Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๑๑ เจ้าเมืองไร้อำนาจ

ยอดคนแผ่นดินเหม็ง

ตอนที่ ๑๑ เจ้าเมืองไร้อำนาจ

"เล่าเซี่ยงชุน"

ไฮ้สุย ซึ่งเป็นที่เอ๋ซุนอ้าน ผู้ตรวจราชการแทนพระองค์ของฮ่องเต้ ได้เดินทางมาถึงเมืองปักเลกกุ๋น ก็มีผู้มาแจ้งว่า ในเมืองนี้มีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อ ฮั่วจิ้น เป็นพวกของ เงียมซง มีทรัพย์สินเงินทองพวกพ้องบ่าวไพร่มาก แต่เป็นคนดุร้ายข่มเหงชาวบ้านให้ได้ความเดือดร้อนต่าง ๆ ครั้นพวกราษฎรมาร้องต่อเจ้าเมืองกรมการ ให้หาตัวมาชำระฮั่วจิ้นก็ไม่มา เจ้าเมืองและกรมการจะฉุดคร่าก็เกรงอำนาจ ครั้นบอกกล่าวโทษฮั่วจิ้นเข้าไปยังเมืองหลวง ฮั่วจิ้นก็จัดเงินทองสิ่งของที่ดีมีราคา ให้คนพามาคำนับเงียมซง แล้วก็เอาแต่ความดีเข้ามาบอก เงียมซงก็เชื่อและปิดข้อความเสีย มิได้กราบทูลให้ฮ่องเต้ทรงทราบ แล้วกลับมีหนังสือมาติเตียนเจ้าเมือง ว่าข่มเหงฮั่วจิ้นซึ่งเป็นพวกพ้องของตน บางทีก็มีตราออกไปให้ถอดจากที่เจ้าเมืองเสียอีก จนเจ้าเมืองต่างก็พากันเกรงกลัวฮั่วจิ้น ไม่อาจชำระความที่ราษฎรมาฟ้องร้องได้ แม้นฮั่วจิ้นรู้ว่าผู้ใดมาฟ้องร้องเจ้าเมือง ก็ข่มเหงผู้นั้นมากขึ้นกว่าแต่ก่อน จนพวกราษฎรเกรงกลัวอำนาจฮั่วจิ้นไปทั้งเมือง

ไฮ้สุยได้ฟังความจึงให้หาตัวกรมการเมืองมาถามว่า ราษฎรเล่าลือกันว่าฮั่วจิ้นเศรษฐีในเมืองนี้ ใจคอดุร้ายข่มเหงราษฎรจริงหรือไม่ กรมการเมืองจะแจ้งความจริงก็กลัวจะเป็นอันตราย จึงว่าฮั่วจิ้นเป็นคนดีพวกตนทั้งปวงไม่เห็นว่าข่มเหงใคร ครั้นกรมการเมืองกลับไปแล้ว ไฮ้สุยก็บอกกับผู้ที่มาแจ้งความว่า ฮั่วจิ้นข่มเหงผู้ใดอย่างไรให้ผู้นั้นมาร้องจะชำระให้ พวกราษฎร ก็ไม่มีใครไปร้องแต่สักคนหนึ่ง ด้วยคิดว่าถึงจะร้องไป ที่เอ๋ซุนอ้านจะชำระไปได้ถึงไหน ฮั่วจิ้นเป็นพวกพ้องเงียมซงขุนนางผู้ใหญ่ เมื่อที่เอ๋ซุนอ้านกลับไปแล้ว เราตั้งบ้านเรือนอยู่ที่นี่มีไร่นาเรือกสวน ฮั่วจิ้นจะมิข่มเหงพวกเรายับเยินหรือ ก็พากันนิ่งเสีย

ไฮ้สุยก็บอกแก่ไพร่พลทหารว่า ให้เตรียมกันจงพร้อมจะได้ยกกลับเมืองหลวง แล้วจึงหาตัวขุนนางที่มาด้วยคนหนึ่งชื่อ เตากี สั่งว่าเราจะให้ท่านอยู่เป็นเจ้าเมืองนี้ เราจะกลับไปให้คนทั้งปวงรู้ แล้วจึงจะลอบปลอมเข้ามาอยู่ด้วยท่าน จะชำระหาความจริงให้ได้ แล้วจึงให้หาเจ้าเมืองปักเลกกุ๋นมาว่า ตัวท่านนั้นพระเจ้าแผ่นดินโปรดตั้งให้ออกมาเป็นเจ้าเมือง สำหรับจะได้ระงับกิจทุกข์สุขของราษฎรต่างพระเนตรพระกรรณ ราษฎรมีคดีเกี่ยวข้องท่านมิได้ชำระตัดสิน ให้เด็ดขาดโดยยุติธรรม มาเกรงคู่ความเสียดังนี้ จะเป็นใหญ่ไปได้อย่างไร แล้วก็ถอดเจ้าเมืองนั้นออกเสีย ตั้งให้เตากีเป็นเจ้าเมืองแทน แล้วไฮ้สุยก็พาไพร่พลออกจากเมืองไป พอถึงที่สมควรก็ให้ไพร่พลพัก รออยู่ ตนเองกับ ไฮ้หยง ไฮ้อัน ก็ปลอมเข้าไปเป็นบ่าวเจ้าเมืองใหม่ อยู่ในที่พักด้วย

