Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๒ กล่อมใจโจร

ยอดคนแผ่นดินเหม็ง

ตอนที่ ๒ กล่อมใจโจร

" เล่าเซี่ยงชุน "

เมื่อ ไฮ้สุย กลับมาถึงบ้านเล่าเรื่องการไล่หนังสือ และความที่ นางเตียกัวหู ยกบุตรสาวให้เป็นภรรยา ให้ นางนิวสิ มารดาฟังโดยตลอดแล้วนางก็ถามว่า บุตรหญิงที่เขายกให้นั้นเจ้าชอบใจหรือไม่ ไฮ้สุยก็ว่าตนชอบใจมีความรักใคร่เป็นอันมาก ด้วย นางเตียเกงฮวย นั้น รูปร่างก็ดีมีสติปัญญา หนังสือก็รู้มาก มารดาก็เป็นคนมั่งคั่งบริบูรณ์ พวกพ้องพี่น้องก็เป็นขุนนางมียศศักดิ์ นางนิวสิมารดาก็มีความยินดี จึงจัดเถ้าแก่ไปขอบุตรสาวนางเตียกัวหูตามธรรมเนียม เมื่อเถ้าแก่กลับมาบอกว่านางเตียกัวหูไม่ขัดข้อง ก็ส่งตัวไฮ้สุยไปแต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากับนางเตียเกงฮวย โดยเรียบร้อย

อยู่มาได้สักสามสี่เดือนไฮ้สุยก็บอกกับนางเตียกัวหูว่า มารดาอยู่แต่ผู้เดียว ไม่มีผู้ปฏิบัติดูแล จะขอลาไปอยู่กับมารดา นางเตียกัวหูก็ว่าตามแต่ใจเจ้า ถ้าจะไปแล้วจงพาภรรยาของเจ้าไปด้วย ไฮ้สุยก็มีความยินดีคำนับลามารดาภรรยา แล้วพาภรรยากับบ่าวสองสามคน กลับมาอยู่กับนางนิวสี จนถึงกำหนดไล่หนังสืออีกครั้งหนึ่ง มารดาก็ให้ไฮ้สุยไปไล่หนังสือ เพื่อจะมีวาสนาได้เป็นขุนนางกับเขาบ้าง ไฮ้สุยขัดมารดาไม่ได้ก็สั่งแก่นางเตียเกงฮวย ให้ช่วยดูแลมารดา แล้วตนเองก็คำนับลามารดาไปกับเพื่อนศิษย์อีกสามคน เดินทางไปเมืองหลวง

ไฮ้สุยกับเพื่อนเดินทางมาจนเวลาจวนค่ำ เห็นมีโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งก็พากันเข้าไปซื้ออาหารกินแล้วก็นอนค้างอยู่ในโรงเตี๊ยมนั้น ไฮ้สุยกับเพื่อนนอนในห้องเดียวกันแต่คนละเตียง เงินที่เอามาเป็นเสบียงใส่ถุง วางรวมกันไว้ที่เตียงไฮ้สุยแห่งเดียว ครั้นเวลาดึกสามยามเศษ เพื่อนทั้งสามหลับสนิท ไฮ้สุยตื่นขึ้นด้วยได้ยินเสียงคนงัดกลอนประตู ก็รู้ว่าเป็นคนร้ายแน่ จึงทำนอนหลับนิ่งอยู่ ก็มีคนร้ายสองคนเข้ามาในห้อง ค้นหาถุงเงินจนพบแล้วก็หยิบฉวยเอา ไฮ้สุยก็กระโดดลงจากเตียงไปปิดประตูห้องไว้แล้วร้องอึงขึ้น เพื่อนสามคนก็ตื่นช่วยกันจับโจรสองคนมัดไว้ได้

เจ้าของโรงเตี๊ยมได้ยินเสียงก็ตกใจวิ่งมาดู เห็นว่าเป็นโจรโดยแท้จึงบอกกับไฮ้สุยให้เอาตัวโจรสองคนนี้ไปส่งแก่ขุนนางกรมเมือง ไฮ้สุยกับเพื่อนก็จะเอาตัวไป โจรทั้งสองก็ร้องขอโทษตัวว่า

"....จงเอ็นดูยกโทษให้แก่ข้าพเจ้าสักครั้งหนึ่งเถิด ข้าพเจ้ามีจักษุก็จริง แต่ปราศจากแววตา จึงมิได้รู้ว่าท่านเป็นคนดี ท่านจงให้ทานชีวิตแก่ข้าพเจ้า....."

