Chocolate is like love, you never get enough.
Group Blog
 
All blogs
 
เทวดาที่โหล่

โอคะดะ จุน / เขียน
ปริวัณย์ เยี่ยมแสนสุข / แปล


หนังสือเล่มนี้ได้ยินชื่อมาใกล้เคียงกับเมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม แต่ว่าช่วงนั้นก็หามาอ่านแต่เมื่อสวรรค์ฯ ลืมเรื่องนี้ไปเลย จนเมื่อก่อนหน้างานหนังสือหนึ่งวัน ได้มาอ่านรีวิวเรื่องนี้ของเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่ง ก็เลยได้เตือนใจว่ายังเหลือหนังสือเล่มนี้ที่อยากอ่านอีกเล่ม ว่าแล้วเมื่อวันพุธ (วันแรกของงานหนังสือ) ก็ไปสอยมาเลยครับท่าน

สำหรับเรื่องนี้แค่ชื่อเรื่องก็กินขาดแล้ว ให้ความรู้สึกเดียวกับเมื่อสวรรค์ให้รางวัลผมเลย เราพยายามอ่านด้วยความไม่คาดหวัง เพราะกลัวผิดหวัง แต่แล้วอ่านไปเรื่อยๆ ก็เห็นความน่ารัก สดใส ของเด็กๆ ความเป็นเพื่อน และที่สำคัญของเรื่องคือ "ความพยายาม" ไม่ว่าต้องการจะเป็นที่หนึ่งหรือว่าเป็นที่โหล่ ก็ต้องใช้ความพยายามทั้งนั้น เหนือสิ่งอื่นใด...ความตั้งใจสำคัญกว่าความพยายามเป็นที่หนึ่ง

สิ่งที่เรารับรู้ได้จากการอ่านเรื่องนี้ (ไม่รู้ว่าจะตรงกับความต้องการของคนเขียนหรือเปล่า) ความพยายามเพื่อให้ได้เป็นที่หนึ่งนั้น มันคือการแข่งขัน แต่ถ้าเป็นความพยายามอย่างตั้งใจ โดยที่ไม่ได้คาดหวังผลของมัน นั่นแหละถึงจะดีที่สุด เพราะไม่ว่าผลของมันจะเป็นอย่างไร หากเรารู้ตัวเองว่านั่นเป็นความพยายาม เป็นความตั้งใจทั้งหมดที่เรามีแล้วล่ะก็ เราย่อมยิ้มรับกับผลของมันได้อย่างสุขใจที่สุด

เมื่อตอนยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เราเองก็เคยมีความคิดอย่างนี้กับตัวเองเช่นกัน มันเริ่มต้นจากความผิดหวังเมื่อรู้ว่าผลสอบไม่เป็นไปตามความคาดหวังของตัวเอง แต่แล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่าผลของบางอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเราเพียงอย่างเดียว บางครั้งมันขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกอย่างอื่นที่เราเองก็ควบคุมไม่ได้ เช่น ระบบการตัดสิน ความสามารถของคนอื่น(ที่อาจเหนือกว่าเรา) แต่นั่นแหละ จะทำอย่างไรให้เรายิ้มรับได้กับความผิดหวัง ก็อย่างที่บอกไปว่าเมื่อเราทุ่มเท ตั้งใจ พยายาม อย่างเต็มที่แล้ว ก็ไม่มีอะไรให้เสียใจ กลับกันถ้าเราไม่ได้ทำอย่างเต็มที่ เราเองก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วยว่าผลของมันก็คงไม่ได้ดีสักเท่าไร

ในส่วนของการแข่งขันที่ปัจจุบันทุกสังคมมีอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราเองก็เบื่อการแข่งขันนี้เหมือนกัน มันแฝงตัวอยู่ในทุกๆ จังหวะชีวิตตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้าน ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่เรื่องโตในระดับประเทศ แล้วจะทำอย่างไรได้ในเมื่อทุกชีวิตต้องการที่เหยียบยืนของตัวเอง เราคงต้องพยายามเตือนตัวเองเอาไว้เสมอว่าเราจะแข่งโดยที่ไม่เบียดเบียนใคร และแข่งขันเฉพาะในเรื่องที่ควรแข่งเท่านั้น และสำคัญที่สุด เราจะต้องมองว่านั่นไม่ใช่การแข่งขันกับใคร แต่มันเป็นการแข่งขันกับตัวเอง การเอาชนะตัวเองให้ได้ แข่งขันกับความท้อแท้ ความเกียจคร้านของตัวเองที่มักจะเพิ่มขึ้นเสมอเมื่อพบกับอุปสรรค แข่งโดยเพิ่มความเพียรพยายาม ความตั้งใจ และพร้อมที่จะยิ้มรับกับผลของมัน

ขอวกกลับมาที่ตัวหนังสือสักหน่อย สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นวรรณกรรมเยาวชนสั้นๆ ซึ่งความจริงเราก็เลยจากกลุ่มเป้าหมายมาไกลโขแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาอ่านก็อาจไม่ได้อรรถรสอะไรมากนัก แต่ในแง่ข้อคิดแล้ว เราคิดว่าหนังสือเล่มนี้ให้เราได้มากทีเดียว

