Group Blog
 
All Blogs
 
กบเลือกนาย

เสี้บวสามก๊ก

กบเลือกนาย
“ เล่าเซี่ยงชุน “

ตามธรรมดาของข้าราชการในทุกประเทศ ย่อมไม่มีสิทธิที่จะเลือกผู้บังคับบัญชา นอกเสียจากว่าตนไม่ชอบนายคนนี้ ก็ขอย้ายหน่วยไปอยู่กับนายคนโน้น ซึ่งอาจจะได้ย้ายก็ได้ หรือไม่ได้ย้ายก็ได้ และนายใหม่นั้นจะดีหรือแย่กว่านายเก่าก็ได้ แล้วแต่กรรมของผู้นั้นเอง

ในพงศาวดารสามก๊กก็เช่นเดียวกัน มีนายทหารหลายคนที่ชอบเปลี่ยนนาย ด้วยความสมัครใจบ้าง หรือโดนสถานการณ์บีบบังคับบ้าง เปลี่ยนแล้วได้ดีก็มี ไปตกอับหรือโชคร้ายกว่าเก่าก็มี

คนแรกก็คือ ลิโป้ อัศวินที่มีฝีมือเข้มแข็ง เป็นลูกเลี้ยงของเต๊งหงวน เจ้าเมืองเต๊งจิ๋ว ต่อมาก็ฆ่าเต๊งหงวนไปเป็นลูกเลี้ยงของตั๋งโต๊ะ แล้วก็ฆ่าตั๋งโต๊ะมาเป็นลูกเขยของอ้องอุ้น ลงท้ายได้เป็นเจ้าเมืองชีจิ๋ว เมื่อถูกโจโฉตีเมืองแตกถูกจับตัวได้ ก็จะขออยู่รับใช้โจโฉต่อไป แต่โจโฉรู้นิสัยที่ชอบฆ่าผู้มีคุณ จึงให้ประหารชีวิตเสีย

เตียวเลี้ยวที่เป็นทหารของลิโป้ ก็ถูกจับตัวมาได้พร้อมกัน แต่โจโฉชอบใจในความกล้าหาญ และกวนอูซึ่งยังเป็นพันธมิตรกันขอร้อง จึงรับไว้เป็นทหารและรับราชการอยู่นาน จน โจโฉตายแล้วก็ได้เป็นนายทหารองค์รักษ์ ของพระเจ้าโจผีบุตรชายคนโตของโจโฉ จนเสียชีวิตในระหว่างการรบกับกองทัพของเมืองกังตั๋ง เพราะช่วยป้องกันเจ้านายให้พ้นอันตรายจากข้าศึก

เตียวคับเดิมเป็นทหารของอ้วนเสี้ยว ยกพลไปตีค่ายของโจโฉที่ตำบลกัวต๋อ แล้วถูกโจโฉวางกำลังตอบโต้ไว้อย่างแข็งแรง ต้องแตกพ่ายกลับมา แต่กลัวอ้วนเสี้ยวจะลงอาญา จึงกลับไปขอสมัครเป็นทหารของโจโฉเสียเลย ซึ่งโจโฉก็รับไว้เลี้ยงดูอย่างดี แต่เตียวคับโชคไม่ดีนักไปรบที่ไหน ก็มักจะเป็นฝ่ายแพ้อยู่เสมอ แต่ก็รอดชีวิตมาได้จากสมัยพระเจ้าโจผี จนถึงสมัยพระเจ้า โจยอย จึงถูกกลอุบายของขงเบ้งหลอกให้ติดตามไป จนถึงซอกเขาแล้วให้ลิ่วล้อเอาหินทุ่มและยิงด้วยเกาทัณฑ์ ถึงแก่ความตายในการรบครั้งที่ห้าระหว่างวุยก๊กกับจ๊กก๊ก

