Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๑๕ ฮ่องเต้สิ้นอำนาจ

คนชั่วแผ่นดินจิ้น

ตอนที่ ๑๕ ฮ่องเต้สิ้นอำนาจ

“ เล่าเซี่ยงชุน “

เมื่อสุมาลุนและซุนซิวมีอำนาจเด็ดขาดอยู่ในแผ่นดินนั้น ขุนนางที่เป็นกังฉินก็เข้าประจบประแจง ฝากตัวอยู่กับทั้งสองนั้นเป็นจำนวนมาก ขุนนางที่เป็นตงฉินต่างก็พากันลาออกจากราชการ อพยพยกหนีไปเสียให้ห่างไกลจากเมืองหลวง ส่วนขุนนางและราษฎรที่ขัดเคือง และหมิ่นประมาทซุนซิวมาแต่ก่อนนั้น ที่กลัวอำนาจก็หนีเอาตัวรอด ที่หนีไม่ทันก็ถูกซุนซิวให้ทหารไปจับฆ่าเสียสิ้น

หัวเมืองใหญ่น้อยซึ่งขึ้นแก่เมืองหลวง ถ้าว่างเปล่าไม่มีเจ้าเมืองแล้ว สุมาลุน กับ ซุนซิวก็กราบทูลฮ่องเต้ เอาพวกพ้องตั้งแต่งออกไปเป็นเจ้าเมือง ครั้นอยู่มาพวกนี้ก็มีใจกำเริบคิดตั้งตัวเป็นใหญ่ หัวเมืองใกล้เคียงรู้ความก็บอกเข้ามายังเมืองหลวง สุมาลุนกับซุนซิวก็ไม่นำหนังสือบอกขึ้นกราบทูลฮ่องเต้ ด้วยเป็นพวกพ้องที่ตัวแต่งตั้งออกไป จึงปิดเนื้อความเสีย

ฝ่ายสุมาลุนเห็นว่าซุนซิวได้นางสุมาห้อตงกงจู๊ ผู้เป็นราชธิดาฮ่องเต้มาเป็นบุตรสะใภ้ แล้วเอานางเอียวสีซึ่งเป็นพวกพ้องเข้าไปถวาย ได้เป็นที่ฮองเฮาขึ้น ซุนซิวก็ใกล้ชิดสนิทสนมกับฮ่องเต้ เพราะเกี่ยวดองกันถึงสองฝ่าย นานไปอาจจะเอาใจออกห่าง จึงให้คนใช้ไปเชิญซุนซิวมาว่าจะปรึกษาข้อราชการด้วย เมื่อซุนซิวมาถึงบ้านสุมาลุนก็พูดว่า

“…….ทุกวันนี้เรากับท่านมีบุญวาสนามาก ยกเสียแต่พระเจ้าแผ่นดินแล้วไม่มีผู้ใดเสมอ แต่ก่อนเราก็ตกทุกข์ได้ยากมาด้วยกัน อุตส่าห์เข้าทำราชการจนได้ดี แต่กาลต่อไปข้างหน้านั้น เราตรองไปไม่ตลอด ท่านเห็นอย่างไรบ้าง……”

ซุนซิวก็ว่า

“……ตัวท่านกำลังมีวาสนา จะทำการสิ่งไรก็อาจสำเร็จได้ทุกอย่าง ไม่มีที่กีดขวาง โดยจะคิดเอาราชสมบัติก็จะได้ ด้วยท่านเป็นเชื้อกษัตริย์ ถ้าจะเอาแล้วต้องคิดอ่านเสียโดยเร็ว ด้วยแซ่สุมานั้นยังมีอยู่ข้างนอกหลายคน ข้าพเจ้าคิดเห็นการดังนี้ ท่านจงตรึกตรองดูเถิด……….”

สุมาลุนจึงว่า

“…….ท่านพูดมานี้ชอบแล้ว แต่เห็นว่าพระเจ้าแผ่นดินยังไม่มีข้อผิด เราจะคิดเอาราชสมบัติ ขุนนางทั้งปวงเขาคงไม่ยอม จะเกิดการหยุกหยิกกันขึ้นดอกกระมัง…….”

