Group Blog
 
All Blogs
 

ส่วนประกอบจานดาวเทียม

ส่วนประกอบจานรับสัญญาณดาวเทียม



Satellite Antenna  จานรับสัญญาณดาวเทียม
            หน้าที่หลักของจานรับสัญญาณดาวเทียม    คือทำหน้าที่สะท้อนสัญญาณที่รับได้จากดาวเทียม   เพื่อรวมสัญญาณไปที่จุดโฟกัสของจาน ( Center Focus ) ซึ่งจุดโฟกัสนี้จะอยู่บริเวณหน้าจาน   จานในรูปแบบลักษณะนี้เรียกว่า  จานแบบ พาราโบลิก ( Parabolic ) ส่วนตัว LNB จะติดตั้งไว้ที่จุดโฟกัสนี้   เพื่อรับสัญญาณให้ได้แรงที่สุด

            จานดาวเทียมที่นิยมใช้กันอย่างมาก  คือ จานดาวเทียมแบบตะแกรง  ตามภาพตัวอย่าง ข้อดีของจานแบบนี้คือ  ไม่ต้านลม  น้ำหนักเบา  หาที่ติดตั้งได้ง่าย   ตัวโครงจาน และแผ่นตะแกรงสะท้อนสัญญาณผลิตขึ้นจากอลูมิเนียม  ทำให้น้ำหนักเบาและหมดปัญหาเรื่องสนิม  และวัสดุนี้ยังมีคุณสมบัติการสะท้อนสัญญาณได้ดีอีกด้วย


LNB หัวรับสัญญาณดาวเทียม

                      LNB ย่อมาจากคำว่า ( Low  Noise  Blockdown  Converter ) หน้าที่การทำงานหลักๆคือ  รับสัญญาณที่ได้จากจุดรวมสัญญาณที่หน้าจาน  แล้วขยายสัญญาณให้มีความแรงมากขึ้น   ด้วยวงจรขยายสัญญาณที่มีเกนการขยายสูงและการรบกวนต่ำ    แล้วแปลงสัญญาณให้มีความถี่ที่ต่ำกว่าก่อนส่งออกจาก LNB  ความถี่ที่ออกมาจาก LNB นี้เรียกว่าความถี่  IF  ( Intermediate Frequency ) แล้วส่งผ่านสายนำสัญญาณ  Coaxinal Cable  เข้าสู่เครื่องรับสัญญาณดาวเทียมต่อไป


เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม Satellite Receiver

           Satellite Receiver  หรือ เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม คือเครื่องแปลงสัญญาณ  ที่รับมาจาก LNB ในช่วงความถี่ IF มาผ่านขบวนการ  แปลงสัญญาณออกมาเป็นสัญญาณภาพและสัญญาณเสียง   เครื่องรับดาวเทียมในปัจจุบันมี 2 ระบบด้วยกัน คือ ระบบ Analog และระบบ Digital

ระบบเครื่องรับแบบ Analog

                       เป็นเครื่องที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณที่รับได้จากดาวเทียม  ออกมาเป็น ภาพและเสียงโดยตรง  ขั้นตอน จะไม่ยุ่งยาก  ระบบนี้หากว่าสัญญาณที่รับได้มีความแรงของสัญญาณที่เพียงพอ ภาพที่ได้ก็จะมีความคมชัด  แต่หากว่าสัญญาณที่ได้อ่อน  ภาพที่ได้จะไม่ชัดและเป็นเม็ดไฟกวน   ในระบ Analog สำหรับการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม  ใน 1 ช่องดาวเทียม ( ช่องทรานสปอนเดอร์ ) จะส่งรายการทีวีได้ 1 ช่องรายการ  หรือถ้าบีบอัดสัญญาณก็จะได้ที่ 2 ช่องรายการแต่คุณภาพที่ได้จะไม่ดีเท่าที่ควร  ปัจจุบันระบบนี้ไม่นิยมใช้กันแล้ว

