Group Blog
 
All Blogs
 
เรื่องเล่าของคนวัยทอง (๖) ความเมตตา

เรื่องเล่าของคนวัยทอง (๖)

ความเมตตา

เพทาย

วันนั้นผมมีกิจกรรมที่จะต้องไปฟังสวดศพเพื่อนรุ่นพี่ ที่วัดสุสิตาราม เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า แต่ขณะนั้นเวลายังเหลืออีกเยอะ จึงเดินเรื่องเปื่อยไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา

ผมค่อย ๆ เดินมาจนถึงริมเขื่อนใต้สะพาน ซึ่งถ้าตรงต่อไปก็ จะเป็นท่าเรือ สำหรับผู้โดยสารที่จะข้ามฝากหรือไปเรือด่วน ใช้ขึ้นลง เขื่อนที่ว่านี้ทอดยาวไปตามริมแม่น้ำ มีลักษณะเหมือนขั้นบันไดกว้าง ๆ ลดต่ำลงไปในแม่น้ำ สักสองหรือสามขั้นก็ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะระดับน้ำสูงขึ้นมาท่วม มองเห็นเพียงขั้นเดียวก่อนที่จะถึงสันเขื่อน เวลาเรือหางยาวหรือเรือด่วน หรือเรือทัศนาจรขนาดใหญ่ ของร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทั้งหลาย แล่นผ่านมา ก็จะเกิดคลื่นเป็นเกลียววิ่งม้วนตัวเข้าฟาดฟัดเขื่อนขั้นล่างดังฉาดฉาน แล้วแตกกระจายกลายเป็นฟองย้อนกลับลงไปดังเดิม ถ้าใครนั่งห้อยขาริมเขื่อนแล้วไม่ระวังตัว ก็อาจจะถูกคลื่นซัดเอาเปียกปอนไปได้ ต้องคอยยกเท้าให้พ้นยอดคลื่นที่ฟาดตัวเข้ามา เป็นเรื่องที่น่าสนุกไปอีกแบบหนึ่ง

ในเวลานั้นพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมสะพานไปแล้ว ทั่วบริเวณนั้นจึงร่มรื่นด้วยเงาอันมหึมาของสะพานพระปิ่นเกล้า และร่มไม้ยืนต้นที่มีอยู่พอสมควร สายลมที่พัดผ่านแม่น้ำก็เย็นระรื่นชื่นใจ จึงมีผู้คนแวะเข้ามาพักผ่อนอยู่หลายคน นอกจากเด็กชายคนหนึ่งอายุประมาณสิบปีเศษ ซึ่งนอนคุดคู้เป็นวงกลมเหมือนกิ้งกือ อยู่บนเสื่อขาดใต้ต้นไม้แล้ว ที่ริมเขื่อนก็มีหนุ่มสาว คู่หนึ่ง เอากระดาษหนังสือพิมพ์ปูรองพื้นนั่ง รับประทานของว่างประเภทส้มตำหมูปิ้งอยู่อย่างมีความสุข เวลาคลื่นสาดกระเซ็นขึ้นมาก็จะมีเสียงหัวร่อต่อกระซิก อย่างน่ารัก น่าเอ็นดู แกมน่าอิจฉาเป็นอย่างยิ่ง

ต่อจากนั้นใกล้ทางที่จะเดินลงสะพาน ซึ่งทอดไปสู่ท่าจอดเรือรับส่ง ก็เป็นหมู่จักรยานยนต์รับจ้าง สามสี่ราย จอดคอยผู้โดยสารที่ขึ้นมาจากเรือ ผลัดเปลี่ยนกันไปตามคิว

ด้านหน้าของเขื่อน มีเด็กเล็กบ้างโตบ้าง ผิวสีดำคล้ำ นุ่งกางเกงบ้างไม่นุ่งบ้าง สามสี่คน แสดงลีลาการกระโดดน้ำแบบต่าง ๆ จากโป๊ะที่เทียบเรือ หรือจากเสาสูงที่ผูกโป๊ะ เพื่อเรียกร้องความสนใจของผู้คนที่เดินขึ้นลงท่านี้อยู่ตลอดเวลา

ด้านหลังลึกเข้าไปจากริมเขื่อน เป็นทางเดินสัญจรไปมา จึงมีรถเข็นขายไอศกรีม ผลไม้แช่น้ำแข็ง และอาหารแบบอีสาน จอดรอลูกค้าเรียงอยู่ใกล้ ๆ กัน