แล้วไฮ้สุยจึงให้เตากีสั่งกรมการเมือง ถือหมายไปหาตัวฮั่วจิ้นมาชำระความตามที่มีผู้มาร้อง พวกกรมการต่างก็อิดเอื้อนไม่อาจไปด้วยเกรงฮั่วจิ้น เตากีโกรธก็ว่าถ้าไม่ไปเราจะตีคนละสามสิบที สั่งแล้วก็ส่งหมายนั้นกำชับว่า ถ้าพบตัวฮั่วจิ้นให้เอามาให้ได้ในวันนี้ พวกกรมการเมืองก็จำใจต้องไปตามที่สั่ง ไฮ้สุยซึ่งทำตนเป็นที่ปรึกษาเจ้าเมือง เห็นกรมการเมืองกลัวฮั่วจิ้นเศรษฐีนัก จึงให้ไฮ้หยงไปด้วยอีกคนหนึ่ง

พวกกรมการเมืองก็คำนับลาเจ้าเมืองถือหมายไป ครั้นถึงโรงเตี๊ยมก็พากันแวะเข้าไปซื้ออาหารกิน กรมการผู้ถือหมายก็ถามไฮ้หยงว่า เจ้าเมืองให้ท่านเป็นผู้กำกับมาหรือ ดีแล้วจะได้เป็นพยานให้เราด้วย

ไฮ้หยงว่า

"…….ข้าพเจ้าเป็นแต่คนใช้ของท่านเจ้าเมือง พึ่งมาอยู่ใหม่ยังไม่เข้าใจธรรมเนียมบ้านเมือง ข้าพเจ้าเห็นท่านมาก็ตามมาด้วย มิได้เป็นผู้กำกับอะไรดอก แต่ข้าพเจ้าได้ยินเขาพูดกันว่า เศรษฐีคนนี้ดุร้ายนักหรือ....."

กรมการก็ว่า

".....อย่าถามเลย ท่านเจ้าเมืองคนนี้พึ่งมาใหม่ไม่รู้จักอะไร มาถึงก็จะเล่นเศรษฐีเห็นยากอยู่ ถ้าทำแต่อย่างนี้แล้วคงจะได้อายเขาสักเวลาหนึ่ง แต่จะทำอย่างไรได้ ท่านเป็นนายใช้แล้วก็ต้องไป ใช้ให้ไปเกาะตัวผู้อื่นเสียสักร้อยคนพันคนดีกว่า ครั้นจะไม่มาท่านก็จะทำโทษ ข้าพเจ้าทั้งปวงนี้กลัวทั้งคมทั้งสัน ไม่รู้ที่จะผันแปรประการใด....."

ครั้นซื้อของกินแล้วก็พากันไปบ้านฮั่วจิ้น พอถึงประตูชั้นนอกก็บอกกับนายประตูว่าจะเข้าไปหาท่านเศรษฐี นายประตูถามว่ามีธุระอะไร กรมการว่ารับคำท่านเจ้าเมืองมาจะเข้าไปคำนับท่านเศรษฐี นายประตูบอกว่าท่านพึ่งเข้านอนเสียเมื่อกี้ ถ้าท่านจะให้พบแล้วต้องรออยู่ที่นี่ก่อน ต่อเวลาบ่ายท่านตื่นนอน ข้าพเจ้าจึงจะเข้าไปแจ้งให้ทราบ เมื่อท่านจะโปรดให้เข้าไปหรือประการใด จึงค่อยรู้ต่อภายหลัง กรมการก็รอคอยอยู่ที่หอนั่งชั้นนอก ชมบ้านช่องและเครื่องแต่ง แต่ล้วนของดีมีราคาต่าง ๆ