ระบบเครื่องรับแบบ Digital

                      เครื่องรับดาวเทียมระบบ Digital  เป็นเครื่องรับดาวเทียม  ที่รับสัญญาณจากดาวเทียมที่ส่งสัญญาณแบบ  ดิจิตอล  แล้วทำการแปลงสัญญาณข้อมูลด้วยระบบถอดรหัสแบบ Digtal ให้เป็นภาพและเสียงที่สมบูรณ์แบบ  ระบบบีบอัดสัญญาณที่ใช้ในระบบดาวเทียมคือระบบ  MPEG-II  เป็นระบบถอดรหัสแบบเดียวกันกับเครื่องเล่น DVD ซึ่งให้ความคมชัดมาก   ทั้งระบบภาพและเสียง
                       สำหรับระบบ Digital ในกรณีที่สัญญาณที่รับได้จากระบบดาวเทียมมีความแรงสัญญาณต่ำ  ถ้าเป็นแบบระบบเดิมภาพที่ได้จะไม่ชัดและเป็นลักษณะเม็ดไฟกวนภาพ  แต่ถ้าเป็นระบบ Digital ระบบจะยังคงประมวลผลได้  และระบบภาพเสียงที่ได้ก็จะยังคงความคมชัดอยู่เหมือนเดิม ( ยกเว้นสัญญาณที่รับได้อ่อนมากๆหรือต่ำเกินไป )
                       ในส่วนการรับส่งสัญญาณใน 1 ช่องทรานสปอนเดอร์   สำหรับระบบ Digital สามารถบีบอัดสัญญาณช่องรายการโทรทัศน์ได้มากถึง 4 - 8 ช่องรายการ   ต่อ 1 ช่องทรานสปอนเดอร์   ด้วยระบบการบีบอัดในแบบ Digital ทำให้การเช่าช่องส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมจึงไม่จำเป็นต้องเช่าทั้งทรานสปอนเดอร์  แบ่งเช่าได้ทำให้มีราคาการเช่าที่ถูกลง  และช่องรายการโทรทัศน์ช่องต่างๆทั้งในและต่างประเทศ   จึงนิยมใช้ระบบนี้กันอย่างรวดเร็วและแพร่หลาย  ปัจจุบันช่องรายการผ่านดาวเทียมมีมากถึง 400 กว่าช่องรายการ  และคาดว่าจะมีมากขึ้นอีกในอนาคต

เครื่องรับดาวเทียมแบบ MOVE

                     เครื่องรับดาวเทียมแบบ MOVE หรือ เครื่องรับดาวเทียมแบบมีระบบขันเคลื่อนจานอยู่ในตัวเครื่อง  จะมีวงจรหมุนจานดาวเทียมแบบอัตโนมัติโดยจะออกแบบให้มีระบบจำต่ำแหน่งของดาวเทียมได้   และจะทำงานสัมพันธ์กันกับระบบช่องรายการที่เลือกชม    เมื่อเวลาที่ผู้ใช้เครื่องกดปุ่มช่องรายการ   ตัวจานจะหมุนไปหาต่ำแหน่งดาวเทียมเองอย่างอัตโนมัติ   ทำให้ระบบนี้รับช่องรายการได้มาก   และยังสามารถค้นหาช่องรายการหรือดาวเทียมดวงใหม่ๆเพิ่มเติมได้ด้วยตัวผู้ใช้เอง  อีกทั้งยังมีระบบ อินเตอร์เน็ต  ช่วยในการค้นหาช่องรายการใหม่ๆได้อีกด้วย  เว็บไซด์ที่เกี่ยวกับช่องรายการทีวีผ่านดาวเทียมคือ www.lyngsat.com , www.satcodx.com

มอเตอร์หมุนจาน Motor Actuator 
มอเตอร์สำหรับจานดาวเทียมจะทำหน้าที่ปรับตำแหน่งหน้าจาน   ให้ปรับเปลี่ยนมุมการรับไปยังตำแหน่งต่างๆ  ที่ดาวเทียมลอยอยู่บนท้องฟ้า  โดยหลักการทำงานง่ายๆคือ  ตัวมอเตอร์จะหมุนทำให้แกนกลางของมอเตอร์ยืดเข้าออกได้  และระดับการยืดเข้าออก  จะมีอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่  ผลิตลูกคลื่นที่ชุดมอเตอร์เพื่อเป็นตัวนับระยะยืดเข้าออกของแกนกลาง  และส่งกลับไปที่เครื่องรับดาวเทียม  เพื่อทำหน้าที่นับและบันทึก  ตำแหน่งของดาวเทียมที่จุดต่างๆ
เครื่องรับดาวเทียม  แบบถอดรหัสเคเบิ้ลได้

