Group Blog
 
All Blogs
 
เธอคือทาสหัวใจของฉัน: Chapter 18 สมบัติของเดรโก มัลฟอย Part 2




เฮอร์ไมโอนี่ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเหมือนร่างกายของเธอจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ราวกับมันผ่านการใช้งานอย่างโหดร้ายทารุณ เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งที่แขน ขา หลัง และลำคอ เรียกได้ว่าเกือบตลอดทั้งตัวเลยทีเดียว แต่ความเจ็บปวดทั่วทั้งกายนั้นก็ไม่อาจเทียบได้กับความเจ็บปวดบริเวณต้นขาของเธอ เพราะแค่เพียงขยับกายเด็กสาวก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดแล่นเข้าครอบครองกึ่งกลางร่างกายของเธอในทันที แถมความเจ็บปวดนั้นมันก็มากเสียจนเธอน้ำตาซึมเสียด้วย!

“โอ๊ย!!!” เด็กสาวครางด้วยความเจ็บเมื่อเธอขยับกาย น้ำตาใสไหลกลบดวงตาสีน้ำตาลที่ดูอ่อนโยนหากแต่บอบช้ำ!

เฮอร์ไมโอนี่พยายามลุกขึ้นจากเตียงอย่างยากลำบาก หัวสมองของเธอสับสนราวกับมีหมอกอยู่เป็นจำนวนมาก เด็กสาวยกมือข้างหนึ่งกุมศีรษะ

เธออยู่ที่ไหน นั่นเป็นคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ เธอจึงมองไปรอบ ๆ เพื่อหาคำตอบและสิ่งที่เธอได้เห็นก็คือภาพห้องนอนใหญ่ที่เฮอร์ไมโอนี่ค่อนข้างจะคุ้นเคยซึ่งมันพอจะบอกได้ว่าเธอกำลังอยู่ในห้องนอนของผู้ชายที่เธอเกลียดชังที่สุดในชีวิตของเธอ เดรโก มัลฟอย! และที่สำคัญเธอกำลังนอนอยู่บนเตียงของเขาด้วย!

และเมื่อคำตอบนั้นผุดขึ้นในสมองมันก็เป็นตัวนำภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมาให้เด็กสาวได้รับรู้ เฮอร์ไมโอนี่จำได้ว่าเมื่อคืนเธอหนีออกไปจากคฤหาสน์แต่กลับถูกมัลฟอยตามไปพบเข้าและถูกจับตัวกลับมาได้ หลังจากนั้นถูกจับมาที่นี่แล้วเขาก็ใช้กำลังขืนใจเธอ และบังคับให้เธอเป็นทาสของเขา!

ใบหน้างามของเฮอร์ไมโอนี่บิดเบี้ยวขึ้นทันทีเมื่อเธอนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ซึ่งมัลฟอยใช้กำลังขืนใจเธออย่างไร้ความปราณี เธอยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดยามที่เขาพรากสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิงไปจากเธอ รวมทั้งตอนที่เขาบังคับให้เธอทำสัญญาทาสชั่วนิรันดร์กับเขาด้วย! แต่ความเจ็บปวดทางร่างกายก็ไม่อาจเทียบเท่ากับความเจ็บปวดทางจิตใจของเธอได้เลย โดยเฉพาะตอนที่เด็กสาวนึกได้ว่าเมื่อคืนเธอตอบสนองสัมผัสของเดรโกอย่างไรยามที่เขาใช้กำลังบังคับเธอ แม้ว่าเด็กสาวจะรู้สึกรังเกียจเด็กหนุ่มเพียงไรแต่เธอกลับรู้สึกดีไปกับสัมผัสของเขา! เฮอร์ไมโอนี่จำได้ว่าร่างกายของเธอรุ่มร้อนเพียงใดยามที่มือใหญ่ของเดรโกลูบไล้ไปทั่วร่างของเธอ และความคิดนั้นทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงตัวเองจนเกือบจะอาเจียนออกมา!

และเด็กสาวก็รู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาจริง ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นตลอดทั้งคืนมันมากเกินกว่าที่เธอจะรับไหว ทั้งเรื่องที่เธอได้รับรู้ว่ามัลฟอยหลอกลวงเธอมาตลอด เรื่องที่เธอต้องผจญกับสัตว์ร้ายมากมายในป่าที่โอบล้อมคฤหาสน์ของตระกูลมัลฟอย เรื่องที่เธอเกือบจะถูกมนุษย์หมาป่าตัวนั้นฉีกเนื้อออกเป็นชิ้น ๆ รวมทั้งเรื่องที่เลวร้ายที่สุดซึ่งก็คือสิ่งที่เดรโก มัลฟอยได้ทำกับเธอ! เรื่องทั้งหมดเหล่านี้มันมากเกินกว่าที่ใครจะรับไหวจริง ๆ!

เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกคลื่นเหียนขึ้นมาในทันทีเมื่อคิดถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เด็กสาวลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว เธอคว้าเสื้อคลุมที่อยู่บนเตียงขึ้นมาคลุมกายก่อนจะพุ่งไปยังห้องน้ำ แม้ว่าร่างกายของเธอจะบอบช้ำมากเพียงไรก็ตามแต่เธอก็สามารถประคองตัวเองไปถึงห้องน้ำได้ภายในเวลาไม่นาน หลังจากที่เข้าไปในห้องอาบน้ำส่วนตัวที่หรูหราของเดรโกแล้วเด็กสาวก็ตรงไปที่ชักโครกแล้วอาเจียนเอาทุกอย่างที่อยู่ในท้องออกมาจนหมดสิ้น

หลังจากอาเจียนจนหมดแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็พยายามยันกายขึ้นมายืนอีกครั้ง เธอรู้สึกว่าเข่าของตัวเองไร้เรี่ยวแรงอย่างน่าประหลาด ในขณะเดียวกันมันก็ปวดแปลบจากการวิ่งอย่างหนักในป่านั่น เด็กสาวประคองร่างของตัวเองมาถึงอ่างล้างหน้าเพื่อล้างหน้าล้างตาโดยไม่สนใจจะสำรวจเงาของตัวเองในกระจก ซึ่งไม่ต้องเดาให้ลำบากเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ว่าเธอดูแย่แค่ไหน แต่สิ่งที่แย่ไปกว่าสภาพของเธอในตอนนี้นั้นก็คือตอนที่เด็กสาวยกมือขึ้นซับน้ำที่ใบหน้าหลังจากล้างหน้าเสร็จแล้วเธอก็พบว่าฝ่ามือข้างซ้ายของเธอมีตราประทับเป็นอักษรภาษาอังกฤษที่อ่านว่า ‘ D.M. ‘ ซึ่งย่อมาจากคำว่า ‘ เดรโก มัลฟอย ’ อยู่!

