Group Blog
 
All Blogs
 
ศึกชิงเกงจิ๋ว (๒)

คุ้ยสามก๊ก

ชุด ศึกชิงเกงจิ๋ว

“เล่าเซี่ยงชุน”

ตอนที่ ๒ กวนอูตีเมืองซงหยง

ฝ่าย โจหยินผู้รักษาเมืองอ้วนเซีย ครั้งได้ข่าวว่า กวนอู ยกพลมาจะตีเมืองซงหยงก็ครั่นคร้าม จึงเกณฑ์ทหารให้รักษาบ้านเมืองโดยหวดขัน เต๊กหงวน นายทหารรองก็ว่า

“ พระเจ้าวุยอ๋อง มีรับสั่งให้ท่านไปชวน ซุนกวน ยกทหารเมืองกังตั๋ง บรรจบกันไปตีเมืองเกงจิ๋ว บัดนี้กวนอู ยกทัพมาตีเมืองเรา เหมือนหนึ่งเอาชีวิตมาให้เรา เราจะย่อท้ออยู่ว่าไร ควรจะยกออกต่อสู้กวนอู เถิด “

บ้วนทง ผู้เป็นที่ปรึกษาได้ยินดังนั้นจึงห้าม โจหยินว่า

“ อันกวนอูนี้ มีกำลังสติปัญญาความคิดเป็นอันมาก ซึ่งท่านจะต่อสู้ด้สยเขานั้น เห็นขัดสม เราจงรักษามั่นไว้แต่ในเมืองเถิด “

แฮหัวจุ้น ก็ว่า

“ บ้วนทงนี้ เป็นแต่คนรู้หนังสือ หารู้การสงครามไม่ เราก็เป็นชาติทหาร หรือจะกลัวตาย เขายกมาแต่ทางไกล ทหารก็เหน้ดเหนื่อยมาก เห็นหาชนะเราไม่ “

โจหยิน ก็เห็นชอบด้วย จึงให้ บ้วนทง ไปรักษาเมือง อ้วนเซีย ตนเองก็ยกทหารออกไปรบกับกวนอู ฝ่าย กวนอู เห็น โจหยินยกมา ก็สั่ง กวนเป๋ง กับ เลียวฮัว ว่าเมื่อเข้ารบกับโจหยินแล้ว ให้แกล้งทำเป็นแพ้หนีมาเถิด

เมื่อกวนเป๋ง กับ เลียวฮัว ยกออกไป โจหยิน ก็ให้ เต๊กหงวนออกมาต่อสู้ด้วย ทั้งสองนายก็ขับม้าหนีไปตั้งค่ายอยู่ห่างประมาณสองร้อยเส้น แล้วเช้าวันรุ่งขึ้น กวนเป๋งกับเลียวฮัว ก็ยกออกมารบกับ โจหยิน แฮหัวจุ้น และ เต๊กหงวนอีก แล้วก็ทำเป็นแตกหนีอีก โจหยินกับพวก ก็ไล่ตามไปประมาณสองร้อยเส้น ได้ยินเสียงทหารโห่ร้องขึ้นเบื้องหลัง จึงปรับขบวนหนีมาทางเมืองซงหยง ก็พบ กวนอูถือง้าวรออยู่ โจหยินสะดุ้งตกใจกลัวมิอาจต่อสู้ รีบหาทางลัดหนีไปเมืองอ้วนเซีย ปล่อยให้นายรองสู้กับฝ่ายกวนอู แฮหัวจุ้นจึงถูกกวนอูฆ่าตาย และเต๊กหงวนก็ถูกกวนเป๋งฟันตัวขาดครึ่งท่อนตายตามไปด้วย ทหารฝ่ายกวนอูก็ไล่ฆ่าฟันทหารฝ่ายโจหยินตายไปเป็นอันมาก และกวนอูก็ยึดเมืองซงหยงได้อย่างง่ายดาย

ครั้นเกลี้ยกล่อมชาวเมืองซงหยงให้เป็นปกติแล้ว กวนอูก็ปรึกษากับฮองฮู ถึงการศึกขั้นต่อไป ฮองฮูก็ว่า

