Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๑๒ ชำระโทษเศรษฐี

ยอดคนแผ่นดินเหม็ง

ตอนที่ ๑๒ ชำระโทษเศรษฐี

"เล่าเซี่ยงชุน"

เมื่อ ไฮ้สุย ให้ เตากี เจ้าเมืองปักเลกกุ๋นคนใหม่ติดต่อกับเศรษฐีใหญ่ ฮั่วจิ้น จนสนิทสนมเป็นที่ไว้วางใจกันแล้ว จึงให้เตากีจัดงานฉลองตราตำแหน่งเจ้าเมือง และเชิญฮั่วจิ้นมาที่บ้าน เมื่อพวกกรมการเมืองและนายบ้านพ่อค้านายห้างและฮั่วจิ้น มาประชุมพร้อมกันแล้ว เจ้าเมืองก็ให้คนยกโต๊ะและสุรามาเลี้ยงกันเป็นที่สบาย

ครั้นได้กินโต๊ะแล้ว ฮั่วจิ้นก็จะลากลับไปบ้าน เจ้าเมืองจึงว่าท่านอย่าเพิ่งไปก่อน เราจะถามสักหน่อย เราให้กรมการถือหมายไปหาตัวไม่มา กลับฉีกหมายเสียดังนี้มีความผิดหรือไม่ ฮั่วจิ้นได้ฟังก็ตกใตจนหน้าซีดสลด ไฮ้สุยก็แสดงตัวเป็นที่เอ๋ซุนอ้าน ให้เอาตัวเจ้าเมืองคนเก่าและกรมการมาถามว่าแต่ก่อนเมื่อท่านยังเป็นเจ้าเมืองอยู่นั้น ถ้าราษฎรมาฟ้องกล่าวโทษฮั่วจิ้น ท่านหาตัวฮั่วจิ้นมาหรือเปล่า เจ้าเมืองคนเก่าและกรมการ ยังเกรงใจฮั่วจิ้นอยู่ จึงตอบอ้อมแอ้มไม่ใคร่จะได้ความจริง

ไฮ้สุยจึงให้คุมตัวฮั่วจิ้นไว้แล้วมีหมายประกาศไปทุก ๆ อำเภอว่าฮั่วจิ้นทำการข่มเหงผู้ใดจงไปร้องจะชำระให้ ราษฎรก็ไม่มาฟ้องร้องด้วยกลัวอำนาจฮั่วจิ้นอยู่ ไฮ้สุยคิดว่า ฮั่วจิ้นข่มเหงราษฎรจนเข็ดขยาด ออกกลัวไปทั่วเมืองไม่มีใครมาร้องกล่าวโทษ ด้วยเข้าใจว่าจะฟ้องร้องก็ไม่ตลอด ไปวันหน้าจะพากันยับเยินด้วยอำนาจฮั่วจิ้น เปรียบเหมือนเสือมีเขี้ยวเล็บจะต้องทำให้ราษฎรเห็นปรากฎเสีย จึงให้เอาตัวฮั่วจิ้นมาถามว่า เจ้าเมืองกรมการซึ่งตั้งแต่งขึ้นไว้ สำหรับจะได้ระงับกิจสุขทุกข์ของราษฎรต่างพระเนตรพระกรรณของพระเจ้าแผ่นดิน คนทั้งหลายซึ่งอยู่ในเขตแดน ก็ต้องอยู่ในบังคับบัญชาเจ้าเมือง จึงจะถูกต้องด้วยแบบอย่าง นี่ตัวดื้อดึงดังนี้จะมีความผิดหรือไม่ ฮั่วจิ้นก็สารภาพผิด ไฮ้สุยจึงสั่งให้กรมการเมืองตีสี่สิบที พวกกรมการก็ไม่อาจทำลงได้ ด้วยยังกลัวเกรงอำนาจฮั่วจิ้นเหมือนเดิม ไฮ้สุยจึงสั่งให้ ไฮ้หยง ไฮ้อัน คนสนิทของตน ลงมือตีฮั่วจิ้น สี่สิบทีจนแตกโลหิตไหลและให้เอาตัวไปจำขังไว้ แล้วให้ทหารไปรักษาบ้านฮั่วจิ้น มิให้ผู้ใดไปมาเข้าออก