เฮอร์ไมโอนี่หน้ามืด เธอเข่าอ่อนและไม่ลังเลที่จะทรุดกายลงบนพื้นในทันที แม้ว่าจะไม่มีเสียงใด ๆ เร็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มนั้นก็ตามแต่ในใจของเด็กสาวแทบจะกรีดร้อง! ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างเมื่อมันจ้องมองตราประทับที่บ่งบอกถึงความจริงอันไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นไม่ได้เป็นเพียงฝันร้ายที่เธอจินตนาการขึ้นมาเท่านั้น หากแต่มันเป็นความจริง! รอยประทับที่อยู่บนฝ่ามือของเด็กสาวตอกย้ำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเธอที่ว่าตอนนี้เธอได้ตกเป็นทาสของเด็กหนุ่มที่เธอเกลียดชังมากกว่าอะไรทั้งหมด เสียแล้ว!

ราวกับมีก้อนแข็ง ๆ มาจุกอยู่ที่ลำคอของเธอและมันได้กั้นเสียงร่ำไห้ไม่ให้ดังออกมาจากริมฝีปากของเฮอร์ไมโอนี่ จึงมีเพียงเสียงสะอื้นที่ดังออกมาจากปากของเธอเท่านั้น เด็กสาวทรุดตัวลงกับพื้นและคร่ำครวญราวกับจะขาดใจ แม้ว่าจะไม่มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลคู่งามนั้นก็ตาม แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ดีว่าตอนนี้หัวใจของเธอแทบแตกสลายเพราะความจริงที่แสนจะเจ็บปวดนี้แล้ว เธอรู้สึกราวกับโลกทั้งใบได้พังทลายลงตรงหน้าและตอนนี้เด็กสาวก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยอมรับความจริงที่แสนจะโหดร้ายเท่านั้น!

.................................................


เฮอร์ไมโอนี่จำไม่ได้แน่ชัดว่าเธอใช้เวลาร้องไห้อยู่บนพื้นเย็น ๆ ในห้องน้ำของมัลฟอยเป็นเวลานานเท่าไหร่ แต่เมื่อเด็กสาวรู้สึกตัวและเริ่มสงบลงแล้วเธอก็ปาดน้ำตาและยันกายขึ้นมาจากพื้น เมื่อเธอทำเช่นนั้นได้สำเร็จและพบว่าตัวเองขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้ากระจกตรงอ่างล้างหน้าได้แล้วเด็กสาวก็เริ่มสำรวจใบหน้าของตัวเองในกระจก แม้ว่าภาพที่ปรากฏสู่สายตานั้นจะทำให้เธอตกใจมากก็ตามแต่มันก็ไม่น่ากลัวเท่ากับความจริงที่เธอต้องเผชิญในตอนนี้เลย เพราะแม้ว่าภาพที่สะท้อนออกมาให้เธอเห็นนั้นจะเป็นภาพของเด็กสาวผมสีน้ำตาลฟูฟ่องคนหนึ่งที่มีใบหน้าซีดเซียวราวกับคนป่วยไข้และดวงที่แดงก่ำราวกับร้องไห้มาอย่างหนักก็ตาม แต่มันก็ไม่อาจเลวร้ายไปกว่าความจริงที่เธอจะต้องเผชิญในเวลาต่อจากนี้ไปอย่างแน่นอน

หลังจากปรับจิตใจให้สงบลงเรียบร้อยแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็เริ่มคิดว่าเธอจะควรทำอย่างไรต่อไปดี หลังจากเสียเวลากับการร้องไห้มามากพอแล้วเด็กสาวก็คิดได้ว่าถึงเวลาที่เธอควรจะหาทางออกให้กับตัวเองได้แล้ว ถึงอย่างไรเธอก็จะต้องหนีไปจากคฤหาสน์หลังนี้ให้ได้ เพราะเธอจะไม่มีวันยอมตกเป็นทาสของมัลฟอยไปจนวันตายอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่เธอจะหาทางออกให้ตัวเองรวมทั้งหาทางทำลายสัญญาทาสชั่วนิรันดร์ที่เขาทำกับเธอให้ได้นั้น เด็กสาวคิดว่าเธอควรจะเริ่มจากการสงบจิตสงบใจของตัวเองเสียก่อน
เฮอร์ไมโอนี่เปิดน้ำล้างหน้า เธอรู้สึกดีไม่น้อยที่น้ำเย็น ๆ มาสัมผัสใบหน้า ในตอนแรกเด็กสาวคิดว่าเธออยากจะอาบน้ำเพราะเธอต้องการจะล้างรอยสัมผัสของเด็กหนุ่มออกไปจากร่างกายของเธอเสีย แม้แต่ในตอนนี้เด็กสาวยังคงรู้สึกถึงสัมผัสของเด็กหนุ่มที่อยู่บนตัวของเธอ มันทำให้เธอรู้สึก.......ขยะแขยงตัวเอง

แต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่กำลังจะเดินไปที่ฝักบัวเพื่ออาบน้ำเด็กสาวก็รู้สึกว่ามีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนเดรโกเสียก่อน อันที่จริงเด็กสาวไม่ควรจะได้ยินเสียงนั้นด้วยซ้ำถ้าหากว่าใครคนนั้นเปิดประตูเข้ามาแบบธรรมดา ๆ เพราะว่าประตูห้องน้ำห้องนี้ค่อนข้างจะหนาทึบและปิดกั้นเสียงได้ดีพอสมควร แต่ที่เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินว่ามีใครบางคนพยายามจะเข้ามาในห้องนอนของเดรโกมันเป็นเพราะว่าเธอได้ยินเสียงร่ายคาถา ตามมาด้วยเสียงระเบิดของอะไรบางอย่างที่ดังสนั่น!