ครั้นเวลาบ่ายฮั่วจิ้นตื่นนอนก็ออกไปที่สวนดอกไม้ ผู้เฝ้าประตูจึงตามไปบอกว่า ท่านเจ้าเมืองที่เป็นขึ้นใหม่ ใช้ให้กรมการมาหาท่าน ไม่ทราบว่ามีธุระสิ่งใด ฮั่วจิ้นก็บอกให้พาเข้ามา นายประตูก็ออกมาพากรมการและไฮ้หยงเข้าไปในสวน ก็เห็นฮั่วจิ้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ใหญ่ มีโต๊ะตั้งของกินวางอยู่ทั้งซ้ายขวา จึงเข้าไปคำนับด้วยเกรงอำนาจ เพราะตัวเป็นหนี้ได้ยืมและกู้เงินเศรษฐีมาใช้สอยอยู่ ฮั่วจิ้นถามว่าท่านทั้งปวงพากันมาด้วยธุระอะไร กรมการบอกว่าท่านเจ้าเมืองที่ออกมาเป็นใหม่ไม่รู้จักอะไรเลย ใช้ให้ตนมาเชิญท่านไปที่ศาลว่าจะชำระความ ฮั่วจิ้นว่าไม่ได้ทำผิดอะไร กรมการก็ว่าพวกตนทั้งปวงได้ช่วยกันห้ามปรามแล้ว เจ้าเมืองก็ไม่ฟังจะให้มาเชิญท่านไปให้จงได้ ถ้าไม่มาแล้วจะตีพวกตนคนละสามสิบที ขัดไม่ได้ด้วยเกรงอาญาก็ต้องมา ขอจงเป็นที่พึ่งแก่พวกตนด้วย อย่าให้มีความผิดต้องถูกเฆี่ยนตีเลย

ฮั่วจิ้นจึงถามว่า อ้ายเจ้าเมืองมันมีหมายมาหรือเปล่า กรมการก็เอาหมายส่งให้ ฮั่วจิ้นรับหมายมาอ่านดูรู้ความแล้วจึงว่า ธรรมดาผู้เป็นตุลาการชำระความ แม้นผู้ใดเป็นโจทก์มาฟ้องหากล่าวโทษ ด้วยข้อความประการใด ถ้าจะมีหมายไปเกาะตัวจำเลยมาชำระ ต้องมีชื่อเสียงตัวโจทก์มาในหมาย จึงจะเป็นที่เชื่อฟัง ถูกต้องด้วยแบบอย่าง นี่โจทก์ก็ไม่มีอยู่ดี ๆ ก็มีหมายมาเกาะไปว่าจะชำระความ และว่า

"....เจ้าเมืองคนนี้เห็นทีจะขัดสนออกมา ก็ตั้งหน้าจะหาเงินทอง โดยขัดสนมาจริง ๆ จะต้องการใช้เงินสักหมื่นหรือสองหมื่นตำลึงก็ได้จะเป็นอะไรไป ออกมาเป็นเจ้าเมืองยังไม่ทันหม้อดำ ก็มาตั้งกระทู้ขู่จะมาเอาเงินทอง ใครเขาจะให้ ถ้าขัดขวางมาออกปากแต่โดยดีก็จะได้ อนึ่งเจ้าเมืองคนนี้ เรารู้อยู่ว่ามิใช่พระเจ้าแผ่นดินโปรดตั้งออกมา เป็นแต่ที่เอ๋ซุนอ้านตั้ง จะกลัวเกรงอะไรนัก แต่พระเจ้าแผ่นดินโปรดตั้งออกมาจากเมืองหลวง เรายังไม่กลัวต้องถอดไปมิใช่หรือ คนทั้งปวงก็ย่อมรู้อยู่ด้วยกันเป็นอันมาก....."

พูดแล้วก็ฉีกหมายนั้นทิ้งเสีย กรมการเห็นว่าฮั่วจิ้นไม่มาแน่แล้ว ต่างคนก็ลากลับมาแจ้งแก่เจ้าเมืองว่าฮั่วจิ้นไม่มา แล้วก็พากันคำนับลากลับไปบ้าน ไฮ้หยงจึงเอาความซึ่งกรมการและฮั่วจิ้นพูดกันนั้น เล่าให้ไฮ้สุยและเจ้าเมืองฟังทุกประการ

ไฮ้สุยตรองหาอุบายที่จะเอาตัวฮั่วจิ้นมาชำระความจริงให้ได้ จึงหาตัวทหารที่สนิทมาสั่งว่า ท่านจงพากันไปตั้งอยู่ที่ต้นทาง ซึ่งจะเข้าไปเมืองหลวง ถ้าเห็นผู้ใดออกมาจากเมืองปักเลกกุ๋น ให้ตรวจตราค้นดูแม้นได้หนังสือของฮั่วจิ้น จงจับตัวผู้ถือหนังสือและบ่าวไพร่มาให้ได้ ทหารคนสนิทก็คำนับลาไปตั้งด่านอยู่ตามคำสั่ง

