Group Blog
 
All Blogs
 
เธอคือทาสหัวใจของฉัน: Chapter 33 การรักษา PART II





เฟรย่าเดินนำเดรโกกลับไปตามทางเดินเดิมที่พวกเขาเดินผ่านเข้ามา เด็กหนุ่มเดินตามหล่อนกลับมาที่ห้องรับแขกอีกครั้งหนึ่ง แต่เฟรย่าก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะหยุดแต่อย่างใดเมื่อหล่อนเดินนำเขาเข้าไปยังห้องที่อยู่ทางด้านขวามือซึ่งเป็นที่ที่เดรโกพบกับหล่อนเป็นครั้งแรก และหลังจากที่เด็กหนุ่มเดินตามแม่มดผมดำผู้กุมชะตาชีวิตของเขาเอาไว้เข้าไปภายในห้องเล็กที่ถูกประดับประดาไปด้วยผ้าม่านหลากสีสันและเต็มไปด้วยกลิ่นกำยานแล้วนั้น เขาก็พบว่าเฟรย่ายืนรอเขาอยู่ตรงหน้าโต๊ะตัวเดิมที่ถูกปูด้วยผ้าคลุมสีสันสดใสและมีลูกแก้วสำหรับใช้พยากรณ์วางอยู่

ในตอนแรกเดรโกที่คิดว่าเฟรย่าจะให้ห้องนี้เป็นที่สำหรับพูดคุยรวมทั้งรักษาเขาก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ เนื่องจากห้องดังกล่าวเป็นห้องที่มีขนาดเล็กและแออัดไปด้วยข้าวของจำนวนมากที่แค่มีพ่อมดแม่มดอยู่ในห้องเพียงสองคนก็สามารถทำให้เกิดความรู้สึกอึกอัดขึ้นได้แล้ว ยังไม่รวมกับกลิ่นกำยานเหม็นฉุนที่เด็กหนุ่มรู้สึกไม่ค่อยถูกโรคกันมันสักเท่าไหร่นัก เพราะมันทำให้อากาศในห้องนั้นดูอับและไม่น่าอยู่มากขึ้นกว่าเดิม และในขณะที่มัลฟอยกำลังคิดในใจว่าเขาไม่อยากพูดคุยหรือแม้กระทั่งให้เฟรย่าทำการรักษาเขาในห้อง ๆ นี้เลย หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาก็พูดขึ้นพอดี

“เราจะไม่ทำการรักษากันที่นี่หรอก คุณมัลฟอย” หล่อนพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มลึกลับมาให้เขา และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นจนเดรโกลงความเห็นไปแล้วว่าเฟรย่าแห่งไอซ์แลนด์นี้อาจจะอ่านใจได้ เพราะนับตั้งแต่ที่เขามาเหยียบบ้านหลังนี้ ไม่ใช่สิ นับตั้งแต่ที่เขามาเหยียบเกาะกริมซีย์แล้ว ก็มีเรื่องที่น่าประหลาดใจเกี่ยวกับหญิงสาวคนนี้เกิดขึ้นอยู่หลายต่อหลายครั้ง จนมัลฟอยอดไม่ได้ที่จะสรุปเอาเองในใจว่าเฟรย่านั้นอาจจะมีอำนาจลึกลับที่แม่มดธรรมดาทั่วไปไม่มี และอำนาจเหล่านั้นอาจจะรวมถึงการทำนายอนาคตที่แม่นยำอย่างที่หาตัวจับได้ยาก หรือแม้กระทั่งการอ่านใจคนที่เขาเริ่มสงสัยแล้วว่าหล่อนน่าจะทำเช่นนั้นได้ เมื่อดูจากการที่หล่อนมักจะตอบคำถามที่เขาเพียงแค่คิดมันอยู่ในใจออกมาดัง ๆ อยู่หลายต่อหลายครั้งซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันมากเกินกว่าที่เขาจะมองว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญได้ และเมื่อคิดได้เช่นนั้น ยามที่เดรโกมองฝ่ายตรงข้ามที่กำลังส่งรอยยิ้มที่ดูลึกลับมาให้เขาอยู่นั้น เด็กหนุ่มก็อดที่จะรู้สึกหวาดกลัวหญิงสาวผู้แสนจะลึกลับที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ได้เลย

และในขณะที่มัลฟอยกำลังจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่แสดงถึงความหวาดระแวงและไม่วางใจอยู่นั้น เฟรย่าก็ส่งยิ้มให้เขาก่อนจะพูดขึ้น

“เราจะไปพูดคุยกันในห้องทำงานของฉัน ที่นั่นเป็นห้องที่ฉันใช้ปรุงยาและเป็นที่สำหรับเก็บตำหรับตำรามากมาย ซึ่งฉันคิดว่ามันน่าจะสะดวกกว่าที่นี่มาก” หล่อนกล่าว และเมื่อได้ยินเช่นนั้นเด็กหนุ่มก็ขมวดคิ้วพร้อมกับกำลังจะถามขึ้นว่าแล้วทำไมหล่อนถึงพาเขามาที่นี่แทนที่หล่อนจะพาเขาไปที่ห้องทำงานของหล่อนตั้งแต่แรกล่ะ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดออกไปเช่นนั้น เฟรย่าแห่งไอซ์แลนด์ก็พูดขึ้นเสียก่อน ราวกับหล่อนล่วงรู้ในสิ่งที่เดรโกกำลังคิดอยู่ในใจ