ผมหย่อนตัวลงนั่งขัดสมาธิ ด้านซ้ายสุดใกล้ขอบเขื่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องพะวงกับฝอยคลื่น แล้วก็เปิดหนังสือการ์ตูนเก่าแก่ชื่อดัง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีการ์ตูน ผมเลือกอ่านแต่เฉพาะเรื่องขำขันสั้น ๆ ก่อน เพราะไม่ต้องเสียเวลาอ่านนาน

พลิกไปได้สักครึ่งเล่ม ก็รู้สึกว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ด้านหลัง พร้อมกับมีเสียงพูดจ้อกแจ้กจอแจ ผมจึงเหลียวไปดู ก็พบว่ามีชายผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างสองสามคน เดินตามหลังเด็กชายที่เห็นนอนขดอยู่นั้น ตรงมาที่ผมนั่ง ผมจึงขยับขยายที่ทางข้างตัวให้ว่าง พอที่เขาจะปูเสื่อ กระรุ่งกระริ่งนั้นลงได้ไม่ห่างนัก ดังนั้นผมจึงเห็นได้ชัดว่าเขามีรูปร่างผอมเกร็ง หน้าตาดำ เนื้อตัวขมุกขมอมดูสกปรก รวมทั้งผมเผ้าเป็นสังกะตังอีกต่างหาก เขานั่งยอง ๆ ลงบนเสื่อ รับเอาห่อข้าวที่โชเฟอร์มอเตอร์ไซค์ส่งให้มาแก้ออกดู มันเป็นข้าวหมูแดงแบบธรรมดา

เขาไม่รอช้าเอามืออันดำนั้นหยิบข้าวเปิบเข้าปากอย่างว่องไว มีเสียงใครถามว่าหิวมากไหม เข้าพยักหน้า ถามว่าเอาน้ำไหม เขาก็พยักหน้าอีก พลางรับน้ำขวดที่มีผู้ส่งให้มาดื่มอึกใหญ่ วางขวดลงเอามือป้ายริมฝีปากแล้วก็เปิบข้าวต่อ

โชเฟอร์ผู้หวังดีก็บอกเป็นเชิงห้ามปรามว่าอย่าลงไปเล่นน้ำ เดี๋ยวจะโดนคลื่นซัดตาย เขาก็พยักหน้าอย่างเคย สงสัยจะเป็นใบ้ แต่ทำไมฟังรู้เรื่องโดยไม่ต้องเงยหน้า โชเฟอร์คนเดิมซึ่งคงจะเป็นเจ้าของข้าวห่อนั้น เอ่ยขึ้นลอย ๆ เหมือนอยากจะเล่าให้เพื่อนร่วมอาชีพ ที่มายืนมองอยู่สองสามคนได้ฟังว่า

" มันน่าสงสารว่ะ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย ไม่รู้หลุดมาจากไหนเพิ่งโผล่มาเมื่อบ่ายนี้เอง นอนอยู่อย่างนั้นแหละไม่ยอมขยับเขยื้อน ท่าจะหิวจนหมดแรง เมื่อกี้ผ่านมาทางหน้าวัด ก็เลยซื้อข้าวติดมือมาฝาก "

เพื่อนพ้องก็พยักหน้ารับรู้ และพึมพำกันเป็นเชิงอนุโมทนาในกุศลเจตนาทั้งนี้โดยทั่วกัน ผมเองเอามือคลำกระเป๋ากางเกง กะว่าตอนขากลับจะควักเศษเหรียญ ให้ไว้กินขนมสักสองสามเหรียญ

พอดีเจ้าเด็กนั้นกินอิ่ม เขายกน้ำขวดขึ้นดื่มอั้ก ๆ จนหมดโยนขวดพลาสติกลงไปในแม่น้ำ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของห่อข้าวผู้มีเมตตา ผมนึกว่าเขาจะยกมือไหว้สักครั้ง ก็จะน่ารักมากทีเดียว แต่ผิดคาดเขาทำมือเหมือนกับต้องการอะไรอีกอย่าง

" เฮ้...อิ่มแล้วจะเอาอะไรอีกล่ะ "

" อาว...อาว..."

เสียงของเขาอ้อแอ้ เหมือนคนลิ้นไก่สั้น

"เอา...อาว..."

โชเฟอร์เจ้าของเรื่อง ขมวดคิ้ว ก้มหน้าลงไปถามให้ใกล้เข้าไปอีกนิด

" จะเอาอะไรนะ "

"อาว...อาว..."

