Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๖ เจ้าเมืองตกอับ

ยอดคนแผ่นดินเหม็ง

ตอนที่ ๖ เจ้าเมืองตกอับ

" เล่าเซี่ยงชุน "

หลังจากที่ ไฮ้สุย ได้รับแต่งตั้งให้เป็น คิมซือจีนสือ มีตำแหน่งเฝ้าโดยการกราบทูลของ นางเตียกุยฮุย ได้ไม่นาน เจ้าเมืองตุนจิวก็ถึงแก่กรรม พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ จึงมีรับสั่งให้ไฮ้สุยออกไปเป็นเจ้าเมืองตุนจิว และพระราชทานเครื่องยศกับตราตั้งให้ ไฮ้สุยก็ถวายบังคมลา กลับมาจัดสิ่งของที่บ้าน แล้วก็ออกเดินทางจากเมืองหลวง ไปกับ ไฮ้อัน ไฮ้หยง สองคนสนิท และทหารประมาณสองร้อยคน

ฝ่าย เงียมซง ขุนนางกังฉิน ครั้นต้องถอดเป็นไพร่สามเดือน ในคดีซึ่ง เงียมยี่ คนใช้ของตนไปฉ้อโกง เตียเหลาหยี บิดาของนางเตียกุยฮุย ครบกำหนดแล้ว ได้กลับมาเป็นขุนนางดังเก่า และมีความอาฆาตไฮ้สุยเป็นอันมาก ที่เป็นพยานให้ตนต้องแพ้คดีความ ตั้งแต่นั้นเงียมซงก็คิดประจบประแจงขุนนางฝ่ายบู๊ เอาไว้เป็นพวกพ้องมากขึ้น แม้นหัวเมืองไหนว่างเปล่าไม่มีเจ้าเมือง ถ้าผู้ใดอยากเป็นเจ้าเมือง มาเดินเสียเงินทองแก่เงียมซง ก็กราบทูลให้ได้เป็นเจ้าเมือง แต่นั้นมา เงียมซงก็มีพวกพ้องมากขึ้น

เมื่อรู้ข่าวว่าไฮ้สุยเดินทางไปเป็นเจ้าเมืองตุนจิว เงียมซงก็ยิ่งมีความอิจฉามากขึ้น คิดจะทำร้ายไฮ้สุย จึงมีหนังสือลับไปถึงหัวเมืองรายทาง ที่เป็นพวกพ้องของตน มีความว่า

"....ไฮ้สุยเป็นศัตรูต่อเรา บัดนี้มีรับสั่งให้ออกมาเป็นเจ้าเมืองตุนจิว ไฮ้สุยเป็นคนอนาถาไม่มีพวกพ้อง ได้แต่บ่าวติดตัวมาสองคน กับทหารที่เกณฑ์มาส่งสอง ร้อยคนเท่านั้น ถ้ารู้ว่าไฮ้สุยมาแล้วท่านจงเกณฑ์ทหารไปคอยซุ่มสกัดอยู่ตามทาง ทำเป็นกองโจรจับไฮ้สุยฆ่าเสียให้จงได้ แม้นท่านสงเคราะห์เราในเรื่องนี้สำเร็จแล้ว เราจะสนองคุณให้มาก...."

ครั้นไฮ้สุยกับพวกเดินทางผ่านมาในแดนเมืองกองซินฮู เจ้าเมืองรู้ข่าวคิดจะทำตามที่เงียมซงแจ้งมา แต่ก็เกรงความผิด ครั้นจะไม่ทำก็เกรงเงียมซงจะโกรธ จึงเรียกคนสนิทที่ไว้ใจได้มาสั่งว่า ที่ตำบลจี้ซังเป็นทางเปลี่ยว มีพวกโจรอยู่ในตำบลนั้นมาก บัดนี้ไฮ้สุยจะออกไปเมืองตุนจิว ต้องผ่านมาทางนี้ จงทำอุบายไปพูดให้พวกโจรรู้ว่า จะมีคนเดินทางมามีเงินทองข้าวของมาก พวกโจรจะได้คอยดักปล้นทรัพย์และทำร้ายแก่ไฮ้สุย แม้นไฮ้สุยไม่ตายหนีไปได้ ความผิดก็จะไม่มีแก่เรา