                    เป็นการออกแบบโปรแกรมเครื่องรับดาวเทียม  ให้มีความสามารถในการถอดรหัสเคเบิ้ลทีวีได้  และ โหลดโปรแกรมการถอดรหัสลงเครื่องโดยตรง  เมื่อรับสัญญาณเคเบิ้ลทีวีที่ส่งรหัสล็อคมา   ตัวเครื่องจะสามารถถอดรหัสและสามารถรับชมรายการเคเบิ้ลทีวีนั้นๆได้   เครื่องรับดาวเทียมแบบนี้  จะมีอยู่บางรุ่นบางยี่ห้อเท่านั้น  โปรแกรมลักษณะนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้  ขึ้นอยู่กับบริษัท  และสถานีส่งเจ้าของเคเบิ้ลนั้นๆด้วย

เครื่องรับดาวเทียม  แบบเสียบการ์ดเคเบิ้ลทีวีได้

             คือเครื่องรับดาวเทียมที่มีช่องสำหรับเสียบสมาร์ทการ์ด  สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นสมาชิกเคเบิ้ลทีวีทั้งไทยและต่างประเทศ     และตัวเครื่องจะต้องมีโปรแกรมรองรับเคเบิ้ลทีวีนั้นๆด้วยจึงจะรับสัญญาณได้    เช่นระบบการล็อครหัสแบบ IRDETO , VIACCESS , CONAX , SECA , NAGRAVISION  ระบบการล็อคนี้ตัวเครื่องรับบางรุ่นอาจจะเป็นระบบเดียวโดยตรงตัวใดตัวหนึ่ง  หรือบางเครื่องอาจจะเป็นแบบ ALL-CAM หมายถึงรองรับได้ทุกระบบเลยที่เดียว    ก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของควรศึกษาระบบสักนิดนะครับ




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2555 7:16:34 น.
Counter : 1066 Pageviews.  

โลกของดาวเทียม

โลกดาวเทียม article

  นวนิยายวิทยาศาสตร์ 

           นวนิยายทางวิทยาศาสตร์  เรื่องหนึ่ง  ที่เขียนขึ้นโดย นาย อาเธอร์ ซี. คลาค  ที่ได้นำเสนอแนวคิด  ในการใช้ดาวเทียมที่ไม่ใช่ดาวแท้  ให้เป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างคนในโลกใบนี้   โดยจะส่งดาวเทียมให้ลอยขึ้นไปอยู่บท้องฟ้าเสมือนหนึ่งว่าเป็นดาวดวงหนึ่ง  เมื่อส่งดาวเทียมไปที่ความสูงในระดับหนึ่ง  จะทำให้ดาวเทียมสามารถลอยอยู่บนท้องฟ้าได้โดยไม่ตกลงมาสู่พื้นโลก   ซึ่งควาคิดนี้ไม่มีใครสนใจเท่าไรนักในสมัยนั้น  เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่  เพ้อฝันจนเกินไป

  สานต่อแนวคิด 

           และต่อมาได้เริ่มมีการนำความคิดของ  นายอาเธอร์ ซี. คลาค  มาสานต่อและทำการทดลอง จนประสบความสำเร็จ  ในที่สุด  เราชาวโลกทั้งหลายจึงได้มีดาวเทียมใช้กันในปัจจุบัน  อย่างนี้ต้องขอบคุณความเพ้อฝันของนาย อาเธอร์ ซี. คลาค นะครับ

