Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๔ บุญมาวาสนาส่ง

ยอดคนแผ่นดินเหม็ง

ตอนที่ ๔ บุญมาวาสนาส่ง

" เล่าเซี่ยงชุน "

เมื่อ เงียมยี่ ได้ทราบจากเถ้าแก่ว่า เตียเหลาหยี ไม่ยอมยกบุตรสาวให้ก็โกรธเป็นอันมาก จึงเอาตั๋วกู้เงินไปแจ้งตุลาการ ให้ชำระเรียกเงินจากเตียเหลาหยี ตุลาการจึงมีหมายเกาะตัวเตียเหลาหยีมาแก้คดี และถามว่าท่านเป็นหนี้เงียมยี่ ห้าสิบตำลึงจริงหรือ เตียเหลาหยีก็รับว่าเป็นหนี้อยู่จริงแค่สิบตำลึงเท่านั้น แล้วก็ให้การตั้งแต่เป็นหนี้ค่าส่วย ต้องมากู้เงินเงียมยี่สิบตำลึง แต่ถูกชักค่าธรรมเนียมสองตำลึง เหลือแปดตำลึง และเป็นเงินปลอมใช้ไม่ได้ กลับมาขอเปลี่ยนเงินเงียมยี่ก็ไม่รับ ไฮ้สุย ต้องช่วยเสียเงินค่าส่วยแทนไป แล้วเงียมยี่ก็แต่งเถ้าแก่มาขอบุตรหญิง เมื่อไม่ยกให้ก็โกรธ จึงแต่งเรื่องมาฟ้องตุลาการดังนี้

ตุลาการก็ให้จดถ้อยคำให้การไว้ แล้วพิจารณาตั๋วก็ปรากฎว่าเป็นเงินกู้ห้าสิบตำลึงจริง สอบถามเตียเหลาหยีอีก ก็ให้การมั่นคงไม่มีข้อพิรุธ จึงถามว่าคนที่ใช้ค่าส่วยแทนไปเจ็ดตำลึงนั้นชื่อไรอยู่ที่ไหน เตียเหลาหยีก็ว่าชื่อ ไฮ้สุย เช่าโรงอยู่หลังบ้านนานมาแล้ว ตุลาการก็ให้ตามมาให้การเป็นพยาน ไฮ้สุยก็ให้การตรงกับเตียเหลาหยีทุกประการ และไฮ้สุยบอกว่าเงินรายนี้ เงียมยี่อ้างว่าเป็นเงินของ เงียมซง ขอให้เชิญมาให้การด้วย

ตุลาการก็ให้คนไปเชิญเงียมซงมาที่ศาล แล้วถามว่า เตียเหลาหยีไปกู้เงินจากเงียมยี่ แต่เงียมยี่อ้างว่าเป็นเงินของท่าน และธรรมเนียมซึ่งตั้งไว้ว่า ถ้าผู้ใดมากู้เงินแม้นต้นสิบตำลึงชักสองตำลึง ผู้ได้ไปแต่แปดตำลึง อันนี้ท่านตั้งไว้หรือ เงียมซงก็ว่าข้าพเจ้าไม่รู้เรื่องเงินเลย และธรรมเนียมดังนั้นก็ไม่ได้ตั้ง ตุลาการก็ให้ไฮ้สุยเล่าความทั้งหมดให้เงียมซงฟัง เงียมซงเห็นไฮ้สุยพูดจามั่นคงแต่จะรับสมอ้างก็ไม่ได้ เพราะได้ปฏิเสธไปเสียแต่แรกแล้ว จึงถามว่าคนไหนเป็นตัวลูกหนี้ ตุลาการก็ให้เตียเหลาหยีเล่าความให้เงียมยี่ฟังอีกครั้ง ก็ตรงกันกับคำของไฮ้สุยทุกประการ

เงียมซงจึงแกล้งทำเป็นโกรธ ให้เอาตัวเงียมยี่มาถามว่าเรื่องนั้นเป็นอย่างไรให้ว่าไปตามจริง เงียมยี่ตกใจกลัวไม่อาจปิดบังความจริงไว้ จึงรับสารภาพตั้งแต่ต้นจนได้แก้ตั๋วเงินกู้จากสิบตำลึงเป็นห้าสิบตำลึง และขอรับผิดว่าสุดแล้วแต่จะโปรด

ตุลาการเห็นว่า เงียมยี่สารภาพรับผิดหมดทุกข้อแล้ว ครั้นจะทำโทษก็เกรงใจ เงียมซงซึ่งเป็นนายของเงียมยี่ จึงตัดสินว่าเงินที่เตียเหลาหยีกู้ไปนั้นก็เป็นเงินแดง อย่าให้เงียมยี่คิดเอาคืนต่อไป ข้อที่เงียมยี่มีความผิด ด้วยคิดแปลงตั๋วฉ้อเตียเหลาหยีนั้น ยกให้แก่เงียมซง ความรายนี้เป็นอันเลิกแล้วต่อกันไป ต่างคนก็กลับไปบ้าน

