Group Blog
 
All Blogs
 
เจ้าเมืองใจอ่อน

เสี้ยวสามก๊ก

เจ้าเมืองใจอ่อน

“ เล่าเซี่ยงชุน “

ท่านผู้อ่านที่รู้จักสามก๊ก ไม่ว่าจะอ่านจากฉบับหลวง หรือฉบับของท่านอื่น ๆ อีกมากมายในภายหลัง โดยเฉพาะฉบับนายทุนของท่านอาจารย์ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช แล้ว ย่อมไม่มีผู้ใดไม่รู้จัก โจโฉ ชายที่ชื่อสั้น ๆ เรียกง่ายจำง่ายนี้เป็นแน่ เฉพาะในฉบับมาตรฐานของท่าน เจ้าพระยาพระคลัง ที่มีความยาวนับพันหน้านั้น โจโฉก็ได้แสดงเสียร่วมครึ่ง แต่ที่เขาสามารถมีชีวิตโลดแล่น ประกอบกรรมทำเวรมาถึงห้าสิบกว่าปีได้นั้น ก็เพราะมีชายคนหนึ่งได้ช่วยชีวิตเขา ให้รอดพ้นจากความตายตั้งแต่ยังหนุ่มแน่น ไม่มีชื่อเสียงเกียรติคุณให้ผู้ใดรู้จัก โดยที่เขาผู้นั้นไม่ได้รับผลตอบแทนแต่ประการใดเลย

บุคคลผู้นั้นชื่อ ตันก๋ง เป็นเจ้าเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งคือเมืองจงพวน ในขณะที่ ลกเอี๋ยงเมืองหลวงกำลังวุ่นวายเรื่องการผลัดเปลี่ยนฮ่องเต้ เขาก็ได้รับประกาศนำจับพร้อมด้วย รูปวาดของอาชญากรตัวสำคัญ ชื่อโจโฉ ซึ่งต้องการให้จับเป็นและส่งตัวไปชำระที่เมืองหลวง จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ แต่ถ้าผู้ใดสมรู้ร่วมคิดให้การช่วยเหลือ ปิดบังซุกซ่อนไว้ จะมีโทษถึงประหารทั้งโคตร

วันหนึ่งมีชาวเมืองจับตัวชายหนุ่มผู้หนึ่งมาส่งให้เจ้าเมือง เพราะหน้าตาเหมือนภาพในประกาศจับนั้น ตันก๋งก็ซักถามว่าตัวนั้นชื่อแซ่ไร ชายผู้นั้นบอกว่า ตนชื่อฮ่องอูเป็นพ่อค้าเที่ยวค้าขาย แต่ตันก๋งเพ่งพิศดูแล้วน่าเชื่อว่าจะเป็นผู้ร้ายคนนั้นแน่ จึงว่า

“…….ตัวชื่อโจโฉไฉนจึงว่าชื่อฮ่องอูเล่า ตัวนี้เจรจาไม่จริง วันนี้ค่ำแล้วเอาไปใส่คุกไว้ก่อนเถิด พรุ่งนี้จึงจะบอกส่งขึ้นไปเมืองหลวง……”

ครั้นเวลาเที่ยงคืนตันก๋งจึงให้ไปเอาตัวโจโฉ มาสอบถามอีกว่า

“……..เราได้ยินกิตติศัพท์ว่ามหาอุปราชนั้น มีน้ำใจรักใคร่ท่านอยู่เป็นอันมาก ท่านทำประการใดให้มหาอุปราชขัดเคือง จึงเกิดเหตุหนีมาทั้งนี้……..”

โจโฉกลับตอบว่า

“……..ท่านอุปมาดังนกน้อย เป็นไฉนจึงจะมาล่วงรู้ความคิดพญาครุฑ ซึ่งมีหนังสือตั๋งโต๊มานั้น ท่านจับตัวเราได้แล้ว ก็ให้เร่งส่งขึ้นไปยังเมืองหลวง เอาความชอบเถิด อย่าล่วงถามมาถึงความคิดเราเลย……..”

ตันก๋งได้ฟังดังนั้นก็รู้ว่าเรื่องนี้เป็นความลับ จึงขับคนทั้งปวงออกไปเสียสิ้น แล้วบอกแก่โจโฉว่า

“……..ท่านอย่าดูหมิ่นว่าเราความคิดน้อย ทุกวันนี้ที่เรามาเป็นหัวเมืองจัตวาอยู่นี้เพราะเราขัดสน แลใจนั้นจะคิดหาผู้กล้าหาญ ซึ่งมีสติปัญญาเป็นหลัก จะได้เป็นคู่คิดสืบไป….”

