Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๑๖ จุดจบของคนชั่ว

คนชั่วแผ่นดินจิ้น

ตอนที่ ๑๖ จุดจบของคนชั่ว

“ เล่าเซี่ยงชุน “

ฝ่าย สุมาก๊วง เจ้าเมืองแซจิว ได้ทราบว่าสุมาลุนกับซุนซิว ถอดพระเจ้าเฮาฮุยเต้ ออกเสียจากราชสมบัติ เนรเทศให้ไปอยู่ตำบลกิมหยง และสุมาลุนก็ตั้งตัวเป็นฮ่องเต้ ให้ซุนซิวเป็น ผู้สำเร็จราชการ ก็มีความโกรธนัก จึงคิดว่าสุมาลุนนี้แต่ก่อนก็นึกว่าจะเป็นคนดี มีกตัญญูต่อ แผ่นดิน ตนจึงได้เข้าไปช่วยกำจัดนางเกียสี หมายจะให้บ้านเมืองเป็นสุข แล้วสุมาลุนก็ได้เป็นผู้สำเร็จราชการ ว่าที่มหาอุปราชขึ้น แล้วก็เพิกเฉยเสียจะได้เห็นบุญคุณตน ที่ได้อุปถัมภ์ช่วยจัดแจงให้จนได้ดีนั้นก็หาไม่ ถึงกระนั้นก็ตามทีเถิด กลับเป็นขบถชิงเอาราชสมบัติมีความผิดมาก

สุมาก๊วงจึงให้หาเฮงหงีเข้ามาปรึกษาว่า เดี๋ยวนี้สุมาลุนเป็นขบถ เราจะคิดกำจัดเสีย ท่านจะเห็นประการใด เฮงหงีก็ว่า

“…….ซึ่งท่านคิดนี้ก็ชอบแล้ว แต่เป็นการใหญ่สำคัญอยู่ กำลังไพร่พลทหารของเรายังน้อยนัก จะต้องมีหนังสือบอกข้อความไปถึงเชื้อพระวงศ์ และเจ้าเมืองซึ่งชอบอัชฌาสัยกับท่านให้มาช่วยจึงจะได้ ถ้าแม้นกำจัดสุมาลุนกับซุนซิวได้แล้ว จงไปเชิญพระเจ้าเฮาฮุยเต้ให้กลับเข้ามาครองราชสมบัติดังเก่า จึงจะเป็นคนมีกตัญญู ตัวท่านจะได้มีชื่อเสียง……”

สุมาก๊วงจึงทำหนังสือขึ้นหกฉบับเนื้อความเดียวกันให้ม้าใช้ถือแยกไปถึง สุมาโงว เจ้าเมืองฮอกัน สุมาเท็ก เจ้าเมืองเซงโต สุมาหงี เจ้าเมืองเซียงซัน สุมาอิ๋ม เจ้าเมืองเล็กเอีย และ เล่าง่วนไฮ้ ซึ่งไปตั้งขัดทัพ อยู่ปลายแดนต่อเมืองกิมหยง กับ เล็กหมุย ซึ่งตั้งตัวเป็นพระเจ้า ซินหงวนฮ่องเต้ ผู้ครองแผ่นดินเฮงโนก๊ก แจ้งความเรื่องสุมาลุนกับซุนซิวเป็นขบถ ขอให้ช่วยยก กองทัพไปกำจัดเสียให้จงได้ เมื่อทุกคนได้ทราบความแล้ว จึงทำหนังสือตอบมาว่า ถ้าจะยกกองทัพไปเมื่อไร ก็ให้มีกำหนดนัดมาเถิด จะได้ยกมาช่วยพร้อมกัน