เขาย้ำอย่างเดิม พร้อมกับกำมือสองมือห่อเข้าด้วยกัน แล้วก็จ่อที่จมูกทำท่าสูดดมอย่างแรง เสียงดัง ฟืด...ฟืด

เพื่อนของโชเฟอร์ผู้มี ใจอารี หัวเราะเฮขึ้นเกือบจะพร้อมกัน

" มันจะดมกาวว่ะ "

ชายผู้มีจิตใจอันงดงาม ยืดตัวขึ้นตั้งตรง ขบกรามนูนเป็นสัน แววตาของเขาแม้จะมีประกายดุดัน แต่ก็เห็นร่องรอยของความผิดหวังอย่างรุนแรง เขาเงื้อเท้าขึ้นนิดเดียวแล้วก็ชะงัก พึมพำอยู่ในลำคอ

" ห่ะ...เดี๋ยวพ่อถีบตกน้ำ "

แล้วก็สะบัดหน้ากลับ เดินตามหลังเพื่อนไปยังที่จอดรถจักรยานยนต์คู่ชีพ ซึ่งหมู่ผองเพื่อนของเขา กำลังหัวเราะคิกคักกันอยู่

ผมค่อย ๆ ชักมือออกจากกระเป๋ากางเกง ปิดหนังสือแล้วก็ลุกชึ้นยืน และรีบสาวเท้าเดินออกจากที่นั้น อย่างเจ็บปวดหัวใจ ไม่น้อยไปกว่าโชเฟอร์ผู้
มีน้ำใจคนนั้น

ผมหัวเราะไม่ออกจริง ๆ ครับ.

##########

นิตยสาร สราญ
ธันวาคม ๒๕๔๑

ถนนนักเขียน ห้องสมุดพันทิป
๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘















Create Date : 27 กันยายน 2550
Last Update : 28 กันยายน 2550 6:42:49 น.

Counter : Pageviews. 8 comments

Add to







สวัสดีค่ะ.. แวะเข้ามานั่งเล่นริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยคนค่ะท่าน

แต่เจอแบบนี้ก็อึ้งไปเหมือนกันค่ะ

สลดใจ !



โดย: ณ กมล วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:22:59:59 น.







ยินดีที่มีคนมานั่งเป็นเพื่อน
เดี๋ยวนี้พื้นที่แถวนั้น มีผู้จับจองเต็มไปหมด
นั่งไม่สบายใจเหมือนก่อนแล้วครับ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ.



โดย: เจียวต้าย (เจียวต้าย ) วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:6:45:21 น.







เป็นเรานะแจ้งตำรวจจับเลย เอาไว้ทำไม



โดย: เด็ก Office IP: 203.144.139.225 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:11:52:53 น.







ใจจริงก็สงสารพวกเขาอยู่เหมือนกัน
ถ้าเขามีที่ไปเขาก็คงไม่อยากมานอนใต้ต้นไม้หรอกครับ.




โดย: เจียวต้าย IP: 58.9.204.245 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:21:51:17 น.







ถ้าเลือกได้เด็กคนนั้นคงไม่อยากติดยาหรอกค้าบ ต้นตอก้อคงมาจากครอบครัวเค้านั่นแหละ
อ่านแล้วเศร้า



โดย: ข้าวโพด IP: 121.55.242.19 วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:13:37:41 น.







ก็อย่างที่สรุปว่า หัวเราะไม่ออกไงครับ.



โดย: เจียวต้าย วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:20:05:13 น.







เด็กมีปัญหาหลากหลาย
ต้องอาศัยครอบครัวและสังคมช่วยกันดูแล



โดย: พี่แต้ วันที่: 14 มีนาคม 2551 เวลา:22:22:07 น.







คนขับมอร์ไซค์รับจ้าง ก็มีน้ำใจช่วยดูแลแล้วไงครับ.



โดย: เจียวต้าย วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:9:56:54 น.






Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2553 19:18:08 น. 2 comments
Counter : 544 Pageviews.

 
แวะมาอ่าค่ะ สงสารแต่ต้องใจแข็ง ไม่ง้ันคงไม่เลิกดมกาวแน่ๆเลย


โดย: มนต้นไม้ (Setakan ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:34:51 น.  

 
หลังจากที่ผมเขียนเรื่องนี้มาร่วมสิบปี
ผมก็เจอเข้ากับตนเอง คือมีเด็กหนุ่มเร่ร่อนและดมกาวมาขอเงิน
ผมก็ให้ไปกินข้าว แต่เขาจะเอาไปทำอะไรผมไม่รับรู้
ขออยู่หลายปีแล้วก็หายไปครับ


โดย: เจียวต้าย วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:05:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.