เมื่อเตียเหลาหยีกลับมาถึงบ้าน ก็เล่าเรื่องซึ่งเป็นความกับเงียมยี่และชนะมา ให้บุตรภรรยาฟังทุกประการแล้วว่า

"....ความเรื่องนี้จะชนะมาได้ ก็เพราะไฮ้สุยมีความเอ็นดูเราช่วยว่ากล่าว ไฮ้สุยมีคุณต่อเราเป็นอันมาก....."

บุตรภรรยาได้ฟังก็มีความยินดี ตั้งแต่นั้นมาเตียเหลาหยีและบุตรภรรยา ก็นับถือ รักใคร่ไฮ้สุยเป็นอันมาก แต่ก่อนเมื่อไฮ้สุยแรกมาเช่าโรงอาศัยนั้น นางเตียง่วนชุน บุตรสาวของ เตียเหลาหยีเห็นว่าไฮ้สุยเป็นหนุ่ม ตัวเป็นสาวก็ไม่ได้พูดกัน ตั้งแต่บิดาชนะความมา ก็พูดจานับถือ
ไฮ้สุยเหมือนญาติพี่น้องมิได้มีความรังเกียจกินแหนงสิ่งใด เตียเหลาหยีจึงปรึกษากับบุตร ภรรยาว่า

"....ไฮ้สุยเป็นคนดีมีคุณต่อเราเป็นอันมาก ตั้งแต่เราอยู่ที่บ้านนี้ มีคนมาเช่าโรงก็หลายพวก ไม่มีใครดีเท่าไฮ้สุยเลย เราคิดว่าจะแทนคุณเขา ก็ไม่มีอะไรจะให้ ด้วยเราเป็นคนขัดสน ถึงกระนั้นก็จะต้องหาของสักสิ่งหนึ่ง ให้เป็นที่ชอบใจเขา จึงจะดี....."

นางเตียง่วนชุนจึงว่า ข้าพเจ้าเห็นรองเท้าที่ไฮ้สุยใส่อยู่นั้นเก่านัก ถ้าหารองเท้าใหม่ให้เห็นจะชอบใจ เตียเหลาหยีก็เห็นด้วยแต่รองเท้าเช่นนั้นราคาถึงสามตำลึง ถ้าเราไปซื้อรองเท้ามาให้ แม้นไฮ้สุยรับไว้ก็จะดี ถ้าไม่เอาก็ป่วยการ ด้วยครั้งนี้เป็นคราวขัดสนอยู่ นางเตียง่วนชุนก็ว่า

".....ถ้าจะซื้อรองเท้าชนิดนั้น ที่เขาทำไว้แล้วราคาก็จะแพง ไปซื้อแต่หุ่นเขามาทำเอาเองจะค่อยเบาเงิน ข้าพเจ้าจะทำก็ได้ เศษแพรสีต่าง ๆ ข้าพเจ้าเก็บไว้ก็มีอยู่ พอจะทำให้ดีได้ ขอยืมรองเท้าของไฮ้สุยมาสักข้างหนึ่ง พอจะได้ดูเป็นตัวอย่าง....."

เตียเหลาหยีก็ไปยืมรองเท้าไฮ้สุยมาข้างหนึ่ง แล้วไปซื้อหุ่นรองเท้าให้บุตรสาวเย็บปักงามดีแล้ว ก็เอาไปให้แก่ไฮ้สุย แต่ไฮ้สุยไม่รับแล้วว่า ท่านเป็นคนขัดสนอยู่ รองเท้าชนิดนี้ราคาสามตำลึงไปซื้อมาให้ทำไม เตียเหลาหยีก็ว่าไม่ได้ซื้อ บุตรสาวของตนเย็บปักตั้งใจทำมาให้แทนคุณท่าน ไฮ้สุยก็ว่าถึงไม่ได้ซื้อทำได้เองก็ดี เอาไว้ขายเอาเงินเถิด เตียเหลาหยีก็อ้อนวอนขอให้รับ ไฮ้สุยขัดไม่ได้ก็รับเอาไว้ และว่าท่านจะให้แล้วขอรับเอาไว้แต่ข้างเดียว อีกข้างหนึ่งจงเอาไปทำประจบเข้าเป็นคู่จะได้ขายไป เตียเหลาหยีก็เอารองเท้าข้างเดียวกลับมาเล่าให้บุตรภรรยาฟัง นางเตียง่วนชุนก็เก็บรองเท้าข้างนั้นไว้