“ ท่านทำศึกครั้งนี้สะดวกนัก แต่พริบตาเดียวก็ได้ ข้าพเจ้าคิดเห็นว่า ซุนกวนอยู่เมืองกังตั๋งนั้น ให้ ลิบอง คุมทหารมาตั้งอยู่ที่ด่านลกเค้า เป็นแดนต่อแดนจะมาตีเมืองเกงจิ๋ว ถ้าเขายกมาท่านจะคิดประการใด “

กวนอูก็ว่า เราได้คิดเห็นอยู่แล้ว และให้ฮองฮู ไปตระเตรียมทหารให้ปลูกร้านเพลิง รายตามริมน้ำ ที่สูงนั้นแต่ด่านแฮเค้า จนถึงเมืองเกงจิ๋ว ให้ห่างกันสองร้อยเส้นบ้าง สามร้อยเส้นบ้าง ให้ทหารอยู่รักษาแห่งละห้าสิบคน ถ้า ซุนกวนข้ามมาแล้ว เวลากลางคืนให้จุดไฟให้สว่าง ถ้ากลางวันให้สุมเป็นควันขึ้น จะได้เห็นเป็นสำคัญ เราจะได้ยกทหารไปช่วยกันรบ

ฮองฮู จึงว่า

“ บิฮอง กับ เปาสูหยิน ซึ่งไปรักษาปากอ่าวสองหัวเมืองนั้น เลือกว่าน้ำใจจะมิคิดโดยสุจริตท่านจงให้ซ้ำไปตรวจตราดูเมืองเกงจิ๋วก่อน “

กวนอูจึงว่า

“ เราก็ให้ พัวโยย ไปอยู่รักษาแล้ว ท่านอย่าวิตกเลย “

ฮองฮู กลับแย้งว่า

“ พัวโยย คนนี้ประกอบไปด้วยโลภเห็นแก่ลาภ ข้าพเจ้าเห็นหาไว้ใจได้ไม่ ขอท่านจงใช้ เตียวลุย นาย กองเสบียงเป็นคนซื่อสัตย์ มั่นคง ไปอยู่เถิดเห็นไม่เป็นอันตราย ถึงจะทำการยิ่งกว่านี้สักหมื่นเท่าก็หามีความย่อท้อไม่ ”

กวนอูก็ว่า

“ อัน พัวโยย นี้ ชั่วดีมาอย่างไรเราย่อมรู้อยู่แล้ว ซึ่งจะให้ เตียวลุย ไปอยู่แทนที่นั้น อย่าให้ไปเลย อันตัว เตียวลุย สำหรับคุมเสบียงก็เป็นใหญ่อยู่ ท่านอย่าสงสัยเลย จงไปทำตามคำเราเถิด “

ฮองอูก็ลา กวนอู ไปตามคำสั่ง กวนอูจึงสั่ง กวนเป๋ง ให้จัดแจงเรือรบ จะข้ามแม่น้ำซงกั๋งไปตีเมือง อ้วนเซีย เมื่อ โจหยิน ซึ่งรักษาเมืองอ้วนเซียรู้ข่าวแล้ว ก็ปรึกษากับบ้วนทง ลิเสียน ก็ขออาสายกทหารสามพัน ออกไปตี กวนอู ตั้งแต่ยังเดินทางอยู่กลางแม่น้ำ แต่เมื่อไปถึง ริมแม่น้ำก็เจอ กวนอูนั่งบนหลังม้าถือง้าวอยู่ ทหารทั้งหลาย ก็ตกใจกลัวพากันหนี นายห้ามก็ไม่อยู่ กวนอู จึงพาทหารเข้าไล่ฆ่าฟันข้าศึก แตกกระจายตัว ลิเสียน ก็กลับเข้าเมืองอ้วนเซียไป

โจหยินจึงมีหนังสือไปทูล วุยอ๋อง ที่เมืองเตียงฮัน ว่ากวนอูยกทหารมาล้อมเมืองอ้วนเซียไว้แล้ว ขอให้ยกกำลังมาช่วยโดยด่วน