โจโฉได้ยินดังนั้นก็ตอบว่า

“……..แต่ก่อนปู่แลบิดาเราเป็นขุนนางได้กินเบี้ยหวัดอยู่ ครั้งนี้บ้านเมืองเป็นจลาจล เพราะขันทีสิบคนแลตั๋งโต๊ะทำการหยาบช้า ครั้นเราจะนิ่งอยู่มิคิดการก็เหมือนหนึ่งหารู้จัก คุณแผ่นดินไม่ อันเราไปอยู่ด้วยตั๋งโต๊ะนี้ หวังจะล้างมันเสีย ซึ่งทำไม่สมคิดทั้งนี้ ก็เป็นกรรมของเรา แลวิบากของอาณาประชาราษฎรทั้งแผ่นดิน………”

ตันก๋งก็ถามว่าที่หนีตั๋งโต๊ะมานี้จะคิดการสิ่งใด โจโฉบอกว่า

“…….เราจะหนีไปหาบิดาเรา แล้วจะลอบแต่งเป็นหนังสือรับสั่งพระเจ้าเหี้ยนเต้ ไปถึงหัวเมืองทั้งปวงให้ยกทหารมาบรรจบกัน แล้วจะเข้าไปทำการจับตั๋งโต๊ะ ซึ่งศัตรูราชสมบัติฆ่าเสีย…….”

ตันก๋งได้ฟังดังนั้นจึงเข้าไปถอดเครื่องจองจำโจโฉออกเสีย แล้วเชิญให้นั่งบนเก้าอี้และว่า

“……..ซึ่งท่านคิดทั้งนี้เรายินดีด้วย ราษฎรทั้งปวงจะได้อยู่เย็นเป็นสุขก็เพราะสติปัญญาท่าน…….”

โจโฉจึงถามชื่อแซ่ของเจ้าเมือง ซึ่งตันก๋งก็บอกให้ทราบ แล้วพูดว่า

“……..เราเห็นท่านนี้มีความสัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน จึงมีความยินดีด้วย ซึ่งที่ของเราเป็นเจ้าเมืองจงพวนอยู่นี้ เราจะทิ้งเสีย จะไปทำนุบำรุงแผ่นดินด้วยท่าน…….”

แล้วตันก๋งก็จัดหาทรัพย์สิ่งของมีราคา กับกระบี่ให้โจโฉถือเล่มหนึ่ง ตนเองเล่มหนึ่ง และม้าขี่คนละตัว พากันออกจากเมืองไปในกลางคืนนั้นเอง

แต่เมื่อเดินทางมาถึงบ้านของแปะเฉีย ซึ่งโจโฉบอกว่าเป็นเพื่อนของบิดา จนได้เข้าไปพักอาศัยแล้ว โจโฉเกิดความระแวงว่าแปะเฉียจะเล่นไม่ซื่อ จึงฆ่าผู้เฒ่าพร้อมทั้งครอบครัวและบริวาร ลูกเด็กเล็กแดงตายหมดทั้งบ้าน แล้วเดินทางหนีต่อไป

ตันก๋งจึงได้รู้สันดานของโจโฉว่าเป็นคนโหดเหี้ยม ไร้ความเมตตาคิดแต่จะเอาตัวรอดถ่ายเดียว เมื่อถึงเวลานอนตามทาง ตันก๋งจึงปลีกตัวหนีไปแต่ผู้เดียวด้วยความผิดหวังอย่างรุนแรง

ตันก๋งเดินทางมาอยู่ที่เมืองตองกุ๋น พอได้ข่าวว่าโจโฉซึ่งไปเป็นใหญ่เป็นโตอยู่ที่เมืองกุนจิ๋ว ส่งคนมารับบิดาจากเมืองตันลิวให้ไปอยู่ด้วยกัน แต่บิดาถูกปล้นฆ่าชิงทัพย์กลางทาง ในความรับผิดชอบของโตเกี๋ยมเจ้าเมืองชีจิ๋ว ซึ่งเป็นเพื่อนของตันก๋ง และยกทหารมาจะแก้แค้นแทนบิดา ตันก๋งก็อุตส่าห์ขึ้นม้าแต่ผู้เดียว เดินทางทั้งกลางวันกลางคืน จากเมืองตองกุ๋นมาหาโจโฉถึงค่ายหน้าเมืองชีจิ๋ว โจโฉคิดถึงบุญคุณของตันก๋ง จึงยอมให้เข้าพบ และถามว่าที่มาหานี้ด้วยเหตุใด ตันก๋งก็บอกว่า