เด็กสาวสะดุ้งเพราะเสียงระเบิดนั้น มือสองข้างของเธอยกขึ้นป้องกันตัวเองตามสัญชาติญาณ แต่เมื่อผ่านไปราว ๆ หกถึงเจ็ดวินาที เฮอร์ไมโอนี่ก็เปลี่ยนจากท่าทีตกใจไปเป็นขมวดคิ้วด้วยความสงสัยแทน แต่ก่อนที่เธอจะเดินออกไปที่ห้องนอนเพื่อหาต้นเหตุของเสียงที่เกิดขึ้นนั้นประตูห้องน้ำที่เชื่อมกับห้องนอนของเดรโกก็เปิดขึ้นเสียก่อน

ในตอนแรกเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าคนที่เข้ามาในห้องคือเดรโกผู้เป็นเจ้าของห้อง แต่เด็กสาวกลับพบว่าเธอคิดผิดอย่างมหันต์แม้ว่าทั้งสองจะดูคล้ายคลึงกันอยู่มากก็ตาม เพราะร่างที่กำลังยืนอยู่ตรงธรณีประตู ท่ามกลางฝุ่นควันจำนวนมากที่เกิดขึ้นจากแรงระเบิด และมองมาทางเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกได้ว่าเขากำลังเห็นอะไรที่มาอยู่ผิดที่ผิดทางที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในตลอดทั้งชีวิตของเขาก็คือคนที่เธอไม่อยากเจอมากกว่าใครทั้งหมดในโลกเวทย์มนตร์นี้ถ้าหากไม่นับโวลเดอมอร์เข้าไปด้วย และแน่นอนว่ามากกว่าเด็กหนุ่มผมบลอนด์ที่อยู่ในฐานะเจ้านายของเธอหลายเท่านัก เพราะร่างที่เธอกำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นก็คือ ลูเซียส มัลฟอย พ่อของเดรโก!



*************************************************


ลูเซียส มัลฟอยที่เพิ่งเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์ต้องประหลาดใจเมื่อเขาพบว่าห้องอาหารของคฤหาสน์ของเขาว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เอลฟ์ประจำบ้านซักตนหรือส้อมเพียงอันเดียววางอยู่บนโต๊ะอาหารทั้ง ๆ ที่มันน่าจะได้เวลาอาหารเช้าแล้ว
นายลูเซียสขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนที่เขาจะเรียกเอลฟ์ประจำบ้านออกมา มีเอลฟ์ราว ๆ สองสามตนปรากฏตัวขึ้น

“นายน้อยอยู่ที่ไหน” เขาถามทันทีที่พวกมันหายตัวมาพบเขาพร้อมด้วยเสียงป๊อป ขณะที่เอลฟ์ประจำบ้านต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก จนกระทั่งนายลูเซียสมองพวกมันด้วยสายตาเฉียบคมซึ่งบอกพวกมันว่าถ้าหากพวกมันไม่ตอบคำถามของเขาดี ๆ พวกมันจะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน

“นายน้อยอยู่ในห้องนอนของเขาขอรับ” เอลฟ์ที่อาวุโสที่สุดตัวหนึ่งตอบออกมา นายลูเซียสขมวดคิ้วอย่างแปลกใจพลางขยับไม้เท้าในมือ
“แล้วทำไมนายน้อยไม่ลงมาทานอาหาร ทำไมพวกแกถึงไม่ตั้งโต๊ะอาหาร” นายมัลฟอยถามพวกเอลฟ์ที่พากันมองหน้ากันเองอีกครั้ง
“ตอบมา!” เขาพูดเสียงเข้มเมื่อเห็นท่าทีอึกอักของเอลฟ์เหล่านั้น
“นายน้อยสั่งไม่ให้พวกเรารบกวนนายน้อยขอรับ” เอลฟ์ตัวหนึ่งตอบออกมาด้วยเสียงที่สั่นเทา “พวกเราก็เลยไม่กล้าตั้งโต๊ะอาหาร”
“แล้วทำไมเดรโกสั่งไม่ให้พวกแกไปรบกวนเขา เขาไม่สบายอย่างนั้นรึ” นายลูเซียสถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ราวกับเขาเกิดกังวลขึ้นมาว่าลูกชายของเขาอาจจะไม่สบาย
ไม่มีเสียงใดตอบคำถามของเขา จนกระทั่งนายลูเซียสต้องถามย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงน่ากลัวเอลฟ์ประจำบ้านตัวหนึ่งจึงตอบออกมาด้วยเสียงแหลมเล็กว่า

“เปล่าเจ้าค่ะ นายท่าน นายน้อยไม่ได้ไม่สบายเจ้าค่ะ แต่นายน้อย.......นายน้อย..........” เจ้าของเสียงที่สั่นเทานั้นคือดีน่านั่นเอง
“ถ้าเขาไม่ได้ไม่สบายแล้วเขาเป็นอะไรกันแน่ ทำไมพวกแกต้องทำท่าทางแปลก ๆ เหมือนมีอะไรปิดปังฉันด้วย” ลูเซียสพูดขึ้นมา “พวกแกบอกฉันมาให้หมดเดี๋ยวนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ฉันจะลงโทษพวกแกกันทุกตัว!” เขาเอ่ยด้วยโทสะซึ่งทำให้เอลฟ์แต่ละตัวหน้าซีดไปตาม ๆ กัน ก่อนที่เขาจะตวัดสายตาอันเฉียบคมมาที่ดีน่า เอลฟ์ที่มีหน้าที่ดูแลเดรโกโดยตรง