 ดาวเทียมลอยอยู่บนท้องฟ้าได้อย่างไร

ดาวเทียมสื่อสารจะถูกยิงขึ้นไปเหนือเส้นศูนย์สูตร  และส่งเข้าสู่วงโคจรในระดับความสูงที่เรียกความสูงจุดนี้ว่า  Clarke Orbit  หรือ( ตำแหน่งดาวเทียมค้างฟ้า ) โดยจะมีความสูงจากพื้นโลกโดยประมาณ  36,000.-38,000. กิโลเมตร  ในตำแหน่งนี้เองจะทำให้ดาวเทียมลอยค้างฟ้าอยู่ได้  และดาวเทียมจะโคจรไปพร้อมๆกันกับโลกด้วยแรงดึงดูดของโลก  และแรงดึงดูดจากนอกโลก  ถ้าเปรียบเทียบกับการมองไปจากพื้นโลก     เปรียบเสมือนกับว่าดาวเทียมที่ลอยอยู่บนท้องฟ้านั้นลอยอยู่กับที่ครับ

  ระบบควบคุมดาวเทียม  

                  ระบบดาวเทียมเองจะมีระบบเชื้อเพลิงใช้ในการควบคุมให้ดาวเทียมลอยอยู่ตรงตำแหน่ง  โดยมีระบบสั่งการจากสถานีคววบคุมภาคพื้นดิน   และหากว่าเมื่อไรเชื้อเพลิงที่ใช้ควบคุมตำแหน่งเกิดหมด   หมายความว่าดาวเทียมดวงนั้นจะไม่อยู่ในการควบคุมจากสถานีภาคพื้นดินอีกต่อไป  และจะถือว่าดาวเทียมดวงนั้นเสียใช้งานไม่ได้    อายุโดยประมาณของดาวเทียมจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 15 ปี



 ประโยชน์จากการใช้ดาวเทียม

                         การสื่อสารผ่านดาวเทียมนับว่าเป็นการสื่อสารที่ประหยัดกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการสื่อสารระบบอื่นๆ  โดยที่ดาวเทียมหนึ่งดวงสามารถส่งสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ของโลกได้มากถึง 40 % ของพื้นที่โลก   ระบบการสื่อสารในปัจจุบันจึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย  โดยเฉพาะใช้สำหรับการสื่อสารกันระหว่างประเทศ   การถ่ายทอดสดกีฬา  ข่าวสารสดๆจากทั่วทุกมุมโลก   หรือการนำเสนอข่าวสารการสู้รบแบบสดๆจากพื้นๆที่ๆเกิดเหตุ  เราสามารถรับรู้เรื่องราวของโลกใบนี้ในเพียงแค่ไม่กีวินาที   และ  ยังใช้ได้กับระบบโทรศัพท์  วิทยุ  ข้อมูลทางคอมพิวเตอร์  อินเทอร์เน็ท และอีกหลากหลายระบบที่สามารถใช้การสื่อสารด้วยระบบดาวเทียมได้

Footprint

  ตัวอย่างของขอบเขตพื้นที่ๆดาวเทียมสามารถส่งสัญญาณครอบคลุมได้





 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2555 7:14:16 น.
Counter : 1268 Pageviews.  

ส่วนประกอบดาวเทียม

ส่วนประกอบของดาวเทียม

 ดาวเทียมทำงานอย่างไร 

                         ดาวเทียมจะถูกส่งขึ้นไปลอยอยู่ในตำแหน่ง  วงโคจรค้างฟ้า ซึ่งมีระยะห่างจากพื้นโลกประมาณ   36000 - 38000  กิโลเมตร  และโคจรตามการหมุนของโลก  เมื่อเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นโลกจะเสมือนว่าดาวเทียมลอยนิ่งอยู่บนท้องฟ้า  และดาวเทียมจะมีระบบเชื้อเพลิงเพื่อควบคุมตำแหน่งให้อยู่ในตำแหน่งองศาที่ได้สัปทานเอาไว้   กับหน่วยงานที่ดูแลเรื่องตำแหน่งวงโคจรของดาวเทียมคือ  IFRB ( International Frequency Registration Board )

 การรับและส่งสัญญาณ

                        ดาวเทียมที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า  จะทำหน้าที่เหมือนสถานีทวนสัญญาณ  คือจะรับสัญญาณที่ยิงขึ้นมาจากสถานีภาคพื้นดิน  เรียกสัญญาณนี้ว่า สัญญาณขาขึ้นหรือ ( Uplink ) รับและขยายสัญญาณพร้อมทั้งแปลงสัญญาณให้มีความถี่ต่ำลงเพื่อป้องกันการรบกวนกันระหว่างสัญญาณขาขึ้นและส่งลงมา  โดยมีจานสายอากาศทำหน้าที่รับและส่งสัญญาณ  ส่วนสัญญาณในขาลงเรียกว่า ( Downlink )