โจโฉ ก็ห้ อิกิ๋ม เป็นแม่ทัพยกทหารมารบกวนอู ที่เมืองอ้วนเซีย โดยมี บังเต๊กเป็นแม่ทัพหน้า แม่ทัพทั้งสองขัดกันเองเพราะ อิกิ๋ม อิจฉาบังเต๊ก กลัวจะมีความชอบมากกว่า เพราะกล้าเอาโลงผีไปในกองทัพว่าจะใส่ศีรษะกวนอู เอามาให้ วุยอ๋อง ในการสู้รบ กวนอูถูกยิงด้วยเกาทัณฑ์ บาดเจ็บ แต่ก็ให้ทหาร ทดน้ำจากแม่น้ำซงกั๋ง ท่วมกองทัพอิกิ๋ม จนสู้ไม่ไหว และแม่ทัพก็ถูกจับตัวได้ทั้งสองคน

อิกิ๋ม ยอมอ่อนน้อม กวนอู จึงไม่ประหารแต่ให้ขังไว้จะส่งตัวให้ โจโฉทีหลัง แต่ บังเต๊กไม่ยอมอ่อนน้อม แม้กวนอูจะเกลี้ยกล่อมว่า ม้าเฉียว นายเก่าก็อยู่กับ เล่าปี่ บังเต๊กก็ไม่สนใจ จึงต้องถูกเอาตัวไปประหาร

เมื่อ พระเจ้าวุยอ๋อง ได้ทราบข่าวว่า กองทัพของ อิกิ๋มที่ยกไปช่วยเมืองอ้วนเซียนั้น ได้พ่ายแพ้แก่ กวนอู โดยสิ้นเชิง อิกิ๋ม ถูกจับเป็นเชลย และ บังเต๊ก ถูกประหารชีวิต ก็ตกใจ ปรึกษากับขุนางทั้งปวงว่าจะทำประการใดต่อไป

สุมาอี้ จึงทูลว่า

“ ข้าพเจ้าทราบอยู่ว่าซึ่ง อิกิ๋มเสียแก่กวนอูนั้น ใช่จะแพ้ในชบงนรบนั้นหามิได้ แพ้เพราะน้ำมากหารู้ที่จะทำการไม่ บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นว่า ซุนกวน ซึ่งอยู่ ณ เมืองกังตั๋ง ก็หาชอบกันกับ เล่าปี่ ไม่ ซุนกวน ก็จะไม่มีความสบาย กลัว กวนอู จะยกไปตีเอาเมือง ขอพระองค์แต่งทหารไปยุยง ซุนกวนท ให้มีความโกรธ ให้ยกไปรบเอาเมืองเกงจิ๋ว ถ้า ซุนกวนได้เมืองเกงจิ๋วแล้ว เราก็จะยกที่กังหลำ ทิศใต้ให้แก่ ซุนกวน เห็นว่าเมืองอ้วนเซียจะพลอยรอดด้วย “

ฝ่าย เจียวเจ้ สมุห์บัญชี ก็ทูลว่า

“ ซึ่งถ้อยคำที่ สุมาอี้ ว่า ควรอยู่แล้วขอท่านจงกระทำตามเถิด แลซึ่งท่านคิดว่าจะยักย้ายไปเมืองอื่นนั้นไม่ชอบ ไพร่บ้านพลเมืองจะเอิกเกริกเสียน้ำใจ “

โจโฉ พิเคราะห์ดูแล้วก้เห็นชอบด้วย และรำพึงว่า

“ อิกิ๋ม นี้แต่ทำการศึกมาด้วยเราก็ช้านานถึงสามสิบปีแล้วควรหรือมาแพ้ข้าศึกโดยง่ายฉะนี้เล่า อัน บังเต๊ก เป็นแต่ทหารมาอยู่ใหม่ ก็มานะทำสงครามจนตัวตาย เรานี้คิดชอบใจเขานัก “