“นายน้อย.......นายน้อยห้ามไม่ให้ดีน่าพูดเจ้าค่ะ แต่ถ้านายท่านสั่งดีน่าก็ขัดขืนคำสั่งของนายท่านไม่ได้.......อันที่จริง......อันที่จริง.........นายน้อยเดรโกไม่ได้ไม่สบายเจ้าค่ะ........แต่นายน้อย......นายน้อย........” เอลฟ์พูดตะกุกตะกัก ราวกับมันคิดว่าเป็นความผิดมหันต์ที่เล่าเรื่องของเดรโกซึ่งเด็กหนุ่มได้กำชับไว้ว่าห้ามบอกใครทั้งสิ้นให้นายท่านของมันฟัง
“นายน้อยทำไม พูดมาซิ!!!” ลูเซียสตะคอกมันด้วยโทสะ จนเสียงนั้นไม่ต่างจากเสียงคำรามเท่าไหร่นัก ดีน่าสะดุ้ง ร่างเล็ก ๆ ของมันสั่นเทาอย่างน่าสงสาร
“นายน้อยบาดเจ็บเจ้าค่ะ!” ดีน่าสารภาพออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้น


.................................................



หลังจากทราบว่าลูกชายเพียงคนเดียวของตนเองบาดเจ็บใบหน้าของลูเซียส มัลฟอยที่ขาวซีดอยู่แล้วก็ยิ่งขาวซีดมากกว่าเดิมยิ่งนัก เขารีบถามเอลฟ์สาวทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่เขาไม่อยู่ ทำไมเดรโกถึงได้บาดเจ็บได้และเขาก็ไม่ลืมที่จะถามถึงภรรยาของเขา นาร์ซิสซา มัลฟอยว่าเธอได้รับอันตรายอะไรหรือเปล่า

แต่ปรากฏว่าหลังจากดีน่าตอบคำถามของเขาออกไปแล้ว ซึ่งเป็นคำตอบที่เดรโกได้ห้ามเธอไว้ไม่ให้บอกใครระหว่างที่เด็กหนุ่มใช้ให้มันช่วยทำแผลที่เกิดขึ้นในป่าของเขาเมื่อคืน ดีน่าก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมาทั้งสิ้น มันเอาแต่ร้องไห้และลงโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลาที่มันขัดคำสั่งนายน้อยและบอกเรื่องที่ควรจะเก็บเป็นความลับแก่นายท่านไป แม้ว่านายลูเซียสจะขู่ว่าจะลงโทษมันอย่างหนักก็ตามแต่เอลฟ์สาวก็ไม่ยอมปริปากบอกอะไรออกไปทั้งสิ้น จนกระทั่งนายมัลฟอยรำคาญกับความดื้อด้านของมันและเลือกที่จะไปสอบถามลูกชายของเขาด้วยตัวเองดีกว่าจะยืนดูมันร้องไห้และลงโทษตัวเองแบบนี้

เมื่อเป็นเช่นนั้นนายลูเซียสจึงตรงไปยังห้องนอนของเดรโกทันทีหลังจากที่เขาไม่ประสบความสำเร็จในการสอบถามดีน่า แต่เมื่อเขาไปถึงห้องนอนของลูกชาย ชายผมบลอนด์กลับพบว่ามันล็อกอยู่

ลูเซียสลองใช้คาถาสำหรับสะเดาะห์กุญแจในตอนแรก แต่ปรากฏว่ามันล้มเหลว เขาจึงลองใช้คาถาที่มีอำนาจมากกว่า ‘ อาโลโฮโมร่า ’ ในการเปิดห้องนอนของเดรโก แต่ปรากฏว่ามันกลับล้มเหลวเช่นกัน ชายผมบลอนด์สบถอย่างร้อนใจก่อนจะใช้คาถาตรวจสอบว่ามีเวทย์มนตร์ชนิดใดที่ร่ายอยู่บนประตูซึ่งขวางกั้นไม่ให้คนภายนอกเข้าไปได้ และเขาก็พบว่าเวทย์มนตร์ที่ถูกใช้ปกป้องห้องนอนของลูกชายของเขาจากภายนอกนั้นเป็นเวทย์มนตร์ศาสตร์มืดขั้นสูง ที่สำคัญมันเป็นคาถาที่เขาเป็นคนสอนเดรโกด้วยตัวของเขาเองซึ่งมันมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการใช้หลบซ่อนตัวหรือกักขังตัวเองจากศัตรูเวลาที่ถูกตามล่า แต่นายลูเซียสก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดลูกชายของเขาจึงจงใจใช้คาถานี้เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้าไปในห้องนอนของเขา
หลังจากพบว่าเดรโกเป็นคนร่ายเวทย์มนตร์ศาสตร์มืดขั้นสูงปิดประตูห้องนอนของเขาเพื่อกั้นไม่ให้คนภายนอกเข้าไปภายในได้แล้ว นายลูเซียสที่แม้จะยังไม่เข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของเด็กหนุ่มก็รีบใช้ร่ายคาถาเพื่อลบล้างเวทย์มนตร์นั้น แม้ว่าเวทย์มนตร์ที่เดรโกเป็นคนเสกขึ้นจะเป็นศาสตร์มืดขั้นสูงมากก็ตามแต่ถึงอย่างไรคนที่สอนคาถานี้แก่เดรโกก็คือนายลูเซียสเอง และแน่นอนว่าเขาคงต้องมีวิธีที่จะทำลายเวทย์มนตร์ที่เขาเป็นคนสอนให้ลูกชายของเขาเสกขึ้นได้อย่างแน่นอน

หลังจากลองใช้คาถาศาสตร์มืดไปสองสามคาถาลูเซียสก็สามารถทำลายเวทย์มนตร์ที่ลูกชายของเขาร่ายไว้ได้ แม้ว่าเดรโกจะร่ายคาถาสำหรับปกป้องห้องนอนของเขาไว้หลายชั้นก็ตาม แต่พ่อของเขาก็เชี่ยวชาญด้านเวทย์มนตร์โดยเฉพาะฝ่ายมืดมากกว่าเด็กหนุ่มมากนัก หลังจากเขาทำลายคาถาของลูกชายได้สำเร็จและเปิดห้องนอนของเดรโกได้ แม้ว่ามันจะสร้างความเสียหายให้แก่ห้องนอนของเด็กหนุ่มไปบ้างก็ตาม ชายผมบลอนด์ก็รีบรุดเข้าไปในห้องนอนของลูกชายของเขาในทันทีโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาจะได้พบในห้องนั้นมันอยู่เหนือความคาดหมายของเขายิ่งนัก!