ฝ่ายพวกราษฎรเห็นว่าที่เอ๋ซุนอ้านคนนี้ ชำระโดยเที่ยงธรรม มิได้ยำเกรงและเห็นแก่หน้าผู้ใด ถือเอาแต่ยุติธรรมอย่างเดียว การที่ฮั่วจิ้นข่มเหงฉ้อกระบัดเบียดเบียนไว้แต่ครั้งใด พวกราษฎรก็พากันมาร้องต่อที่เอ๋ซุนอ้าน ไฮ้สุยก็ชำระเอาเงินทองสิ่งของคืนให้ แล้วประกาศว่าฮั่วจิ้น ไปฉุดคร่าบุตรหลานหรือญาติพี่น้องของผู้ใด มากักขังไว้ด้วยการไม่ควรก็ให้มาร้อง พวกราษฎรก็พากันมาร้องอีก ไฮ้สุยชำระได้ความจริงดังคำหา ก็ส่งตัวบุตรและหลานคืนไปให้ตามเดิม ครั้นชำระเสร็จแล้ว ก็ให้เอาตัวฮั่วจิ้นกับบุตรภรรยาไปประหารชีวิตเสีย เว้นแต่บุตรที่ยังเด็กนั้นงดไว้

แล้วไฮ้สุยก็เรียกตัวเจ้าเมืองคนเก่าที่ถอดเสียนั้นมาบอกว่า ฮั่วจิ้นข่มเหงเบียดเบียนราษฎร เมื่อราษฎรมาฟ้องต่อท่าน แล้วหาตัวฮั่วจิ้นไม่มา ท่านก็ไม่อาจทำอะไรแก่ฮั่วจิ้นได้ ด้วยเกรงอำนาจ เงียมซง นั้น ความข้อนี้เรารู้มานานแล้ว เราจึงถอดท่านออกเสียจากที่เจ้าเมือง ตั้ง ขุนนางซึ่งมากับเราให้เป็นแทน เพราะปรารถนาที่จะใคร่สอบดูให้รู้ว่าจะเป็นจริงดังคำเล่าลือหรือไม่ แล้วจะได้ชำระฮั่วจิ้นด้วย บัดนี้เรากำจัดคนร้ายซึ่งเป็นเสี้ยนหนามแผ่นดินเสียเสร็จสิ้นแล้ว ท่านจงรับหน้าที่เป็นเจ้าเมืองไปตามเดิม ช่วยระงับกิจสุขทุกข์ของราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุขเถิด

เมื่อไฮ้สุยจัดการบ้านเมืองเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางออกจากเมืองปักเลกกุ๋น เที่ยวตรวจเมืองอื่นต่อไป

ไฮ้สุยเป็นที่เอ๋ซุนอ้านได้ตรวจราชการหัวเมืองต่างพระเนตรพระกรรณฮ่องเต้ต่อมาอีกประมาณสี่ปี และรู้ข่าวว่า นางเหียกุยฮุย ได้เลื่อนเป็น นางเงียมเคงหลินฮองเฮา แทน นาง เตียฮองเฮา ซึ่งถูกขังอยู่ในตึกมืดกับพระราชบุตร และเงียมซงก็ได้เลื่อนเป็นที่ก๊กเจี๋ยง ผู้สำเร็จราชการฝ่ายพลเรือน มีอำนาจวาสนามากคนยำเกรงนับถือยิ่งกว่าแต่ก่อน จะทำการสิ่งใดก็ไม่มีที่กีดขวาง ขุนนางที่ไม่มีความผิด ถ้าเงียมซงไม่ชอบใจจะถอดถอนเสียก็ได้ ถ้าชอบใจผู้ใดหรือมาเดินเหินเสียเงินทองแล้ว เงียมซงก็แต่งตั้งไปตามชอบใจ จนขุนนางเก่าที่เป็นตงฉินก็ลาออกจากราชการบ้างบอกป่วยบ้าง เงียมซงไม่ชอบใจถอดเสียบ้าง หาความผิดใส่โทษฆ่าฟันเสียบ้างก็มี ยังเหลืออยู่น้อยนัก เตียจีเป๊ก ก็ได้เป็นผู้สำเร็จราชการฝ่ายทหาร ขุนนางซึ่งเป็นพวกเงียมซงกับเตียจีเป๊กนั้นมีอยู่สักสามส่วน

ไฮ้สุยมีความวิตกทุกข์ร้อนด้วยการแผ่นดิน และนางเตียฮองเฮากับพระราชบุตร เป็นอันมากคิดจะกลับเข้าเมืองหลวง จึงปรึกษากับ ไฮ้หยง ไฮ้อัน ว่าบัดนี้ราชการในเมืองหลวง ก็ผันแปรไปหลายอย่าง เราตัวคนเดียวอำนาจวาสนาก็น้อย พวกพ้องสนับสนุนก็ไม่มี แต่ก่อนได้พึ่งฮองเฮา จะขัดขวางประการใดก็ช่วยเพ็ดทูลแก้ไข บัดนี้ฮองเฮาก็เป็นโทษต้องถอดเสียแล้ว คนที่เป็นศัตรูก็มีอำนาจมากทั้งฝ่ายบุ๋นฝ่ายบู๊ คิดอ่านอย่างไรจึงจะให้มีความสุข