 พื้นที่การให้บริการดาวเทียม

                       ขอบเขตพื้นที่การให้บริการดาวเทียม   เรียกว่า  Footprint   ดาวเทียมสามารถกำหนดขอบเขตการส่งสัญญาณกลับมายังภาคพื้นดินได้  ดังภาพ


  ย่านความถี่ดาวเทียม  


                      ดาวเทียมที่ส่งสัญญาณในย่านความถี่ C-BAND จะมีกำลังส่งค่อนข้างต่ำประมาณ  8-16 วัตต์  ดังนั้นเมื่อสัญญาณส่งมาถึงโลกจึงมีสัญญาณที่อ่อนมาก  ในการรับสัญญาณเราจึงจำเป็นต้องใช้จานที่มีขนาดใหญ่  แต่มีข้อดีคือครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างรวมทั้งสามารถตั้งมุมยิงสายอากาศให้มีขอบเขตจุดศูนย์กลางของสัญญาณโดยเน้นความเข็มของสัญญาณไว้ได้ถึง 2 จุด  ดังรูปภาพ  ที่จุด A     สาเหตุที่ไม่สามารถส่งสัญญาณที่กำลังวัตต์สูงๆได้   เนื่องจากในภาคพื้นดินก็ยังคงใช้ความถี่อยู่ในย่านนี้ด้วยเหมือนกัน   เพราะถ้าส่งที่กำลังวัตต์สูงๆจะทำให้เกิดการรบกวนกันระหว่างคลื่น




                      ส่วนการส่งในย่านความถี่   KU-BAND  จะส่งด้วยกำลังวัตต์ที่สูงกว่าระบบ  C-BAND   หรือบางประเทศก็ส่งที่กำลังวัตต์สูงๆเลย  ทำให้สัญญาณที่รับได้ที่ภาคพื้นดินมีความเข็มสัญญาณสูงมาก  ในการรับสัญญาณในระบบนี้จึงใช้จานที่มีขนาดเล็กๆก็รับสัญญาณได้แล้ว จานที่ใช้กับระบบ KU-BAND จะมีขนาดตั้งแต่ 1.5 ฟุตขึ้นไป     ขอบเขตในการส่งสัญญาณหรือ Footprint ในระบบ KU-BAND  ส่วนมากจะส่งสัญญาณในขอบเขตที่จำกัดเช่นมีขอบเขตเฉพาะจัหวัด  หรือ เฉพาะประเทศ   ในระบบเคเบิ้ลทีวีผ่านดาวเทียมส่วนมากจะนิยมใช้ระบบนี้ในการส่งสัญญาณเพื่อบริการลูกค้า   เพราะว่าสามารถจะ  บริการลูกค้าได้ง่าย  ใช้จานรับที่มีขนาดเล็กทำให้ประหยัดต้นทุนโดยรวม   ข้อเสียของระบบนี้คือ  จะมีผลต่อสัญญาณเมื่อมีฝนตกหนักหรือท้องฟ้าปิดด้วยเมฆฝนมากๆ  จะทำให้รับสัญญาณได้อ่อนลงหรืออาจจะรับไม่ได้ในในเวลานั้น  แล้วก็จะกลับคืนมาปกติเมื่อสภาพอากาศปกติ

       ขอขอบคุณบทความจากอาจารย์ มนตรี สุขรอบ




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2555    
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2555 7:13:04 น.
Counter : 687 Pageviews.  