ซุนซิวก็ว่า

“…….ท่านอย่าวิตก พระเจ้าเฮาฮุยเต้มีความผิดหลายข้อ ถ้าจะกล่าวขึ้นแล้ว ขุนนางเหล่านั้นคงเห็นจริงด้วยเราทั้งสิ้น ข้าพเจ้าจะทำเรื่องราวกล่าวเป็นคำประกาศ ยกข้อผิด พระเจ้าเฮาฮุยเต้ให้ขุนนางรู้ทั่วกัน ถ้าขุนนางผู้ใดไม่เห็นด้วยเราจึงจับตัวฆ่าเสีย……”

เมื่อซุนซิวเอาประกาศโทษของฮ่องเต้มาให้สุมาลุนดู และเห็นชอบด้วยแล้ว จึงเชิญขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวง มากินโต๊ะที่บ้านพร้อมกัน ขณะที่ขุนนางทั้งปวงนั่งกินโต๊ะอยู่นั้น ซุนซิวก็ถือกระบี่เดินเข้ามา เอาประกาศให้ขุนนางทั้งปวงดู ซึ่งมีข้อผิดของฮ่องเต้อยู่หลายประการ สรุปได้ว่า

เดิมพระเจ้าซีโจบู๊ฮ่องเต้ ดำริว่าฮ่องไทจือสุมาซองเป็นคนโฉดเขลา จึงจะเปลี่ยนเป็นสุมาเต๊ก แต่สวรรคตเสียก่อน สุมาซองจึงได้ราชสมบัติเป็นพระเจ้าเฮาฮุยเต้

พระเจ้าเฮาฮุยเต้ไม่เข้าใจขนบธรรมเนียมราชการบ้านเมือง ใครบอกอะไรมิได้ตรึกตรองดูว่าจริงหรือเท็จ สุดแต่ผู้ใดพูดเข้าหูก่อนก็พลอยเห็นด้วย

ฮ่องเต้หลงใหลเชื่อฟังแต่นางเกียสีฮองเฮา แม้จะทำการไม่ดีเที่ยวหาผู้ชายที่ รูปงามไพร่บ้างขุนนางบ้าง เอาเข้ามาหลับนอนในพระราชวัง ก็ไม่รู้บ้างเลย เมื่อเวลาออกว่าราชการ ก็เอานางเกียสีฮองเฮาออกไปว่าด้วย

นางเกียสีฮองเฮายุยงกล่าวโทษยกข้อผิดฮองไทเฮา ผู้เป็นพระราชมารดาให้เป็นโทษต้องถอด แล้วลอบใส่ยาพิษให้กินจนตาย ฮ่องเต้ยอมให้นางทำได้ เพราะปราศจากกตัญญู

นางเกียสีฮองเฮาสั่งให้สุมาอุย ไปฆ่าสุมาเหลียงกับอวยขวย ผู้หาความผิดมิได้ ตายสิ้นทั้งบุตรภรรยา ฮ่องเต้ทราบแล้วก็ไม่ชำระโทษนางเกียสี เพราะเป็นคนอยุติธรรม รักแต่เมียของตัว

นางเกียสีเอาบุตรนางเกียหงอ มาปลอมว่าเป็นราชบุตรก็ไม่รู้เท่า หลงเลี้ยงอยู่หลายปี เพราะเป็นคนโง่งมงาย ปราศจากปัญญา

นางเกียสีฮองเฮาคบคิดกับนางเกียหงอและฮั่นซิว แกล้งเอาความเท็จยุยงให้ถอดฮ่องไทจือ และเนรเทศให้ไปอยู่ตำบลกิมหยง แล้วนางเกียสีก็แอบรับสั่งให้ไปฆ่าเสีย ฮ่องเต้ไม่ได้ชำระ เห็นผิดเป็นชอบ หูเบาใจเบา ปราศจากความเมตตาแก่บุตร

พิเคราะห์ดูแต่มารดาและบุตรอันเป็นที่รักแล้ว ยังทำได้ถึงเพียงนี้ จะป่วยการกล่าวไปใยถึงเจ้านายขุนนางและราษฎรทั้งปวง ซึ่งเป็นผู้อื่นหรือจะไม่ทำให้ยับเยิน ท่านทั้งหลายจะหมายเอาเป็นที่พึ่งอย่างไรได้ ถ้าแม้นฮองเฮาเกลียดชังผู้ใดแล้ว แกล้งยุยงกล่าวโทษเอาเปล่า ๆ เปลือย ๆ ก็คงจะเชื่อฟัง ถ้าขืนให้พระเจ้าเฮาฮุยเต้ครองราชสมบัติต่อไป พระญาติวงศานุวงศ์และขุนนางราษฎร จะมิได้ความเดือดร้อนทั่วทั้งแผ่นดินหรือ

แล้วซุนซิวก็สรุปว่า

“…….เราเห็นว่าพระเจ้าเฮาฮุยเต้ มีความผิดใหญ่หลายข้อ ไม่ควรจะเอาไว้ ต้องให้ออกเสียจากราชสมบัติ ทุกวันนี้ไม่เห็นมีผู้ใดที่จะประกอบด้วยสติปัญญา ใจโอบอ้อมอารีมีความเมตตาแก่ราษฎร เห็นแต่มหาอุปราชผู้เดียว สมควรจะเป็นเจ้าแผ่นดินได้ ขอให้ท่านทั้งปวงตรึกตรองดูเถิด……”