ไฮ้สุยก็ว่า

"....เราจะพูดให้เจ้าฟังคนที่เล่าเรียนหนังสือและคนค้าขายทำไร่นาเรือกสวน และคนที่ทำการรับจ้าง หาเลี้ยงชีวิตโดยชอบธรรม คนเหล่านี้ล้วนแต่ดีทั้งนั้น คนที่หากินโดยเป็นโจร และการฉ้อกระบัดเบียดเบียนผู้อื่น คนจำพวกนี้เรียกว่าชั่ว คนบังเกิดมาในโลกนี้ย่อมมีอยู่สอง อย่าง คือทั้งดีและชั่วดังนี้ เมื่อรู้จักการดีและชั่ว ต้องละข้างชั่วถือเอาแต่ข้างดี....."

แล้วก็สั่งสอนต่อไปอีกว่า

"....ประการหนึ่งทรัพย์สิ่งของทองเงินที่คนดีทำมาหาได้ มาไว้ในบ้านเรือนเป็นของ บริสุทธิ์ เปรียบเหมือนน้ำในตุ่มตั้งไว้ จะกินจะใช้เมื่อใดก็ได้ดังใจปรารถนาเพราะเป็นของเย็น ผู้ที่หาทรัพย์สิ่งของทองเงินมาได้ด้วยการอันไม่เป็นธรรม เปรียบเหมือนเอาเพลิงมากองไว้ในบ้านเรือน มีแต่ความร้อนใจเป็นธรรมดา....."

ลงท้ายก็ว่า

".....ตัวเจ้าทั้งสองอายุก็แก่กว่าเราเป็นหลายปี ย่อมรู้จักการดีและชั่ว ไม่ควรจะ ประพฤติตัวให้เป็นพาล....."

นายโจรทั้งสองได้ฟังก็เห็นจริงด้วยทุกอย่างคิดถึงความชั่วที่ตัวประพฤติล่วงมาแล้วก็เสียใจ จึงคุกเข่าลงคำนับไฮ้สุยแล้วว่า

".......ท่านพูดจาสั่งสอนข้าพเจ้านี้ แต่ล้วนเป็นความจริงทุกอย่าง ข้าพเจ้ามีความเย็นใจยิ่งกว่าได้เงินทอง โดยจะลักเงินทองของท่านได้ไป สักสิบเท่านี้ก็ไม่สู้คำสั่งสอนของท่าน ตั้งแต่นี้ไปภายหน้าข้าพเจ้าไม่ประพฤติเป็นโจรต่อไปแล้ว ท่านจับข้าพเจ้าได้ไม่ทำโทษทุบตี และท่านกลับสั่งสอนข้าพเจ้าให้ตั้งอยู่ในความชอบ พระคุณท่านหาที่เปรียบมิได้....."

ไฮ้สุยเห็นนายโจรทั้งสองพูดจาอ่อนน้อม ยอมรับผิดคิดถึงตัวจะทิ้งความชั่วโดยแท้ จึงพูดกับเจ้าของโรงเตี๊ยมว่า โจรสองคนนี้ข้าพเจ้านึกเอ็นดู เพราะเห็นว่าถ้อยคำมั่นคงอยู่ อย่าส่งตัวให้กรมเมืองเลยปล่อยเสียเถิด เจ้าของโรงเตี๊ยมก็ว่าสุดแต่ใจท่าน ไฮ้สุยก็แก้มัดปล่อยโจรทั้งสอง นายโจรทั้งสองจึงว่า

".....ข้าพเจ้าคิดถึงคุณท่าน จะขออยู่เป็นบ่าวท่าน ท่านจะไปไหน ข้าพเจ้าจะขอตามไปด้วยให้ท่านใช้สอย....."