ลูเซียสพบว่าห้องนอนของเดรโกว่างเปล่าตั้งแต่วินาทีที่เขาก้าวเข้าไป ชายผมบลอนด์สอดสายตามองหาร่างของเด็กหนุ่มผมบลอนด์ผู้เป็นลูกชายของเขา แต่เขาก็ไม่พบแม้แต่เงาของเดรโก นายลูเซียสพบเพียงแค่เตียงนอนที่ว่างเปล่าซึ่งมีร่องรอยว่ามีคนเคยนอนอยู่และดูเหมือนเจ้าของเตียงจะเพิ่งลุกออกไปได้ไม่นานเท่าไหร่นัก เมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนั้นนายลูเซียสจึงเลือกที่จะเดินไปดูที่ห้องน้ำซึ่งเชื่อมต่อกับห้องนอนของลูกชายแทน และนั่นเป็นเวลาเดียวกับที่เขาได้ยินเสียงใครบางคนดังมาจากห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนส่วนตัวของเดรโก

ลูเซียสผลักประตูห้องน้ำออกอย่างไม่ลังเล แม้ว่าในตอนแรกเขาจะแปลกใจไม่น้อยที่มันไม่ได้ล็อก แต่ความแปลกใจนั้นของเขาก็เทียบไม่ได้กับสิ่งที่เขาได้เห็นต่อไป เพราะว่าคนที่อยู่ในห้องน้ำกลับไม่ใช่เดรโก ลูกชายของเขาอย่างที่เขาได้คิดเอาไว้ แต่ร่างนั้นกลับเป็นเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เด็กสาวเลือดสีโคลนที่อยู่ในฐานะทาสของครอบครัวเขา!



*************************************************


สีหน้าของนายลูเซียสดูตกใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยว!
“แกเข้ามาทำอะไรที่นี่นังเลือดสีโคลน!” เขาแผดเสียงขึ้นกับเฮอร์ไมโอนี่ที่มีสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน ดวงตาสีเงินแบบเดียวกับเดรโกหากแต่เย็นชากว่าของเขาจ้องมองเด็กสาวราวกับไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง ก่อนที่มันจะเลื่อนไปที่รอยจูบมากมายที่อยู่บนคอของเธอ! ร่องรอยที่เดรโก ลูกชายของเขาสร้างไว้บนเรือนร่างของเฮอร์ไมโอนี่!

ใบหน้าของนายลูเซียสเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดด้วยความโกรธ ดวงตาสีเงินที่ดูเยือกเย็นราวกับจะลุกเป็นไฟเมื่อเขาเริ่มรู้ถึงสาเหตุว่าทำไมเด็กสาวเลือดสีโคลนคนนี้ถึงมาอยู่ในห้องนอนของลูกชายของเขา!
“แก!!!” เขาคำรามรอดไรฟันก่อนจะเหวี่ยงไม้เท้าในมือลงบนหน้าของเด็กสาว!

ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าที่เฮอร์ไมโอนี่จะทันตั้งตัว ในชั่วพริบตาที่ไม้เท้าของนายลูเซียสฟาดก็ลงมาตามมาด้วยความเจ็บปวดก็วิ่งผ่านใบหน้าของเธอ! ร่างเล็กของเด็กสาวเซถลาก่อนจะล้มลงกับพื้นหินอ่อนที่เย็นเฉียบ!
“แกมายั่วยวนอะไรลูกชายฉัน นังเลือดสีโคลน!!!” เขาตะคอก ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นกุมใบหน้าข้างที่บาดเจ็บด้วยความงุนงง แววตาสีน้ำตาลแสดงออกถึงความสับสนและหวาดกลัว! ขณะที่ชายผมบลอนด์ที่ดูราวกับคนเสียสติกำลังยืนค้ำร่างของเธออยู่

“ฉันถามว่าแกมายั่วยวนอะไรลูกชายของฉัน! แกทำยังไงเขาถึงได้ยอมให้แกขึ้นมา........” นายลูเซียสกัดริมฝีปาก ราวกับเขาขยะแขยงเกินกว่าที่จะพูดคำต่อไปออกมาได้
“ทำไมเดรโกถึงยอมให้แกขึ้นมาอยู่ที่นี่” เขาถามพลางกระชากร่างของเด็กสาวขึ้นมาเผชิญหน้าเขาโดยคว้าเสื้อคลุมของเธอไว้ด้วยมือที่สวมถุงมือของเขา เฮอร์ไมโอนี่ขัดขืนและพยายามจะถอยห่างออกจากชายผมบลอนด์ แต่เมื่อเธอพยายามจะทำเช่นนั้นขาทั้งสองข้างของเธอก็ดูราวกับจะไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาดื้อ ๆ เมื่อเธอมองสบดวงตาสีเงินของนายลูเซียสซึ่งดูน่ากลัวกว่าดวงตาแบบเดียวกันของเดรโกนับร้อยนับพันเท่า!
“ฉันถามแกอยู่นะนังเลือดสีโคลน แล้วแกก็ต้องตอบคำถามของฉันมาเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะทรมานแก” เขาเค้นแต่ละคำพูดออกมาจากริมฝีปากอย่างเคียดแค้น ราวกับการที่เลือดสีโคลนอย่างเฮอร์ไมโอนี่มายุ่งเกี่ยวกับเลือดบริสุทธิ์อย่างเดรโกนั้นเป็นความผิดร้ายแรงที่ไม่สมควรได้รับการให้อภัยพอ ๆ กับการเสกคาถาโทษผิดสถานเดียวขึ้น!