ไฮ้หยงก็ว่าถ้าเข้าไปเมืองหลวง ที่ไหนจะทนอำนาจเขาได้ เราคิดอ่านรับราชการข้างนอกดีกว่า ซึ่งท่านเป็นที่เอ๋ซุนอ้าน ออกมาตรวจตรา ดูแลกิจสุขทุกข์ของราษฎรครั้งนี้ ได้เงินส่วยอากรซึ่งค้างอยู่ให้เจ้าเมืองส่งเข้าไปในบัญชีเงินหลวงถึงแปดร้อยหมื่นตำลึง ความชอบของท่านมีปรากฎแก่พระเจ้าแผ่นดิน เป็นอันมาก เมื่อครั้งเตียจีเป๊กเป็นที่เอ๋ซุนอ้านออกมา ไม่เห็นว่าชำระเงินส่งเข้าไปในท้องพระคลังเลย พระเจ้าแผ่นดินก็มิได้ทรงติเตียนแต่ประการใด ซึ่งท่านจะเข้าไปเมืองหลวงครั้งนี้ เห็นจะสู้เขาไม่ได้เป็นแน่

ไฮ้อันก็ว่า การที่จะคิดแก้ไขให้ฮองเฮากับพระราชบุตร พ้นจากโทษนั้นยากนัก ด้วยเป็นการใหญ่มิใช่เล็กน้อย ไฮ้สุยจึงว่า

"...ซึ่งท่านคิดนี้ไม่ถูก การที่ฮองเฮากับพระราชบุตรต้องโทษนี้ครั้นเราจะนิ่งเสีย ก็จะเป็นคนปราศจากกตัญญู ในพระเจ้าแผ่นดินและฮองเฮาไป ต้องกราบทูลชี้แจงให้ทรงทราบ เมื่อจะโปรดหรือไม่โปรดก็สุดแล้วแต่การจะเป็นไป จะได้สิ้นธุระในตัวเราฮองเฮาก็จะได้เห็นว่าเรามีกตัญญูรู้จักคุณ ทุกวันนี้เราก็ไม่ปรารถนายศฐาบรรดาศักดิ์ให้โตใหญ่ดอก เข้าไปพอแต่ให้ได้กราบทูลเท่านั้น....."

ไฮ้หยงไฮ้อันจึงว่า ถึงท่านเข้าไปจะกราบทูลพระเจ้าแผ่นดิน ถ้าท่านนิ่งเสียไม่ชำระจะมีคุณอะไร ไฮ้สุยก็ไม่ยอมฟัง จะเข้าเมืองหลวงให้จงได้ จึงสั่งไพร่พลให้ตระเตรียมไว้จงพร้อม

ขณะนั้นหัวเมืองน้อยใหญ่ที่อยู่ใกล้ พอจะไปมาหาสู่ไฮ้สุย ต่างก็คิดถึงบุญคุณได้จัดเงินทองสิ่งของต่าง ๆ มาให้ ไฮ้สุยก็รับไว้แต่ของกิน ที่จะเป็นเสบียงไปกลางทาง เจ้าเมืองจึงว่า พวกตนทั้งหลายซึ่งให้สิ่งของแก่ท่านนั้น ด้วยความยินดีรักใคร่ใช่จะจำใจให้ด้วยการอันร้อนเมื่อไร ขอท่านจงรับเอาไว้เถิด ไฮ้สุยก็ว่าท่านจะให้เรารับไว้แล้ว เหมือนแกล้งให้เราได้ความร้อนใจ จงเก็บเอาไว้ให้แก่ผู้อื่นเถิด เจ้าเมืองทั้งปวงเห็นว่า ไฮ้สุยไม่รับไว้โดยแท้แล้ว จึงว่าพวกตนจัดเงินไว้จะให้แก่ไฮ้หยง ไฮ้อัน ด้วยเห็นว่าตั้งแต่ออกมากับท่านช้านาน ก็ไม่ได้อะไรไปฝากบุตรภรรยา พวกตนทั้งปวงพร้อมใจกันออกเงินคนละเล็กน้อย รวมเป็นเงินหมื่นตำลึง ให้แก่ไฮ้หยงห้าพันตำลึง ไฮ้อัน ห้าพันตำลึง