คนต่อไปคือบังเต๊ก ซึ่งเป็นทหารของม้าเฉียว ลูกชายเจ้าเมืองเสเหลียง นายทิ้งไว้ที่เมืองฮันต๋งก็เลยเป็นทหารของเตียวฬ่อ ต่อมาโจโฉยกทัพมาตีเมืองฮันต๋ง ก็ถูกจับตัวไปเป็นเชลย แต่โจโฉเกลี้ยกล่อมให้เข้าเป็นพวกด้วย จึงเป็นทหารของโจโฉรบกับกวนอูตอนแก่ เกือบจะได้ชัยชนะแล้ว แต่แม่ทัพอิจฉาเกรงจะมีความชอบเกินหน้า จึงสั่งให้ถอยเลยเสียทีถูกกวนอูจับตัวได้ กวนอูก็เกลี้ยกล่อมอีก แต่คราวนี้บังเต๊กไม่ยอมอ่อนน้อม เลยถูกประหารชีวิต

ม้าเฉียวนายของบังเต๊กก็เหมือนกัน เป็นนักรบมีฝีมือลือลั่น แต่รบกับโจโฉก็พ่ายแพ้ไป กลับมาแก้ตัวก็แพ้อีก ต้องมาอยู่กับเตียวฬ่อแล้วออกไปรบกับเล่าปี่ ถูกอุบายของขงเบ้งกลับเป็นพวกเล่าปี่ เข้ายึดเมืองเสฉวนของเล่าเจี้ยงได้ จึงเป็นทหารเสือของเล่าปี่จนแก่ เล่าปี่ตายไปก่อน แล้วม้าเฉียวก็ป่วยตายไปในภายหลัง

คราวนี้มาถึงเบ้งตัด นายทหารของเล่าเจี้ยงเจ้าเมืองเสฉวน เมื่อคิดจะเชิญเล่าปี่มาช่วยป้องกันเมืองจากเตียวฬ่อและโจโฉ เล่าเจี้ยงก็ส่งหนังสือไปเชิญเล่าปี่ถึงเมืองเกงจิ๋ว แม้จะมีขุนนางที่หวังดีคัดค้านหลายคนก็ตาม แล้วก็ให้เบ้งตัดคุมทหารห้าพันไปคอยรับที่กลางทาง เบ้งตัดก็เลยอยู่ในกองทัพของเล่าปี่ ครั้นเล่าปี่กับเล่าเจี้ยงผิดใจกัน เบ้งตัดจึงโอนไปเป็นทหารของเล่าปี่ อยู่รักษาเมืองซงหยงกับเล่าฮองลูกเลี้ยงของเล่าปี่

เมื่อกวนอูถูกซุนกวนล้อมอยู่ที่เมืองเป๊กเสียนั้น ได้ส่งเลียวฮัวมาขอให้เล่าฮองกับเบ้งตัดยกทัพไปช่วย แต่เบ้งตัดแหย่ว่ากวนอูนั้นริษยาว่าเล่าปี่จะรักลูกเลี้ยงเกินตัว จึงไม่เห็นด้วยที่เล่าปี่จะตั้งให้เล่าฮองเป็นเจ้าต่างกรม หาว่าเป็นคนโง่เง่าหาชาติตระกูลมิได้ เล่าฮองจึงลังเลที่จะยกทหารไปช่วยกวนอู เบ้งตัดก็บอกกับเลียวฮัวว่า

“……อันข้าศึกซึ่งจะมาทำการ ณ เมืองเกงจิ๋วครั้งนี้ อุปมาเหมือนกองไฟอันใหญ่ แลซึ่งจะให้เรายกไปช่วยนั้น เหมือนหนึ่งจะเอาน้ำในจอกอันน้อย ไปดับไฟกองใหญ่นั้นจะดับหรือ ท่านจงเร่งกลับไปคอยท่ากองทัพเมืองเสฉวนเถิด…….”