แล้วก็ให้ทหารร่างหนังสอไปหา ซุนกวน ที่เมืองกังตั๋งตาม สุมาอี้ ว่าทุกประการ แล้วจึงปรึกษาทหารทั้งปวงว่า ผู้ใดยังจะอาสาไปรบศึกกับ กวนอู ได้บ้าง ซิหลงก็ขออาสา จะไปรบกับกวนอูแทน โจโฉ ก็จัดทหารให้ห้าหมื่น ให้ลิเตียนเป็นปลัดทัพ แล้วยกไปตั้งที่ทุ่งเอียงลกโผ รอว่า ซุนกวน จะแจ้งข่าวมาว่ากระไร

ซุนกวนครั้นได้รับหนังสือแล้วก็ดีใจ รับปากว่าจะไปตีเมืองเกงจิ๋วตามคำ แล้วก็ปรึกษาขุนนางทั้งปวงว่าจะเห็นประการใด เตียวเจียว จึงว่า โจโฉ ยกพลมาช่วยเมืองอ้วนเซีย แต่กลับสียอิกิ๋ม และ บังเต๊ก ไปครั้งนี้น่าจะท้อใจอยู่ และที่ให้เราไปตีเมืองเกงจิ๋วแล้วจะให้เมืองกังหลำแก่เรานั้น เห็นจะไม่จริง พอดีขณะนั้น ลิบองกลับมาจากด่านลกเค้า จึงถามว่ากลับมาทำไม

ลิบอง ก็บอกว่า

“ กวนอู ละเมืองเกงจิ๋วไว้ ยกกองทัพไปตั้งล้อมเมืองอ้วนเซีย ซึ่งเป็นทางไกล ควรเราเร่งยกทหารไปตีเอาเมืองเกงจิ๋ว เห็นจะได้โดยง่าย”

ซุนกวน จึงแกล้งลองใจลิบองว่า ตนใคร่จะไปตีเอาเมืองชีจิ๋วของโจโฉก่อน จะเห็นประการใด ลิบองก็บอกว่า

“ ซึ่งท่านจะไปตีเมืองชีจิ๋ว ทางทิศเหนืออันเป็นของโจโฉนั้น ผู้คนก็น้อยเห็นจะได้อยู่ แต่ข้าพเจ้าคิดว่าซึ่งจะยกกองทัพไปนั้น เป็นทางกันดารเดินบก ก็จะลำบากแก่ทหารทั้งปวง ถึงได้แล้วก็จะตั้งอยู่ไม่ได้ ถ้ายกไปตีเอาเมืองเกงจิ๋ว เห็นจะดีกว่า ถ้าได้แล้วเราจึงค่อยคิดการต่อไป
ซุนกวน ก็เห็นชอบด้วย แล้วให้ลิบองกลับไปเตรียมการไว้ก่อน ตนจะยกไปทีหลัง

ลิบองก็กลับไปด่านลกเค้า ก็ได้รับรายงานว่า ทางเมืองเกงจิ๋วได้ทำการตั้งร้านไฟ รายไปตามริมแม่น้ำ ห่างกัน สองร้อย สามร้อยเส้น มีคนรักษาอยู่มิได้ขาดทั้งทหารในเมืองก็เตรียมไว้เป็นกวดขัน ลิบองก็ตกใจรำพึงว่า ที่รับกับ ซุนกวน ว่าจะไปตีเอาเมืองเกงจิ๋วนั้น เห็นจะไม่สำเร็จ จำจะต้องหาเหตุแก้ตัวให้พ้นผิด จึงอุบายให้ทหารไปแจ้งแก่ ซุนกวน ว่าตนป่วย ยังทำการมิได้

ซุนกวน ไม่เชื่อว่าลิบองจะป่วยจริง จึงให้ ลกซุน ไปเยี่ยมดูอาการให้ชัดแจ้งก่อน ลกซุนก็ไปหา ลิบอง ที่ด่านลกเค้าแล้วว่า ซุนกวน ให้มาเยี่ยมดูอาการ ลิบองก็บอกว่าป่วยครั้งนี้ไม่หนักนัก ลกซนจึงหไวเราะแล้วว่า

