ยิ้มไว้...ไม่ว่าอะไรก็ขอให้...ยิ้มไว้....
Group Blog
 
All Blogs
 
นกก้อนหิน


..ไหนเลยจะบินได้อย่างใจคิด


ครั้งแรกที่ได้รู้จักหนังสือเล่มนี้ เพราะว่าใครคนหนึ่งเขียนกระทู้แนะนำหนังสือเล่มนี้ในห้องสมุดของ Pantip... เราผ่านเข้าไปเพราะกำลังมองหาหนังสือเล่มใหม่ใส่เข้าไปใน Wish List ของงานหนังสือปีนี้... กระทู้นั้นมีรูปหน้าปกหนังสือ เงาดำของนกตัวใหญ่ทาบทับอยู่บนทุ่งหญ้านากว้าง พร้อมกับคำโปรยบนปก

“ปีหนึ่งมีสี่ฤดู ต่อให้อีกสี่ปีก็แค่สี่ฤดู ฉันไม่ได้รอเธอนานกว่านั้น”


น่าแปลก..ทันทีที่ได้อ่านคำโปรย.. เราไม่ได้นึกถึง Wish list ของเราเท่าไรนัก.. แต่กลับนึกถึง “พี่ชายที่น่ารัก” คนหนึ่งที่กำลังผิดหวังจากความรักเช่นเดียวกับเรา... คนที่เฝ้าแต่รอคอยให้คนรักคืนกลับมารักเค้าอย่างเดิม... รอ.. รอ... และ.. รอ... อย่างมั่นคง

เมื่อวันหนึ่งได้เข้าไปในร้านหนังสือ.. เราเริ่มกวาดสายตามมองหา “นกก้อนหิน” แล้วก็ได้พบมันวางนิ่งอยู่บนชั้นหนังสือเหนือเราขึ้นไป... เมื่อพลิกดูที่ด้านหลังก็ยังเห็นคำโปรย..ที่สะดุดใจเหลือเกิน...


“...คนดีของฉัน คำสัญญาไม่ใช่พันธนาการ...
เธอต้องเชื่อว่าตัวเธอเป็นอิสระ ปลดปล่อยตัวเองจากคำสัญญาที่เคยให้แก่กัน
ในวันหน้า ถ้าเธอจะกลับมาหาฉันก็เพราะอยากจะกลับมา
ไม่ใช่มาเพราะคำสัญญา
ถ้าเธอพบว่าสามารถรักใครได้มากกว่าฉัน
เธอจงรัก และเลือกอยู่กับเขา ฉันก็จะเป็นสุขไปกับความรักของเธอ”



คำพูดเหล่านี้สะกิดใจเราอย่างแรง... คลับคล้ายเคยได้เอ่ยบอกจากหัวใจ... บอกกับคนรัก..ที่รัก... คำพูดหลายๆ ประโยคที่มีความหมายเช่นเดียวกันนี้.. เราเคยเอ่ยบอกใครบางคนไป... ด้วยความหมายเช่นนั้นจริงๆ...


“...ให้อิสระกับพี่... เป็นของขวัญวันเกิดนะ...
พี่รู้มั้ย.. ของขวัญชิ้นนี้..มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเราเลย..
เพราะ...มันแลกมาด้วยน้ำตาทั้งหมดของเรา...ใช้มันให้คุ้มค่านะคะ
จากนี้พี่มีอิสระมากพอจะเลือกอีกครั้ง...
ฉะนั้นจากนี้จงเลือก..เลือกให้ดี...เลือกในสิ่งที่รัก... เลือกในคนที่พี่รัก..
ถ้าวันหนึ่งพี่จะกลับมาหาเรา...ขอให้กลับมาเพราะรัก....มิใช่เพราะคำสัญญา...หรือ..แม้แต่ความผูกพัน
หากว่าพี่ได้พบใครที่พี่รักได้มากกว่าเรา... จงรักเค้า... และอยู่กับเค้า
ถ้าพี่มีความสุข... จะมีคนๆ นี้ที่มีความสุขไปพร้อมๆ กับพี่...”



ใครจะคิด...มีคนที่คิดและทำเหมือนเราด้วยแฮะ... ถึงแม้จะเป็นแค่ตัวละครในหนังสือเล่มหนึ่ง.. แต่อย่างน้อยคนที่เขียนเรื่องนี้ก็ยังอุตส่าห์มีความคิดแผลงๆ แบบเดียวกับเราได้ด้วย...


