู ไม่สมควรอ่านอย่างมาก มิฉะนั้น จะเสียความรู้สึกได้และคงไม่อยากเข้าไปตีตั๋วรับชมกัน เราเตือนคุณแล้วนะ นะ นะ … … …
เป็น spoil จากหนังของปี 1953 ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงที่ WAR OF THE WORLDS (WOW / WOTW) จะเจริญรอยตามครรลองนี้




เหตุการณ์เริ่มต้นจากเกิดอุกกาบาตจำนวนมาก พุ่งเข้าสู่โลก โดยหาสาเหตุไม่ได้ แต่เมื่อเข้ามาใกล้ในระยะที่มีเครื่องมือ (ในปัจจุบันก็น่าจะเป็นดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ)ตรวจจับได้ กลับพบว่า มันคือกลุ่มยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว (ก็แน่ล่ะ) จากนั้น ผู้บุกรุกก็ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น มุ่งเป้าเข้าโจมตีทุกสิ่งทุกอย่างด้วยรังสีทำลายล้าง เมืองทั้งเมืองกลายเป็นซากปรักภายในไม่กี่อึดใจ มนุษย์ผู้อ่อนแอ พยายามเข้าเจรจาแต่ไม่เกิดผล จึงต้องประกาศสงคราม ทั้งๆที่รู้ว่าไม่สามารถต่อกรกับเหล่าชาวต่างดาวได้ ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ไม่ว่าใช้ยุทโธปกรณ์ใดต่างไม่อาจทำลายหรือแม้แต่ระคายผิวกลุ่มผู้บุกรุก ผู้คนล้มตายเป็นประวัติการณ์ ถึงขนาดต้องตัดสินใจใช้นิวเคลียร์เข้าสู้ ก็ยังไม่เป็นผล จนท้ายที่สุด เมื่อมนุษย์กลุ่มสุดท้ายใกล้ถึงจุดจบ เหตุการณ์ (กลับเป็นตรงกันข้าม ยานรบต่างดาวต่างร่วงลงลำแล้วลำเล่าดั่งใบไม้ยามฤดูหลุดร่วง ใครกัน พระเอกผู้ขี่ม้าขาวมาช่วยกู้โลกได้ทันเวลา) จะดำเนินต่อไปเช่นไร แล้วมนุษย์โลกจะมีอนาคตอย่างไร ติดตามได้ที่โรงภาพยนตร์ใกล้คุณ 29 มิถุนายน กับมหาสงครามล้างโลก

“ They murder everything that moves.”
ประโยคหนึ่งจาก WOTW (1953 ) ที่บรรยายการทำลายล้างของผู้บุกรุกได้เห็นภาพมาก...

เกร็ดเล็กๆ ของ H.G. Wells :
- เขาเป็นผู้ประพันธ์เรื่อง Time Machine ที่เป็นต้นฉบับของหนังเรื่องเดียวกันเมื่อไม่นานมานี้ เพียงแต่จินตนาการอันเพริดแพร้วของเขารังสรรค์งานชิ้นนี้ขึ้นตั้งแต่ปี 1895 ย้ำ 1895 เมื่อเขาอายุได้ 29 ปี
- ในเรื่อง WOW เขาได้ทำนายถึง Tanks , Nuclear War & Gas Warfare หรือแม้แต่ Laser
โดยส่วนใหญ่สิ่งที่เขาทำนายนั้น อิงมาจากในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและอารยธรรมเก่าแก่ โดยในสมัยนั้น แง่มุมในการเสนอ จะเป็นไปในเชิงศาสนามากกว่าวิทยาศาสตร์ดังเช่นปัจจุบัน

( พูดเรื่องนี้แล้วขอนอกเรื่องสักนิด ก็ทำให้นึกถึง สุนทรภู่ กวีเอกของไทย ที่บรรยายภาพพจน์ของเรือเหาะ ก่อนจะมีเครื่องบินจริงๆ และท่านยังได้ทำนายสิ่งที่จะมีขึ้นบนโลกอีกหลายหลาก ด้วยจินตนการที่หาที่สิ้นสุดไม่ได้ )

แล้วคุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่า ที่สงสัยว่า บุคคลเปี่ยมล้นจินตนาการและความสามารถเหล่านี้ เป็นมนุษย์โลก แน่หรืออย่างไร




ข้อมูลประกอบการเขียน
//www.imdb.com
//www.waroftheworlds.com
//www.pantip.com café ห้องเฉลิมไทย คลับ sci-fi
//www.eveofthewar.com/movies
//www.spielbergfilms.com
//www.abc.net.au บทสัมภาษณ์ Spielberg โดย Andrew Denton
//www.wsu.edu


ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

quin toki
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




everything has a begining , has an end.

link to my thought
~~*http://pompom67.bloggang.com*~~




บล็อกน้อยอิเหละเขะขะ
เก็บ+กระจุกของไว้สารพัด
สารบัญก็ไม่มีให้กดง่ายๆ ขออภัยด้วยเน้อ




เคยมีคนบอกกับเราว่า
ถ้าเราไม่ได้ดูหนัง
คงหายใจไม่ออกสินะ

...
ขาดหนัง
ก็ขาดใจ
(ไอ้บ้าเอ๊ย!)

เข้าใจพูดนะเนี่ย
>_<








นิตยสารดีโอ DE.O. Magazine E-Book

issue 6

L.O.V.E.







คุณป้าสุวคนธ์ ไม้แดง

และหมาแมวจรนับร้อย

ที่กำแพงเพชร



เล่นกับแกรี่ได้นะจ๊ะ (แต่แกรี่ตัวนี้ไม่มีเขี้ยวเท่านั้นแหละ)
Friends' blogs
[Add quin toki's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.