“ห้องทำงานของฉันอยู่ทางนี้ เชิญ คุณมัลฟอย” แม่มดผมดำกล่าวก่อนจะผายมือไปทางด้านหลังรวมทั้งขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้เด็กหนุ่มเห็นประตูบานหนึ่งซึ่งซ่อนอยู่ด้านหลังม่านลูกปัดหลากสีที่ใช้ประดับห้อง ซึ่งถ้าหากเฟรย่าไม่ได้ชี้เชิญให้เขามองไปทางนั้น เดรโกก็คิดว่าคงไม่มีวันรู้ว่ามีประตูอยู่ตรงนั้นด้วย ขณะที่เจ้าของบ้านนั้นมองมาทางเขาด้วยท่าทีสุขุมก่อนจะพูดขึ้น

“ได้โปรดตามฉันมา” หล่อนกล่าวอย่างราบเรียบก่อนที่จะหันหลังและเดินผ่านม่านลูกปัดไปยังประตูบานดังกล่าว



หลังจากเดินตามเฟรย่าผ่านประตูไม้ขัดมันบานใหญ่ที่ถูกซ่อนอยู่หลังม่านลูกปัดหลากสีมาแล้วนั้นเดรโกก็พบว่าเขากำลังยืนอยู่ในห้องทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดไม่กว้างขวางนัก แต่เหตุผลที่ทำให้ห้อง ๆ นี้ดูคับแคบอาจเป็นเพราะผนังทั้งสี่ด้านของมันที่เป็นชั้นวางของสูงจรดเพดานและเต็มไปด้วยขวดยาและโหลใส่วัตถุดิบในการปรุงยา ตรงกลางห้องนั้นเป็นโต๊ะสำหรับปรุงยาขนาดกลางที่มีเครื่องมือสำหรับปรุงยาวางอยู่อย่างครบครันพร้อมกับเก้าอี้อีกสองตัว ส่วนผนังด้านที่ตรงข้ามกับประตูที่เปิดเข้ามาสู่ห้องนี้นั้นเป็นประตูไม้ขัดมันแบบเดียวกันซึ่งมัลฟอยไม่อาจล่วงรู้ได้ว่ามันนำไปสู่ที่ใด

และถึงแม้ว่าสภาพรวมทั้งบรรยากาศภายในห้องที่เฟรย่าเรียกว่า ‘ห้องทำงาน’ ของหล่อนนั้นจะดูเหมาะสมกับแม่มดที่มีชื่อเสียงทางด้านการปรุงยาแบบหล่อนก็ตาม หากแต่มัลฟอยกลับไม่รู้สึกดีเลยที่ได้เข้ามาอยู่ในห้องทำงานแห่งนี้ของหล่อน ชั้นวางโหลของดองซึ่งบรรจุส่วนผสมสำหรับการปรุงยาที่วางเรียงรายอยู่สูงจนท่วมศีรษะนั้นมันทำให้เขานึกถึงห้องเก็บวัตถุในการปรุงยาของศาสตราจารย์สเนปที่ฮอกวอตส์ซึ่งเขาเคยมีโอกาสเข้าไปบางครั้งในตอนที่เขายังเป็นนักเรียนอยู่ที่นั่น และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ชื่นชอบห้องเก็บวัตถุดิบของสเนปมากเท่าไหร่นัก มัลฟอยก็สามารถพูดได้ว่าเขาชื่นชอบมันมากกว่าห้องทำงานของเฟรย่าห้องนี้อย่างแน่นอน ด้วยเหตุผลที่เขาเองก็ไม่อาจทราบได้ อาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มลึกลับของเจ้าของห้องที่ส่งมาให้เขารวมทั้งดวงตาสีน้ำเงินของหล่อนที่มองมาทางเขาอย่างยากจะอ่านก็เป็นได้ที่ทำให้เดรโกไม่อยากจะอยู่ในสถานที่แห่งนี้ไปนานมากกว่านี้เลย แต่ถึงกระนั้นเด็กหนุ่มก็ไม่อาจจะไปจากที่นี่ในตอนนี้ได้ เมื่อเขารู้สึกว่าเฟรย่านั้นเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้าง ๆ โต๊ะสำหรับปรุงยาก่อนที่หล่อนจะพูดขึ้น

“นั่งลงบนเก้าอี้นั่น และถอดเสื้อของเธอออก” หล่อนสั่งพลางมองไปยังเก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากเด็กหนุ่มเท่าไหร่นัก และเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มมองหล่อนอย่างไม่เข้าใจ เฟรย่าจึงพูดต่อ

“เธอต้องถอดเสื้อออก ฉันถึงจะตรวจดูแผลของเธอได้จริงไหม” หญิงสาวพูดอย่างมีเหตุผล และเมื่อได้ยินเช่นนั้นมัลฟอยก็พยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนที่เด็กหนุ่มจะลงมือถอดเสื้อคลุมของเขาออก และวางมันไว้บนโต๊ะโดยที่มีเฟรย่าแห่งไอซ์แลนด์มองมาทางเขาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

หลังจากถอดเสื้อผ้าท่อนลนจนเหลือเพียงแค่ผ้าพันแผลบริเวณไหล่ซ้ายของเขาไว้แล้วนั้น เดรโกก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะปรุงยาแต่โดยดี ขณะที่เด็กหนุ่มเห็นว่าเฟรย่านั้นเดินเข้ามาใกล้เขาและในวินาทีต่อมาหล่อนก็เข้ามานั่งบนเก้าอี้ตัวข้าง ๆ หญิงสาวมองเขาในเชิงขออนุญาตก่อนที่จะลงมือแกะผ้าพันแผลของเขาออก