“ ซึ่งความเจ็บป่วยของท่านนั้น ด้วยเหตุว่า เมืองเกงจิ๋วเขาตระเตรียมทหารแล้วปลูกร้านไปรายตามแม่น้ำ ป้องกันบ้านเมืองมั่นคงอยู่ ท่านจึงิดวิตกนักด้วยการสิ่งนี้ ข้าพเจ้ามีอุบายสิ่งหนึ่ง อาจจะให้ทหารเมืองเกงจิ๋ว ซึ่งทำการรักษาเมืองนั้น ให้มาประนอมด้วยท่านมิให้ลำบากเลยท่านจะเห็นประการใด “

ลิบองได้ยินลกซุนว่าล่วงรู้ในความคิดก็ตกใจ จึงถามว่าอุบายนั้นเป็นประการใด ลกซุนจึงบอกว่า

“ ซึ่งเมืองเกงจิ๋วตระเตรียมทหารและจัดแจงเมืองไว้ทั้งนี้ ก็เพราะ กวนอู คิดวิตกอยู่ด้วนท่านมาตั้งอยู่ที่นี่ จึงไม่ไว้ใจ ถ้าท่านรู้อุบายทำเป็นป่วยไปเสียจากที่นี่ แล้วจัดให้ผู้อื่นมาอยู่แทน แล้วให้พูดสรรเสริญ กวนอู กวนอูก็จะทะนงใจ จะอยู่รบเอาเมืองอ้วนเซียให้ได้ ไม่คิดระวังหลัง เราจึงคิดวกไปตีเมืองเกงจิ๋ว ก็จะได้โดยง่าย “

ลิบองได้ยินดังนั้นก็ดีใจ จึงว่าแก่ลกซุนว่า อุบายของท่านนี้ดีหนักหนา แล่วก็แกล้งทำป่วยอยู่ต่อไป และให้หนังสือ ลกซุน ถือไปแจ้งแก่ ซุนกวน ว่าตนป่วยขอลาออกจากหน้าที่ ซุนกวน จึงให้ ลิบอง กลับมารักษาตัวที่เมืองกังตั๋ง ซุนกวนก็บอกว่า

“ แต่ก่อนจิวยี่มาว่าให้เราตั้ง โลศก ออกไปอยู่ที่ด่านลกเค้า ครั้นอยู่มา โลศก๗งมาว่า ให้ตั้งตัวท่านนี้ออกไปอยู่ แลตอรรี้ท่านก็ป่วยอยู่ ก็ควรเราจะให้คนดีมีสติปัญญาออกไปอยู่แทนตัวท่าน “

ลิบองก็บอกว่า

“ ซึ่งท่านจะให้คนดีไปนั้น ฝ่ายกวนอูจะไม่ไว้ใจ จะให้รักษาเมืองมั่นคงไว้ อันลกซุน นี้ยังหาปรากฏชื่อลือนามไม่ ท่านจงให้ออกไปอยู่เถิด เห็นว่า กวนอู จะไว้ใจ ไม่ระวังหลัง ก้เห็นจะได้เมืองเกงจิ๋ว ดังปรารถนา

ซุนกวนก็ห็นชอบด้วย จึงตั้ง ลกซุน เป็นทหารแม่ทัพซ้าย ไปรักษาด้านลกเค้าแทน ลิบอง ลิซุนก็ว่า

“ ข้าพเจ้าเป็นเด็กหนุ่มยังหามีความรู้วิชาการสิ่งใดไม่ ซึ่งจะให้ข้าพเจ้าไปอยู่รักษาด่านลกเค้านั้น เห็นมิบังควร “

ซุนกวนจึงว่า ลิบอง บอกว่าเจ้ามีความคิดลึกซึ้งเห็นจะได้ราชการอยู่ อย่าได้บิดพลิ้วไปเลย

ลกซุน ขัดมิได้ก็รับเอาตราออกไปรักษาด่านลกเค้า ด้วยความจนใจ เพราะตนเองเป็นผู้คิดอุบายให้ลิบอง ก็เลยโดนโยนหน้าที่กลับมาให้ทำเสียเอง

แล้ว ลกซุน จะมีสติปัญญา แก้ไขปัญหาที่เห็นอยู่ชัดเจนอย่างไรต่อไป ต้องรอดูตอนหน้า..

###########


Create Date : 20 เมษายน 2559
Last Update : 20 เมษายน 2559 13:55:06 น. 0 comments
Counter : 822 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.