คืนนั้น... เราได้คุยกับพี่ชายแสนเศร้า... บอกกับเค้าว่า... เราได้เจอหนังสือเล่มหนึ่งที่เหมาะกับคนที่ได้แต่รอคอยให้เวลาผ่านไป เพื่อให้ความรักกลับคืนมา... หนังสือที่ช่างเหมาะเจาะกับคนอกหักและมั่นคงในความรักอย่างพี่ยิ่งนัก... เรื่องราวของชายหนุ่มที่เอาแต่รอคอยคนรัก...ปิดตัวเองและไม่เปิดใจให้ใคร... ชายหนุ่มที่ชื่อ “อังโตน”

พี่ชายคนนี้กลับทำให้เราประหลาดใจยิ่งกว่า...ด้วยการบอกว่า.. นกก้อนหิน.. อยู่ข้างหลังพี่เอง... และพี่ได้อ่านมันจบแล้ว.. บินหลา เป็นนักเขียนที่พี่ชอบ... 555 ไม่น่าเชื่อ...เราเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนแล้ว... ทั้งที่กะจะทำให้เป็นหนังสือแนะนำสำหรับคนที่อกหักและอาการสาหัสซะหน่อย...

แล้วด้วยความใจดีของพี่ชายที่น่ารักคนนี้...อุตส่าห์ส่ง นกก้อนหิน เดินทางไกลรอนแรมจากเกาะกลางทะเลมาถึงกรุงเทพฯ เพื่อให้เราได้อ่าน... ราวกับรู้ใจว่า.. คงยากที่เจ้าตัวขี้งกอย่างเราจะยอมควักตังค์ซื้อหนังสือเล่มใหม่

ขอบคุณนะคะ... สำหรับหนังสือดีๆ แล้วก็ของอร่อยๆ เต็มกล่อง รวมถึง...ความปรารถนาดีจากพี่...รับไว้ด้วยความเต็มใจยิ่ง

นกก้อนหิน... ทำไมถึงชื่อนกก้อนหินนะ...คำถามแรกที่เราถามตัวเอง..

นกก้อนหิน...คงจะหนัก...นกมีปีก..แต่ไม่อาจจะบินได้... หรือต่อให้บินได้จริง... นกก้อนหินจะบินไปได้ไกลแค่ไหนเชียว...


เราไม่เคยอ่านผลงานของบินหลา สันกาลาคีรี มาก่อน...แม้จะเคยเดินผ่านหนังสือหลายเล่มของเค้า แต่ก็ไม่เคยอ่านเลย แม้แต่ “เจ้าหงิญ” หนังสือรางวัลซีไรต์ที่เคยคิดจะซื้อมาตอนงานหนังสือปีที่แล้ว แต่ก็อาจเพราะอคติในใจด้วยคิดไปเองว่า.. บินหลา สันกาลาคีรี.. เป็นนามปากกาที่แสนจะบ่งบอกว่า รักแผ่นดินถิ่นเกิด มีกลิ่นไอของความเป็น “เพื่อชีวิต” อยู่สูงมาก อีกทั้งยังมีรางวัลซีไรต์เป็นการันตี.....ทำให้เราเกร็งว่า...ในหนังสือของเค้าจะมีแต่เนื้อหาของ ความขัดแย้งหรืออะไรก็ตามที่ดูเข้าใจยาก...

ข้อหนึ่งที่เรายังเดาถูกคือ.. จิตใจของตัวละครก็ยังคงเข้าใจยากอยู่ดี จนกระทั่งอ่านจบก็ยังไม่อาจรู้ความคิดของคนในหนังสือได้ว่า แท้จริงแล้วเค้ารู้สึกอย่างไรกันแน่...ทุกข์..สุข..เศร้า..สมหวัง...หรือ...ว่างเปล่า...