ฝ่ายฮั่วจิ้นคิดว่า ซึ่งกรมการของเจ้าเมืองใหม่ที่เอ๋ซุนอ้านตั้ง มีหมายมาหาตัวไม่ไปนี้ คงจะมีหนังสือบอกกล่าวโทษ ไปกราบทูลพระเจ้าแผ่นดินให้ทรงทราบ จึงคิดทำหนังสือกล่าวโทษ ที่เอ๋ซุนอ้าน และเจ้าเมืองไปให้เงียมซงรู้ไว้ เงียมซงจะได้หาทางแก้ไขต่อไป ครั้นแต่งหนังสือเสร็จแล้ว ก็จัดสิ่งของที่ดีมีราคาต่าง ๆ มอบให้คนสนิทถือไป พอถึงต้นทางที่ทหารของไฮ้สุยแต่งไปตั้งสกัดอยู่ เห็นผู้ถือหนังสือของฮั่วจิ้นพูดจาองอาจ ก็จับตัวผู้ถือหนังสือกับบ่าวไพร่ไว้ แล้วก็ส่งหนังสือมาให้ไฮ้สุย ในหนังสือนั้นมีข้อความว่า

"....ข้าพเจ้าฮั่วจิ้นขอคำนับมายังท่านเซียงก๊กให้ทราบ ด้วยข้าพเจ้าตั้งทำมาหากินอยู่ในเมืองปักเลกกุ๋น ได้อาศัยพึ่งบุญบารมีท่านก็เป็นที่สุขสบาย ไม่มีใครข่มเหงเบียดเบียน ให้ได้ความเดือดร้อนด้วยข้อใดข้อหนึ่ง บัดนี้ไฮ้สุยซึ่งเป็นที่เอ๋ซุนอ้านออกมา ถอดเจ้าเมืองซึ่งไม่มีความผิดออกเสีย แล้วเอาพวกพ้องของตัว ตั้งขึ้นเป็นเจ้าเมือง พอเป็นเจ้าเมืองขึ้นได้ไม่ทันถึงเจ็ดวัน ก็คิดอ่านแต่จะหาประโยชน์เงินทอง ผู้ใดก็มิได้เป็นตัวโจทก์ มาฟ้องกล่าวโทษข้าพเจ้า ด้วยข้อความสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เจ้าเมืองให้กรมการถือหมายไปเกาะตัวข้าพเจ้าว่าจะชำระความ ข้าพเจ้าเห็นผิดธรรมเนียมนักขอบุญบารมีท่านเป็นที่พึงแก่ข้าพเจ้าด้วย....."

ไฮ้สุยจึงแต่งหนังสือเป็นของเงียมซงฉบับหนึ่ง มีความว่า

".....ซึ่งท่านมีหนังสือมานั้นได้แจ้งทุกประการแล้ว และสิ่งของที่ท่านให้มานั้นได้รับไว้แล้วขอบใจนัก เจ้าเมืองปักเลกกุ๋นซึ่งไฮ้สุยตั้งขึ้นใหม่ คิดอ่านทำการทั้งนี้ก็ปรารถนาเงินทองด้วยขัดสนมา ครั้นเราจะมีตราออกไปให้ถอดเสีย ก็มิใช่เจ้าเมืองของเราแต่งตั้งออกไป เป็นคนของ ที่เอ๋ซุนอ้าน ครั้นเราจะกราบทูลกล่าวโทษ ก็หยิบข้อผิดเขายังไม่ได้ ท่านอย่าเพ่อทำวุ่นวายไป จงเอาใจเขาไว้ก่อน หาสิ่งของให้บ้างเล็กน้อยพอสมควร....."

แล้วก็มอบหนังสือให้คนสนิทปลอมเป็นบ่าวเงียมซงถือไปให้ฮั่วจิ้นเศรษฐี เมื่อเปิดผนึกออกอ่านแจ้งความแล้ว สำคัญว่าเงียมซงมีหนังสือมาจริง ก็จัดของที่ดีมีราคากับเงินทองพอสมควรมอบให้แก่คนสนิทนำไปให้เจ้าเมือง และให้บอกเจ้าเมืองว่า เราจะมาก็ติดธุระไม่ว่าง จึงให้เอาเงินทองกับสิ่งของมาคำนับท่าน ต่อว่างธุระจึงจะมาหา

เจ้าเมืองก็ว่า จงไปบอกกับเศรษฐีเถิดว่า เราขอบใจแล้ว เมื่อท่านเศรษฐีว่างธุระแล้ว เชิญมาพูดกันเล่นให้เป็นที่สบาย ฮั่วจิ้นได้ฟังคำของคนสนิท จึงว่า

".....เจ้าเมืองออกมาใหม่คิดว่าจะแข็งแรงอย่างไร มีหมายมาจะขอกินของกำนัลเท่านั้น....."

พูดแล้วก็หัวเราะด้วยความลำพองใจ หารู้ไม่ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตนเองในวันหน้า.

##########





Create Date : 17 กันยายน 2551
Last Update : 17 กันยายน 2551 16:45:22 น. 0 comments
Counter : 1205 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.