เราชอบตรงที่เมื่อเด็กทุกคนต้องการจะสื่อสารและมองเห็นเทวดาที่โหล่ เด็กๆ จึงพากันทำทุกทางเพื่อให้ได้เป็นที่โหล่ในทุกเรื่อง โดยจะทำคะแนนให้ได้เท่ากับคะแนนที่น้อยที่สุดของเพื่อนกลุ่มที่ยังมองไม่เห็นนายที่โหล่ นั่นทำให้คะแนนที่โหล่ขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ จนที่สุดแล้วคะแนนที่โหล่ของห้องคือคะแนนเต็ม 10 คะแนน

แต่ว่าตอนจบเรางงๆ นิดหน่อย ไม่ค่อยเก็ตว่าจริงๆ แล้วนายที่โหล่ของเด็กๆ คืออาจารย์ประจำชั้นของเด็กๆ หรือเปล่า??? วานผู้รู้ช่วยบอกทีนะคะ




Create Date : 21 ตุลาคม 2550
Last Update : 21 ตุลาคม 2550 14:07:25 น. 10 comments
Counter : 406 Pageviews.

 
เอ๊ คิดว่านายที่โหล่คงไม่ใช่อาจารย์ประจำชั้นหรอกค่ะ คิดว่าผู้เขียนคงอยากจบให้ดูสดใสขึ้นมาอีกนิด เพราะถ้านายที่โหล่หายไปเลยก็ออกจะเศร้านิดนึง เลยมาผูกกับอาจารย์ประจำชั้นเหรอเปล่าคะ เดาเอาน่ะค่ะ ความคิดเห็นส่วนตัว


โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:17:32:10 น.  

 
ตอนอ่านเรื่องนี้เราก็งงๆตอนจบเหมือนกันค่ะ ว่าเกี่ยวอะไรกันรึเปล่า ...

เรื่องนี้ตอนอ่านเราชอบมากเลยนะคะ คิดว่าคนเขียนเจ๋งดีที่คิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เป็นอีกเล่มที่ชอบมากเลยค่ะ เรามีปกพิมพ์แรกที่เป็นเหมือนลายสมุดน่ะค่ะ ชอบมากกว่าลายปัจจุบันนี้นะคะ


โดย: ปุ๊ก IP: 124.121.166.37 วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:21:16:59 น.  

 
ของเราเป็นปกเก่าเหมือนคุณปุ๊กค่ะ คิดว่าสวยกว่าปกปัจจุบัน
แต่แอบเซ็งบลิส เดี๋ยวนี้ออกปกใหม่ซะสวยเลย เราที่ซื้อปกเก่าประหลาดๆไปได้แต่เศร้าใจ ทั้งนิยายของบานาน่า ทั้งโทรศัพท์สลับมิติ อ๊าก เสียดายจัง
เราว่าคุณครูประจำชั้นไม่ใช่เทวดาที่โหล่หรอกค่ะ น่าจะเหมือนที่คุณทามะจังบอกก็คือ ให้ขำๆหน่อย จะได้ไม่จบเศร้าเกินไปมากกว่า
เรื่องนี้เราอ่านตอนช่วงสอบเอ็นท์ค่ะ ได้ข้อคิดดีมากๆ


โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:8:12:18 น.  

 
เพิ่งซื้อเล่มนี้มาล่ะค่ะ กำลังรอคิวอ่านอยู่ ^^


โดย: Clear Ice วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:10:07:01 น.  

 
ว้าว! คุณ Clear Ice มา Ment ให้ด้วย


โดย: Propiti (โปรปิติ ) วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:8:13:54 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ แต่ก็ดูน่าสนใจดี
ดีใจที่คุณได้อ่านแผ่นหลังพ่อ ขอบคุณนะคะ


โดย: แพรจารุ วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:9:48:43 น.  

 
เราตีความตามความเห็นเราน่ะนะคะ

ก็คือ..จริงๆ แล้วครูก็ต้องการให้เด็กๆ เรียนได้ดีทุกคนน่ะ

ส่วนหนึ่งของครูก็เลยกลายเป็นเทวดาที่โหล่

ที่ท้ายที่สุดแล้วก็ทำให้เด็กทุกคนเรียนดีได้น่ะค่ะ

ตีความว่ายังงั้นนะคะ แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:23:09:08 น.  

 
แอบมีความคิดอย่างคุณสาวไกด์ใจซื่ออยู่วูบหนึ่งค่ะ แต่ว่ายังหารายละเอียดประกอบไม่ได้
แหะๆ


โดย: Propiti (โปรปิติ ) วันที่: 23 ตุลาคม 2550 เวลา:23:25:28 น.  

 
ได้แนวคิดเรื่องการแข่งขันจากเล่มนี้ คือ
เราไม่จำเป็นต้องพยายามเพื่อเป็นที่หนึ่ง เพียงแต่ตั้งใจทำให้เต็มที่ก็พอ

ลองอ่านที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=amp-atom&month=10-2006&date=09&group=3&gblog=16


โดย: คนขับช้า IP: 202.149.24.3 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:18:35 น.  

 
เพิ่งอ่านเรื่องนี้ ชอบมาก แต่มีบางหน้า


โดย: Somratai IP: 223.24.2.15 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:10:33:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โปรปิติ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เกิดขึ้น...ตั้งอยู่...ดับไป
เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงบ่อย

หลังไมค์ถึง Propiti เพิ่มมั๊ยคะ?







Google


Friends' blogs
[Add โปรปิติ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.