แต่บินหลา..ก็ยังทำให้เราแปลกใจหลายต่อหลายครั้งในหนังสือเกือบจะทุกหน้า....ผิดคาดเมื่อบินหลาเปิดเรื่องราวของนกก้อนหินที่... เชียงใหม่... นั่นคือความประหลาดใจแรกในหนังสือเล่มนี่... มิใช่เพียงฉากหลังจะเป็นแค่จังหวัดเชียงใหม่... หากแต่ทุกคำบรรยายของพื้นหลังนั้นกลับชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นถนนสายห้วยแก้ว.. หลักกิโลเมตรของทางหลวง... ริมฟุตบาธ... เหมือนกับว่าเราได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ... นานแล้วที่ไม่ได้อ่านอะไรอย่างนี้... บินหลาทำได้ดีจริงๆ

จากเชียงใหม่... ก็พาเราเข้าสู่โลกอันเรียบง่ายและเงียบสงบอย่างหลวงพระบาง...สายน้ำแม่ของของลาว หรือแม่โขงที่เราชาวไทยรู้จักกันดี... ชีวิตที่เหมือนจะหยุดนิ่งและไร้กาลเวลาหรือความเร่งรีบอื่นใด...อ่านแล้วอยากจะแบกเป้ไปเยือนที่แห่งนั้นให้ได้ภายในปีหน้า.. อยากเข้าไปสัมผัสตลาดเช้า ไอหมอก และความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายของผู้คน ก่อนที่โลกตะวันตกจะหลั่งไหลถาโถมเข้าไปเยือนและกลืนหายความงดงามจากอดีตให้กลายเป็นเพียงอดีตจริงๆ...

บินหลาพาเราโบยบินขึ้นสูงไปยังภูเขาของเผ่าพันธุ์ม้ง ความเชื่อและพิธีกรรมของคนสมัยก่อน การดิ้นรนอยู่รอดของทุกชีวิต... แต่ที่ไม่น่าเชื่อและไม่ได้คาดหวังเลยคือ.. บินหลาพาเราบินไปไกลถึงเกาหลี... ร่วมสมัยนิยมจริงเชียว เกาะเกี่ยวกับกระแสเกาหลีฟีเวอร์ในตอนนี้ได้ดี... ไม่เพียงแต่สถานที่... บินหลายังสอดแทรกเสี้ยวเล็กๆ ของประวัติศาสตร์ที่เคยเกี่ยวพันโยงใยสองประเทศเข้าไว้ด้วยกัน .. ให้เราได้รู้ว่า.. ครั้งหนึ่งไม่ถึง 2 ช่วงอายุคน เกาหลีเคยล้าหลังกว่าไทยเรามาก... หากแต่เพียงไม่กี่สิบปี.. เกาหลีกลับสามารถก้าวไปได้ไกลกว่า... ช่างน่าทึ่งจริงๆ..

นกก้อนหินบอกเล่าเรื่องราวของ “ผู้ชาย” หนึ่งคน... ที่มีความรักมั่นคงอยู่ในหัวใจ... การหาความหมายและคำตอบ และบททดสอบครั้งสำคัญในชีวิตของเค้า...ผ่านประสบการณ์กับผู้คนมากมายทั้งร้ายและดี.. แต่เค้าก็สามารถผ่านมันมาได้..ด้วยน้ำใจอันบริสุทธิ์และความหนักแน่นในตัวเอง...

โตน...อังโตน...สโตน... หลากหลายชื่อที่ใครต่อใครเรียกถึงชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีคำนิยามสั้นๆ อธิบายตัวของเค้าได้เพียงไม่กี่คำว่า... “จิตใจดีและมั่นคง” .... โตน...ของหลวงพ่อที่เลี้ยงดูเด็กกำพร้าที่ถูกทิ้งไว้ที่น้ำตกโตนงาช้างให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ชายเต็มตัว... อังโตน ผู้เป็นเจ้าชายน้อยของเยจิน ... สโตน ในความคิดของผาฝน..ผู้ชายที่มีความมั่นคงอย่างก้อนหิน...แต่ก็ยังโดนละอองฝนกัดเซาะได้เหมือนกัน จะว่าไปชื่อนั้นสำคัญไฉน... สุดท้ายก็แล้วแต่ใครจะเรียกกันไป..ตราบเท่าที่คนที่ถูกเรียกยังส่งเสียงตอบรับ... ชื่อก็อาจจะไม่สำคัญเท่ากับตัวตนของคนก็ได้นี่นา...

