Group Blog |
คำสารภาพของสาวทึนทึก ตอนที่ 3
แต่ละวันหลังส่งสรุปข่าวสำคัญให้บรรดาเจ้านายทั้งหลายทางอีเมล์แล้ว ฉันก็เช็คเมล์บอกซ์ตามปกติ แต่วะเว้ยเฮ้ย! มีฉบับหนึ่งที่มาจากเขาคนนั้น มือสั่นแล้วแต่ไม่เท่าใจสั่น รีบคลิ๊กอ่านทันที
"ขอบคุณมากครับ" ถ้าเป็นคนอื่นทั่วไป ฉันคงรู้สึกชื่นชมในมารยาทดีเท่านั้น แต่นี่เป็นคนที่ฉันแอบปลื้มมันก็เลยคูณ 2,3,4...ดีใจอ่ะ! เขาผู้ที่เก่ง ฉลาด ความสามารถเป็นเยี่ยม ช่างมีมารยาท และที่สำคัญเขาได้อ่านงานของฉันด้วยล่ะ รู้สึกเหมือนกำลังมองฟ้าตอนกลางคืนที่มีพลุสวย ๆ เลย...ปุ้ง! ปุ้ง! ปุ้ง! แล้วคืนนั้นฉันก็นอนหลับโดยไม่ได้ฝันถึงอะไรเลย วันรุ่งขึ้นและต่อ ๆ มาฉันยังคงส่งอีเมล์สรุปข่าวตามปกติโดยเฝ้ารอปรากฏการณ์เช่นนั้นอีก แต่ก็เปล่าเลย! สงสัยเขาคงงานยุ่งจนไม่มีเวลาอ่านงานของฉันเลย แต่ไม่เป็นไร เล่น FB เม้าท์มอยกับเพื่อน ๆ ก็ได้วะ ปกติแล้วฉันจะใช้รูปดอกกุหลาบมากกว่ารูปของตัวเอง เพราะมันดูดีกว่า 555 ใช่! ฉันค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัว ขี้อาย ไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเองเท่าไร แต่ฉันจริงใจนะ ก็เลยไม่ค่อยรับใครเป็นเพื่อนง่าย ๆ แต่เอ๊...มีคนมาขอเป็นเพื่อน 3 คน ซึ่งฉันไม่รู้จักมาก่อน 2 รายอ่านชื่อและดูหน้าแล้วเป็นผู้หญิง ส่วนอีกคนเป็นชายหนุ่มจากตุรกี จะรับดีหรือเปล่านะ เคยรับคนไม่รู้จักแล้วไม่ได้ Post อะไรเลย หรือไม่ก็เล่นขายของกันหน้าตาเฉย ฉันว่ามันเสียเวลาน่ะ เลยตัดสินใจลองรับชายหนุ่มตุรกีไว้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเมินแม่ 2 ชะนีนั่น แล้วก็เจอดีเข้าจนได้... คำสารภาพของสาวทึนทึก ตอนที่ 2
"หากความรักเกิดในความฝัน เราจุมพิตโดยไม่รู้จักกัน"
เนื้อเพลงคุ้นหูแต่ทุกครั้งที่ได้ฟังก็มักจะเกิดการตีความใหม่ ๆ ขึ้นทุกครั้ง ฉันอายที่จะยอมรับว่าบางครั้งฉันก็ฝันอย่างนั้น มีรักลึกซึ้งกับคนที่ฉันไม่เคยจำหน้าได้ในความฝัน และตื่นมาพร้อมกับความอาลัยเสียดาย หากเลือกได้ฉันขอตักตวงความสุขที่ไม่เคยมีอยู่จริงในชีวิตไปอีกนานเท่านาน และเพียงแค่ลืมตาขึ้น ฉันก็สามารถผละออกมาได้เมื่อมันจืดจางความหวาน... ในชีวิตจริงยากเหลือเกินที่จะมีใคร หรือให้ฉันเปิดใจยอมรับให้ใครเข้าถึงได้ขนาดนั้น ชั่งน้ำหนักระหว่างความสุขกับความทุกข์ที่อาจเกิดขึ้นแล้ว ก็เลือกที่จะมีชีวิตราบเรียบแบบนี้ต่อไปทุกที เขาเป็นคนหนึ่งที่ฉันรู้จักผ่านการทำงาน ความเป็นผู้ใหญ่ ความเฉียบคมและคุณสมบัติของเขาทำให้ฉันประทับใจและอยากเป็นแบบนั้น ด้วยเจียมตัวว่าฉ้ันเป็นแค่คนธรรมดา จึงก้มหน้าก้มตาทำงานพร้อมกับลอบเก็บข้อมูลท่าที การพูดจา แนวคิด ของเขาอยู่เงียบ ๆ ฉันก็รู้สึกชื่นชมเขาทีละน้อย ๆ เหมือนน้ำซึมบ่อทราย ตอนที่ 1 คำสารภาพของสาวทึนทึก
อีก 10 นาที 4 ทุ่ม นี่ฉ้ันมาทำบ้าอะไรอยู่ที่นี่วะ ทั้ง ๆ ที่ขอลาป่วย แต่ก็ยังไม่วายแส่มานั่งทำงานอยู่ได้ จะเอาโล่หรือไงยะ... ป่านนี้เพื่อนร่วมงานทั้งหลายคงนั่งสบายอยู่หน้าจอทีวี กินข้าว นอนไปตามเรื่อง คิดแล้วฉันก็อยากทำอย่างนั้นบ้าง ถ้าไม่มีงานมหาศาลพร้อมที่จะถล่มทับอยู่นะ เหมือนจะเป็นคนดีเน้อะ แต่ที่จริงแ้ล้วถึงไม่ทำวันนี้ มันก็จะสะสมไปถึงวันพรุ่งนี้อีกจนได้ พิจารณากันจริง ๆ แล้ว ม้ันไม่ได้เป็นงานที่มีความสำคัญอะไรเลย งานเอกสาร รายงานผล ซึ่งแม้แต่เจ้านายบางคนของฉันยังเรียกมันว่า "งานขยะ" แต่ก็ต้องทำมันอยู่ดี ก็เพราะคิดอย่างนี้แหละ ถึงได้ติดแหงกอยู่ที่ทำงานยันค่ำทุกวัน นอกจากพวกหื่นวิปริต ชีวิตนี้ไม่มีทางที่ฉ้ันจะได้เจอและสร้างความผูกพันกับคนดี ๆ สักคนเป็นแน่ ชีวิตนี้ตูต้องแห้งเหี่ยวคาคาน...เศร้าว่ะ
ลืมแนะนำตัวไป ฉันเอเวอลีน ชาง สาวออฟฟิศวัย 33 ปี สาวโสดพ่วงความบริสุทธิ์เต็มร้อย การันตีได้ด้วยสถิติไม่เคยคบใครและไม่มีใครคบฉันเป็นแฟนเลยสักคน |
นีระพารถ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ชอบการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีความสุขและยิ้มได้ง่าย ๆ กับตัวเองและสิ่งรอบตัว...
Link |