เมื่อถึงกำหนดนัดเจ้าเมืองทั้งหลายต่างก็ยกพล เมืองละยี่สิบหมื่นไปรวมกันที่เมืองแซจิว เว้นแต่เล่าง่วนไฮ้ กับพระเจ้าซินหงวน ให้นายทหารคุมพลมา สุมาก๊วงก็ให้สุมาหงีเป็นทัพหน้า ให้สุมาอิ้มไปรักษาพระเจ้าเฮาฮุยเต้ที่ตำบลกิมหยง ให้สุมาโงวเป็นกองลำเลียง ส่วนตนกับสุมาเท็กคุมทหารคนละยี่สิบหมื่น เป็นทัพหลวงยกไปตีเมืองลกเอี๋ยงนครหลวง

ฝ่ายม้าใช้กองสอดแนมข่าวราชการ ครั้นรู้ว่ากองทัพยกมาเป็นอันมาก จึงรีบเอาเนื้อความไปบอกเจ้าพนักงาน ให้แจ้งแก่สุมาลุนเจ้าแผ่นดินให้ทราบทุกประการ สุมาลุนก็ปรึกษากับซุนซิวเตรียมการต่อสู้ทำศึกต่อไป

ในการต่อสู้กู้แผ่นดินครั้งนี้ ผลัดกันแพ้ชนะหลายครั้ง สุดท้ายกองทัพของเมืองหลวงแตกพ่าย นายทหารเอกตายในที่รบสี่คน เตียฮอแม่ทัพใหญ่หนีรอดไปได้ ซุนหวยบุตรซุนซิวถูกจับตัวเป็นเชลย กองทัพฝ่ายหัวเมืองก็ล้อมเมืองหลวงไว้ สุมาลุนกับซุนซิวก็เกณฑ์ทหารรักษาหน้าที่เชิงเทินไว้เข้มแข็ง แต่บรรดาขุนนางที่ไม่เห็นด้วย กับการที่สุมาลุนถอดฮ่องเต้ครั้งก่อน เป็นไส้ศึก

ค่ำวันหนึ่งเวลาดึกประมาณสองยาม ก็จุดเพลิงขึ้นที่ยุ้งข้าวบ้านซุนซิว แล้วจุดพลุขึ้นเป็นสำคัญ ทหารที่เป็นพวกไส้ศึกก็เปิดประตูเมืองด้านตะวันออกเฉียงใต้ ให้ทหารของสุมาก๊วงยกเข้าเมืองได้ ไล่ฆ่าฟันทหารในเมืองหลวง แตกตื่นล้มตายลงเป็นอันมาก ในที่สุดก็ยึดเมืองหลวงได้ สุมาลุนกับซุนซิวก็ถูกจับตัวไว้ทั้งคู่

ครั้นเวลารุ่งเช้า สุมาก๊วงออกที่ประชุมนายทัพนายกอง ขุนนางที่เป็นไส้ศึก ก็เอาตัวสุมาลุนกับซุนซิว ใส่กรงเหล็กมามอบให้ สุมาก๊วงก็ถามสุมาลุนว่า

“…….แต่เดิมเราก็เห็นว่าท่านเป็นคนดี มีกตัญญูต่อแผ่นดิน จึงได้ช่วยคิดการกำจัดนางเกียสีเสีย เหตุใดภายหลังมาเป็นคนทรยศ ขบถต่อพระเจ้าแผ่นดินชิงเอาราชสมบัติเล่า…”

สุมาลุนตอบก็ว่า

“…….การอันนี้ข้าพเจ้าจะไดคิดอ่านหามิได้ ซุนซิวคิดเองทั้งนั้น…..”

เมื่อสุมาก๊วงถามซุนซิว ก็ตอบว่า

“…….ข้าพเจ้าเป็นบ่าวสุมาลุน ต้องทำนุบำรุงเจ้านายไปตามสติกำลัง เมื่อไม่ตลอดไปได้ก็ต้องจนใจอยู่ ธรรมดาเป็นบ่าวแล้วก็ต้องมีความกตัญญูต่อเจ้านาย ซึ่งข้าพเจ้าทำการทั้งนี้ ก็ปรารถนาจะให้สุมาลุนผู้เป็นเจ้านายได้ดีมียศขึ้น ความข้อนี้มีด้วยกันทุกคน ถ้าเป็นบ่าว ท่านผู้ใดแล้ว ก็ต้องอยากให้ท่านผู้นั้นเป็นใหญ่ ข้าพเจ้าทำทั้งนี้จะผิดชอบประการใด แล้วแต่จะโปรด…….”