เลียวฮัวจึงต้องบ่ายหน้าไปแจ้งเล่าปี่ที่เมืองเสฉวน ซึ่งไกลกว่ากันมาก และไม่ทันการ กวนอูต้องพ่ายแพ้แก่ซุนกวนถูกจับตัวไปประหารชีวิตเสียก่อน เล่าปี่ได้ทราบข่าวก็เสียใจแทบจะตายตามไปด้วย แล้วก็อาฆาตแค้นแก่เล่าฮองกับเบ้งตัดเป็นยิ่งนัก สั่งให้จับตัวคนทั้งสองมาประหารชีวิตเสีย แต่เพื่อนสนิทของเบ้งตัดมีหนังสือลับ ไปแจ้งให้เบ้งตัดรู้ตัวเสียก่อน จึงตัดสินใจเอาตัวรอด ด้วยการเข้าไปสวามิภักดิ์กับพระเจ้าโจผี ข้าศึกของพระเจ้าเล่าปี่เสียเลย

เมื่อพระเจ้าเล่าปี่รู้เรื่องจึงมีหนังสือให้เล่าฮอง ตามไปจับตัวเบ้งตัดมาให้ได้ เล่าฮองอยากจะแก้ความผิด จึงยกทหารห้าหมื่นยกตามเบ้งตัดไปถึงเมืองยังหยง ขณะนั้นเบ้งตัดกำลังเฝ้าพระเจ้าโจผีอยู่ พระเจ้าโจผีจึงให้เบ้งตัดคุมทหารออกไปรบกับเล่าฮอง และตัดศรีษะเอามาให้ได้ จึงจะเชื่อว่ามาสามิภักดิ์จริง

เบ้งตัดจึงเขียนหนังสือไปเกลี้ยกล่อมเล่าฮอง ให้มาสามิภักดิ์กับพระเจ้าโจผีเช่นเดียวกับตน แต่เล่าฮองไม่ยอมจึงต้องรบกัน เล่าฮองสู้ไม่ได้ก็ถอยหนีไปเฝ้าพระเจ้าเล่าปี่ ที่เมือง เสฉวน จึงถูกพระเจ้าเล่าปี่ประหารชีวิตเสีย ตามโทษานุโทษ ส่วนเบ้งตัดนั้นพระเจ้าโจผีก็รับเลี้ยงดูให้เป็นเจ้าเมืองหลายเมือง

ภายหลังเมื่อพระเจ้าเล่าปี่ และพระเจ้าโจผี สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เบ้งตัดก็ยังเป็น เจ้าเมืองซงหยงขึ้นอยู่กับวุยก๊กของพระเจ้าโจยอย ที่สืบราชสมบัติต่อจากพระเจ้าโจผี ขงเบ้งก็ยกกองทัพมาตีวุยก๊กเป็นครั้งที่สอง คราวนี้เบ้งตัดเกิดจะกลับใจไปเข้ากับขงเบ้ง จึงให้คนมาแจ้งแก่ ขงเบ้ง ว่าตนมาอยู่กับโจผีด้วยความจำใจ เพราะกลัวอาญาของเล่าปี่ โจผีก็ตั้งให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ ไปรักษาเมืองซงหยง ครั้นโจผีหาบุญไม่แล้ว โจยอยได้ราชสมบัติ ขุนนางทั้งปวงก็อิจฉาริษยาตนจนไม่มีความสุข จึงคิดถึงคุณของขงเบ้งที่เคยอุปการะมาแต่ก่อน แม้มหาอุปราชยกโทษแล้ว เมื่อไปตีเมืองเตียงฮัน ตนจะยกทหารสามเมืองในบังคับบัญชา มาบรรจบกันตีเมืองลกเอี๋ยงแทนคุณมหาอุปราชให้จงได้

ต่อมาเบ้งตัดก็ได้รับหนังสือจากขงเบ้งว่า

“…….แม้สำเร็จราชการครั้งนี้ ความชอบของท่านก็จะมีในพระเจ้าเล่าเสี้ยนมากกว่าขุนนางทั้งปวง บัดนี้เราได้ยินกิตติศัพท์ว่า โจยอยตั้งให้สุมาอี้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ แล้วให้จัดแจงทหารมาบรรจบกันกับกองทัพโจยอย ณ เมืองเตียงฮัน แม้สุมาอี้รู้เนื้อความว่าท่านจะทำการฉะนี้ ก็จะยกกองทัพมารบท่านตัดศึกเสียก่อน เห็นว่าท่านจะทำการไม่สำเร็จ……..”