คนสนิทของเจ้าเมืองกองซินฮู ก็ปลอมเป็นคนตัดฟืนเดินทางไปยังตำบลจี้ซัง และทำอุบายตามที่นายสั่งทุกประการ พวกโจรก็บอกกันให้เตรียมไปสกัดอยู่ต้นทาง พอเวลาเย็น ไฮ้สุย กับพวกผ่านมาถึง กองโจรที่ซุ่มอยู่นั้นก็เข้าโจมตี ทหารที่ตามมาสองร้อยคน ต้านทานไม่ได้ก็พากันหนีไป ไฮ้อันกับไฮ้หยงนั้นเดิมเป็นโจรมาก่อน ก็พาไฮ้สุยหนีเอาตัวรอด แต่ตราตั้งและเครื่องยศ สิ่งของอันใดก็ไม่ได้ไปเลยแต่สักสิ่ง

พวกโจรก็เข้าไปค้นเกวียนที่ไฮ้สุยทิ้งไว้ ก็ไม่เห็นมีอะไร เห็นแต่หีบใบหนึ่งกับเสบียงเล็กน้อย จึงงัดหีบเปิดออกดู ก็มีเงินอยู่สามร้อยตำลึง กับเครื่องยศและตราตั้ง หมวกกางเกงของหลวงพระราชทาน กับหนังสือรับสั่ง เมื่ออ่านดูก็รู้ว่าฮ่องเต้โปรดให้ไฮ้สุยออกมาเป็นเจ้าเมืองตุน จิวก็ตกใจ จึงปรึกษากันว่าแต่แรกเราคิดว่า เป็นพวกพ่อค้ามีข้าวของเงินทองมาก แต่กลับเป็นเจ้าเมือง ความอันนี้ถ้าทราบถึงพระเจ้าแผ่นดิน ก็คงจะยกทัพใหญ่มาปราบพวกเราที่ไหนจะต้านทานได้ เสื้อหมวกและเครื่องยศเหล่านี้เอาไว้ก็ใช้สอยไม่ได้ พากันไปทิ้งไว้ที่เมืองตุนจิวจะดีกว่า ความร้ายก็จะไปตกอยู่ที่เมืองตุนจิว ปรึกษาเห็นพร้อมกันแล้วพวกโจรก็เอาไว้แต่เงินสามร้อยตำลึง ส่วนสิ่งของเครื่องยศและตราตั้งกับหนังสือรับสั่งนั้น เอาใส่หีบแล้วลอบเอาไปทิ้งไว้ในป่า ริมทางเดิน แขวงเมืองตุนจิว แล้วก็พากันกลับไป

ฝ่ายไฮ้สุยกับไฮ้อันและไฮ้หยง พากันหนีไปทางเมืองกองเต๊กกุ๋น เมื่อเข้าไปในเมืองแล้วก็ปรึกษากันว่า บัดนี้โจรก็ตีชิงเอาเครื่องยศและตราตั้งไปหมดแล้ว จะเข้าไปหาเจ้าเมืองบอกว่ามีรับสั่ง โปรดให้ออกมาเป็นเจ้าเมืองตุนจิว ก็ไม่มีอะไรเป็นสำคัญ ครั้นจะบอกว่าพวกโจรชิงเอาไปหมด ที่ไหนเขาจะเชื่อ อนึ่งเจ้าเมืองเล่าก็เป็นพวกพ้องเงียมซง จะเป็นที่อายขายหน้านัก เราซ่อนตัวเสียอย่าให้ใครรู้จักจะดีกว่า ไฮ้อันและไฮ้หยงก็เห็นด้วย จึงเปลี่ยนชื่อแซ่ทั้งสามคน ไฮ้สุยนั้นเปลี่ยนเป็น กี๋จือ

ส่วนทหารที่มากับไฮ้สุยนั้น พวกที่เหลือจากถูกพวกโจรฆ่าตาย บ้างก็หนีกลับไปเมืองหลวง แต่บ้างก็หนีไปเข้าเมืองกองเต๊กกุ๋น เข้าไปหาเจ้าเมืองแจ้งความที่มาส่งไฮ้สุยจะไปเมืองตุน จิว แล้วถูกโจรปล้นให้เจ้าเมืองฟังทุกประการ เจ้าเมืองถามว่าไฮ้สุยเป็นอย่างไร พวกทหารก็ว่าไม่ทราบว่าถูกฆ่าตายหรือหนีไปทางไหน เจ้าเมืองจึงถามต่อไปว่า เมื่อไฮ้สุยมามีครอบครัวมากน้อยสักเท่าไร ทหารว่ามาสามคนบ่าวนายเท่านั้น เครื่องยศและตราตั้งและเสบียงอาหารสิ่งของมีมาบ้างเล็กน้อย พวกโจรก็เก็บเอาไปหมด