เฮอร์ไมโอนี่พยายามบังคับไม่ให้ริมฝีปากของเธอสั่นยามที่เธอพูดออกมา
“ฉันไม่เคยยั่วยวนอะไรลูกชายคุณ!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้มันดูแข็งกร้าว “มีแต่เขาต่างหากที่มายุ่งกับฉัน!” เด็กสาวตะโกน
“แกโกหก!!!” ลูเซียสคำราม พลางรั้งร่างเด็กสาวเข้ามาใกล้ มือที่สวมถุงมือของเขาบีบแน่นที่แขนของเฮอร์ไมโอนี่ราวกับคีมเหล็กจนเด็กสาวรู้สึกเจ็บไปถึงกระดูก
“ปล่อยนะ!” เด็กสาวพยายามดิ้นรนเพื่อให้พ้นจากการเกาะกุมของชายผมบลอนด์ เธอใช้มือทั้งสองข้างผลักร่างของเขาออกห่าง แต่การทำเช่นนั้นมันกลับทำให้เขาได้เห็นตราที่ประทับอยู่บนฝ่ามือของเธอ

ดวงตาสีเงินของนายลูเซียสเบิกกว้างราวกับไม่อยากเชื่อสายตาตนเองกับสิ่งที่เขาเห็น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เชื่อว่าสายตาของเขาไม่ได้หลอกลวงเขาแต่อย่างไร ใบหน้าของชายผมบลอนด์ดูประหลาดใจมากกว่าตอนที่เขาเห็นรอยประทับของเดรโก ลูกชายของเขาบนลำคอของเฮอร์ไมโอนี่เสียอีก เพราะแม้ว่าการเห็นรอยจูบของเด็กหนุ่มบนตัวของเด็กสาวเลือดสีโคลนจะน่าตกใจอยู่มากก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้แสดงถึงความผูกพันชั่วนิรันดร์อย่างตราทาสที่มาจากการทำสัญญาทาสชั่วนิรันดร์ระหว่างลูกชายของเขากับเด็กสาวเลือดสีโคลนอย่างเฮอร์ไมโอนี่ที่อยู่บนฝ่ามือของเธอในขณะนี้

“นี่มัน!” ลูเซียสพึมพำออกมาด้วยสีหน้าประหลาดใจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นขาวชีดอีกครั้งด้วยความโกรธ และโดยไม่มีคำเตือนใด ๆ ทั้งสิ้น มันรวดเร็วเกินกว่าที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้ทันตั้งตัวหรือพยายามที่จะขัดขืนนายลูเซียสก็ร่ายคาถากรีดแทงใส่เธอ!

เฮอร์ไมโอนี่ล้มลงกับพื้น เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อคำสาปของนายมัลฟอยกระทบร่าง กระดูกของเธอราวกับจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ เช่นเดียวกับศีรษะของเธอที่ปวดร้าวราวกับมีค้อนมาทุบ ขณะที่ทุกอณูของผิวหนังของเธอนั้นร้อนไหม้ราวกับไฟลน!

เด็กสาวดิ้นรนอย่างทรมานภายใต้คำสาปของนายลูเซียส เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่กรีดร้องออกมาแต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถห้ามตัวเองได้เลย เธอรู้สึกราวกับร่างกายของเธอจะแตกสลายด้วยความเจ็บปวด ถ้าหากสติของเธอไม่เสียไปเสียก่อนเด็กสาวแน่ใจว่าคำสาปที่เธอกำลังเผชิญในครั้งนี้นั้นรุนแรงยิ่งกว่าตอนที่นายลูเซียสสาปเธอที่ศูนย์บัญญาการศาสตร์มืดในครั้งที่เธอเพิ่งถูกจับมามากนัก ราวกับเขาตั้งใจเพิ่มความเกลียดชังลงไปในคำสาปของเขาซึ่งทำให้มันส่งผลมากขึ้น เขาตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะให้เธอเจ็บปวดทรมานอย่างเหลือแสน! และนี่เป็นบทลงโทษที่เธอสมควรได้รับในการที่เลือดสีโคลนที่ต่ำต้อยอย่างเธอบังอาจมายุ่งเกี่ยวกับเลือดบริสุทธิ์ที่สูงส่งอย่างลูกชายของเขา!

เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องจนแทบจะหมดเสียง เด็กสาวดิ้นรนอย่างสุดแรงแต่เธอก็ไม่สามารถหลีกหนีจากความเจ็บปวดไปได้ จนกระทั่งเธอคิดอยากจะร้องขอให้เขาฆ่าเธอเสียดีกว่าทรมานเธอแบบนี้ต่อไป เพราะเธอไม่ต้องการเจอกับความเจ็บปวดทรมานเช่นนี้อีกแล้ว และถ้าหากเขายังคงทรมานเธอต่อไปแบบนี้ ไม่แน่ว่าเธออาจจะเสียสติไปก่อนและกลายเป็นแบบเดียวกับพวกลองบอตท่อมก็เป็นได้ ซึ่งเธอไม่ต้องการที่จะเป็นเช่นนั้นเลย! เธอไม่ต้องการที่จะถูกทรมานจนเสียสติแบบนั้นแม้แต่น้อย เธอยอมเลือกที่จะตายเสียดีกว่า!

แต่ก่อนที่เด็กสาวจะได้ร้องขอความตายจากชายที่ทรมานเธอนั้น เธอก็รู้สึกว่าภาพตรงหน้าของเธอเริ่มเลือนลางไปทีละน้อย ราวกับสิ่งที่เธอต้องการมาถึงก่อนที่เธอจะร้องขอเสียด้วยช้ำ เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงอย่างยินดีกับสิ่งที่เธอกำลังจะได้รับ อย่างน้อย ๆ ความตายก็ดูจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับเธอในตอนนี้ เพราะถึงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปมันก็รังแต่จะสร้างความทุกข์ทรมานให้ตัวเธอเองเปล่า ๆ เมื่อคิดได้เช่นนั้นเด็กสาวก็หยุดกรีดร้องและดิ้นรน ในสมองของเธอเริ่มมีภาพของเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาในชีวิตไหลพรุ่งพรูเข้ามาราวกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก แม้ว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะมีมากมาย แต่เธอเลือกที่จะนึกถึงแค่เรื่องที่ดีเท่านั้น เพราะเธอต้องการให้สิ่งที่เธอได้เห็นเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่จะจากโลกนี้ไปเป็นภาพของเธอครอบครัวและเพื่อนรัก ไม่ใช่ภาพของชายผมบลอนด์ผู้โหดเหี้ยมที่กำลังทรมานและจะฆ่าเธอเลย! ภาพใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของครอบครัวที่เธอรักปรากฏขึ้นในสมองของเฮอร์ไมโอนี่เมื่อเด็กสาวหลับตาลงก่อนที่มันจะถูกแทนที่ด้วยใบหน้าของแฮร์รี่กับรอน และเมื่อภาพเหล่านั้นจางหายไปทุกอย่างก็ดับวูบลง!


