Group Blog
 
All Blogs
 
วันเสาร์

บันทึกของคนเดินเท้า

วันเสาร์

เทพารักษ์

เมื่อเช้าวันเสาร์ก่อน ผมนั่งนึกว่ามีธุระอะไรนอกบ้านหรือเปล่า ก็นึกได้ว่าต้องไปตัดผมซึ่งเลยกำหนดหนึ่งเดือนมาหลายวันแล้ว จึงอาบน้ำแต่งตัวออกไปตั้งแต่สิบโมงเช้า แต่ก่อนจะถึงสี่แยกซังฮี้ นึกขึ้นมาได้ว่าเอาใบเตือนชำระค่าโทรศัพท์ใส่ย่ามมาด้วย จึงแวะเข้าไปในศูนย์โทรคมนาคมตรงหัวมุมสี่แยก ชำระเงินสร็จแล้วก็ข้ามถนนไปที่ร้านตัดผมเล็ก ๆ ซึ่งมีเก้าอี้สองตัว แต่มีข่างคนเดียว

ช่างตัดผมหญิงร่างสมบูรณ์ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ยิ้มต้อนรับเป็นอันดี ชี้ให้นั่งเก้าอี้ตัวที่ว่าง อยู่ ส่วนอีกตัวหนึ่งมีคนนั่งดูทีวี พร้อมกับกินขนมถุงกรุบกรอบไปพลาง แล้วเธอก็หยิบเสื้อคลุมสีขาวเหมือนนายแพทย์มาสวม ทำให้บางส่วนของร่างกายที่แทบจะล้นทะลักออกมานอกเสื้อแขนกุดนั้น ให้อยู่กับที่กับทางอย่างเรียบร้อย ระหว่างที่มือทั้งสองกับหวีและกรรไกรของเธอ และเล็มไปที่เส้นผมบนศีรษะของผม เธอก็พยายามจะคุยกับผม ผ่านผ้าที่ปิดปากอยู่ หูของผมซึ่งเสื่อมสภาพลงกว่าเดิมมาก ก็เลยฟังไม่ค่อยออกว่าเธอพูดเรื่องอะไร จึงทำยิ้ม ๆ ไปอย่างเดียว จนตัดเสร็จก็กดเก้าอี้ให้เอนลงนอนหงาย แล้วก็โกนหนวดโกนเคราที่งอกออกมาหร็อมแหร็มจนเกลี้ยงเกลา

จากนั้นเธอก็เอามือซ้ายแหกตาข้างหนึ่งของผม และเอาแหนบสำหรับถอนอะไรก็ไม่ทราบ มาถอนขนตาตอนปลาย ๆ ที่ทิ่มแทงเข้าไปโดนลูกกะตา จนเป็นที่รำคาญอยู่ตลอดเวลา จากข้างซ้ายเธอก็ย้ายมาข้างขวา เสร็จพิธีแล้วจึงเอาผ้าเย็นเจี๊ยบ มาโปะหน้าตาพร้อมกับบีบนวดหัวไหล่ทั้งสองข้าง พอไม่ให้ถึงกับระบมแล้วก็กระดกเก้าอี้ขึ้น เป็นอันจบภารกิจที่สมบูรณ์ เมื่อผมรับเงินทอนแล้วก็ส่งเงินให้เธอเป็นพิเศษ สำหรับขจัดความระคายเคืองในดวงตา เธอก็จะปฏิเสธด้วยความเกรงใจเหมือนทุกครั้ง แต่ผมก็ยัดเยียดให้เธอรับ เหมือนทุกครั้งเช่นเดียวกัน