ชายหนุ่มที่ไม่รู้ที่มาหรือที่ไปในชีวิต... ใช้เวลาผ่านไปแต่ละวันคล้ายกับพยายามหาความหมาย หากก็คล้ายว่าเพียงขอให้เวลาผ่านไปเพื่อการรอคอย.. เท่านั้น... ชายหนุ่มที่ปิดตัวเองเสมอมา..รักษาระยะห่างของความสัมพันธ์พอดีๆ... อยู่ภายในโลกของตัวเองกับจักรยานคู่ใจและครูช่างซ่อมรองเท้า

หากโชคชะตาหรือความมีน้ำใจอันงดงามของตัวเขาเองก็ได้นำพาให้เขาได้มารู้จักกับผาฝน... เด็กสาวเอาแต่ใจ... ช่างวีนและเจ้าอารมณ์... สาวน้อยที่ชอบรองเท้ายิ่งกว่าสิ่งใด... และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เธอเลือกการเป็นนางแบบ.. เพราะมันจะทำให้เธอได้ใส่รองเท้ามากมาย...เธอเอาแต่ใจขนาดนั้นเลยหรือ.. สาวน้อยที่หลงทางผ่านเข้ามาในชีวิตอังโตนในห้วงเวลา 5 เดือนสุดท้ายของการรอคอย... เป็น 5 เดือนที่อาจจะเปลี่ยนมุมมองของอังโตนไปตลอดกาล... และเปลี่ยนหัวใจของเธอให้แปลกออกไปเช่นกัน

พร่างฟ้า... ชายหนุ่มผู้ซึ่ง “หลง” รักผาฝน.. ทำ (เกือบจะ) ทุกอย่างเพื่อเธอ แม้กระทั่งในสิ่งที่เหลวใหลที่สุด เค้าก็พร้อมจะทำเพียงเพื่อให้เธออารมณ์ดี

เยจิน... สาวน้อยที่เพียบพร้อม ผู้เป็นรักแรกของอังโตน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด..รักแรกนั้นยังคงหนักแน่นมั่นคงในหัวใจของอังโตนเสมอมา......สาวน้อยที่ยื่นข้อตกลงชวนหวาดเสียวให้กับเค้า และทำให้เค้าต้องเดินหลงทางไปไกลแสนไกล เพียงเพื่อจะวนกลับมายังที่เดิม...ด้วยหัวใจที่อาจจะต่างออกไป... เพราะสำหรับเยจินแล้ว...ความรักที่แท้..ไม่ใช่ความซื่อสัตย์...ยิ่งไม่ใช่การเรียกหาความซื่อสัตย์ หากแต่ความรัก...คือการให้โอกาสและมีอิสระเสรี...เหมือนนก...

ใช่... เหมือนนก...

นก..มีอิสระที่จะบิน.. ถ้าเราไม่จับมันขังกรงไว้... นกมีสิทธิเลือกว่าจะไปที่ไหนก็ได้ที่ใจต้องการ หากนกเลือกจะอยู่ที่นี่.. ก็จะอยู่ที่นี่... ตรงนี้

ก้อนหิน..แข็งแกร่ง หนักแน่น มั่นคง... แต่แม้จะแข็งสักแค่ไหน..ก้อนหินก็สามารถถูกน้ำฝนกัดเซาะให้เปลี่ยนรูปหรือพังทลายได้เช่นกัน...

ร่มกระดาษชุบน้ำมัน... ป้องกันน้ำฝนได้เป็นอย่างดี...ไม่ให้กัดกร่อนเนื้อหินมากไปกว่านี้...

นกก้อนหิน.. นกที่มีอิสระที่จะบิน แต่กลับเลือกที่จะเป็นเช่นก้อนหิน... มั่นคง... อาจจะโดนละอองฝนกัดกร่อนไปบ้าง หากแต่ก้อนหินก็ยังคงหนักแน่นอยู่ที่เดิมเช่นนั้นไม่เปลี่ยนแปลง


...............................................


แค่ความมีน้ำใจแห่งความเป็นมนุษย์ที่แสนบริสุทธิ์

แด่ความรักที่มั่นคงและหนักแน่นเช่นหินผา

แด่....อังโตน.











Create Date : 29 พฤษภาคม 2553
Last Update : 19 มิถุนายน 2553 10:55:02 น. 2 comments
Counter : 965 Pageviews.

 


โดย: นายแมมมอส วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:10:22:30 น.  

 
รักหนังสือเล่มนี้มากๆค่ะ อ่านจบไปหลายรอบแล้ว ^^

ขอบคุณที่มาเล่าให้อ่านกันนะคะ


โดย: ขวัญ IP: 124.120.198.204 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:18:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจ้าหญิงน้อยรสส้ม
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เจ้าหญิงน้อยรสส้ม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.