มัลฟอยมีสีหน้าที่สงบนิ่งเมื่อเขารู้สึกว่ามืออันเย็นเฉียบของเฟรย่าเลื่อนมาแกะผ้าพันแผลของเขาออกอย่างระมัดระวัง ถึงแม้ว่าในตอนนี้หัวใจของเด็กหนุ่มจะเต้นรัวราวกับเสียงกลองก็ตาม แต่เขาก็พยายามที่จะรักษาท่าทีที่สงบนิ่งไว้ให้มากที่สุด แต่ถึงกระนั้นความกดดันในการเผชิญหน้าชะตากรรมที่จะตัดสินอนาคตที่เหลืออยู่ของเขาในครั้งนนี้ของเด็กหนุ่มนั้นก็แสดงออกมาทางเม็ดเหงื่อจำนวนมากที่ผุดขึ้นตามไรผมสีบลอนด์ของเขา รวมทั้งความพยายามที่จะเก็บความหวาดกลัวเอาไว้ภายในซึ่งส่งผลให้เขาเครียดและทำให้ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึมเกินกว่าที่ควรจะเป็นนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่บอกเฟรย่าได้เป็นอย่างดีกว่าเดรโก มัลฟอยนั้นอยู่ในสภาวะที่กดดันเพียงใด หากแต่หญิงสาวก็ไม่เลือกที่จะพูดหรือแสดงกริยาใด ๆ อันบ่งบอกว่าหล่อนล่วงรู้ถึงความกดดันรวมถึงความกลัวที่บัดนี้ได้เข้าเกาะกุมหัวใจของเด็กหนุ่มตรงหน้าออกมา ตรงกันข้ามหล่อนกลับรักษาท่าทีที่เรียบเฉยไม่ต่างจากที่เดรโกกำลังพยายามทำอยู่ขณะที่หล่อนค่อย ๆ คลี่ผ้าผันแผลของเขาออก

แต่หลังจากที่หล่อนแกะผ้าพันแผลออกจากไหล่ของเด็กหนุ่มตรงหน้า และได้เห็นบาดแผลของเขาแล้วนั้น เฟรย่าแห่งไอซ์แลนด์ก็ไม่สามารถรักษาท่าทีที่เรียบเฉยของหล่อนเอาไว้ได้ เพราะทันทีที่รอยแผลซึ่งเป็นผลมาจากการถูกมนุษย์หมาป่าทำร้ายของเดรโกนั้นปรากฎขึ้นสู่สายตาของเฟรย่า ดวงตาสีน้ำเงินของหล่อนก็เบิกกว้าง ริมฝีปากของหล่อนเผยอเล็กน้อยราวกับหล่อนเพิ่งเห็นสิ่งที่ไม่ปกติธรรมดาเข้า

และแน่นอนว่าท่าทางของแม่มดผมดำที่มีต่อบาดแผลของเดรโกก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของเด็กหนุ่มผู้มาขอให้หล่อนช่วยรักษาเขาได้เลยแม้แต่น้อย เพราะทุกอริยาบทของเฟรย่าตั้งแต่ตอนที่หล่อนเริ่มแกะผ้าพันแผลของเขาออกนั้นตกอยู่ภายใต้การเฝ้าดูของเขาทั้งสิ้น และเมื่อเขาได้เห็นท่าทีตกใจของหญิงสาวที่แสดงออกมาแล้วนั้น มัลฟอยจึงถามขึ้น

“มีอะไรอย่างนั้นหรือครับ” เขาถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก ราวกับเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะบังคับไม่ให้มันสั่นเทาขณะที่ดวงตาสีเงินของเขามองไปที่เฟรย่าก่อนจะก้มลงมามองที่บาดแผลของตนเองอย่างหาคำตอบ

และในวินาทีนั้นเอง เมื่อมัลฟอยก้มลงมามองแผลของเขาเอง เด็กหนุ่มก็เข้าใจได้เป็นอย่างดีถึงอาการของเฟรย่าที่หล่อนแสดงออกมาก่อนหน้านี้ เพราะในตอนนี้แผลของเขานั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีคล้ำมากกว่าขึ้นกว่าเดิมเสียแล้ว ทั้ง ๆ ที่คราวก่อนที่เขาทำแผลนั้นบาดแผลของเขายังคงไม่มีสีเข้มเท่านี้เลย หากแต่มันเป็นสีแดงเลือดนกเหมือนบาดแผลใหม่ทั่ว ๆ ไปเท่านั้น แต่ในตอนนี้ หลังจากผ่านไปเพียงไม่นานเท่านั้นบาดแผลของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำราวกับมันกลายเป็นเนื้อที่ใกล้เน่าเสียแล้ว และเมื่อเห็นเช่นนั้นเดรโกก็อดไม่ได้ที่จะเบือนหน้าหนีไปจากภาพที่ไม่น่ามองเช่นนั้น แต่ในขณะเดียวกันมัลฟอยก็รู้ดีว่า ถึงแม้ว่าเขาจะเบือนหน้าหนีจากบาดแผลนี้ในตอนนี้ก็ตาม แต่เขาก็ไม่อาจจะลบล้างรอยแผลนี้ออกไปจากร่างกายของเขาได้พอ ๆ กับที่เขาอาจจะไม่สามารถลบล้างคำสาปที่มาพร้อมกับบาดแผลนี้ไปได้เลย

และเมื่อคิดได้เช่นนั้น โดยไม่ต้องรอคอยคำตอบจากเฟรย่า เดรโกก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร ในเมื่อบาดแผลของเขาเริ่มเปลี่ยนสีแล้วแบบนี้มันก็อาจจะสายเกินไปสำหรับหล่อนที่จะช่วยเหลือเขาก็เป็นได้ และถ้าแม้แต่แม่มดที่เก่งกาจอย่างเฟรย่าก็ไม่สามารถช่วยรักษาเขาได้แล้วล่ะก็ เด็กหนุ่มก็รู้ดีว่าสิ่งที่รอคอยเขาอยู่ในอนาคตนั้นจะเป็นเช่นไร ชะตากรรมของเขาในภายภาคหน้านั้นจะเป็นเช่นไรโดยที่เขาไม่ต้องอาศัยทักษะในการพยากรณ์อย่างเฟรย่าเลยแม้แต่น้อย เพราะถ้าหากแม่มดผู้เลื่องชื่อแห่งไอซ์แลนด์คนนี้ไม่สามารถช่วยเขาได้แล้วล่ะก็ เดรโกก็จะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของเขาไม่ต่างจากชีวิตที่ต้องคำสาปเป็นแน่!