เจ้าเมืองกองเต๊กกุ๋นได้ฟังก็มีความยินดี ด้วยเป็นพวกพ้องของเงียมซง และได้รับหนังสือ จากเงียมซงให้หาทางกำจัดไฮ้สุย แต่ยังไม่มีโอกาส จึงให้คนไปเที่ยวสืบได้ความว่า มีคนแปลกหน้าเข้ามาในเมืองสามคน สำนักอยู่ที่โรงเตี๊ยม ก็นึกสงสัยให้คนไปสืบดูอีกทีก็แจ้งว่าเป็น ไฮ้สุยแน่แล้ว ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ ด้วยขณะนั้นมีพวกโจรมาตีชิงเรือพ่อค้า เจ้าเมืองส่งทหารออกไปจับพวกโจรมาได้ ชำระเป็นสัตย์แล้ว เจ้าเมืองเห็นทางที่จะทำร้ายไฮ้สุยได้ จึงส่งคนไปกระซิบพวกโจรให้ซัดถึงกี๋จือ กับพวกอีกสองคน ให้เสมียนจดถ้อยคำไว้ และส่งคนไปจับตัวไฮ้สุยไฮ้อันไฮ้หยงมาใส่คุกไว้ แล้วสั่งนายคุกว่า ตัวผู้ร้ายสามคนที่โจรซัดถึงนั้น ให้อยู่สุดคุกข้างในข้าวปลาอย่าให้กิน

ขณะนั้นมีกรมการผู้หนึ่งชื่อ เลี่ยงหมง เป็นคนตงฉิน รู้ความตลอดแล้วก็มีความสงสารไฮ้สุยว่า ไม่ควรเลยที่เจ้าเมืองจะทำร้ายไฮ้สุยซึ่งไม่มีความผิด ภรรยาจึงว่ามีน้องชายเป็นผู้คุมอยู่ เลี่ยงหมงก็ดีใจขอให้ช่วยไฮ้สุย ภรรยาก็เรียกตัวน้องชายมาพูดจาว่ากล่าวให้ช่วยเหลือ ด้วยไฮ้สุยไเม่มีความผิด น้องชายก็ว่า

"....จะปล่อยเสียก็ได้ ถึงเจ้าเมืองรู้จะทำโทษข้าพเจ้า ก็จะคิดอ่านหนีไปให้พ้นภัย โดยเขาจับตัวข้าพเจ้าได้ จะทำโทษหรือฆ่าฟันประการใด ข้าพเจ้าไม่เสียดายชีวิต แต่ขอให้ ไฮ้สุยพ้นจากความตายก็จัดเอาเป็นดี ด้วยไฮ้สุยคนนี้เป็นคนตงฉิน ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็อาจคุ้มครองคนทั้งปวง ให้มีความสุขไปยืนยาว....."

แล้วน้องภรรยาของเลี่ยงหมง ก็เอาโสมผสมกับข้าวบดให้ละเอียด ทำเป็นแผ่นเหมือนข้าวเกรียบ ครั้นถึงเวรตัวเข้าพอเวลาค่ำ จึงลอบเข้าไปหาไฮ้สุย กระซิบบอกว่า ท่านเป็นคนตงฉินไม่มีความผิด ตนคิดสงสาร จะปล่อยไปให้พ้นภัย แล้วก็ถอดไฮ้สุยไฮ้อันไฮ้หยงออกจากเครื่องจำ และส่งข้าวเกรียบให้คนละหน่อยพอเป็นเสบียง ทั้งสามคนก็มีความยินดีจึงว่า ซึ่งมีความเมตตาให้ชีวิตแก่พวกตน คุณหาที่สุดมิได้ ถ้าไม่ตายคงจะสนองคุณให้ได้ ผู้คุมก็ว่า

"....ตัวท่านเป็นคนตงฉิน ถ้าได้ทำราชการในแผ่นดิน ก็อาจให้คนทั้งปวงมีความสุขทั่วอาณาเขต ไม่ควรจะให้ตายเสีย คนเช่นข้าพเจ้านี้ถึงจะตายเสียสักร้อยหนึ่ง ก็ไม่สู้เสียดายนัก....."