ไฮ้สุยว่าตัวเจ้าเป็นโจรคงจะมีพวกพ้องมาก ตัวเราเป็นแต่ราษฎรไม่มีอำนาจวาสนา จะเอาเจ้าไว้ใช้สอยเป็นบ่าวได้อย่างไร แต่เพียงสั่งสอนให้ทิ้งความชั่วได้แต่เท่านี้ก็ดีอยู่แล้ว นายโจรทั้งสองก็ไม่ไป อ้อนวอนขออยู่เป็นบ่าวให้ใช้สอยอย่างเดียว เพื่อนของไฮ้สุยเห็นดังนั้นจึงว่าแก่ไฮ้สุยว่า ท่านจงรับไว้เถิดจะเป็นไรไป เขาจงรักภักดีต่อท่านโดยแท้ เรายังเดินทางต่อไปทางเล่าก็เป็นย่านไกลนักจะได้เป็นเพื่อนกันหลายคนในกลางทาง ไฮ้สุยได้ฟังก็เห็นชอบด้วยจึงถามว่าเจ้าทั้งสองนี้ชื่อแซ่ใด คนหนึ่งบอกว่า เฮ่งอัน อีกคนหนึ่ง เตียหยง และว่าท่านจงเปลี่ยนชื่อแซ่ของ ข้าพเจ้าเสียเถิด ด้วยข้าพเจ้าเป็นนายโจรชื่อเสียงปรากฎอยู่ แต่ตัวข้าพเจ้าไม่มีใครรู้จัก ข้าพเจ้าประพฤติการไม่ดีแซ่และชื่อยังติดตัวอยู่ ไฮ้สุยจึงเปลี่ยนให้เป็นแซ่ไฮ้ คนหนึ่งชื่อ ไฮ้อัน อีกคนหนึ่งเป็น ไฮ้หยง ทั้งสองนายก็ยินดี และขอลาไปบอกแก่พวกบริวาร ให้เลิกการที่เป็นโจรเสีย แล้วจะกลับมาไม่ช้า

ไฮ้อันกับไฮ้หยงก็กลับไปหาพวกพ้อง เล่าความให้ฟังทุกประการ และบอกว่าเราทั้งสองเลิกหากินเป็นโจรแล้ว ท่านทั้งหลายจะทำมาหากินอย่างไร ก็ตามแต่ใจถนัดเถิด พวกบริวารโจรก็พากันเลิกความชั่วตามไปด้วย นายโจรจึงเอาทรัพย์สิ่งของเงินทองซึ่งรวบรมไว้เป็นของกลาง ออกมาแบ่งปันกันเสร็จแล้ว จึงว่าท่านทั้งหลายจงไปกระทำมาหากินตามชอบใจเถิด อย่าได้อยู่ในตำบลนี้เลยแม้นอยู่ไปถึงไม่เป็นโจรก็เหมือนหนึ่งเป็น และสั่งให้เอาไฟเผาเรือนเสียสิ้น แล้วต่างก็แยกกันไป

ไฮ้อันไฮ้หยงก็พากันกลับมาหาไฮ้สุย เอาเงินแปดร้อยตำลึง ที่ได้เป็นส่วนแบ่งของตนนั้นให้แก่ไฮ้สุย แต่ไฮ้สุยไม่รับและว่า

".....เงินนี้ได้มาด้วยการอันไม่สุจริต เราตรองเห็นว่าจะรับเอาไว้ใช้สอยปะปนกับของเรา ที่ทำมาหาได้ด้วยการอันสุจริตนี้ไม่ควร....."

ทั้งสองก็ว่า

".....เงินนี้ข้าพเจ้าได้มาด้วยการแย่งชิงมา เป็นของไม่ดีก็จริง ครั้นข้าพเจ้าจะกลับคืนให้แก่เจ้าของ ก็ไม่รู้จักว่าจะคืนให้แก่ผู้ใด เป็นการจนใจก็ต้องเอามาให้แก่ท่าน จะเอาไปทำอย่างไรก็ตามแต่ใจท่านเถิด....."

ไฮ้สุยว่าของอันนี้ไม่ดี ให้ทานเสียเถิดดีกว่า พูดแล้วก็ให้ไปซื้ออีแปะทั้งแปดร้อยตำลึง เอาไปแจกแก่คนยากจนอนาถาและแก่ชราจนหมด แล้วก็ออกจากโรงเตี๊ยมพากันเดินทางต่อไป จนถึงบ้านนางเตียกัวหู ก็พำนักอยู่ที่บ้านนั้น นางเตียกัวหูเห็นไฮ้อันกับไฮ้หยงเข้ารับการงาน ให้ ไฮ้สุยใช้สอยสนิทสนมเหมือนนายกับบ่าว แต่ฟังดูเป็นแซ่เดียวกัน จึงถามไฮ้สุยด้วยความสงสัย ไฮ้สุยก็เล่าความตั้งแต่ต้นจนปลาย ให้ฟังทุกประการ นางเตียกัวหูก็ชมว่า

"....ผู้ซึ่งเป็นพาลรู้สึกตัวว่าประพฤติความชั่วกลับใจได้ ประกอบการดีแล้วนักปราชญ์ย่อมสรรเสริญ ซึ่งท่านทั้งสองกลับใจได้ดังนี้ ขอให้มีความเจริญยิ่งขึ้นไปเถิด....."