หลักการเลือกใช้ LNB

ความถี่ดาวเทียมนั้นที่รับได้หลังจากผ่านหัวรับ LNB แล้วนั้นต้องอยู่ในช่วง 950-2150
ศึกษาหลักการทำงานของ lnb แล้วท่านจะเข้าใจครับ...หลักๆคือให้นำค่าความถี่ช่องรายการและค่า lo. lnb มาหักลบกัน ถ้าอยู่ในช่วง 950-2150  ก็ใช้ lnb ตัวนั้นได้ครับ



LNB ( Low Noise Blockdown Converter )
หน้าที่การทำงานหลักๆคือ รับสัญญาณที่ได้จากจุดรวมสัญญาณที่หน้าจาน แล้วขยายสัญญาณให้มีความแรงมากขึ้น   ด้วยวงจรขยายสัญญาณที่มีเกนการขยายสูงและการรบกวนต่ำ แล้วแปลงสัญญาณให้มีความถี่ที่ต่ำกว่าก่อนส่งออกจาก LNB   ความถี่ที่ออกมาจาก LNB นี้เรียกว่าความถี่ IF ( Intermediate
Frequency ) แล้วส่งผ่านสายนำสัญญาณ Coaxinal Cable


ชนิดและ ความถี่ ในการทำงานของ LNB
- LNB Universal คือพวก LNB Ku-Band รับได้ 2 ย่านความถี่ในตัวเดียว
คือ ย่าน Lo 9750 ( รับความถี่ช่วง 10700 - 11700 Mhz ) และ ย่าน Hi 10600 (รับความถี่ช่วง 11700 - 12750 Mhz)   ใช้การสั่งให้มีสัญญานจากตัว 22k เป็นตัวสลับความถี่


- LNB Single 11300  จะรับได้แค่ 1 ย่านความถี่ คือย่าน Hi 11300 ( รับความถี่ช่วง 12250 -12750 )  จะไม่สนใจสัญญานจากตัว 22k เพราะมันรับความถี่ย่านเดียว


LNB KU Universal

LNB Universal มีค่าความถี่ของ LNB อยู่ 2ค่า ในตัวเดียวกัน คือ 9750 กับ 10600 คือมันจะรับได้ทั้ง 2 ย่านความถี่   โดยเราต้องเพิ่มคำสั่ง 22K เพื่อคอยทำหน้าที่ ปิด หรือ เปิด ความถี่ที่ Receiver จะส่งออกไป จากขั้ว Lnb In ที่ไปต่อกับ Lnb โดยตรง


- ย่าน Lo 9750 ( รับความถี่ช่วง 10700 - 11700 Mhz )
การทำงานของ 22 k คือ OFF Receiver ก็จะสั่งไม่ให้มีสัญญาน 22k ออกมา (สั่งให้มีสัญญาน 0 k )
ดาวที่ส่งย่านนี้ คือ NSS6 รับ AS TV (ความถี่ 11676, 11635)


- ย่าน Hi 10600 (รับความถี่ช่วง 11700 - 12750 Mhz)
การทำงานของ 22 k คือ ON Receiver ก็จะสั่งให้มีสัญญาน 22k ออกมา
ดาวที่ส่งย่านนี้ คือ Thaicom Ku รับ True Vision และ Samart DTH และ DTVจานเหลือง (ความถี่เริ่มที่ 12272 ขึ้นไป )


การคำนวณความถี่ที่ส่งมาที่ Reviever

Reviever จะรับความถี่ได้ตั้งแต่ 950 -2150 Mhz ความถี่ที่ส่งมาเกิน Lnb จะเป็นตัวลดความถี่ เช่น

ถ้าช่องการศึกษา ที่ความถี่ 12272 Mhz รับด้วย Lnb KU-Universal ก็จะต้องลบด้วยย่าน Hi 10600
Lnb ก็จะทำการลดความถี่ลงเป็น... 12272 - 10600 = ที่ส่งให้ Reciever จริง

(ถ้าช่องการศึกษา ที่ความถี่ 12272 Mhz รับด้วย LNB Single 11300 ก็จะต้องลบด้วยย่าน Hi 11300




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2555    
Last Update : 31 ตุลาคม 2555 7:52:01 น.
Counter : 6715 Pageviews.  

มุมก้ม มุมส่าย THAICOM KU BAND

มุมก้ม มุมส่าย THAICOM KU BAND ทั่วประเทศ

รายละเอียดจะไม่เหมือนจานดำ ต้องใช้สูตรนี้






 

Create Date : 26 ตุลาคม 2555    
Last Update : 26 ตุลาคม 2555 9:19:13 น.
Counter : 5727 Pageviews.  

1  2  3  

pique2002th
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คุณภาพ และการบริการที่เป็นที่หนึ่ง
New Comments
Friends' blogs
[Add pique2002th's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.