ไฮ้หยงไฮ้อันจึงว่าเราทั้งสองเป็นบ่าว นายไม่รับแล้วตนจะรับไว้ ก็ดูเหมือนหนึ่งนายทำเป็นไม่เอา แต่ให้บ่าวเอา เจ้าเมืองก็พากันเสียใจ ไฮ้สุยเห็นสีหน้าเจ้าเมืองผิดปกติ จึงพูดกับไฮ้หยงไฮ้อันว่า เขาให้ด้วยความเต็มใจจงรับเอาไว้เถิด เรารู้ดอกว่าเขาให้ด้วยความยินดี ครั้นไม่รับไว้บ้างก็จะเสียน้ำใจ พวกเจ้าเมืองได้ฟังดังนั้นต่างก็คำนับไฮ้สุยแล้วพูดว่า เงินทองสิ่งของทั้งนี้ ตั้งใจเอามาคำนับท่านโดยความนับถือรักใคร่ มิใช่เป็นเงินทองมากมาย เสียไปให้แก่ผู้อื่นมากกว่านี้หลายเท่า แล้วเจ้าเมืองทั้งหลายก็เอาเงินเติมให้แก่ทั้งสอง อีกคนละ ห้าพันตำลึง ไฮ้หยงไฮ้อันก็รับเอาเงินไว้คนละหมื่นตำลึง ไฮ้สุยก็ลารีบกลับมาเมืองหลวง

ฝ่ายหัวเมืองรายทางที่ไฮ้สุยผ่าน ถึงเมืองไหนก็ตั้งโต๊ะคำนับตามมาส่งจนปลายแดน ส่งต่อ ๆ กันมาจนเข้าเขตเมืองหลวง เมื่อถึงเมืองหลวงก็เข้าเฝ้า พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ กราบทูลข้อราชการตามหัวเมืองน้อยใหญ่ ให้ทรงทราบทุกประการ เว้นแต่ข้อความที่เกี่ยวข้องมาถึง เงียมซงและเตียจีเป๊กนั้นมิได้กราบทูล ด้วยต้องการให้ศัตรูสบายใจ

ฮ่องเต้ได้ทรงฟังก็มีพระทัยยินดี ตรัสว่าท่านเป็นที่เอ๋ซุนอ้าน ออกไปในคราวนี้ได้เงินเข้ามามากนักหนา เงียมซงก็แก้ว่าครั้งก่อนเตียจีเป๊ก ออกไปทำการไว้เรียบร้อยแล้ว ไฮ้สุยออกไปจึงได้พระราชทรัพย์มาเข้าท้องพระคลังมาก เมื่อฮ่องเต้ได้ทรงฟังดังนั้น ทอดพระเนตรเห็นกิริยา สีหน้าไฮ้สุยผิดปกติ จึงทรงพระสรวลแล้วตรัสว่า ไฮ้สุยออกไปคราวนี้ได้ราชการมาก แต่ผลประโยชน์ในตัวเห็นจะไม่มี เงินทองค่าไร่นา ส่วยสาอากรซึ่งตกค้างอยู่นั้น ไฮ้สุยเร่งรัดตักเตือนให้มามากเราจะคิดเป็นสิบลดให้

แล้วฮ่องเต้ก็ให้เจ้าพนักงานคิดลดร้อยละสิบ เอาเงินมาพระราชทานไฮ้สุยแปดสิบหมื่นตำลึง ไฮ้สุยไม่อยากจะได้ ด้วยเห็นว่าเป็นเงินพระราชทรัพย์ เข้ามาในท้องพระคลังแล้ว ครั้นจะกราบทูลไม่ขอรับพระราชทาน ก็เกรงจะทรงเห็นว่าเป็นคนไว้ตัวจึงกราบทูลว่า

"....ซึ่งพระองค์ทรงพระเมตตา โปรดพระราชทานเงินให้ข้าพเจ้านี้ พระเดชพระคุณหาที่เปรียบมิได้ แต่ตัวข้าพเจ้าไม่ใคร่จะได้อยู่บ้าน จะรับพระราชทานเอาเงินไปก็เกรงจะเป็นอันตรายด้วยที่อยู่ไม่มั่นคง ขอฝากไว้ในคลังต่อเมื่อใดข้าพเจ้าจะต้องการใช้สอย จึงมาขอรับพระราชทาน....." พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ ก็ตรัสว่าตามแต่ใจ

เมื่อกราบทูลข้อราชการกิจสุขทุกข์ของอาณาประชาราษฎรสิ้นเรื่องราวแล้ว ไฮ้สุยจึงถวายคืนกระบี่อาญาสิทธิ์ กับเครื่องยศตราตั้งตำแหน่งที่เอ๋ซุนอ้าน แล้วก็ถวายบังคมลากลับมาบ้าน และรับราชการตามตำแหน่งเดิมต่อไป.

##########



Create Date : 18 กันยายน 2551
Last Update : 18 กันยายน 2551 7:01:50 น. 0 comments
Counter : 561 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.