“………ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านยกทหารมา จะรบโตเกี๋ยม หวังจะแก้แค้นซึ่งบิดาท่านตาย แลโตเกี๋ยมเจ้าเมืองชีจิ๋วนั้นเป็นคนสัตย์ซื่อ อารี จึงให้เตียวคีคุมทหารไปส่งบิดาท่าน ซึ่งเกิดเหตุขึ้นทั้งนี้เพราะเตียวคีเป็นคนโลภ ฆ่าบิดาท่านเสีย เก็ยเอาทรัพย์สิ่งของหนีไปอยู่ป่า โตเกี๋ยมนั้นจะได้คบคิดให้ทำหามิได้ ซึ่งท่านสั่งทหารว่า ถ้าได้เมืองชีจิ๋วแล้วจงฆ่าหญิงชายชาวเมืองเสียให้สิ้นนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าชาวเมืองทั้งปวงหาความผิดมิได้ จะให้ฆ่าเสียนั้นไม่ชอบ ซึ่งข้าพเจ้าว่าทั้งนี้ ขอท่านจงดำริดูเถิด……..”

โจโฉก็สำแดงความเหี้ยมโหดออกมาอีกครั้งหนึ่ง โดยบอกว่า

“….ครั้งเราหนีตั๋งโต๊ะนั้น ท่านยอมไปด้วยเราแล้วทิ้งเราเสีย หนีไปกลางทาง บัดนี้กลับมาหาเรา แลโตเกี๋ยมนั้นคิดเป็นกลอุบายให้ทหารไปส่งบิดาเรา แล้วทำร้ายบิดาเรากับพรรคพวกตายเป็นอันมาก เรายกมาหวังจะแก้แค้นโตเกี๋ยม แลท่านมีหน้ามาห้ามนั้น เราหาฟังไม่…….”

ตันก๋งเห็นโจโฉโกรธ มิรู้ที่จะตอบประการใด จึงลาโจโฉออกมาจากค่าย คงคิดอยู่ในใจว่า ที่บิดาต้องตายครั้งนี้ อาจเป็นผลกรรมที่โจโฉฆ่าแปะเฉีย ตายทั้งครอบครัวก็เป็นได้ แล้วตันก๋งก็ไม่กลับไปเมืองตองกุ๋น แต่บ่ายหน้าไปอาศัยอยู่ที่เมืองตันลิว ซึ่งบิดาของโจโฉจากมานั้นเอง

ตันก๋งนั้นรู้จักกับเตียวเจี๋ยวผู้น้องของเตียวเมาเจ้าเมืองตันลิว ตันก๋งจึงได้รับราชการอยู่กับเตียวเมา และแนะนำเตียวเมาว่า

“…….โจโฉได้เป็นใหญ่อยู่ฝ่ายหัวเมืองตะวันออก มีทหารเป็นอันมาก บัดนี้ ทิ้งเมืองกุนจิ๋วเสีย ยกไปตีเมืองชีจิ๋ว ข้าพเจ้าเห็นว่าเมืองกุนจิ๋วนั้น หาผู้ใดซึ่งมีฝีมือกล้าหาญมิได้ ขอท่านให้ลิโป้ยกกองทัพไปตีเมืองกุนจิ๋ว เห็นจะได้โดยสะดวก แลเมืองตันลิวเป็นฝ่ายตะวันออก ก็จะพ้นอำนาจโจโฉ ถึงจะคิดการใหญ่ไปภายหน้าก้เห็นจะไม่ขัดสน………”

เตียวเมาก็เห็นด้วย จึงจัดทหารให้ลิโป้ อัศวินพเนจรซึ่งมาอาศัยอยู่ที่เมืองเซียงต๋ง ขึ้นอยู่กับเมืองตันลิว ให้ยกไปตีเมืองกุนจิ๋ว และเอาตันก๋งไปเป็นที่ปรึกษาด้วย ลิโป้ก็อาศัยฝีมืออันยอดเยี่ยมของตน ตีได้ปักเอี้ยงและเมืองกุนจิ๋วโดยไม่ยากนัก ตันก๋งกับลิโป้จึงคุ้นเคยกันแต่บัดนั้น

ครั้นโจโฉได้ข่าวว่าเสียเมืองกุนจิ๋ว จึงถอนทหารจากเมืองชีจิ๋วโดยที่ยังมิได้แก้แค้น กลับมารบกับลิโป้ ที่เมืองปักเอี้ยง ตันก๋งก็ออกอุบายให้ลิโป้ชวนเตียนซีเศรษฐีชาวเมืองปักเอี้ยง หลอกให้โจโฉพาทหารเข้าเมือง แล้วล้อมเผาในกลางดึก จนโจโฉพลัดกับทหาร ขับม้าฝ่าเพลิงไปแต่ตัวคนเดียว พอดีสวนกับลิโป้โจโฉก็เอามือบังหน้าไว้ ลิโป้ไม่ทันสังเกตุด้วยความมืด นึกว่าเป็นทหารของตน จึงเอาทวนเคาะศรีษะถามว่าเห็นโจโฉไปทางไหน โจโฉก็เบือนหน้าหนีชี้บอกว่าขี่ม้าเหลืองไปทางโน้น จึงรอดตายไปได้