ผมมาตัดผมร้านนี้เป็นเดือนที่สาม หลังจากที่ย้ายมาจากอีกร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางศรีย่าน ซึ่งช่างประจำตัวคนนั้นเป็นผู้ชาย ผมบนศีรษะหงอกขาวโพลนไปทั้งหัว แต่อายุน้อยกว่าผมหลายปี เมื่อแรกได้คุยกันแล้วเขาคุยว่าเขาเสียแต่ผมหงอก อย่างอื่นดีหมดฟันก็ดี ผมจึงถามว่าสายตาดีไหม เขาบอกว่าแจ๋วมากเลยคุณลุง มองไกลหรืออ่านหนังสือก็ไม่ต้องสวมแว่น ผมก็เลยบอกให้ลองถอนขนตาที่มันเกเรของผมออก เขาก็พยายามจะถอนด้วยตาเปล่า แต่ไม่ค่อยเรียบร้อยเพราะกลับบ้านแล้วก็ยังเคืองตาอยู่ มาพักหลังจึงต้องใช้แว่นขยายที่ช่างซ่อมนาฬิกาใช้ เวลาเปิดฝาหลังนาฬิกาดูเครื่องใน กว่าจะถอนได้แต่ละเส้นก็ประดักประเดิดมาก พอดีร้านนั้นขึ้นราคาค่าตัดผมขึ้นไปอีก ผมจึงถือโอกาสแว่บมาตัดร้านใหม่นี้แทน เพราะอายุน้อยกว่า มือก็นิ่งแถมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วย

เมื่อออกมายืนอยู่หน้าร้านแล้ว ก็เพ่งพินิจพิจารณาในดวงจิต ว่าจะสัญจรไปทางไหนดี เวลาก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว ควรจะหาอะไรรองท้องเสียก่อนดีกว่า จึงตัดสินใจเดินไปตามทางเท้ามุ่งหน้าไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวในตรอกวัดราชาธิวาสซึ่งอยู่ไม่ไกล หลังจากกินเกี้ยมอี๋น้ำประกอบเบียร์ตัวใหญ่กระป๋องหนึ่งแล้ว ความคิดก็ตกผลึกว่าขึ้นรถไฟฟ้าไปที่ท่าสาทร แล้วลงเรือด่วนชมวิวตามลำน้ำเจ้าพระยาเวลาที่น้ำเต็มตลิ่งท่ามกลางลมหนาวพัดแผ่ว ๆ จะดีกว่า ทริปนี้ผมเคยไปเสมอเมื่อช่วงทศวรรษแรก ของชีวิตหลังเกษียณ จึงขึ้นรถปรับอากาศสาย ๑๖ ไปลงที่แยกมาบุญครองเพื่อขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีสยาม

บนรถแอร์คันที่ผมนั่งมีหญิงวัยเลยกลางคน นั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างหน้าผม กับชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ทางเก้าอี้เดี่ยวข้างซ้ายของผม เมื่อเวลารถจอดป้ายจะลง เห็นเร่ไปสอบถามเส้นทางไปไหนสักอย่างกับคนขับรถ ซึ่งเขาตอบด้วยเสียงอันดังได้ยินไปทั่วทั้งคันว่า เดินย้อนไปทางโน้นครับใกล้นิดเดียว ฝ่ายผู้ชายก็พยักหน้ากับฝ่ายหญิง เป็นทำนองว่าเขาก็จะไปด้วย เมื่อผมลงจากรถแล้วผมจึงเดินตามชายหญิงต่างวัยที่จะไปทางเดียวกันนั้น ด้วยความอยากรู้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ว่าเขาจะไปไหนกัน เพราะดูเหมือนเขาจะมาจากที่ต่างกัน และไม่ได้พูดกันมาเลยตลอดทาง

ทั้งสองพากันเดินขึ้นสะพานลอย ใกล้ ๆ สี่แยกไฟแดง แล้วก็เลี้ยวไปตามทางที่ทอดยาวไปจนถึงต้นทางรถไฟฟ้าสายนี้ เวลานั้นมีคนเดินไปในทิศทางเดียวกันอีกหลายคน และดูเหมือนจะหนาแน่นขึ้นทุกที มองดูลงมาบนทางเท้าข้างล่าง ยิ่งมีผู้คนเบียดเสียดกันมากขึ้น บนทางเท้าริมถนนจะเป็นร้าน แบกะดิน ขายเสื้อยืดคอปกคอกลมและแจ็กเก็ต หมวก ผ้าพันคอ ผ้าโพกศรีษะ หลายแบบหลายชนิด แต่สีเดียวกันทั้งหมด คล้ายกับจะไปเชียร์กีฬาฟุตบอลของอังกฤษ ทีมลิเวอร์พูล หรือแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ดวลแข้งกันอย่างนั้น