.................................................


เดรโก มัลฟอยกลับมาบ้านพร้อมกับไม้กายสิทธิ์ของเขาซึ่งเดิมทีมันตกลงไปที่ก้นเหวและเด็กหนุ่มใช้คาถาเรียกของเรียกมันขึ้นมาจากตรงบริเวณปากเหว หลังจากได้ไม้กายสิทธิ์ของเขาคืนแล้วเดรโกก็รีบตรงกลับคฤหาสน์ของเขาในทันที เพราะเขาไม่ต้องการทิ้งให้เฮอร์ไมโอนี่อยู่คนเดียวตามลำพังเป็นเวลานาน และป่านนี้เดรโกคาดว่าเธออาจจะตื่นขึ้นมาแล้วก็ได้

อันที่จริงสิ่งที่มัลฟอยเป็นห่วงมากกว่าการที่พ่อของเขาจะกลับมาเจอเฮอร์ไมโอนี่อยู่ในห้องนอนของเขาในตอนนี้นั้นก็คือการที่เด็กสาวตื่นขึ้นมาเพียงลำพังแล้วคิดฟุ้งซ่านขึ้นมาจนทำร้ายตัวเอง เพื่อต้องการหนีสิ่งที่เขาได้ทำลงไปกับเธอรวมทั้งสภาพที่เธอเป็น ณ ขณะนี้อยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเดรโกไม่มีวันปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เขาจะไม่มีวันยอมให้เฮอร์ไมโอนี่หนีเขาไปได้เป็นอันขาด และเธอก็ไม่มีวันทำเช่นนั้นได้ด้วย เพราะในตอนนี้เขาได้ทำสัญญาทาสชั่วนิรันดร์เพื่อผูกมัดเธอไว้กับเขาแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบางวิธีที่สามารถลบล้างสัญญาทาสชั่วนิรันดร์ลงได้ และหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำลายพันธนาการทาสนี้ก็คือ ‘ ความตาย ’ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่สามารถพรากผู้เป็นเจ้านายและทาสออกจากกันได้ ถ้าหากว่าเจ้านายเสียชีวิตลงผู้เป็นทาสก็จะหลุดจากสัญญาทาสและกลายเป็นอิสระ เช่นเดียวกับเมื่อทาสเสียชีวิตลงสัญญาทาสก็จะเสื่อมมนตราลง และเดรโกแน่ใจว่าเฮอร์ไมโอนี่น่าจะรู้เรื่องนี้ดี และถ้าหากเธอยอมเลือกความตายมากกว่าการมีชีวิตอยู่เป็นทาสของเขาล่ะก็ เด็กหนุ่มก็ไม่อยากคิดถึงผลที่จะตามมาเลย และแน่นอนว่าเขาจะไม่มีวันยอมให้มันเป็นเช่นนั้นเป็นอันขาด!
แต่เดรโกไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาจะได้เจอหลังจากกลับไปถึงคฤหาสน์ของเขานั้นมันเลวร้ายกว่าที่เขาจินตนาการได้ยิ่งนัก เพราะสิ่งแรกที่เด็กหนุ่มได้ยินหลังจากที่กลับถึงห้องนอนของเขาก็คือเสียงกรีดร้องของเฮอร์ไมโอนี่!

มัลฟอยเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงนั้น! เขารีบตรงไปยังต้นเสียงทันที และสิ่งที่เขาเห็นนั้นเกือบจะทำให้หัวใจของเด็กหนุ่มหยุดเต้น! เพราะภาพที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คือภาพพ่อของเขา ลูเซียส มัลฟอย กำลังยืนค้ำร่างของเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังดิ้นรนอย่างทรมานอยู่ที่พื้นพร้อมทั้งชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่เธอ จากสิ่งที่เห็นเดรโกพอจะเดาได้ไม่ยากว่าพ่อของเขากำลังทรมานผู้หญิงที่เขารักด้วยคาถากรีดแทง!!!

“พ่อ!” เดรโกตะโกนขึ้นอย่างตกใจกับสิ่งที่เขาเห็น และการปรากฏตัวของเด็กหนุ่มก็เรียกความสนใจของนายลูเซียสได้มากพอที่จะทำให้เขาถอนไม้กายสิทธิ์ออกจากร่างของเฮอร์ไมโอนี่
“นี่มันอะไรกันครับพ่อ” มัลฟอยพึมพำ ขณะที่พ่อของเขามองเขาด้วยสายตาเย็นชา
“ฉันต่างหากที่ต้องถามคำถามนี้กับแกเดรโก!” ลูเซียสพูดด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด
“แกอธิบายกับฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าทำไมนังเด็กเลือดสีโคลนนี่ถึงได้ขึ้นมาอยู่บนห้องนอนของแก! แถมยัง.......แถมมันยังมีตราประทับของแกด้วย!!!” เขาละบางประโยคเอาไว้และเปลี่ยนไปพูดอีกอย่างหนึ่งแทน ราวกับว่าการพูดความจริงที่ว่าลูกชายของเขามีอะไรกับเลือดสีโคลนนั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจมากเกินกว่าที่จะเอ่ยเป็นคำพูดออกมาได้