ฝ่ายขุนนางทั้งปวงประชุมปรึกษากันว่า พระเจ้าแผ่นดินทุกวันนี้ไม่มีพระราชบุตรแต่สักองค์หนึ่งเลย นานไปเบื้องหน้าถ้าพระองค์ล่วงลับไปแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดที่จะรับราชสมบัติต่อไป พวกเราทั้งหลายต้องคิดอ่านให้พระองค์มีพระราชบุตรจึงจะได้ ครั้นปรึกษาเห็นพร้อมกันแล้ว ต่างคนก็ไปสืบเสาะแสวงหาหญิงที่รูปงาม ไปถวายเป็นอันมาก พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ ก็ไม่ใคร่จะชอบพระทัย

ฝ่ายเงียมยี่มีความรักใคร่นางเตียง่วนชุนมิได้วาย จึงตรึกตรองว่าเราได้แต่งเถ้าแก่ไปสู่ขอก็ไม่ให้ ควรจะคิดอ่านให้ขุนนาง เอาตัวนางเตียง่วนชุนไปถวาย ถ้าพระเจ้าแผ่นดินไม่โปรด จะได้อ้อนวอนเงียมซงให้เข้าไปกราบทูลขอมาไว้ที่บ้านเรา จะได้เลี้ยงเป็นภรรยาต่อไป

เงียมยี่จึงไปหาขุนนางผู้หนึ่ง แนะว่าได้เห็นนางเตียง่วนชุนมีรูปร่างงดงามเป็นบุตร เตียเหลาหยี ถ้านำไปถวายเห็นจะโปรด ขุนนางนั้นจึงให้เงียมยี่พาไปดูตัวที่บ้านเตียเหลาหยี แล้วบอกว่าบัดนี้พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ต้องพระราชประสงค์หญิงรูปงาม จะเอาไปไว้เป็นนางสนม ท่านมีบุตรสาวอยู่คนหนึ่งชื่อนางเตียง่วนชุน รูปร่างดีสมควรจะถวายได้ จะขอเอาไปถวาย

เตียเหลาหยีกับ นางชิวสี ภรรยาก็ตกใจ จึงว่าบุตรของข้าพเจ้าไม่สมควรที่จะเอาไปถวาย ตัวข้าพเจ้าเล่าก็เป็นคนจน ขุนนางผู้นั้นก็ไม่ยอมจะเอาตัวไปให้ได้ เตียเหลาหยีกับภรรยาก็ร้องไห้ไม่ยอมให้ขุนนางเอาตัวไป ไฮ้สุยได้ยินจึงให้คนไปตามเตียเหลาหยีมาหาแล้วพูดว่า

"....บัดนี้พระเจ้าแผ่นดินต้องพระราชประสงค์หญิงรูปงาม ซึ่งท่านไม่ให้เห็นจะไม่ได้ อย่าว่าแต่ท่านเป็นราษฎรเลย ถึงเป็นบุตรขุนนางก็ขัดไม่ได้ต้องถวาย ซึ่งจะไม่ถวายนั้นเห็นจะมีความผิดเป็นข้อขัดรับสั่ง ข้าพเจ้าพิเคราะห์ดูบุตรของท่านประกอบด้วยลักษณะอันดี นานไปท่านจะได้พึ่งอย่าขัดไว้เลย ถวายเสียดีแล้ว....."

เตียเหลาหยีได้ฟังก็เห็นชอบด้วย จึงมาบอกแก่นางชิวสีผู้ภรรยา และนางเตียง่วนชุนผู้บุตร ตามคำไฮ้สุยว่าทุกประการ นางเตียง่วนชุนก็ร้องไห้ด้วยรักใคร่อาลัยบิดาและมารดา ขุนนางผู้นั้นก็พานางเตียง่วนชุนมาถึงบ้าน ภรรยาของขุนนางครั้นแลเห็นนางเตียง่วนชุนก็ให้มีความเอ็นดูรักใคร่เหมือนบุตรหลาน จึงให้จัดการอาบน้ำขัดสีเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ ให้เหมือนบุตรขุนนาง ดูยิ่งงามมากขึ้นกว่าแต่ก่อน สั่งสอนฝึกหัดให้รู้ในธรรมเนียมนางพระสนมชำนาญดีแล้ว ครั้นถึงวันดีก็พานางเตียง่วนชุนเข้าไปถวาย

พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นก็ชอบพระทัย รักใคร่ในนางเตียง่วนชุน ยิ่งกว่านางพระสนมอื่น ๆ จึงโปรดตั้งให้เป็นที่เตียกุยฮุย แล้วรับสั่งโปรดให้เตียเหลาหยีเป็นที่ เตียไทเอี๋ย นางชิวสีเป็นฮูหยิน โปรดให้ไปอยู่เรือนหลวงและพระราชทานเบี้ยหวัดเงินเดือน ตามตำแหน่ง เตียเหลาหยีจึงบอกกับไฮ้สุยว่า ข้าพเจ้าจะต้องลาท่านไปอยู่บ้านใหม่ ที่บ้านนี้ข้าพเจ้าขอมอบยกให้เป็นสิทธิ์แก่ท่าน จงอยู่ตามชอบใจเถิด ไฮ้สุยว่าข้าพเจ้าไม่ต้องการ ขออาศัยท่านอยู่พอไล่หนังสือ แล้วก็จะลาท่านกลับไปบ้าน เตียเหลาหยีก็ว่าตามแต่ใจท่าน จะไปเมื่อไรให้ข้าพเจ้ารู้ด้วย ถึงท่านจะไปไม่ได้ก็จงให้คนไปบอกข้าพเจ้าทราบ แล้วเตียเหลาหยีกับภรรยาก็ลาไปอยู่บ้านหลวงตามตำแหน่ง

ไฮ้สุยกับ ไฮ้อัน ไฮ้หยง อาศัยอยู่ที่นั้นได้ประมาณเดือนหนึ่ง ก็ถึงกำหนดไล่หนังสือ ไฮ้สุยก็เข้าไปไล่หนังสือ แต่ขณะนั้นเงียมซงเป็นผู้กำกับดูแลการไล่หนังสือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ ครั้นรู้ว่าไฮ้สุยมาไล่หนังสือ ก็เลิกทำการเสีย ด้วยความโกรธแค้นอาฆาตไฮ้สุย ที่ช่วยเหลือ เตียเหลาหยีคราวเป็นความกับเงียมยี่ ไฮ้สุยจึงต้องผิดหวังอีกครั้งหนึ่ง ครั้นกลับมาที่พักแล้วไฮ้สุย ก็บอกกับไฮ้อันไฮ้หยงว่า เราก็มานานแล้วไม่ได้การอะไรสักอย่างหนึ่ง เห็นจะต้องกลับไปบ้าน แล้วจึงให้ไฮ้หยงไปบอกแก่ เตียเหลาหยีซึ่งเป็นที่เตียไทเอี๋ย ว่าจะลากลับไปบ้านก่อนแล้ว เตียไทเอี๋ยงจึงฝากเงินกับไฮ้หยงมาให้แก่ไฮ้สุยสองร้อยตำลึง ไฮ้สุยก็มีความยินดีนักแล้วพากันออกจากเมืองหลวง จะไปบ้าน

แต่พอมาถึงกลางทาง ไฮ้อันก็พูดว่าซึ่งเราจะกลับไปบ้าน จะอยู่บ้านได้สักเท่าไร ก็จะถึงกำหนดคราวไล่หนังสือ ก็จะต้องกลับมาอีก ไหน ๆ ได้มาค้างอยู่ครั้งหนึ่งแล้ว ไม่สมความปรารถนา กลับไปก็อายเขาอยู่ไล่หนังสือเสียให้ได้ก่อนจึงกลับไปบ้านเห็นจะดีกว่า และว่า

"....เมื่อเงินไม่มีจะซื้อกิน ข้าพเจ้าทั้งสองคนกับไฮ้หยงจะไปรับจ้างเขาเอาเงินมาซื้อเลี้ยงกันไป อนึ่งเตียเหลาหยีก็มีวาสนาได้เป็นที่เตียไทเอี๋ยแล้ว นางเตียง่วนชุนก็ได้เป็นถึงเตียกุยฮุยพระสนมเอก ตัวท่านก็ได้มีคุณต่อเขาเป็นอันมาก จะไม่คิดถึงท่านบ้างแล้วหรือ ข้าพเจ้าเห็นว่าอยู่รับไล่หนังสือดูอีกสักครั้ง ถ้าไม่ได้คราวนี้แล้วก็อย่ามาอีกเลย คิดทำมาหากินอย่างอื่นเถิด....."

ไฮ้สุยได้ฟังก็เห็นชอบด้วยจึงให้ไฮ้หยงเอาเงินร้อยตำลึงไปมอบให้แก่นางเตีย เกงฮวย ภรรยาของตนที่บ้าน และบอกข่าวทุกข์สุขของตนให้ทราบด้วย แล้วก็พาไฮ้อันกลับมาเมืองหลวง.

##########




Create Date : 09 กันยายน 2551
Last Update : 9 กันยายน 2551 7:54:35 น. 0 comments
Counter : 442 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.