แล้วทั้งสามคนก็คำนับลาแล้วรีบหนีไป ส่วนตัวผู้คุมนั้นก็หนีออกจากเมืองกองเต๊กกุ๋นด้วยเหมือนกัน แต่แยกไปอีกทางหนึ่ง

ครั้นเงียมซงได้ทราบข่าวจากเจ้าเมืองกองซินฮู และเมืองกองเต๊กกุ๋น ว่าไฮ้สุยถูกโจรตีชิง และต้องโทษอยู่ในคุก แต่กลับหนีไปได้ไม่ทราบว่าไปที่แห่งใด และมีทหารที่แตกหนีโจร เข้ามาแจ้งเรื่องให้ขุนนาง นำข้อความนั้นขึ้นกราบทูล ฮ่องเต้จึงตรัสปรึกษาขุนนาง ว่าจะยกกองทัพไปกำจัดพวกโจร เงียมซงก็กราบทูลว่า

".....ธรรมดาที่เปลี่ยวแล้วก็ย่อมจะมีโจรผู้ร้าย ไฮ้สุยไปไม่ระวังตัวถึงโดยสู้รบพวกโจรไม่ได้ ก็ต้องรักษาเครื่องยศตราตั้งไว้อย่าให้เป็นอันตรายจึงจะควร ไม่ควรจะเลินเล่อทิ้งให้โจรแย่งชิงเอาไปได้ ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ แต่ของนิดหนึ่งเท่านี้ยังรักษาไว้ไม่ได้ จะเป็นเจ้าบ้านผ่านเมืองไปอย่างไร....."

พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้จึงต้องนิ่งอยู่

ฝ่าย นางเตียกัวหู มารดา นางเตียเกงฮวย ภรรยาของไฮ้สุย ทราบข่าวว่าฮ่องเต้โปรดให้ไฮ้สุยไปเป็นเจ้าเมืองตุนจิว แต่ถูกโจรตีชิงกลางทาง ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีประการใด คิดถึงบุตรสาวที่ไปอยู่บ้านไฮ้สุย มารดาของไฮ้สุยก็ตายแล้วจึงไปหา เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังทุกประการ แล้วพูดว่ามารดาเห็นเจ้าอยู่ที่นี่แต่ผู้เดียวเปลี่ยวนัก จะรับเจ้ากลับไปอยู่ที่บ้านเดิม นาง เตียเกงฮวยก็ตกใจมีความทุกข์ร้อนเป็นอันมาก จึงเก็บรวบรวมทรัพย์สิ่งของ แล้วให้คนอยู่เฝ้าบ้านไว้ สั่งว่าถ้าไฮ้สุยกลับมาถามถึงนาง จงบอกว่ามารดามารับไปบ้าน อย่าได้ห่วงใยเลย

ฝ่ายไฮ้สุยไฮ้อันและไฮ้หยงนั้น เมื่อหนีไปพ้นแดนเมืองกองเต๊กกุ๋นแล้วก็ปรึกษากันว่าจะไปทางไหนดี ไฮ้อันไฮ้หยงก็ว่าต้องไปเข้าเมืองตุนจิว ด้วยพระเจ้าแผ่นดินโปรดให้ออกมาเป็นเจ้าเมือง ไฮ้สุยว่าเราไม่มีเครื่องยศตราตั้ง และหนังสือรับสั่ง ขุนนางกรมการเขาจะเชื่อฟังหรือ ไฮ้อันไฮ้หยงก็ว่าถ้าเขาไม่เชื่อ เราก็บอกว่าโจรตีชิงเอาไปที่กลางทาง เมื่อเขาไม่เชื่อฟังจึงค่อยคิดต่อไป ไฮ้สุยได้ฟังก็เห็นชอบด้วย จึงพากันเดินมา จนล่วงเข้าแดนเมืองตุนจิว ได้ประมาณห้าลี้ ก็พบหีบใส่เครื่องยศและตราตั้งที่พวกโจรเอามาทิ้งไว้ ก็มีความยินดีนัก เมื่อเข้าไปในเมืองตุนจิว ขุนนาง กรมการรู้ว่าไฮ้สุยออกมาเป็นเจ้าเมือง ต่างออกมารับเชิญเข้าไปในที่ว่าการ ไฮ้สุยก็จัดการกับ บ้านเมืองให้เป็นที่เรียบร้อย ราษฎรก็ได้อยู่เย็นเป็นสุขสบายมาก

เมื่อเงียมซง ขุนนางคู่อาฆาตกับไฮ้สุย ได้ข่าวว่าไฮ้สุยไม่เป็นอันตรายและได้ปกครองเมืองตุนจิว เป็นสุขสบายดีแล้ว จะคิดการร้ายอย่างใดต่อไปอีก ก็คงจะรู้กันในไม่ช้านี้.

##########




Create Date : 11 กันยายน 2551
Last Update : 11 กันยายน 2551 16:38:49 น. 0 comments
Counter : 900 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.