และในขณะที่เด็กหนุ่มซึ่งในบัดนี้กำลังจินตนาการถึงอนาคตที่เลวร้ายซึ่งกำลังรอคอยเขาอยู่ในภายภาคหน้าพร้อมกับรู้สึกถึงความกลัวที่แล่นเข้าจับขั้วหัวใจของเขาอยู่นั้น มัลฟอยก็ได้ยินเสียงของแม่มดสาวดังขึ้น แม้มันจะเป็นเสียงที่ราวกับมันดังมาจากที่ไกลแสนไกล หากแต่มันก็ดังมากพอที่จะมาปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์ฝันร้ายได้เมื่อเฟรย่าถามขึ้น

“เธอถูกมนุษย์หมาป่าทำร้ายมานานหรือยัง” หล่อนถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด และถึงแม้ว่ามันจะต้องใช้เวลาครู่หนึ่งในการแปลความหมายของคำถามนั้นรวมทั้งหาคำตอบออกมา ในไม่ช้ามัลฟอยก็เอ่ยปากตอบเฟรย่าออกมาด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก

“ประมาณสัปดาห์หนึ่งได้ครับ” เขาตอบออกไป และสิ่งที่เขาได้รับกลับมาก็คือสายตาของฝ่ายตรงข้ามที่มองมาทางเขาอย่างเคร่งขรึมก่อนที่หล่อนจะพูดขึ้น

“ฉันต้องการคำตอบที่ชัดเจน คุณมัลฟอย” เฟรย่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมที่สุดเท่าที่เดรโกเคยได้ยินมา และเมื่อเห็นรวมทั้งสัมผัสได้ถึงบรรยาศอันเคร่งเครียดที่ก่อตัวขึ้นรอบ ๆ พวกเขาในตอนนี้ เดรโกก็ตั้งสติอีกครั้ง เด็กหนุ่มนับคำนวณวันอยู่ในใจก่อนจะตอบออกมา

“แปดวันครับ วันนี้เป็นวันที่แปดนับจากวันที่ผมโดนทำร้าย” เขาตอบออกไป และถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะส่งสายตาที่ดูราวกับจะคาดคั้นว่าคำตอบที่เขาบอกหล่อนมานั้นถูกต้องหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อมัลฟอยจ้องตอบดวงตาสีน้ำเงินของเฟรย่าไปด้วยท่าทีที่แสดงถึงความแน่ใจ หล่อนก็พยักหน้าให้เขาเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วจึงพูดขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นเธอก็เหลือเวลาอีกเพียงหกวันเท่านั้นก่อนที่จะถึงวันพระจันทร์เต็มดวงครั้งต่อไป” หล่อนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนที่จะเดินไปยังชั้นวางของและเริ่มมองหาอะไรบางอย่าง ขณะที่เดรโกมองตามหล่อนไปด้วยหัวใจที่เต้นรัว

“แล้วผมจะมีโอกาสหายรึเปล่า” เขาถามออกไปดัง ๆ ถึงสิ่งที่เขาต้องการที่จะรู้มากที่สุด เขาต้องการจะรู้ว่าเขายังมีความหวังหลงเหลืออยู่หรือไม่ แล้วถ้าหากมันยังมีความหวังเหลืออยู่สำหรับเขา เขาก็อยากจะรู้ว่ามันริบรี่มากเพียงใด

หลังจากที่ได้ยินคำถามของเด็กหนุ่มที่พูดออกไปแล้ว มือของเฟรย่าที่กำลังเลือกตัวยาบางอย่างจากชั้นของเธอนั้นก็ชะงักอยู่กลางอากาศ หล่อนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งราวกับหล่อนต้องตัดสินใจว่าจะบอกความจริงกับเขาออกไปตามตรงดีหรือไม่ แต่หลังจากการรอคอยที่น่าอึดอัดและยาวนานที่สุดในความคิดของเดรโกได้ผ่านไปแล้วนั้น เฟรย่าก็หันกลับมามองเด็กหนุ่ม ดวงตาสีน้ำเงินของหล่อนที่มองมาทางมัลฟอยไม่ได้มีแววเคร่งเครียดเหมือนเมื่อครู่ หากแต่มันกลับเต็มไปด้วยความสงสารเมื่อหล่อนสบดวงตาสีเงินของเดรโกก่อนจะตอบคำถามของเขาออกมา

“ความหวังของเธอยังมีอยู่ เดรโก มัลฟอย หากแต่มันริบหรี่เหลือเกิน” หล่อนพูดออกมาในที่สุด พร้อมกับมองมาทางเด็กหนุ่มด้วยสายตาราวกับหล่อนต้องการบอกให้เขาทำใจยอมรับชะตากรรมที่เขาต้องเผชิญเสียโดยดี หากแต่ถึงเฟรย่าจะบอกเขาเช่นนั้น แม้ว่าหล่อนจะมีท่าทีราวกับมันแทบจะไม่มีความหวังเหลืออยู่สำหรับเขาแล้วก็ตาม แต่เดรโกก็ไม่ย่อท้อแต่อย่างใดเมื่อเขาถามขึ้นอีกครั้ง