สุมาก๊วงจึงว่า

“…….ซึ่งเจ้าจงรักภักดีต่อเจ้านาย ด้วยความกตัญญูนั้นก็ชอบดอก แต่ผู้ซึ่งแสวงหาลาภและยศ ให้แก่เจ้านายของตัวด้วยการไม่ยุติธรรมนั้น จะเรียกว่ามีความกตัญญูด้วยหรือ จะเป็นคนอกตัญญูต่อเจ้านายของตัวเสียอีก เหมือนหนึ่งเจ้าคิดอ่านทำการใหญ่ ให้สุมาลุนเป็นเจ้าแผ่นดินขึ้นดังนี้ แต่ล้วนความทุจริตทั้งนั้น จะเรียกว่ากตัญญูอย่างไรได้ ถ้าแสวงหาลาภยศให้แก่เจ้านายนั้น ก็ย่อมหาแต่การที่ประกอบด้วยยุติธรรม จึงจะเรียกว่าคนดีมีกตัญญูต่อเจ้านาย…..”

ซุนซิวได้ฟังดังนั้นก็นิ่งอยู่ มิรู้จะโต้ตอบประการใด เพราะสิ่งใดที่นางเกียสี และฮ่องเต้ หรือสุมาลุนได้ทำมาแล้วนั้น ตนก็มีส่วนรู้เห็นอยู่ด้วยทุกเรื่อง

สุมาก๊วงจึงสั่งให้เอาสุมาลุนไปขังไว้ แล้วให้คนเที่ยวเป่าร้องตามเจ้านายขุนนางและราษฎรทั้งปวงว่า ซึ่งซุนซิวทำข่มเหงแก่ผู้ใดให้ได้ความเดือดร้อนบ้าง จงพากันไปด่าว่าเฆี่ยนตีเอาตามชอบใจ ให้สมกับที่ซุนซิวทำให้เจ็บแค้นนั้นเถิด ผู้คนที่เคยถูกซุนซิวข่มเหงรังแก ก็พากันมาทุบตีด่าว่าเยาะเย้ยต่าง ๆ

ครั้นสุมาก๊วงจัดการบ้านเมืองเรียบร้อย ตกแต่งพระราชวังข้างหน้าข้างในเสร็จแล้ว จึงสั่งให้ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อย จัดแจงไพร่พลทหารเป็นกระบวนแห่ นำราชรถสำหรับกษัตริย์พร้อมด้วยเครื่องสูง ไปรับพระเจ้าเฮาฮุยเต้ให้เสด็จกลับเข้ามาเมืองหลวง และให้สุมาอิ้มซึ่งตั้งทัพล้อมวงรักษาฮ่องเต้อยู่นั้น จัดขบวนทหารพิทักษ์รักษาฮ่องเต้ แห่แหนกลับคืนนครหลวงด้วย

พระเจ้าเฮาฮุยเต้ก็มีพระทัยยินดี เสด็จขึ้นสู่ราชรถพร้อมด้วยมเหสีและนางสนม ออกจากตำบลกิมหยง เสด็จรอนแรมมาตามทาง ซึ่งมีที่ประทับพักทุกระยะยี่สิบลี้ จนถึงลกเอี๋ยงเมืองหลวง ราษฎรและและขุนนางทั้งปวงก็ตกแต่งโต๊ะคำนับรับเสด็จ ตามวิถีทางหลวงจนถึงประตูพระราชวัง

ครั้นราชรถถึงที่ประทับ สุมาก๊วงก็เชิญเสด็จพระเจ้าเฮาฮุยเต้ ขึ้นบนพระที่นั่งสำหรับกษัตริย์ ถวายราชสมบัติให้เป็นพระเจ้าแผ่นดินต่อไป