ไฮ้อันไฮ้หยงก็คำนับนางเตียกัวหู

ครั้นพักอยู่ที่บ้านนางเตียกัวหูพอหายเหนื่อยแล้ว ไฮ้สุยก็คำนับลาไปไล่หนังสือกับเพื่อน ครั้นมาถึงที่สอบก็รู้ว่าแม่กองไล่หนังสือยังเป็นคนเก่าอยู่ก็เสียใจไม่ยอมสอบ แล้วก็ป่วยลง ไฮ้อันไฮ้หยงก็หาหมอมารักษาเอาใจใส่พยาบาลกัน จนไฮ้สุยหายป่วยก็พากันกลับมาบ้าน นางนิวสิมารดาและนางเตียเกงฮวยภรรยาก็ดีใจ ด้วยสำคัญว่าไล่หนังสือได้ ไฮ้สุยก็เล่าความทั้งปวงให้มารดาและภรรยาฟังทุกประการ

แต่อยู่มาจากนั้นประมาณหกเดือน นางนิวสิก็ป่วยถึงแก่กรรมลง ไฮ้สุย กับภรรยาก็ร้องไห้เศร้าโศกเสียใจนัก เมื่อทำการฝังศพตามธรรมเนียมแล้ว ก็ทำบุญให้มารดาด้วยการกงเต๊ก และการอื่น ๆ จนเงินทองในเรือนหมดไปไม่รู้ตัว นางเตียเกงฮวยก็เอาเครื่องแต่งตัวที่มีอยู่ ออกไปขายซื้อกินเลี้ยงกันไป

ในเมืองหลวงนั้น พระเจ้าไทเซียงฮอง ได้ประชวรลงหมอหลวงถวายพระโอสถหลายขนาน พระอาการไม่คลายมีแต่จะทรุดหนักลงทุกวัน ครั้นอยู่มาประมาณสองเดือนเศษก็เสด็จสวรรคต พระชนม์ได้สามสิบสองปีกับสองเดือนเศษ พระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้ ก็โศกเศร้าไม่เป็นอันสรงเสวย จนประชวรไปสามเดือน พระอาการจึงได้เป็นปกติ และจัดการฝังพระศพพระเจ้าไทเซียงฮอง ณ ตำบลเกงเหลง ซึ่งเป็นที่ฝังศพกษัตริย์มาแต่ก่อน

ต่อมาพระเจ้าเกียเจ๋งฮ่องเต้จึงให้มีหมายประกาศไปตามหัวเมืองเอก โท ตรี จัตวา ให้เข้ามาไล่หนังสือและให้เพิ่มตำแหน่งจีนสือ หรือลำดับที่หก ให้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน การไล่หนังสือนั้นมีแปดลำดับคือ ที่หนึ่งจอหงวน ที่สองไก้หงวน ที่สามฮวยหงวน ที่สี่ปางั้น ที่ห้าทำฮวย ที่หกจีนสือ ทั้งหกลำดับนี้ได้เข้ามาเฝ้าฮ่องเต้ ที่เจ็ดกือหยิน ที่แปดซิวจ๋าย สองลำดับท้ายนี้ไม่ได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้

ไฮ้สุยได้แจ้งข่าวนี้ก็เตรียมตัวจะไปไล่หนังสือ ที่เมืองหลวงตามกำหนดจึงพูดกับนางเตียเกงฮวยภรรยาว่า

"....บัดนี้แผ่นดินเปลี่ยนใหม่ ถึงคราวไล่หนังสืออีกแล้ว โดยเราเข้าไปคราวนี้เห็นจะดี ด้วยที่จีนสือก็เพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อนกว่าร้อยคน แต่คราวนี้ทุกข์ร้อน ที่จะไปซื้อกินกลางทางก็ ขัดสน....."

นางเตียเกงฮวยก็ว่า

"..จะไปก็ได้ไม่เป็นไร ของแต่งตัวข้าพเจ้ายังมีอยู่ พอจำหน่ายลงก็พอจะเป็นเสบียงไปได้ ถ้าท่านไปเมื่อใดข้าพเจ้าจะจัดให้ท่าน.."

ไฮ้สุยก็มีความยินดี และตั้งใจจะไปไล่หนังสือในเมืองหลวงให้จงได้.

##########




Create Date : 06 กันยายน 2551
Last Update : 6 กันยายน 2551 9:42:16 น. 0 comments
Counter : 390 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.