“แต่มันก็ยังมีความหวังอยู่ใช่ไหม” มัลฟอยพูดออกไปตามตรง และสิ่งที่เขาได้รับกลับมานั้นก็คือสีหน้าที่แสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจของเฟรย่าขณะที่หล่อนเดินกลับมาหาเขาโดนที่มือทั้งสองข้างนั้นถือขวดยาที่บรรจุของเหลวสีแปลกตาเอาไว้

หล่อนจ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาของเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น

“เธอทำให้ฉันนึกถึงใครบางคนขึ้นมา” เฟรย่าพูดราวกับหล่อนกำลังรำพึงกับตัวเอง และเมื่อได้ยินเช่นนั้นเดรโกที่ไม่อาจจะอดทนรออีกต่อไปได้ก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดุดันกว่าเดิมว่า

“บอกผมมาคำเดียว ว่าผมมีหวังที่จะหายหรือเปล่า ผมต้องการเพียงเท่านั้น!” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นราวกับเขาไม่สามารถที่จะรอต่อไปได้อีกแล้ว และเมื่อได้ยินเช่นนั้นเฟรย่าแห่งไอซ์แลนด์ที่บัดนี้ได้มายืนอยู่เบื้องหน้าของเด็กหนุ่มก็ถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้น

“อย่างที่ฉันได้บอกไปแล้ว โอกาสของเธอยังมีเพียงแต่มันริบหรี่มากเท่านั้น” เฟรย่าตอบออกมาก่อนจะละสายตาจากเดรโกและหันไปวางขวดแก้วในมือของหล่อนลงบนโต๊ะสำหรับปรุงยาแทน

“แต่คุณก็จะช่วยรักษาผมใช่ไหม” มัลฟอยถามขึ้นมาอีกครั้ง และเมื่อได้ยินเช่นนั้น แม่มดผมดำก็หันมามองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ท่าทีของเขาเมื่อครู่นั้นเตือนให้เธอนึกถึงสามีที่ล่วงลับของหล่อนขึ้นมาก่อนที่หล่อนจะตอบออกมา

“แน่นอนว่าฉันจะต้องช่วยเธอ คุณมัลฟอย ในเมื่อฉันตกลงแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือของฉันกับสิ่งสิ่งของที่เธอนำมาแล้วนี่นา ฉันก็จะต้องช่วยเธอให้สุดความสามารถจริงไหม” หล่อนพูด และเมื่อได้ยินเช่นนั้นเดรโกที่มีท่าผ่อนคลายลงเล็กน้อยจึงถามขึ้นอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นคุณจะรักษาผมยังไง ด้วยยาพวกนี้อย่างนั้นหรือ” เขาถามออกไปตามตรง เพราะสำหรับเดรโกแล้วในตอนนี้มันไม่ใช่ที่จะมาปิดบังท่าทีและปั้นใบหน้าเพื่อแสร้งว่าเขาไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อในตอนนี้ชะตากรรมของเขาได้ตกอยู่ในมือของแม่มดที่กำลังอยู่ตรงหน้าของเขาอย่างเฟรย่าแห่งไอซ์แลนด์แล้วนั้น มัลฟอยก็คิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องเก็บความรู้สึกต่าง ๆ ต่อหน้าเธออีกแล้ว

และทางด้านเฟรย่านั้นหลังจากถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับวิธีการรักษาของหล่อนออกมา แม่มดสาวก็ใช้เวลาคิดอยู่เพียงชั่วครู่ก่อนที่หล่อนจะตอบออกไป

“ของพวกนี้ไม่ใช่ยาที่จะใช้รักษาเธอ แต่ฉันแค่หวังว่ามันจะช่วยชะลอการแพร่ของเชื้อมนุษย์หมาป่าได้เท่านั้น” หล่อนพูดพร้อมกับใช้มืดเปิดจุกของขวดแก้วขวดหนึ่ง ขณะที่อีกมือหนึ่งของหล่อนนั้นหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาเพื่อร่ายคาถา และในนาทีต่อกล่องสำหรับปฐมพยาบาลก็ลอยหวือผ่านประตูห้องที่เปิดทิ้งไว้เข้ามาวางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าเฟรย่าอย่างรวดเร็ว

“ถ้าคุณจะให้ยาพวกนี้เพื่อสมานแผลภายนอกล่ะก็ ผมเกรงว่าผมจะมียาแล้ว” เด็กหนุ่มพูดขึ้นพลางนึกไปถึงยาที่สเนปจัดให้เขาหลังจากที่ชายผมดำรู้ว่าเขาถูกตัวอะไรทำร้าย แต่ถึงจะพูดออกไปเช่นนั้นก็ตาม ในใจลึก ๆ เดรโกก็รู้ดีว่ายาที่สเนปให้เขามานั้น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นยาที่ดีที่สุดเท่าที่อาจารย์วิชาปรุงยาของเขาจะมาหาให้ได้ก็ตาม แต่มันก็ไม่อาจจะช่วยรักษาเขาจากการเป็นมนุษย์หมาป่าได้เลยซึ่งมันสามารถบอกได้จากการที่แผลของเขาเริ่มเปลี่ยนสีทั้ง ๆ ที่เขาก็ใส่ยาและทานยาตามที่สเนปสั่งอย่างเคร่งครัด แน่นอนว่าการรักษาที่บาดแปลภายนอกนั้นไม่สามารถช่วยรักษาเขาจากการเป็นมนุษย์หมาป่าได้ เช่นเดียวกับสิ่งที่เฟรย่ากำลังจะทำในตอนนี้