ขุนนางเก่าประมาณแปดสิบคน ที่จำใจต้องรับราชการอยู่กับสุมาลุน ต่างก็มัดตัวเข้ามาเฝ้าทุกคน แล้วกราบทูลว่า พวกตนทั้งหลายมีข้อผิดใหญ่ ด้วยเข้าทำราชการในสุมาลุน ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรด ฮ่องเต้ก็รับสั่งให้แก้มัดออกแล้วตรัสว่า

“…….ท่านทั้งปวงเหล่านี้ ใช่จะมีความยินดีเต็มใจทำราชการ ด้วยสุมาลุนนั้นหามิได้ แต่เป็นการจำใจเราก็ย่อมรู้อยู่ อย่าทุกข์ร้อนตกใจไปเลย เราจะชุบเลี้ยงไว้ให้รับราชการตามตำแหน่งซึ่งได้เคยทำมาแต่ก่อน……”

แล้วฮ่องเต้ก็ตรัสต่อไปว่า การครั้งนี้สุมาก๊วงกับสุมาเท็กสุมาโงวสุมาอิ้ม ทำนุบำรุงเจ้านาย ช่วยกู้แผ่นดินไว้มีความชอบมากนัก เปรียบเหมือนเมื่อครั้งแผ่นดินสามก๊ก สุมาอี้ สุมาสู สุมาเจียว และสุมาเอี๋ยน บรรพบุรุษของพระองค์ ได้ทำนุบำรุงเชื้อพระวงศ์พระเจ้าโจผี สืบมาได้หลายชั่ว ตรัสแล้วจึงรับสั่งตั้งสุมาก๊วงเป็นที่มหาอุปราช สุมาเท็กเป็นผู้สำเร็จราชการฝ่ายขวา สุมาโงวสำเร็จราชการฝ่ายซ้าย สุมาอิ้มเป็นเจ้าผู้ใหญ่ฝ่ายพลเรือน แล้วพระราชทานรางวัลแก่ ขุนนางและทหารผู้ใหญ่ผู้น้อย ที่มีความชอบตามสมควร

สุมาก๊วงในตำแหน่งมหาอุปราช จึงให้เอาตัวสุมาลุน ซุนซิว ซุนหวย มาถวายฮ่องเต้แล้วกราบทูลว่าคนเหล่านี้จะโปรดประการใด พระเจ้าเฮาฮุยเต้ก็ตรัสว่าท่านทั้งปวงจงปรึกษาโทษดู ตามพระราชกำหนดกฎหมายสำหรับแผ่นดิน เมื่อเห็นควรประการใดก็ตามแต่ท่านทั้งปวงเถิด สุมาก๊วงก็กราบทูลว่า

“……..ผู้ซึ่งเป็นขบถดังนี้แล้ว ก็ต้องตายตลอดถึงบุตรภรรยาและหลานเหลน แต่ซุนหวยนั้นเป็นสามีนางสุมาต๊กกงจู๊ ผู้เป็นพระราชธิดา จะโปรดประการใด…….”

ฮ่องเต้ก็ตรัสว่า

“…….แต่เดิมเมื่อซุนซิวมาขอ เราก็ไม่เต็มใจแต่ขัดไม่ได้จึงต้องให้ ท่านจงหาตัวนางสุมาต๊กกงจู๊มาถามดูเถิดเขาจะว่าอย่างไร ถ้ารักผัวมากกว่าพ่อจะขอชีวิตไว้ก็ตามใจ……”