แต่เมื่อพบกับเตียนอุยนายทหารคนสนิท พากันจะออกประตูเมือง ซึ่งไฟกำลังไหม้อยู่ ขื่อหอรบหลุดตกลงมาทับม้าของโจโฉล้มลงตาย ตัวโจโฉดิ้นหนีออกมาจากกองเพลิงได้ แต่เสื้อผ้าเผ้าผมและหนวดเคราก็ไหม้ไฟ โจโฉจึงเอามือลูบหนวดและผมให้ไฟดับ แล้วฉีกเสื้อทิ้งเสีย จึงได้รอดชีวิตมาอีกครั้งหนึ่ง

ตันก๋งนั้นเป็นที่ปรึกษาของลิโป้มาอีกนาน จนแย่งเมืองชีจิ๋วจากเล่าปี่ได้ แต่ถูกโจโฉหวนกลับมาตีแตก ต้องหนีไปจนมุมอยู่ที่เมืองแห้ฝือ และถูกลิ่วล้อทรยศจับตัวไปให้โจโฉประหารชีวิตเสีย ตันก๋งพยายามจะหนีแต่ไม่พ้น ถูกจับตัวมาให้โจโฉจนได้

โจโฉยังคิดถึงบุญคุณของตันก๋งอยู่ อยากจะเอาตัวไว้จึงพยายามเกลี้ยกล่อม แต่ตันก๋งไม่ยินดีด้วย บอกว่า

“……..ตัวกูบัดนี้ถึงที่ตายอยู่แล้ว มึงจะมาซักไซ้ถามเอาเนื้อความสิ่งใดอีกเล่า…”

โจโฉก็ยังไม่โกรธแกล้งถามว่า ซึ่งว่านี้ก็ชอบอยู่แล้ว แต่มารดากับภรรยานั้น จะคิดประการใด ตันก๋งก็คิดอาลัยมารดากับภรรยา จึงยอมอ่อนข้อบอกแก่โจโฉว่า

“…….อันธรรมดาชาติทหารจะตั้งตัวเป็นใหญ่ ถึงจะจับข้าศึกได้ก็ไม่ทำอันตราย แก่บิดามารดาแลบุตรภรรยา ผู้ใดทำผิดก็ทำโทษแต่ผู้นั้น บัดนี้ตัวเราทำผิดถึงที่ตายอยู่แล้ว ก็มิได้อาลัยแก่ชีวิต เราจะขอฝากมารดากับภรรยา มหาอุปราชจงกรุณาเลี้ยงดูไว้ด้วย…….”

โจโฉยังไม่ทันจะตอบประการใด ตันก๋งก็เดินลงไปจากหอรบจะให้ทหารฟันคอเสีย โจโฉให้ทหารยุดตัวไว้ตันก๋งก็มิได้ฟัง โจโฉก็ใจอ่อนมีความสงสาร เดินร้องไห้ตามหลังไปแล้วว่า

“……..ตัวท่านมิพอใจอยู่แล้วก็ตามทีเถิด อันมารดาแลภรรยาของท่านนั้น อย่าเป็นกังวลวิตกเลย เราจะเลี้ยงไว้ให้เป็นปกติ…….”

ในขณะนั้นตันก๋งจะคิดอย่างไรคงไม่มีผู้ใดล่วงรู้ แต่เมื่อออกมานอกประตูเมือง ก็เร่งให้ทหารลงดาบ ทหารก็ฟันตันก๋งตายตามความปรารถนา โจโฉจึงให้เอาศพไปแต่งการฝังไว้ แล้วคุมตัวมารดากับภรรยาตันก๋งไปเลี้ยงไว้ที่เมืองฮูโต๋ มิให้ผู้ใดทำอันตรายได้

ชีวิตของตันก๋ง ซึ่งแตกต่างกับโจโฉราวฟ้าและดิน ก็ถึงกาลอวสานลง ด้วยน้ำมือของผู้ที่ตนได้ช่วยชีวิตมานั้นเอง ซึ่งจะเป็นแบบอย่างหรือบทเรียนประการใดนั้น ผู้น้อยมิบังอาจที่จะชี้นำ

แต่อย่างน้อยก็จะได้เห็นพฤติกรรม ของผู้ที่รักษาแต่ตัวรอด กับผู้ที่สัตย์ซื่อต่ออุดมคติของตนเอง ซึ่งแตกต่างกันได้ เป็นอย่างดี.

#############



Create Date : 14 กรกฎาคม 2559
Last Update : 14 กรกฎาคม 2559 6:58:45 น. 0 comments
Counter : 476 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.