และดูราวกับว่าหญิงสาวตรงหน้าของเขาจะมีความสามารถในการอ่านใจคนอย่างที่เด็กหนุ่มเคยได้สงสัยไว้ก่อนหน้านี้จริง ๆ เพราะหลังจากที่เขาคิดว่าการรักษาที่บาดแผลจากภายนอกของหล่อนไม่น่าจะได้ผลนั้น เฟรย่าแห่งไอซ์แลนด์ก็พูดขึ้นทันที

“เธอมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากฉัน เธอก็ควรที่จะเชื่อการรักษาของฉัน คุณมัลฟอย” เฟรย่ากล่าวก่อนจะเริ่มเปิดกล่องปฐมพยาบาลและหยิบผ้าสำสีขึ้นมาและเทน้ำยาจากขวดแก้วขวดหนึ่ลงบนสำลี เมื่อแน่ใจว่าตัวสำลีชุ่มด้วยที่หล่อนต้องการแล้ว หล่อนก็โน้มตัวลงมาและเช็ดมันเข้ากับแผลของเดรโกเบา ๆ

“เธอก็ไม่ได้คิดผิดแต่อย่างใดที่เห็นว่าการรักษาภายนอกนั้นไม่ได้ผล แต่ที่ฉันกำลังทำอยู่ในตอนนี้มันไม่ใช่การรักษาที่แท้จริงหรอก คุณมัลฟอย มันเป็นแค่การป้องกันการติดเชื้อรวมทั้งชะลอการเน่าของแผลเท่านั้น” เฟรย่าพูดขณะที่หล่อนเช็ดสำลีดังกล่าวลงบนแผลของมัลฟอย เด็กหนุ่มกัดฟันเมื่อเขารู้สึกถึงความรู้แสบที่แล่นผ่านบาดแผล

“แล้วถ้าอย่างนั้นการรักษาที่แท้จริงของคุณมันเป็นยังไงกัน” เดรโกถามขึ้นมาพลางเงยหน้ามองเฟรย่าที่มีรอยยิ้มผุดขึ้นบนริมฝีปากบางของหล่อนก่อนที่หล่อนจะตอบคำถามของเขาออกมา

“การรักษาที่แท้จริงของฉันก็คือ ฉันจะปรุงยาให้เธอแขนงหนึ่ง ตัวยานั้นไม่ได้เป็นตัวยาที่จะช่วยทำให้เธอหายจากการเป็นมนุษย์มหาป่า แต่มันจะเป็นตัวยาที่จะไปกระตุ้นเชื้อหมาป่าในตัวเธอให้แสดงอาการออกมา” เฟรย่าพูด และเมื่อหล่อนเห็นว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าซึ่งมีสีหน้าตกใจนั้นมีท่าทีว่าจะพูดขัดออกมา หล่อนก็รีบพูดต่อ

“เมื่อเธอดื่มยาดังกล่าวไปแล้ว ร่างกายของเธอจะแสดงอาการออกมาว่าเชื้อของมนุษย์หมาป่านั้นแพร่ไปทั่วร่างกายของเธอแล้วหรือไม่ ถ้าหากเชื้อยังไม่แพร่กระจายไปยังทุกส่วนของร่างกายล่ะก็ ฉันก็พูดได้ว่าเรายังพอมีหวังที่จะรักษาเธอให้หายได้ แม้ว่ามันจะยากลำบากอยู่บ้างก็ตาม” เฟรย่าอธิบายเรียบ ๆ ขณะที่เดรโกที่กำลังตั้งใจฟังนั้นพยักหน้าอย่างเข้าใจในตอนหลัง เด็กหนุ่มนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งขณะที่เฟรย่ากำลังเช็ดบาดแผลและใส่ยาให้เขา จนกระทั่งถึงตอนที่เธอพันผ้าพันแผลให้เขาอยู่นั่น มัลฟอยจึงตัดสินใจถามสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจของเขาออกไป

“แล้วถ้าหากเชื้อมนุษย์หมาป่าแพร่กระจายไปทั่วร่างของผมแล้วล่ะครับ” เดรโกถามออกมาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเฟรย่าด้วยแววตาที่แสดงถึงความหวาดกลัวและความวิตกกังวลออกมาอย่างชัดเจน และเมื่อเห็นเช่นนั้น มือที่กำลังพันแผลของหญิงสาวก็ชะงักอยู่ชั่วครู่ หล่อนมองลึกเข้าไปในดวงตาสีเงินของเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ไม่มีสิ่งใดแอบแฝงอยู่เลยนอกจากความหวาดกลัวและแววเว้าวอนราวกับเขากำลังขอร้องให้หล่อนช่วยตอบคำถามของเขาออกมาตามตรง และเมื่อเห็นเช่นนั้น เฟรน่าจึงถอนหายใจออกมาก่อนจะตัดสินใจพูดออกไปด้วยสีหน้าที่หล่อนพยายามบังคับให้มันดูเรียบเฉย หากแต่ดวงตาสีน้ำเงินของหล่อนกลับฉายแววกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดยามที่หล่อนพูดออกมา

“ถ้าเป็นเช่นนั้น ถ้าหากเชื้อมนุษย์หมาป่าแพร่ไปตามร่างกายรวมทั้งกระแสเลือดของเธอหมดแล้ว มันก็ไม่มีหนทางใดที่ฉันจะช่วยเธอได้” เฟรย่าตอบออกมาตามตรง ขณะที่เดรโกที่ได้ยินคำตอบนั้นของหล่อนรู้สึกราวกับเลือดของเขาได้จับตัวเป็นก้อนแข็งเมื่อเขาได้ยินคำตอบที่ราวกับคำพิพากษาชะตากรรมของเขาเช่นนี้!







*************************************************




มีความคิดเห็นยังไงกับฟิคเรื่องนี้ช่วยกันติ-ชมเข้ามานะคะ







Create Date : 13 เมษายน 2557
Last Update : 13 เมษายน 2557 7:12:12 น. 39 comments
Counter : 4784 Pageviews.