สุมาก๊วงจึงให้มาตัวนางสุมาต๊กกงจู๊ มาถามหน้าที่นั่งตามรับสั่ง นางก็ว่า

“…..แต่เดิมข้าพเจ้าจะได้รู้จักรักใคร่ซุนหวยก็หามิได้ แต่โปรดพระราชทานให้แก่เขา ข้าพเจ้าเป็นบุตรก็ต้องยอมไปเป็นภรรยาซุนหวยตามรับสั่ง มาบัดนี้มีเหตุขึ้นแล้วก็ต้องเป็นไปตามการ ซึ่งข้าพเจ้าจะกลับใจสมัครรักใคร่ ห้ามหวงขอร้องเอาไว้ ให้ล่วงพระราชกำหนดกฎหมายนั้น หามิได้ จิตเดิมของข้าพเจ้าอย่างไรก็เสมออยู่อย่างนั้น ขอท่านจัดแจงการให้ถูกต้องตามธรรมเนียมแผ่นดินเถิด…….”

ฮ่องเต้ได้ฟังดังนั้นจึงตรัสว่า ถ้ากระนั้นก็ให้เอาไปประหารชีวิตเสีย สุมาก๊วงจึงให้เอาตัวสุมาลุนกับซุนซิว ทั้งบุตรภรรยาพวกพ้องและซุนหวยไปประหารชีวิต ทหารก็ตัดศรีษะ สุมาลุนกับซุนหวย แล้วเอาตัวซุนซิวออกมัดประจานไว้ ขุนนางและราษฎรที่เจ็บแค้นซุนซิว ก็พากันมาด่าว่าเตะถีบเฆี่ยนตี บางคนเอามีดเชือดเนื้อเถือหนัง ทำถึงสาหัสจนขาดใจตายไป ตามกรรมของตน

แล้วสุมาก๊วงก็กราบทูลพระเจ้าเฮาฮุยเต้ว่า ได้ให้เจ้าพนักงานเอาตัวพวกขบถไปประหารชีวิต กับทั้งทั้งสมัครพรรคพวก บุตรภรรยาหลานเหลนสิ้นแล้ว ฮ่องเต้จึงรับสั่งถามว่า ที่เอาไปฆ่าเสียนั้นจะเป็นคนสักเท่าไร ที่สู้รบกันนั้นตายสักเท่าไร

สุมาก๊วงก็ให้เจ้าพนักงานตรวจดูตามบัญชี ตั้งแต่หัวหน้าขบถ ขุนนางตัวนายที่ร่วมคิด บุตรภรรยาญาติพี่น้อง และสมัครพรรคพวกที่ถูกประหาร มีจำนวนทั้งสิ้น เก้าร้อยเก้าสิบสามคน ที่สู้รบฆ่าฟันกันตายทั้งสองฝ่ายนั้น ได้สิบหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยสิบสองคน รวมเป็นคนตายครั้งนี้ สิบหมื่นสองพันหนึ่งร้อยห้าคน ฮ่องเต้ทรงทราบแล้วก็สลดพระทัยนัก

พระเจ้าเฮาฮุยเต้ก็ได้ครองราชสมบัติต่อไปอีกหลายปี กว่าจะสิ้นสุดรัชกาลของพระองค์ .

##########




Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2552 5:49:46 น. 4 comments
Counter : 776 Pageviews.

 
สวัสดีครับ

คนชั่วแผ่นดินจิ้น จบแค่นี้แล้วเหรอครับ


โดย: CrazyMc IP: 61.7.173.220 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:24:38 น.  

 
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ความจริงยังมีอีกยาวมาก แต่ผมเห็นว่าพอสมควรสำหรับสุมาเอี๋ยนแล้ว
จึงเอา "ลูกหลานแซ่เล่า" มาต่ออีกนิดหน่อยให้สมบูรณ์ขึ้น
ลองอ่านต่อไปอักนิดเดียวก้จบครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:35:26 น.  

 
คนชั่วจบแค่นี้แล้วเหรอ..
มันหน้าจะยาวกว่านี้อ่ะ


โดย: หนึ่ง IP: 124.121.142.126 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:50:35 น.  

 
ผมตัดตอนเอามาเฉพาะที่ใกล้เคียงกับยุคสามก๊กเท่านั้นครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:21:46:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.