แต่เบ้งตัดไม่เชื่อความคิดของขงเบ้ง จึงมีหนังสือตอบไปว่า

“……ข้อซึ่งสุมาอี้นั้น มหาอุปราชอย่าวิตกเลย ข้าพเจ้าจะรับเป็นธุระ เพราะ สุมาอี้อยู่ ณ เมืองอ้วนเซียนั้น ทางไกลเมืองลกเอี๋ยงแปดพันเส้น แต่เมืองลกเอี๋ยงจะมาถึงเมืองข้าพเจ้านี้ทางไกลหมื่นสองพันเส้น แม้สุมาอี้รู้เนื้อความ กว่าจะขึ้นไปบอกโจยอย แล้วจึงจะยกทหารมาถึงข้าพเจ้า สักเดือนหนึ่งก็มิใคร่จะถึง……”

ต่อมาสุมาอี้ซึ่งพักราชการอยู่เป็นเวลานาน ด้วยพระเจ้าโจยอยระแวงว่าจะคิดขบถ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพ มาสู้รบกับขงเบ้งโดยตรง ได้มีหนังสือแจ้งมาถึงเบ้งตัด ให้จัดเสบียงอาหารไว้ให้พร้อม ตนจะยกกองทัพไปบรรจบกันที่เมืองเตียงฮัน เพื่อทำศึกกับขงเบ้ง เบ้งตัดจึงไปชักชวนซินหงีเจ้าเมืองกิมเสีย กับซินต่ำเจ้าเมืองซินเสีย ให้เข้าเป็นพวกเพื่อยกทัพไปช่วยกันตีเมืองลกเอี๋ยง เจ้าเมืองทั้งสองกลัวเบ้งตัดจึงรับปากว่าจะช่วย

หลายวันต่อมาขณะเบ้งตัดจัดแจงทหารอยู่ในเมือง มีทหารเลวเข้ามาบอกว่า นอกเมืองนั้นมีข้าศึกยกมาเป็นอันมาก แต่มิได้แจ้งว่าเป็นทหารของผู้ใด เบ้งตัดก็ตกใจขึ้นไปดูบนกำแพง เห็นธงก็รู้ว่าเป็นกองทัพของซิหลง ทหารเอกเก่าแก่สมัยโจโฉของวุยก๊ก จึงให้ทหารชักสะพานข้ามคูเมืองออก และปิดประตูไว้ให้มั่นคง

ซิหลงก็ควบม้าพาทหารเข้ามาถึงหน้าประตูเมือง เห็นเบ้งตัดยืนอยู่บนกำแพง ก็ร้องด่าว่า

“…….อ้ายโจรขบถต่อเจ้า เร่งออกมาหากูโดยดีกูจะไว้ชีวิต……..”

เบ้งตัดได้ยินก็โกรธให้ทหารเอาเกาทัณฑ์ ระดมยิงลงไปถูกหน้าผากซิหลง ทหารทั้งหลายก็เข้าประคองตัวนาย แล้วพากันถอยทัพไป เบ้งตัดเห็นดังนั้นก็เปิดประตูเมืองจะยกทหารออกไปไล่ฆ่าซิหลง พอดีสุมาอี้ยกทัพมาถึง เบ้งตัดจึงกลับเข้าไปตั้งมั่นอยู่ในเมืองดังเก่า ส่วนซิหลงนั้น เมื่อกลับไปถึงค่ายพิษเกาทัณฑ์กำเริบขึ้น พอตกเย็นก็ถึงแก่ความตาย

เช้าวันรุ่งขึ้นเบ้งตัดขึ้นไปดูบนเชิงเทิน เห็นทหารของสุมาอี้เข้าล้อมเมืองไว้โดยรอบแน่นหนามั่นคงมาก ไม่เห็นทางที่จะหนีรอดออกไปทางใดได้ ก็คิดวิตกหนักไม่รู้จะแก้ไขประการใด เพราะคิดไม่ถึงว่าสุมาอี้จะทราบข่าว เรื่องที่ตนคิดกลับใจไปเข้าด้วยขงเบ้ง จากซินหงีเจ้าเมือง กิมเสียโดยตลอด และไม่รอกราบทูลพระเจ้าโจยอยก่อน รีบยกทัพมุ่งมาเมืองซงหยง เพื่อจัดการกับตนก่อน ครั้นเห็นซินหงีกับซินต่ำยกทหารมาถึงก็ดีใจ สำคัญว่าจะยกมาช่วยตามที่ได้ตกลงกันไว้ ก็เปิดประตูเมืองและคุมทหารออกไปรับ

