Group Blog |
ของขวัญทำมือสุดหรูราคาประหยัดช่วงเทศกาลวาเลนไทน์
อายจัง...ไม่ได้เขียนบล็อกซะนานจนหยากไย่จับหนาเกรอะกรัง ตอนนี้พอมีเวลาว่างจากงานต้องรีบคว้าโอกาสทอง
ก็ยังคงมีความสุขกับการทำขนมและอาหารเหมือนเดิมค่ะ ลามปามถึงขนาดทำฮาเร็มลอยฟ้าคุกกิ้งสคูล ชวนเพื่อนมาทำพิซซ่า สนุกสนานเฮฮา อิ่มอร่อยกันทั่วหน้า ติดใจจนต้องเตรียมเมนูเดือนต่อไป แต่ตอนนี้ขอแนะนำของขวัญทำมือสุดหรูช่วงเทศกาลวาเลนไทน์จ้า... 1. ของขวัญสำหรับเธอ... "สตรอเบอรี่เคลือบช็อกโกแลต" - บรรจงเลือกสตรอเบอรี่รูปหัวใจไร้ตำหนิ ล้างให้สะอาด ซับให้แห้ง เอาไม้จิ้มฟันจิ้มที่ขั้ว ละลายช็อคชิพของเฮอร์ชี่ชนิด Semi-sweet+เนยเล็กน้อยให้มันวาว เอาสตรอบเบอรี่ลงจุ่มครึ่งผล วางบนกระทงฟรอยสวย ๆ ตกแต่งด้วยฟรอสติ้งเก๋ รอให้แห้งดีแล้วใส่กล่องงาม ๆ ผูกโบว์ เอาไปให้เธอที่รักในวันวาเลนไทน์ 2. ของขวัญสำหรับเขา... "ช็อคโกแลตสอดไส้เหล้ารสต่าง ๆ" - นำเหล้าหลาย ๆ รสที่ชอบเทใส่ถาดทำน้ำแข็งเล็ก ๆ รูปร่างสวย ๆ แช่จนแข็ง ละลายช็อกโกแลตเซมิสวีตของเฮอร์ชี่กับเนยเล็กน้อย แล้วยกลงจากเตา แกะก้อนเหล้าออกมาหย่อนลงไปให้เคลือบจนทั่ว ผึ่งให้แห้ง เคลือบซ้ำแล้วผึ่งแห้งจนได้ความหนาที่ต้องการ เมื่อเคลือบชั้นสุดท้ายแล้วก่อนแห้งให้โรยด้วยผงกาแฟบดละเอียด เพิ่มความเข้มข้นให้ถูกใจคุณผู้ชาย ใส่กล่องเท่ ๆ ผูกโบว์ดำเอาไปให้เขาในวันวาเลนไทน์ ได้ผลเป็นไงมาบอกกันบ้างเด้อค่ะเด้อ... วอลนัทบราวนี่
เราว่าวอลนัทแม้จะมีราคาแพง แต่มันก็เข้ากับบราวนี่ได้ดีสุด ๆ เลยล่ะ เพื่อให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เราก็ซื้อทีละขีด (แบ่งทำบราวนี่ได้ 3 ครั้งแน่ะ) ขีดละ 60 บาท (ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ที่สยามสแควร์มีขายด้วยล่ะ) เราประยุกต์จากสูตรของคุณเช้า แต่ลดน้ำตาลลง และใช้ดาร์คชอคโกแลตแท่งเท่าที่จะหาได้ และใช้น้ำมันถั่วเหลืองแทนเนย ผลออกมาก็ถูกปากเรามากเลย
ดูส่วนผสมกันชัด ๆ เห็นมะ แอบใส่ลูกเกดและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ด้วย ละลายช็อคโกแลตก่อน ตีไข่ 2 ใบ น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย ให้เข้ากัน ใส่ผงโกโก้ดรอสเต้ 1/6 ถ้วย ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย+ ผงฟู 1/2 ช้อนชา + เกลือนิดนึง ลงไป ใส่ดาร์คช็อคที่ละลาย + น้ำมันพืช คนให้เข้ากัน ใส่วอลนัท+เม็ดมะม่วงหิมพานต์+ลูกเกด ลงไปคนผสมให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์เพื่อเตรียมอบ เปิดไฟหม้ออบลมร้อนที่ 175 องศาเซลเซียส รอไว้ก่อน 5 นาที แล้วนำบราวนี่เข้าอบประมาณ 7 นาที จะได้เนื้อบราวนี่หนึบ ๆ แช่เย็นค้างคืนจะยิ่งอร่อยขึ้น แต่ถ้าใครชอบหน้ากรอบ ๆ จะไว้นานกว่านั้นก็ได้นะจ๊ะ สักชิ้นไหมค่ะ ทานกับชากระเจี๊ยบ บัวจม ไข่โผล่!