ใบหน้าของเดรโกซีดเผือดพร้อม ๆ กับความกลัวที่แล่นจับหัวใจของเขา โดยที่เด็กหนุ่มไม่รู้ว่ามันเป็นความกลัวที่มาจากการที่พ่อของเขารู้เรื่องระหว่างเขากับเฮอร์ไมโอนี่หรือว่าความกลัวที่ได้เห็นร่างไร้สติของเด็กสาวซึ่งกำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้นเนื่องจากคำสาปของพ่อของเด็กหนุ่มเองกันแน่!
“ผม” เดรโกอึกอักพลางมองไปที่ร่างไร้สติของเฮอร์ไมโอนี่อย่างเป็นห่วง เขาไม่คิดว่าพ่อจะรู้เรื่องทั้งหมดเร็วขนาดนี้ อันที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่าเรื่องทั้งหมดนี่จะต้องเกิดขึ้น เพียงแต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริง ๆ แล้วเด็กหนุ่มกลับรู้สึกว่าเขายังไม่พร้อมที่จะยอมรับมันเลยแม้แต่น้อย

นายลูเซียสละความสนใจจากร่างของเด็กสาวก่อนจะก้าวยาว ๆ มาหยุดอยู่หน้าลูกชายของเขา และเป็นเพราะว่านายมัลฟอยยืนหันหลังให้เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังนอนอยู่ที่พื้น มันจึงทำให้เขาไม่มีโอกาสเห็นว่าเด็กสาวที่เขาทรมานนั้นเริ่มรู้สึกตัวแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งกำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้นหินอ่อนค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาเบา ๆ ดวงตาสีน้ำตาลแลดูงุนงงราวกับเธอสงสัยว่าทำไมเธอถึงยังมีชีวิตอยู่อีก

“แกทำสัญญาทาสชั่วนิรันดร์กับมันแล้วใช่มั๊ย เดรโก และที่สำคัญ แกเอามันมานอนบนห้องของแกด้วยใช่มั๊ย ตอบฉันมา ฉันอยากจะได้ยินจากปากของแกเอง” นายลูเซียสถามพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของลูกชาย ราวกับต้องการเค้นความจริงออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม เดรโกกลืนน้ำลายเมื่อเห็นแววตาที่พ่อใช้มองเขา มันเป็นแววตาที่แสดงออกถึงความผิดหวังเสียใจอย่างมากที่สุดเท่าที่พ่อเคยใช้กับเขา เด็กหนุ่มหลบสายตาลงมองพื้น และเมื่อเขาทำเช่นนั้นมันจึงทำให้เขาเห็นว่าเด็กสาวที่เขารักเพิ่งฟื้นคืนสติ เฮอร์ไมโอนี่พยายามยันกายขึ้นจากพื้นอย่างช้า ๆ ขณะที่เดรโกถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเธอดูไม่เป็นอะไรมากนัก อย่างน้อย ๆ มันก็ไม่น่าจะร้ายแรงถึงชีวิต

มัลฟอยเงยหน้าขึ้นสบตาพ่อของเขาอีกครั้ง ดวงตาสีเงินของเขาดูเป็นประกายเด็ดเดี่ยวอย่างที่นายลูซียสไม่เคยเห็นมาก่อนยามที่เด็กหนุ่มพูดออกมา

“ครับ มันเป็นอย่างที่พ่อคิด ผมพาเกรนเจอร์มานอนที่นี่ และผมเป็นคนทำสัญญาทาสชั่วนิรันดร์กับเธอเอง” เดรโกสารภาพออกมา ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่เบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะคำพูดนั้น แต่ความตกใจของเธอนั้นก็ไม่มีวันเท่ากับลูเซียส มัลฟอย พ่อของเดรโกเลย!!!




*************************************************








Create Date : 17 มกราคม 2553
Last Update : 19 มิถุนายน 2555 12:56:00 น. 7 comments
Counter : 3094 Pageviews.

 
ตอนนี้กลายเป็นแฟนคลับคุณ piksi ชนิดถอนตัวไม่ขึ้นแล้วค่ะ ตามอ่านฟิคที่คุณพิกซี่เขียนเกี่ยวกับมัลฟอยกับเเฮอร์ไมโอนี่สนุกมากๆ ตอนแรกเจอที่มักเกิ้ลไทย หลังจากนั้นก็ตามไปเว็บเด็กดี .. ติดหนุบหนับทุกเรื่อง ตะบี้ตะบันอ่านจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว .. เป็นกำลังใจให้เขียนงานสนุกๆ ออกมาอีกนะคะ


โดย: นิ่ม (fionary ) วันที่: 3 เมษายน 2553 เวลา:22:23:38 น.  

 
ขอบคุณมากๆๆๆๆนะคะ

ช่วงนี้เราไม่ค่อยมีเวลา อาจจะมาอัพช้า

แต่จะมาอัพต่อแน่นอนค่ะ จะพยายามต่อไปนะคะ


โดย: piksi วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:23:16:37 น.  

 
สนุกมากๆๆๆ แต่สงสัยต่อจาก chapter 19 หายไปไหน


โดย: อย่ารู้เลย IP: 110.49.123.102 วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:1:06:45 น.  

 
โอ๊ยสนุกมากๆๆๆ
ตื่นเต้นไม่ไหวแล้ววว!!!


โดย: mimi IP: 124.121.39.109 วันที่: 10 ตุลาคม 2554 เวลา:7:37:59 น.  

 
สะใจ ในที่สุดลูเซียสก็มาเจอจนได้


โดย: Ceeya IP: 171.7.104.87 วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:22:40:01 น.  

 
สุดยอดค่ะ พี่พิก


โดย: pleng IP: 1.47.210.222 วันที่: 3 กันยายน 2557 เวลา:19:14:01 น.  

 
เดรโกเท่มากก


โดย: Nutthatrp IP: 101.51.81.73 วันที่: 29 มิถุนายน 2558 เวลา:1:39:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

piksi
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 95 คน [?]




สวัสดีค่ะ เรา piksi นะคะ เรียกสั้น ๆ ว่าพิกก็ได้ค่ะ เราเป็นแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่นชอบคู่ D/Hr มากเลยค่ะ รวมทั้งรัก Tom Felton สุดหัวใจ >-< ใครที่ชอบคู่นี้และชื่นชอบทอมเหมือนกัน เค้ามาคุยกันนะคะ
Friends' blogs
[Add piksi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.