ผมลงบันไดสะพานลอยเมื่อถึงตัวสถานีต้นทางของรถไฟฟ้า ก็เจอประตูทางเข้าสนามกีฬาแห่งชาติ ที่กำลังจะเปิดอีกช่องทางหนึ่ง เพราะช่องทางแรกไม่พอระบายคน ผมนึกอยากจะเข้าไปดูภายในสนาม แต่เมื่อเห็นมีประตูแสตนเลทแคบ ๆ ที่ให้คนเดินผ่านเพื่อตรวจวัตถุระเบิด จึงต้องชะงักและฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เวลานี้มีแต่คนเดินเข้าทั้งนั้น ถ้าผมอยากจะออกผมจะหาประตูออกได้ทางไหน

ผมจึงเดินกลับมาขึ้นบันไดสถานี โดยสวนกับผู้คนมากมายอย่างเดียวดาย ไม่มีคนเดินข้างหน้าและตามหลังมาเลย เมื่อซื้อตั๋วโดยสารและขึ้นบันไดเลื่อนไปบนชานชลา ก็มีรถไฟฟ้าแล่นมาจอดพอดี ซึ่งเป็นรถว่างทั้งคันผมจึงเลือกที่นั่งได้อย่างสบาย อีกเพียงสิบนาทีก็ถึงที่หมายปลายทางสถานีสะพานตากสิน ผมออกจากตัวรถเดินไปทางปลายสุดของชานชลา เพื่อดูว่าเส้นทางที่ต่อทอดข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางฝั่งธนบุรีนั้น ได้วางรางไว้เรียบร้อยแล้ว อีกไม่นานเราคงจะได้นั่งรถไฟฟ้าไปถึงท่าพระ หรือบางแค หรือมหาชัย ในสมัยของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่นี้เป็นแน่แท้

ผมลงจากสถานีไปรอเรือด่วนที่ท่าน้ำสาทรอยู่ไม่นาน ก็ได้ลงไปนั่งในเรือด่วนลำใหญ่โตโอ่โถง มีผู้โดยสารไม่ถึงครึ่งลำ เพราะเป็นเรือรับฝรั่งไปทัศนาจรทางน้ำ ขึ้นที่ท่าพระอาทิตย์แห่งเดียว ความเย็นที่ได้รับจากแอร์บนรถไฟฟ้า เมื่อมาโดนลมในแม่น้ำพัดเฉื่อยฉิว ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งแจ่มใสขึ้น เรือแล่นไปไม่เร็วนักเพราะน้ำขึ้นสูง เกือบถึงขอบเขื่อนริมแม่น้ำ

ผมปล่อยใจให้ล่องลอยไปตามลำน้ำ ที่เป็นประหนึ่งสายเลือดใหญ่อันสำคัญของประเทศ ที่ผมเกิดมา ดำรงชีวิตอยู่ และอีกไม่นานกระดูกและเศษเถ้าธุลี ก็อาจจะถมจมลงไปอยู่ก้นท้องน้ำสายนี้ ผมอยากมีชีวิตที่สุขสงบ ไม่เร่าร้อนรุนแรง และดำเนินไปอย่างเรื่อยเฉื่อย เช่นเดียวกับสายน้ำในฤดูนี้ตลอดไป ซึ่งคาดว่าคงจะไม่เป็นไปได้ ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เหลืออยู่นี้

ผมเกือบลืมเล่าว่า วันนี้ผมสวมเสื้อเชิร์ตลาย ๆ ราคาริมถนน สีออกจะดำมืด ในขณะที่คนเดินสวนทางกับผม สวมเสื้อสีแดงเกือบทุกคน จนลานตาไปหมด

ผมหวังว่าเขาเหล่านั้น คงจะมีความสุขกับการแสดงในสนามที่ถูกใจ และไม่ดุเดือดเลือดพล่าน เหมือนอย่างที่หลายคนหวาดกลัวกันมาตลอดสัปดาห์ที่แล้ว.

##########




Create Date : 14 ธันวาคม 2551
Last Update : 14 ธันวาคม 2551 8:19:25 น. 0 comments
Counter : 454 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.