ขุนนางเหล่านั้นได้ฟังซุนซิวว่า ก็ตกใจนิ่งตลึงอยู่ ไม่รู้ที่จะว่าประการใด ด้วยกลัวอำนาจซุนซิว ครั้นตรองไปดูในเรื่องราวก็เห็นจริงทุกข้อ จึงว่าพระเจ้าเฮาฮุยเต้มีความผิดหลายข้อ จริงเหมือนกล่าว จะยกออกเสียจากราชสมบัติ ให้มหาอุปราชเป็นเจ้าแผ่นดินก็สมควรอยู่แล้ว

สุมาลุนได้ฟังดังนั้น จึงแกล้งพูดถ่อมตัวว่า

“…….ตัวเรานี้ใช่จะปรารถนาสมบัติพัสถานนั้นมิได้ แต่จนใจด้วยไม่เห็นผู้ใด ที่จะว่าราชการบ้านเมืองก็ต้องจำเป็น อนึ่งตัวเรานี้วาสนาบารมีน้อยนัก ไม่คู่ควรที่จะเป็นเจ้าแผ่นดินดอก แต่นึกว่าจะรักษาเอาไว้ถ้าท่านผู้ใดมีบุญญาภินิหารมากแล้ว ก็จะมอบราชสมบัติให้แก่ท่าน ผู้นั้น…….”

ขุนนางทั้งปวงได้ฟังก็รู้เท่าทัน แต่ก็คิดว่าทุกวันนี้สุมาลุนกับซุนซิวมีอำนาจมาก ครั้นจะขืนขัดแข็งไปก็จะมีภัยต่าง ๆ เขาจะทำอย่างไรก็ตามใจ เรารักษาแต่ตัวไว้ ให้รอดจากความตายไปคราวหนึ่ง สุมาลุนจะเป็นเจ้าแผ่นดินก็ไม่ได้สักกี่วัน คงจะมีผู้มาทำลายล้างดอก จงคอยดู ถ้าผู้ที่จะมานั้นมีอำนาจแข็งแรงมาก จึงพากันเข้ากับผู้นั้นจะดีกว่าขัดขืนในเดี๋ยวนี้

ซุนซิวจึงนัดว่า เวลาพรุ่งนี้เข้าไปในวังให้พร้อมกันอย่าให้ขาดได้ ถ้าผู้ใดไม่เข้าไปจะเอาโทษ ขุนนางทั้งหลายต่างก็คำนับลาสุมาลุนกลับไปบ้าน

ครั้นเวลารุ่งเช้า พระเจ้าเฮาฮุยเต้เสด็จออกตามธรรมเนียม ขุนนางข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยเข้าไปเฝ้าพร้อมกัน รวมทั้งสุมาลุนกับซุนซิว แล้วซุนซิวจึงกราบทูลว่า

“……ทุกวันนี้ พระองค์ทรงพระชราแล้ว พระราชบุตรก็ไม่มี ราชการบ้านเมืองมหาอุปราชได้ว่าทั้งนั้น บัดนี้จะยกพระองค์ขึ้นเป็นไทเซียงฮอง ขอให้มหาอุปราชเป็นเจ้าแผ่นดินสืบไป…”

ฮ่องเต้ได้ทรงฟังจึงตรัสถามขุนนางว่า ซุนซิวมาพูดเช่นนี้จะควรหรือไม่ ใครเห็นอย่างไรให้ว่าไป ขุนนางทั้งปวงต่างคนก็นิ่งแลดูตากันอยู่ ไม่รู้ที่จะกราบทูลประการใดได้ ซุนซิวจึงตวาดว่า เหตุใดจึงนิ่งเสียไม่กราบทูล ขุนนางทั้งหลายกลัวสุมาลุนกับซุนซิว จึงกราบทูลว่าซึ่งจะให้พระองค์เป็นที่ไทเซียงฮอง จะเอามหาอุปราชเป็นเจ้าแผ่นดินนั้นควรแล้ว

ฮ่องเต้ได้ฟังขุนนางว่าดังนี้ ครั้นจะขัดแข็งไปขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อย ก็เห็นด้วยซุนซิวทั้งนั้น ก็จำต้องยอม คิดแล้วจึงตรัสว่า ตามแต่ท่านทั้งปวงจะเห็นดีเถิด ซุวซิวฟังรับสั่งดังนั้น จึงเชิญพระเจ้าเฮาฮุยเต้ลงเสียจากพระแท่นที่กษัตริย์ แล้วให้มหาอุปราชแต่งตัวด้วยเครื่องสำหรับเจ้าแผ่นดิน เชิญให้ขึ้นนั่งบนพระแท่น ขุนนางทั้งปวงก็ถวายบังคม