 


สุขสันต์ วันสงกรานต์ ครอบครัวสำราญ เดินทางปลอดภัย
สนุกสนานเบิกบานใจ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ไทยกันทุกๆคนนะค่ะ

ขอบคุณมากค่ะที่แวะเยี่ยมชมกันที่บล๊อกของเราค่ะ

ห้องสมุด
เพื่อสุขภาพ
แม่ตั้งครรภ์
ทารกแรกเกิด
เด็กโต


โดย: น้องเมย์น่ารัก วันที่: 13 เมษายน 2557 เวลา:22:37:24 น.  

 
ขอบคุณค่ะ
สนุกมาก


โดย: สนุกมากค่ะ IP: 171.97.17.245 วันที่: 14 เมษายน 2557 เวลา:18:54:40 น.  

 
พี่พิคกำลังเพลินเลย โหจบตอนแล้ว ต่ออีกๆๆๆๆ


โดย: Jahja IP: 27.55.130.204 วันที่: 2 พฤษภาคม 2557 เวลา:1:50:16 น.  

 
ต่อเร็วๆนะคะสนุกมากเลยค่ะ รอมานานมาก


โดย: tenten IP: 27.55.29.251 วันที่: 10 พฤษภาคม 2557 เวลา:9:18:25 น.  

 
สนุกๆๆๆๆๆ ต่อเร็วๆนะคะ สู้ๆค่ะ \\^^/


โดย: mimi IP: 223.205.219.28 วันที่: 10 พฤษภาคม 2557 เวลา:12:30:56 น.  

 
มาต่อไวๆนัค่าาาา รออ่าน ตั้งแต่บอร์ดตัวกวนเว่อร์ชั่นเก่าเลย (つД`)ノ ได้เจอเพจของคุณพิกซี่แล้ว คุณพิกซี่แต่งให้จบน้าาาา


โดย: พีเจ IP: 1.46.2.21 วันที่: 1 กรกฎาคม 2557 เวลา:18:59:10 น.  

 
อ่านแล้วอบอุ่นดีจังเลยค่ะ ^___^

เอาใจช่วยและรอติดตามอยู่นะคะ


โดย: Praniss IP: 94.23.252.21 วันที่: 9 กรกฎาคม 2557 เวลา:16:25:57 น.  

 
รออ่านนะคะ สู้ๆ


โดย: sugus IP: 180.183.83.124 วันที่: 15 สิงหาคม 2557 เวลา:19:36:25 น.  

 
มีต่ออีกหรือเปล่าอยากอ่านต่อเร็วๆนะรออยุ่


โดย: ตัสนีม IP: 49.230.144.206 วันที่: 10 กันยายน 2557 เวลา:20:07:12 น.  

 
รอค่า


โดย: Nunut IP: 125.25.174.93 วันที่: 10 กันยายน 2557 เวลา:23:01:40 น.  

 
ต่อเลยด่วนๆ👌


โดย: พลอย IP: 171.97.162.200 วันที่: 22 กันยายน 2557 เวลา:20:08:41 น.  

 
ต่อเลยด่วนๆ👌


โดย: พลอย IP: 171.97.162.200 วันที่: 22 กันยายน 2557 เวลา:20:09:27 น.  

 
พี่ต่อไวๆน้า อยากอ่านๆ


โดย: jane IP: 49.229.222.41 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2557 เวลา:18:00:15 น.  

 
สนุกมากคร่าาาาา มาอัพต่อไวๆนะก้าฟฟฟ


โดย: อิอิ IP: 118.172.255.53 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา:13:31:32 น.  

 
อัพต่อเลยค่ะรออยู่น่าาาาาาา


โดย: freya IP: 171.97.91.224 วันที่: 5 ธันวาคม 2557 เวลา:15:58:32 น.  

 
อัพตอนที่ 34 รึยังคะ?


โดย: janee IP: 49.229.207.67 วันที่: 14 ธันวาคม 2557 เวลา:17:33:12 น.  

 
พี่คะ อัพเร็วนะคะ อ่านมาหลายรอบแล้ว จนกลายติ่งเฮอร์เดรเลยค่ะ *-*


โดย: พลอย IP: 125.27.97.34 วันที่: 2 มกราคม 2558 เวลา:15:35:44 น.  

 
พี่รู้มั้ย ฉันมารอพี่ที่นี่ทุกวันเลย

กลับมาอัพต่อเถอะนะคะ พลีสสสส อีกนิดเดียวเอง
เป็นกำลังใจให้ค่าา สงสารลูกแกะตาดำๆที่รออ่านและติดตามพี่มานานตั้งแต่เพจเก่าเถอะนะคะ แงๆ
อยากอ่านต่อจริงๆนะ คิดถึงเดรเฮอร์


โดย: ween IP: 171.96.184.90 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:23:23:52 น.  

 
ชอบคู่นี้มาก ฟินทุกตอน เมื่อไรเดรโกจะหายคะ อยากให้เดรโกหายเร็วๆ พี่มาต่อเร็วๆน่ะ


โดย: นีน่า IP: 171.4.248.10 วันที่: 14 มีนาคม 2558 เวลา:8:35:53 น.  

 
พี่พิกต่อตอนใหม่ด่วนๆเลยค่ะ มันค้างๆ สงสารคนอ่านบ้างจิ :'(


โดย: พลอย IP: 223.205.244.147 วันที่: 8 เมษายน 2558 เวลา:13:33:29 น.  

 
พี่พิกต่อตอนใหม่ด่วนๆเลยค่ะ มันค้างๆ สงสารคนอ่านบ้างจิ :'(


โดย: พลอย IP: 223.205.244.147 วันที่: 8 เมษายน 2558 เวลา:17:46:18 น.  