เจ้าเมืองทั้งสองควบม้าเข้ามาใกล้ แล้วก็ร้องด่าเบ้งตัดว่า อ้ายขบถมึงคิดทรยศต่อเจ้านาย เร่งไปหาที่ตายเถิด เบ้งตัดยิ่งตกใจหนักขึ้นชักม้าหันกลับจะหนีเข้าเมือง นายทหารของตนที่อยู่บนกำแพงเมืองก็ให้ทหารเอาเกาทัณฑ์ยิงต้านไว้ แล้วร้องว่าอ้ายขบถมึงอย่าเข้ามาเลย เบ้งตัดจะควบม้าหนีก็ตกอยู่ในที่ล้อม พอดีซินต่ำมาถึงจึงเอาทวนแทงเบ้งตัดตกม้าตาย แล้วก็ตัดศรีษะ เอาไปให้สุมาอี้ ทหารในเมืองก็เข้ามาอ่อนน้อมต่อสุมาอี้หมด ไม่มีผู้ใดเป็นพวกของเบ้งตัดเลยแม้แต่คนเดียว

สุมาอี้เข้าเมืองได้ ก็เกลี้ยกล่อมให้ราษฎรชาวเมืองอยู่เย็นเป็นสุข ไม่กระด้างกระเดื่องแล้ว จึงให้ทหารเอาศรีษะเบ้งตัดไปเสียบประจานไว้ ณ ทางสามแพร่ง จากนั้นจึงยกกองทัพไปเฝ้าพระเจ้าโจยอยที่เมืองเตียงฮันโดยด่วน

เมื่อพระเจ้าโจยอยเห็นสุมาอี้ก็มีความยินดี ตรัสว่า

“…….ท่านอย่าน้อยใจเราเลย ซึ่งเราคิดผิดเบาความ แพ้กลอุบายขงเบ้งนั้น เราขออภัยเสียเถิด ครั้งนี้เบ้งตัดคิดขบถหากว่าท่านรู้ หาไม่เมืองก็จะเป็นอันตราย……”

สุมาอี้จึงทูลว่า

“..เมื่อซินหงีให้ทหารไปบอกข้าพเจ้าว่า เบ้งตัดเป็นขบถนั้น ข้าพเจ้าก็คิดอยู่ว่า เบ้งตัดเป็นขุนนางผู้ใหญ่ จะบอกหนังสือขึ้นไปกราบทูลพระองค์ ให้มีหนังสือลงมาก่อน ก็กลัวจะช้าไป ซึ่งข้าพเจ้าทำการละเมิดนอกรับสั่ง โทษข้าพเจ้าก็ผิดอยู่ ตามแต่พระองค์จะโปรด……..”

พระเจ้าโจยอยก็พระราชทานรางวัลแก่สุมาอี้เป็นอันมาก และมีรับสั่งให้เร่งยกทัพไปรบกับขงเบ้ง สุมาอี้ก็รีบยกทัพไปฟาดฟันกับคู่แค้นเก่า ตามรับสั่งโดยไม่รอช้า

ปล่อยให้ศรีษะของเบ้งตัด ข้าหลายเจ้าบ่าวหลายนาย ตากแดดตากลม แห้ง แหงแก๋อยู่ที่เมืองซงหยง เป็นอุทาหรณ์สำหรับข้าราชการทั้งหลาย ที่ใจไม่มั่นคงประเภทเดียวกันกับ กบเลือกนาย คอยแต่จะหาความสุขใส่ตัว หาความก้าวหน้าชองตนเองมากกว่าราชการต่อไป ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยมากี่ร้อยกี่พันปีก็ตาม.

##########



Create Date : 10 กรกฎาคม 2559
Last Update : 10 กรกฎาคม 2559 12:07:45 น. 0 comments
Counter : 446 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.