แล้วซุนซิวก็เอาประกาศกล่าวโทษ ยกข้อผิดซึ่งเขียนไว้นั้น ออกมาอ่านให้ฟังในที่ประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ พระเจ้าเฮาฮุยเต้ก็มีความอายอดสูแก่ขุนนางข้าราชการยิ่งนัก คิดไปก็ให้โทมนัสอัดอั้นตันพระทัย น้ำพระเนตรไหลลงอาบพระพักตร์ ซุนซิวจึงว่า

“…….อันธรรมดาพระอาทิตย์ซึ่งบังเกิดสำหรับโลกนี้ ก็ย่อมมีแต่ดวงเดียว ซึ่งจะมีเป็นสองดวงนั้นหามิได้ อันกษัตริย์ผู้ซึ่งดำรงแผ่นดินก็ย่อมมีแต่พระองค์เดียว บัดนี้พระเจ้าเฮาฮุยเต้มีความผิดหลายข้อต้องที่ถอดเสีย ครั้นจะทำโทษเล่า ก็เห็นว่าได้ครองราชสมบัติมาช้านานหลายปี พระเดชพระคุณก็ยังมีอยู่แก่เราเป็นอันมาก จึงต้องยกไว้ให้เป็นที่ไทเซียงฮอง ซึ่งจะให้อยู่เมืองหลวงนั้นไม่ได้ ต้องเนรเทศให้ไปอยู่ตำบลกิมหยง ถ้าไม่มีรับสั่งให้เข้ามาในเมืองหลวง ก็อย่าได้เข้ามาเลยเป็นอันขาด…….”

แล้วซุนซิวก็ให้ทหารเชิญไทเซียงฮองสุมาซอง กับมเหสีซึ่งตนเป็นผู้นำมาถวายเองและพระสนมกับบริวารใกล้ชิด ขึ้นรถไปไว้ที่ตำบลกิมหยง เช่นเดียวกับผู้ที่ต้องถอดทั้งหลาย โดยไม่คำนึงถึงความผูกพันเกี่ยวดองกัน โดยพระราชธิดาของฮ่องเต้ ก็เป็นบุตรสะใภ้ของตนอีกด้วย มุ่งหวังแต่จะเชิดชูสุมาลุนนายของตน ให้ได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินถ่ายเดียว

สุมาลุนก็แต่งตั้งขุนนางแต่ที่เป็นพวกพ้อง ให้เลื่อนยศขึ้นไปเต็มตามตำแหน่งแล้ว จึงมีหมายประกาศไปตามหัวเมืองใหญ่น้อย ในราชอาณาเขตให้รู้ทั่วกันว่า พระเจ้าเฮาฮุยเต้ไม่ตั้งอยู่ในยุติธรรม ขุนนางและราษฎรเห็นพร้อมกัน เชิญพระเจ้าเฮาฮุยเต้ให้ออกจากราชสมบัติ ยกเราผู้ชื่อว่าสุมาลุนขึ้นเป็นกษัตริย์ ครอบครองแผ่นดินสืบเชื้อวงศ์ต่อไป

พระเจ้าสุมาลุนฮ่องเต้ จะครอบครองแผ่นดินไซจิ้นไปได้นานสักเพียงใด ก็ต้องคอยดูกันต่อไป.

#########



Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2552 6:48:16 น. 3 comments
Counter : 673 Pageviews.

 
สวัสดีครับ ตามมาอ่านเรื่อยๆ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเป็นกงกำกงเกวียน

โจผีบุตรโจโฉ ชิงราชบัลลังค์ฮั่น แต่สืบต่อมาไม่นาน ก็ถูกตระกูลสุมา ชิงราชบัลลังค์ซ้ำรอยที่โจผี กระทำไว้ แต่แล้วตรกูลสุมา ก็แก่งแย่งราชบัลลังค์กันเองเสียอีก


โดย: CrazyMc IP: 61.7.173.220 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:16:52 น.  

 
ถูกต้องแล้วครับ
เป็น " กงเกวียนกำเกวียน" ซึ่งพากันหมุนไป

หรืออีกสำนวนว่า " รอยโครอยเกวียน"
รอยล้อเกวียนย่อมหมุนทับรอยเท้าโคไปตลอดทาง

ดังนี้ครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:42:50 น.  

 
อืม เป็นจริงอย่างที่ท่านทั้งสองวิจารณ์


โดย: kira7 IP: 203.144.144.164 วันที่: 25 มกราคม 2553 เวลา:8:41:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.