 
แต่งได้ละเอียดมาก ขอให้แต่งต่อน่ะค่ะ มีงานแต่ง มีพยานรัก มีครอบครัว ไม่มีลูเซียสมาขัด เอาใจช่วยค่ะ พี่พิกซี่


โดย: LK IP: 1.46.137.216 วันที่: 9 เมษายน 2558 เวลา:19:24:11 น.  

 
แต่งได้ละเอียดมาก ขอให้แต่งต่อน่ะค่ะ มีงานแต่ง มีพยานรัก มีครอบครัว ไม่มีลูเซียสมาขัด เอาใจช่วยค่ะ พี่พิกซี่


โดย: LK IP: 1.46.137.216 วันที่: 9 เมษายน 2558 เวลา:19:25:02 น.  

 
จะมีต่อมั้ยอ่าคะ TT


โดย: felton IP: 27.130.241.175 วันที่: 2 สิงหาคม 2558 เวลา:1:53:20 น.  

 
ฮืออออ
หายไปเลย


โดย: ต่อเถิดค่ะ IP: 124.122.210.226 วันที่: 9 สิงหาคม 2558 เวลา:17:53:11 น.  

 
ก็สนุกดีนะ😋


โดย: อิง IP: 101.51.241.194 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2558 เวลา:16:26:39 น.  

 
พี่พิกมาต่อให้หน่อยนะคะใจจะขาด


โดย: พลอย IP: 122.155.43.50 วันที่: 20 เมษายน 2559 เวลา:16:10:54 น.  

 
อย่าอ่านต่ออออ!!!!!!


โดย: Resious IP: 110.171.132.69 วันที่: 28 สิงหาคม 2559 เวลา:13:24:45 น.  

 
รอนานมากค่ะยักติดตามอยู่น้าาาา


โดย: Pimm IP: 49.228.226.77 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2559 เวลา:19:21:42 น.  

 
เมื่อคุณนักเขียนไม่กับมารุ้สึกเหมือนโดนทิ้งงัยไม่รุ้ ต่อสิฮะรอยุ่นานเเล้ว



โดย: fewfew IP: 182.232.93.39 วันที่: 3 มกราคม 2560 เวลา:13:35:03 น.  

 
ไม่มีตอนต่อไปแร้วหรอค่ะ


โดย: Kul IP: 1.47.131.40 วันที่: 16 มีนาคม 2560 เวลา:3:42:48 น.  

 
ไม่มีตอนต่อไปแร้วหรอค่ะ


โดย: Kul IP: 1.47.131.40 วันที่: 16 มีนาคม 2560 เวลา:3:43:16 น.  

 
เลิกเขียนแล้วแน่เลย


โดย: เสียใจ IP: 134.196.22.50 วันที่: 20 มีนาคม 2560 เวลา:15:04:54 น.  

 
อยากให้ต่อไวๆ นี่ก็ปี 60 แล้ว


โดย: Tk. I'm Tangkwa. IP: 125.25.201.117 วันที่: 3 เมษายน 2560 เวลา:22:36:54 น.  

 
รอเก้อมาหลายปี เสียไต


โดย: ร้องไห้ IP: 134.196.23.110 วันที่: 22 กันยายน 2560 เวลา:13:28:30 น.  

 
ลอยแพเราแล้ว เสียจุยอุตส่ารอ


โดย: เฮ้อ IP: 171.97.18.238 วันที่: 21 มกราคม 2561 เวลา:2:23:43 น.  

 
มีต่ออีกไหมคะ


โดย: ...... IP: 182.232.213.19 วันที่: 16 กันยายน 2561 เวลา:17:14:25 น.  

 
ต่อให้หน่อยนะคะชอบมากเลย


โดย: 💞💞💞 IP: 182.232.60.247 วันที่: 21 ธันวาคม 2561 เวลา:16:24:42 น.  

 
พี่พิกคะ หนูติดตามฟิคดราไมโอนี่ของพี่มาตั้งอยู่ม.ต้นค่ะ ตอนนี้อยู่ปี1แล้ว เรื่องแรกที่เริ่มอ่านคือเรื่อง เธอคือทาสหัวใจของฉัน หนูชอบมากๆเลยค่ะ อยากรู้แล้วว่าเดรโกจะหายเป็นปกติไม่กลายเป็นมนุษย์หมาป่าใช่มั้ยคะ แล้วเฮอร์ไมโอนี่จะรักเดรโกบ้างหรือยังคะ เรื่องอื่นก็สนุกเหมือนกันค่ะ มีทั้งดราม่าทั้งน่ารักกุ๊กกิ๊ก พี่พิกแต่งฟิคได้สุดยอดไปเลย หนูเหมือนหลุดไปอยู่ในโลกเวทย์มนต์ที่เป็นโลกคู่ขนานกับของ J.K. พี่สามารถเชื่อมโยงได้อย่างเนียนเลยค่ะ หนูเป็นกำลังใจให้พี่นะคะ ยังรออ่านต่ออยู่นะคะ #นักเขียนสู้ๆ


โดย: แฟนฟิค IP: 182.232.144.220 วันที่: 29 มีนาคม 2562 เวลา:14:41:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

piksi
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 95 คน [?]




สวัสดีค่ะ เรา piksi นะคะ เรียกสั้น ๆ ว่าพิกก็ได้ค่ะ เราเป็นแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่นชอบคู่ D/Hr มากเลยค่ะ รวมทั้งรัก Tom Felton สุดหัวใจ >-< ใครที่ชอบคู่นี้และชื่นชอบทอมเหมือนกัน เค้ามาคุยกันนะคะ
Friends' blogs
[Add piksi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.