วันนี้นึกอยากกินบัวลอยเจ้าอร่อย แต่ป้าแกดันไม่มาขายซะนี่ ฮือ ๆ ๆ เค้าจากินให้ได้ง่ะ...(โปรดนึกภาพประกอบ ผู้หญิงวัยกลางคนอายุ 33 กระทืบเท้าแล้วลงไปชักดิ้นชักงอ)
พอได้สติฉันก็สบัดบ็อบใส่ "หนอย ทำเองก็ได้ไม่ง้อหรอกเชอะ" หยิบหม้อหุงข้าวใบโปรดมารอ ดูข้าวของในตู้ พอจะมีแป้งมัน แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว ก็เอามาผสมกันด้วยสัดส่วนที่มั่ว ๆ กะว่ากินคนเดียว เสียดายที่ไม่มีเผือก ไม่มีมันมาผสม เลยจำต้องหยอดสีเขียว+กลิ่นใบเตยลงไปให้น่าชวนกินหน่อย นวดแป้งกับน้ำใส่ทีละน้อย เอาแค่พอปั้นเป็นลูก ๆ ได้ ฉันปั้นช้า ก็เลยต้องปั้นเอาไว้ก่อน เอาลงไปต้มในน้ำเดือดให้มันสุกเสียก่อน แล้วใช้ตะแกรงช้อนขึ้นมาพักไว้ก่อน จากนั้น ก็เทกะทิชาวเกาะขนาด 6 บาท 2 กล่อง ลงไปในหม้อ ใส่น้ำตาลทราย + น้ำตาลมะพร้าว +เกลือ ลงไปชิมให้ได้รสที่ชอบ (หวานละมุนละไม+เค็มนิด ๆ ) ใส่บัวลอยลงไปสักพักให้มันดูดน้ำ แล้วค่อยตอกไข่ลงไปในหม้อ นับ 1 - 10 ในใจ ถอดปลั๊กหมอหุงข้าวปิดฝาไว้ เราชอบกินแต่ไข่ขาว แงะไข่แดงทิ้งโลด (เจ้าหมาน้อยมายืนเลียปากแหมบ ๆ รอแล้ว) แล้วก็โซ้ยให้สะใจ.... วันหลังจะต้องหาเผือก+มัน+มะพร้าวอ่อน+ข้าวโพด+งาดำ มาใส่ให้มันหนำใจดีก่า... ไว้เจอกันเมื่อชาติต้องการนะจ๊ะ... โรล 3 สามสี (ที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง!)
เห็นหน้าตาเหมือนจะดี แต่รสชาติกลับสวนทางกันซะไม่มี ดังนั้นจะไม่ลงสูตรให้เป็นที่อับอายหรอกนะคะ เอามาให้ดูกันเฉย ๆ (ช่วยกันโห่หน่อยเร้ว!)
ทีว่ารสชาติแย่ ก็ตั้งแต่เนื้อเค้กเลยอ่ะค่ะ ผิวสัมผัสยังไม่ได้อย่างที่ต้อง การ คงเพราะคิดสูตรเอง ครีมก็เค็มไป (ก็กินนม+เนยกับใครเขาได้ที่ไหนล่ะ) เพราะใช้มาการีนเค็ม+เนยขาว+น้ำตาล+เกลือเยอะไปหน่อย (คิดสูตรเองอีกแล้ว!) ก็เลยแก้โดยการเอาลูกเกดลงไปคลุกในครีมซะเลย เพียงเพื่อจะได้ทำใจหยิบชิมได้...หืม! เค็มอ่ะ... พอดีแป้งเหลือ ก็เลยทำโรลสองสหาย ทำเสร็จ ถ่ายรูป แล้วก็ทิ้งลงถังไปเลยค่ะ เป็นประสบการทำเบเกอรี่ที่อัปยศดีจริง ๆ ! |
นีระพารถ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ชอบการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีความสุขและยิ้มได้ง่าย ๆ กับตัวเองและสิ่งรอบตัว...
Link |